“นั่งแบบนี้ มันดีหรอคะ” ตัวน่ารำคาญถามผมขึ้นและนี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมถึงเนื้อถึงตัวน่ารำคาญมากจนขนาดที่ผมอุ้มตัวน่ารำคาญขึ้นมานั่งแบบนี้
“ฉันรู้ว่าเธอชอบ” ผมตอบทันทีเมื่อตัวน่ารำคาญถามขึ้นเพราะสีหน้าของเธอตอนนี้มันแดงจนปิดไม่มิด
“พี่พายุคะมันแสบ” ผมว่าผมก็ไม่ได้มือหนักและแอลกอฮอล์ล้างแผลมันก็ไม่ได้แสบขนาดนั้นสำหรับผม
“แสบนิดเดียวฉันไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรหรอก”
“นั่งบนตักฉันแบบนี้ เธอยังจะกลัวอะไร” ผมพูดออกไปทันทีที่พูดไม่ใช่ว่าไม่ได้คิดอะไรแต่ผมพูดเพราะรู้สึกแบบนี้จริงๆ มีผมอยู่ตรงนี้เธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรกับอีแค่แอลกอฮอล์ล้างแผลมันไม่ถึงตายหรอก
“พี่พายุไม่เข้าใจคำว่าแสบหรอคะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นพร้อมมองผมด้วยหางตาออกอาการไม่พอใจ
“มันจะแสบสักแค่ไหนกันเชียว”
“อะ…โอ๊ยยย” ผมแตะแอลกอฮอล์ล้างแผลลงบนนิ้วมืออันน้อยนิดของตัวน่ารำคาญ
“อย่าเวอร์”
“อ่อนโยนเป็นไหมคะ”
“อยู่นิ่งๆ” แค่นี้ก็อ่อนโยนฉิบหายแล้ว
ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใครแต่ทำให้กับเธอ
คิดเอาแล้วกัน
“อันนี้ไม่แสบ” ผมพูดดักไว้ก่อนเมื่อหยิบยาขึ้นมา
“รู้ค่ะ” จากนั้นผมก็ค่อยๆ บรรจงใส่ยาพร้อมกับแปะปลาสเตอร์ยาอย่างเบามือ
“นั่งอยู่ตรงนี้” ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับปลีกตัวออกมาเก็บเศษจานที่แตก มีหวังให้คนซุ่มซ่ามมาเก็บคงได้อีกแผล
“เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ”
“ไปนั่ง ฉันทำเอง” ผมพูดขึ้นโดยการออกคำสั่งขืนโดนเศษจานบาดอีกรอบมีหวังร้องลั่นคอนโดแน่
“หนูอยากช่วยค่ะ”
“ช่วยอยู่เฉยๆ แล้วไปนั่งเดี๋ยวก็เจ็บตัวอีก”
“เป็นห่วงหนูใช่ไหมคะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นพร้อมทำท่าทางดี๊ด๋า
“ฉันขี้เกียจทำแผลให้เธอ”
“หนูรอตรงนี้นะคะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นทันทีตอนนี้เราอยู่ที่คลับเพราะอยู่ๆ ไอ้เพื่อนเวรแม่งก็นัดกันมาด้วยเรื่องเซ็นเอกสารเกี่ยวกับสนามแข่งรถที่พวกผมร่วมกันเปิด ผมเลยต้องเอาตัวน่ารำคาญมาด้วยเพราะกำลังไปส่งพอดี
“จะยืนให้พวกมันมาเต๊าะเธอหรือไง” ผมถามขึ้นทันทีพร้อมกวาดตามองไปรอบๆ ข้าง
คิดได้ไงจะรอตรงนี้ ผู้ชายแม่งก็เยอะ
“แต่หนูใส่ชุดนักศึกษาคงไม่เหมาะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นอีกครั้งส่วนผมจึงถอดแจ็คเก็ตของตัวเองออกส่งให้กับตัวน่ารำคาญ
“ใส่ไว้แล้วเดินตามฉันมา”
“รอด้วยค่ะ”
“รีบเดิน” ผมคว้ามือตัวน่ารำคาญมาจับและพาไปยังห้องวีไอพีทันที ถ้าให้เดินตามมาเองคงจะไม่ทัน
“พี่พายุอย่าเดินเร็วหนูเดินไม่ทัน”
“ฉันเดินปกติเธอขาสั้นเอง”
“ว่าหนูเตี้ยหรอคะ”
“หรือไม่จริงหัวเธอแค่อกฉัน” ผมพูดพร้อมก้มมองตัวน่ารำคาญเธออยู่แค่อกผมจริงๆ
“ไม่คุยด้วยแล้ว” หลังจากนั้นผมก็ไม่ตอบอะไรกลับไปตรงมายังห้องวีไอพีที่นัดกับเพื่อนๆ ไว้ทันที
“ช้า” ไอ้คิมหันต์พูดขึ้นทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามา
“พาเด็กมาด้วย” ไอ้เรย์พูดขึ้นต่อ
พวกมันคงมองไม่รู้ว่าใครเพราะตัวน่ารำคาญยืนอยู่ด้านหลังผม
“แบบนี้น้องโมจิของกูเสียใจแย่” ไอ้ติณณ์พูดขึ้นอีกครั้ง
แต่ตัวน่ารำคาญไปเป็นของมันตอนไหน
“หนูเองค่ะพี่ๆ” ตัวน่ารำคาญที่รู้ว่าถูกพูดถึงก็พูดขึ้นทันที
“ยังไงๆ สองคนนี้” ไอ้คิมหันต์เอ่ยแซวขึ้นอีกครั้ง
“ให้เซ็นตรงไหนบอก กูรีบ” ผมพูดขึ้นพร้อมหย่อนก้นลงโซฟาส่วนตัวน่ารำคาญก็นั่งลงข้างๆ ผม ไม่อยากจะรีรอให้ได้อะไร ไอ้พวกนี้ยิ่งขี้แซวอยู่ด้วย
“รีบไปไหนนานๆ ทีกว่าจะออกมาสังสรรค์”
“นานๆ บ้านมึงหรอ มาบ่อยยิ่งกว่ามหาลัย” พวกมันแม่งชวนมาคลับบ่อยกว่าไปมหาลัยอีก
“แต่มึงก็มาทุกที”
“เร็วๆ กูรีบอย่าลีลา”
“ไม่ต้องรีบค่ะพี่พายุ พรุ่งนี้หนูไม่มีเรียน” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นอีกครั้งแต่ใช่เวลาที่จะพูดตอนนี้ไหม
“เอองั้นก็อยู่ยาวๆ น้องโมจิไม่มีเรียนเราก็ไม่มีเรียน”
“แต่กูรีบ” ถ้ามานั่งกับพวกมันแล้วมีตัวน่ารำคาญอยู่ด้วย ผมไม่เอาหรอกกลับเสียดีกว่า
“รีบมึงก็กลับไปก่อน ส่วนน้องโมจิกูไปส่งเอง” ไอ้เรย์พูดขึ้นอีกครั้ง
“ความคิดดีวะน้องโมจิว่าไงครับ” ไอ้ติณณ์พูดขึ้นต่อ
พวกแม่งเหมือนกวนประสาทผม
“ไม่มีปัญหาค่ะ ยังไงก็ขอสักแก้วนะคะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นทันทีจากนั้นไอ้คิมหันต์ก็จัดการส่งแก้วให้กับเธอ
“นี่ครับ”
หมับ
ผมคว้าแก้วที่ไอ้คิมหันต์จะยืนให้ตัวน่ารำคาญกระดกเข้าปากจนหมดแก้ว
“แย่งหนูทำไมคะ” ตัวน่ารำคาญร้องทักขึ้นทันทีด้วยท่าทางไม่พอใจ
“ถ้าเธอกินฉันไม่ให้ค่าจ้างวันนี้” ผมพูดพร้อมเอาเรื่องเงินมาล่อที่ไม่อยากให้กินเพราะไม่ใช่ผมเป็นห่วง แต่เพราะผมไม่ได้เอารถยนต์มาต่างหาก
“มันให้เท่าไหร่” ไอ้เรย์ถามขึ้นทันทีที่ผมพูดเสร็จ
“วันละห้าพันค่ะ พี่เรย์สนใจให้หนูแทนพี่พายุไหมคะ หนูจะได้กินด้วย” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นอีกครั้งทำเอาคิ้วผมกระตุก
“จัดไป ไอ้คิมหันต์ชงอีกแก้ว”
ไอ้พวกเวร
“ถ้าเธอเมา ฉันเอาเธอกลับไม่ได้” ผมพูดขึ้นทันที
“กูไปส่งได้” ไอ้เรย์พูดขึ้นอีกครั้ง
“อย่าเสือก”
“ห่วงด้วยวะ” ไอ้ติณณ์ก็พูดขึ้นต่อ
“นี่ครับของน้องโมจิ ส่วนนี่ของมึงเพราะงั้นอย่าแย่งน้องแดก” ไอ้คิมหันต์พูดขึ้นพร้อมส่งแก้วให้ผมกับตัวน่ารำคาญคนละแก้วแล้วแม่งดูจากสีของแอลกอฮอล์ในแก้วก็รู้แล้วว่าของตัวน่ารำคาญโคตรจะเข้ม
มึงกะจะมอมยัยนี่เลยหรือไงวะ
“กินเป็นใช่ไหม” ผมถามขึ้นต่อเพราะดูทรงจะขัดทั้งยัยนี่และเพื่อนเวรไม่ได้
“เคยกินค่ะแค่คอไม่แข็ง” ตัวน่ารำคาญตอบกลับมาพร้อมกับยกแก้วกระดกเหล้าเข้าปาก
คอไม่แข็งแต่กระดกเอารัวๆ เหอะ
“ขออีกค่ะ”
“เอาแก้วมาครับน้องโมจิ”
“พอแล้ว” ผมพูดขึ้นอย่างห้ามปราม
“ขอ...อีกค่ะพี่คิมหันต์”
“เลิกเติมให้ยัยนี่” ผมพูดขึ้นทันทีเมื่อดูท่าแล้วตัวน่ารำคาญเริ่มไม่ไหว
“พวกมึงนี่แม่ง”
“กูช่วยมึงไม่รู้หรือไง” ไอ้คิมหันต์พูดขึ้นทันที
“ช่วยห่าไร ช่วยทำให้ยัยนี่เมาอะนะ”
“ไม่ดีหรือไงเผื่อมึงอยากจะทำอะไรกับน้อง” ไอ้เรย์พูดขึ้นต่อ
“เอารถมึงมาไอ้คิมหันต์ กูเอามอไซต์มาเอายัยนี่กลับไม่ได้” ผมพูดขึ้นทันที มันเป็นคนชงเหล้ามันต้องรับผิดชอบ
“เซ็นก่อนเดี๋ยวให้กลับ” ผมจัดการเซ็นเอกสารทั้งหมดพร้อมประคองตัวน่ารำคาญไปด้วย
เรื่องสนามแข่งรถของพวกผมสี่คนเราถือหุ้นคนละยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ ส่วนเอกสารที่เซ็นก็เกี่ยวกับสนามนั่นแหละครับต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรเซ็นรับทราบทุกคนเผื่อมีอะไรผิดพลาด แต่ใจจริงก็ไม่ได้อยากทำสนามแข่งแต่พอตกลงกันดันออกมาเป็นสนามแข่งรถ
“ใครจะคิดว่าน้องโมจิจะบ้าจี้ตามแดกเยอะขนาดนั้น” ไอ้ติณณ์พูดขึ้นอีกครั้ง
“แต่ก็ถือว่าคอแข็งพอตัวแค่สะลึมสะลือไม่ได้เมาจนทิ้งตัว” ไอ้คิมหันต์พูดขึ้น
“แดกขนาดนี้ใครไม่ล้มกูก็กราบ” เพราะไอ้คิมหันต์แม่งใส่ตัวแรงๆ ให้ตัวน่ารำคาญกินทั้งนั้น
“เอาหน่าสนุกๆ” ไอ้เรย์พูดขึ้นต่อ
พวกมันสนุกแต่ผมไม่สนุกกันมันนะสิ
“ลุกๆ ฉันจะพาเธอกลับบ้าน” ผมพูดขึ้นทันทีพร้อมพยุงตัวน่ารำคาญให้ลุก แต่ดูท่าแล้วไม่น่ารอด
ผมจึงคว้ากุญแจรถจากไอ้คิมหันต์แล้วอุ้มตัวน่ารำคาญออกมาทันที
ระหว่างทางที่เดินลงมาผมก็สองจิตสองใจจะพายัยนี่ไปส่งหอหรือจะพาไปนอนที่คอนโดของผมดี ถ้าพาไปส่งหอแล้วยัยนี่เมาจนไม่ได้สติจะเกิดอันตรายไหม
ไปคอนโดผมแล้วกัน
โมจิ
“เชี่ย...อุ๊บ” ฉันรีบยกมือปิดปากเพื่อปิดเสียงตัวเองทันทีเพราะตอนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าฉันคือพี่พายุ
พี่พายุกำลังนอนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันใช้แขนเขาหนุนเป็นหมอนส่วนแขนของเขาอีกข้างก็ก่ายไว้บนตัวของฉัน ให้ตายเถอะ ฉันฝันไปแน่ๆ
“จะมองหน้าฉันอีกนานไหม”
“เอ่อ...เอามือออกหน่อยค่ะ” ฉันบอกเขาทันที เพราะตอนนี้เหมือนเขาจะทำให้ฉันลุกไม่ได้
“เมื่อคืนเธอเมา ฉันไม่มีกุญแจหอเธอเลยไม่ได้ไปส่ง” ฉันพยักหน้าเป็นอันเข้าใจไม่โกรธหรืออะไรเลยเพราะไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าฉันได้นอนบนเตียงกับพี่พายุ
“แล้วทีหลังไม่ต้องไปบ้าจี้กินเยอะขนาดนั้น” ฉันหยักหน้ารับอีกรอบ
“ไม่มีปาก” ฉันพยักหน้ารับต่อ
“เอ๊ย ไม่ใช่ค่ะ”
“ก็พูดได้แล้วทำไมไม่พูด”
“หนูเขิน” ฉันพูดขึ้นทันที เป็นใครจะไม่เขินละได้นอนบนเตียงกับคนที่เราชอบ
“เรื่อง” คนตรงหน้าฉันถามขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่พายุเอาแขนออกหน่อยได้ไหมหนูลุกไม่ได้” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งเพราะท่อนแขนใหญ่ๆ ของเขามันก็หนักเอาเรื่อง
“ฉันเอาออกนานแล้ว” ฉันก้มมองทันที
ให้ตายสิ
“งั้นหนูกลับดีกว่าค่ะ” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมรีบลุกขึ้นนั่งเตียง รู้สึกตอนนี้หัวใจฉันมันเต้นยังกับจะระเบิดออกมาเพราะการตื่นมาแล้วเจอพี่พายุมันรุนแรงต่อหัวใจฉันจริงๆ
“ค่อยกลับฉันยังขี้เกียจไปส่ง” พี่พายุตอบกลับมาพร้อมกับลุกขึ้นนั่งข้างๆ ฉัน
อยากจะบ้าตาย เขาไม่ใส่เสื้อ หัวนมน้อยๆ ของเขา มันน่ารักชะมัดดดด
“ยัยโรคจิตเก็บน้ำลายหน่อย”
“หนูไม่ได้น้ำลายย้อยนะ” ฉันพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากรีบเช็ดน้ำลายตามที่เขาบอกแต่มันไม่มีไง
“ก็จ้องฉันขนาดนั้น”
“เปล่านะคะ” ฉันรีบปฏิเสธทันทีถึงจริงๆ จะแอบจ้องอยู่ก็เถอะ
“ค่อยกลับเย็นๆ อยู่ทำอาหารเลย” นี่เขากำลังยื้อเวลาไม่ให้ฉันกลับหรอ
“กลับดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเย็นหนูค่อยมา”
“ฉันยังขี้เกียจไปส่ง”
“ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ”
พูดจบฉันก็ทำท่าจะลุกจากเตียงแต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น พี่พายุกระตุกแขนฉันจนฉันล้มลงบนเตียงจากนั้นพี่พายุก็ขึ้นคร่อมตัวฉันไว้ทันที
“อะไรคะเนี่ยลงไปเลยนะ” ฉันทั้งดิ้นทั้งทุบเขาเพื่อเป็นการบอกให้เขาลงจากตัวฉัน แต่เหมือนไม่เป็นผล อีกทั้งเขายังจับมือทั้งสองข้างของฉันขึ้นไว้เหนือตัว
“อย่าดื้อ”
“ไม่ได้ดื้อ”
“เธอดื้อ ยังจะเถียงฉันอีก”
“หนูไม่ได้ดื้อ”
“ถ้าเธอดื้อฉันจะลงโทษเธอ”
“ลงโทษด้วยอะไรคะ หนูไม่กลัวพี่พายุหรอกนะ”
“โซ่ แส้ กุญแจมือ”
❤️
พี่พายุของเรามักนี้ชอบออกหน้าออกตานะคะ
ไม่รู้ว่าใครจีบใครกัน