ช้องนางหัวเราะคิกคัก เธอไม่ค่อยชอบไปกินข้าวในร้านอาหาหรูหราเกินความจำเป็นนัก แต่ถ้านานๆ ทีก็ไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่เธอมักใช้บริการบิ่นโตเดริเวอรี่มากกว่านอกจากอร่อยแล้วยังราคาถูกอีกด้วย เผอิญวันนี้เพื่อนซี้มาชวนไปกินข้าวข้างนอกแต่งานของเธอยังไม่เรียบร้อยก็เลยเป็นฝ่ายชวนเพื่อนกินข้าวที่ทำงานซะเลย
“ไม่เจอกับตัวเองบ้างให้มันรู้ไป” มาริสาแยกเขี้ยวใส่แต่ความจริงในใจเธอไม่เคยโกรธเคืองเพื่อนเลยสักนิด
“เอาน่า! ยังไงวันนี้ฉันก็หางานมาให้เธอทำนะจ๊ะ”
“งาน!” มาริสาถึงกับสะอึกจนต้องลนลานหาน้ำดื่มทันที “นี่พวกเธอเห็นฉันดูเป็นประเภทไหนที่ต้องหางานให้ทำอยู่เรื่อยเนี่ย”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะแก” เปมิการีบอธิบาย “แต่โปรเจคนี้ฉันเห็นว่าคนที่เหมาะที่สุดคือแก”
“โปรเจคอะไร?” มาริสาทำหน้าแหย
“ก็บริษัทของฉัน เอ๊ย ที่ฉันทำงานอยู่เค้าได้เวลาที่ช่องเคเบิลล่ะ ที่นี่เราก็ประชุมกันฉันก็เลยลองเสนอ รายการ Hi!So ซึ่งเป็น Reality Show ที่เราจะเจาะลึกทุกซอกทุกมุมในแวดวงไฮโซ ทั้งฉาวทั้งคาวแล้วก็ต้องเป็นของจริง ไม่ใช้สลิงไม่มีแสนตอิน เล่นจริงเจ็บจริง แล้วบรรดานายทุนฟังแล้วตาลุกวาวสนใจมากๆ หัวหน้าฉันเลยไฟเขียวให้ฉันทำงานนี้เต็มที่เลย เนี่ยนะแก! งานนี้จะเป็นใบเบิกทางให้ฉันรุ่งโรจน์ในแวดวงครีเอทีพเชียวนะแก!!”
มาริสาทำหน้างงกับท่าทางเวอร์สุดฤทธิ์ของเพื่อน “เท่าที่ฟังมาไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉันเลย”
“แต่ฉันฟังแล้วนึกว่าจะไปเล่นหนังบู๊ที่ไหนซะมากกว่า” ช้องนางหันไปพยักเพยิดเห็นด้วยกับมาริสา
“ตายแล้ว! สมองไร้จินตนาการจริงๆ เลยนะยะ” เปมิการวบช้อนแล้วดื่มน้ำ “รายการของฉันเนี่ยนะ เรามุ่งเน้นแอบดูพฤติกรรมของเหล่าบรรดาไฮโซทั้งของแท้ของเทียมว่าเขาใช้ชีวิตกันยังไง แต่เราจะซ่อนกล้องเพราะถ้าบอกพวกเค้าว่าเรากำลังทำรายการอยู่ รับรองทุกคนต้องใส่หน้ากากวางมาดกันหมดแน่ๆ แต่ฉันจะมีตัวละครอยู่หนึ่งตัวที่จะค่อยเข้าไปตีสนิทบรรดาไฮโซพวกล้วงเอาตับไตไส้พุงออกมา”
“พวกนายทุนเธอนี่สนใจอะไรแปลกๆ นะ” มาริสาพยักหน้าเริ่มเข้าใจบ้าง “ฉันไม่เห็นคนพวกนั้นมีอะไรน่านใจเลยสักนิด”
“แต่มันก็มีคนบางกลุ่มที่เขาอยากรู้อยากเห็นนี่ แล้วมันก็ทำให้เราเข้าใจจิตใจของคนอย่างถ่องแท้ด้วย”
“ประเด็นหลังฉันเห็นด้วยกับหมวยเล็กนะ” ช้องนางเสริม “เพราะคนเรามักมองแต่ภายนอก เห็นร่ำรวยใส่สร้อยเพชรเม็ดเท่าไข่นกกระทา ใครจะไปรู้ว่าชีวิตจริงอาจจะนั่งต้มมาม่ากินก็ได้”
“โอเค. เรื่องนั้นฉันเข้าใจแล้ว แต่มันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“ก็ฉันต้องหาสาวไฮซ้อเข้างานไฮโซนะซิ ฉันก็ประชุมกับรุ่นพี่ เราไม่ควรใช้ดาราไม่ว่าจะหน้าหน้าใหม่เพราะเดี๋ยวมันจะไม่สมจริง จะใช้นักข่าวก็ไม่เหมาะเดี๋ยวมันจะเครียดเกินไป ก็เลยสรุปว่าหาคนธรรมดาๆ ที่ดูแล้วไม่ธรรมดาดีกว่า ซึ่งก็ควรเป็นผู้หญิงที่มีความรู้รอบด้านและเอาตัวรอดได้เก่ง ทำเนียนเข้าไปในแวดวงไฮโซได้โดยไม่ถูกจับผิดว่าเป็นไฮโซตัวปลอม”
“นี่กำลังหาผู้หญิงไปประกวดนางงามเหรอ” มาริสาทำหน้ายุ่ง
“โอ๊ย!ยัยเมี่ยง เธอนี่มันเข้าใจอะไรยากจัง” เปมิกาโวยวาย “คนที่จะให้ไปเป็นไฮโซกำมะลอก็แค่แกไงเล่ายัยใบเมี่ยง”
“อะไรนะ! ฉันนะเหรอ!!!” มาริสาชี้หน้าตัวเอง “จะให้ฉันไปเป็นไฮโซมะละกอ เอ๊ย กำมะลอ!!”
“ใช่แล้ว!” เปมิกาตบมืออย่างดีใจที่เพื่อนรู้ตัวเสียที “เมี่ยงนะเหมาะที่สุดแล้ว ดูบุคลิกก็ใช้ได้หน้าตาแกก็ออกไทยๆ ดูมีเชื้อสายผู้ดีเก่า ไหวพริบแกก็ดีเอาตัวรอดได้สบาย และที่สำคัญ แกเป็นเพื่อนซี้ฉันต้องเข้าใจจิตใจฉันมากที่สุด เข้าใจแล้วใช่ไหมจ๊ะ คุณหนูมาริสา”
“นั้นซิ ฉันก็ว่าเมี่ยงเหมาะกับงานนี้นะ” ช้องนางพยักหน้ารับ
“จะบ้าเหรอ ! ไม่เอาด้วยหรอก!”
“เฮ้ย! ลองดูก่อนแล้วค่อยปฏิเสธซิ!” เปมิกาหว่านล้อม “ฉันทำแค่เทปเดียวเอง ไม่ได้ทำแบบAFสักหน่อย”
“เทปเดียว? จริงเหรอ? ” มาริสาเริ่มใจอ่อนนิดๆ
“จริงดิ! เทปเดียวค่าตัวห้าหมื่นเชียวนะ” เปมิการีบยื่นข้อเสนอ
“ห้าหมื่น!” มาริสาทำตาโต ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่ในใจหรอกเงินแค่นี้โทรไปขอแม่แค่ห้านาทีก็ได้แล้ว แต่เดี๋ยวนี้เจอพี่หม่อนเล่นงานจำกัดการใช้เงิน...แบบนี้ก็มีตังค์ช้อปปิ้งแล้วละซิ “ฉันรู้ว่าเงินสองหมื่นจิ๊บๆ สำหรับแก แต่...ถือว่าช่วยเพื่อนก็แล้วกันนะ”
มาริสาแสร้งทำหน้าครุ่นคิด “นี่ฉันเห็นว่าเป็นแกหรอกนะ ไม่งั้นฉันไม่ช่วยหรอกยัยหมวยเล็ก”
“กรี๊ด! ฉันรักแกจังเลยยัยใบเมี่ยง!” เปมิกากระโดดกอดคอเพื่อนแน่นด้วยความดีใจ “เพื่อน! ฉันรักแกว่ะ”
“อี๊! ฉันไม่ใช่เลสเบี้ยนนะยะ” มาริสาแสร้งทำหน้าขยะแขยงแกะมือเพื่อนออกจากคอ ช้องนางหัวเราะคิกคักกับท่าทางเด็กๆ ของเพื่อนสาวสองคนนี้ “แล้วฉันต้องทำไงบ้างละ”
“ศุกร์สิ้นเดือนจะมีงานปาร์ตี้ของเหล่าไฮโซ ฉันจะส่งแกเข้าไปแต่ในระหว่างนี้แกต้องแปลงโฉมพร้อมหาข้อมูลเพื่อเป็นคุณหนูมาริสาให้เนียนที่สุดนะ เข้าใจไหม แล้วแกไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นสปอร์ตเซอร์เพียบ ทั้งนวดหน้านวดตัวทำเล็บทำผม พร้อม!”
“แบบนี้ก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะ” ช้องนางหันมาพูดกับเมี่ยง “จากสาวเมี่ยงกลายเป็นคุณหนูมาริสา”
“ศุกร์สิ้นเดือน” มาริสาหันหน้าไปทางปฏิทิน “นี่วันที่ห้าแล้วแสดงว่า...”
“ใช่แล้วจ๊ะ เพราะฉะนั้นเราต้องรีบหาข้อมูลเพื่อแปลงโฉมให้เมี่ยงกลายเป็นคุณหนูมาริสาทันที!”
“ทำไงอ่ะ” มาริสาถามกวนๆ
เปมิกายักไหล่อย่างคนที่เตรียมข้อมูลมาพร้อมแล้ว เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดโน้ตบุ๊กของตัวเองแล้วเรียกโปรแกรมที่ต้องการออกมาแสดงให้ทุกคนเห็น
“อันดับแรกคอร์สดูแลผิวแบบเร่งด่วน แกต้องสวยผ่องแบบคุณหนูผู้ดีเก่า และตามด้วยคอร์สฝึกบุคลิกภาพการวางท่วงท่าการเดินนั่งหรือพูดคุยให้ดูไฮโซสุดๆ ตามด้วยการแต่งตัวในแต่ละสถานการณ์ และ...”
“เดี๋ยว!ยุ่งยากขนาดนี้เลยเหรอ” มาริสาถามเสียงหลง ไม่คิดว่าจะต้องเตรียมตัวอะไรมากมายนัก
“อ้าว! ไม่งั้นสปอร์เซอร์ฉันจะได้ขายของตอนไหนละยะ ...นี่มันแหล่งเงินทุนของฉันทั้งนั้นเลยนะเนี่ย”
มาริสาอ้าปากค้าง นึกเถียงไม่ออกเพราะเป็นเรื่องจริง “ฉันไม่ต้องออกเงินแน่ใช่ไหม”
“ถูกต้องแล้วจ๊ะ อยู่เฉยๆ เป็นคุณหนูมาริสานั้นแหละ”
ช้องนางนั่งยิ้มกับเพื่อนรักสองคนที่คุยกันไปทะเลาะกันไปซึ่งเป็นเรื่องปกติ จนเปมิกาคุยงานกับมาริสาเสร็จแล้ว มาริสาต้องขับรถไปส่งเปมิกาที่ทำงานเพราะเพื่อนจอดรถทิ้งไว้ที่บริษัท “ฉันยังไม่กลับล่ะ พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยโทรคุยกัน”
“งั้นพวกฉันกลับก่อนนะ” เปมิกาบอกลาเพื่อนพร้อมมาริสาที่โบกมือไปมา
ช้องนางยิ้มบางๆ แล้วหันมาเก็บเอกสารต่างๆ ให้เข้าที่แล้วเดินไปล้างจานที่กินข้าวกันเมื่อครู่ เธอเองก็ไม่อยากรีบกลับบ้านเพราะเธออยู่อพาทเมนต์คนเดียว กลับบ้านเร็วก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋าสะพายเดินออกจากบริษัทเล็กๆ ที่เธอทำงานอยู่เพื่อขึ้นรถไฟฟ้า ที่พักของเธอยู่ไม่ไกลนักจึงไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเหมือนเพื่อนทั้งสอง
นาฬิกาบอกเวลาทุ่มเศษๆ เธอเห็นใครต่อใครมากันเป็นคู่ๆ คนโสดที่เอาแต่แอบรักอย่างเดียวก็ได้แต่ใจห่อเหี่ยว นึกไปนึกมาก็ขำตัวเอง จะโกรธหรือโทษใครก็ไม่ได้ก็ในเมื่อเธออยาก “แอบรัก” แบบนี้เองนี่
โปรแกรมภาพยนตร์ที่ติดอยู่ตรงป้ายประกาศเรียกสายตาคนเหงาอย่างช้องนางให้เดินเข้าไปใกล้ เป็นรายการหนังอาร์ตอิสระจากหลายประเทศ อีกสิบนาทีจะเป็นภาพยนตร์จากประเทศอิหร่านเธอยืนอ่านเรื่องย่อแล้วลังเลอยู่ว่าจะซื้อตั๋วเข้าไปชมหรือกลับบ้านไปดีนะ
“น้องหนูนาหรือเปล่าครับ”
“คะ?”