“ปกติพี่พายุกินอะไรคะ” ตัวน่ารำคาญถามผมขึ้นทันทีหลังจากเปิดตู้เย็นแล้วประชดประชันเรื่องที่ผมมีแต่แอลกอฮอล์ในตู้
เหอะ น่าจับตีก้นให้เข็ด
“สั่ง”
“วันนี้ไม่มีของสด” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นอีกครั้งผมจึงหันไปมอง
“กินหนูแทนก่อนไหมคะ สดเหมือนกัน”
กินหนูแทนงั้นหรอ
“ได้หรอ” ผมถามขึ้นทันทีพร้อมเดินเข้าไปประชิดตัวน่ารำคาญจนแผ่นหลังของตัวน่ารำคาญชิดติดตู้เย็น
จะแกล้งให้เข็ด ในเมื่อกล้าพูดผมก็กล้าทำครับ
บอกไปแล้วเรื่องรักกับเรื่องเซ็กซ์ผมแยกแยะได้
“เอ่อ...พี่พายุคะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นทันทีพร้อมกับพยายามจะออกจากวงแขนของผมที่ยืนค้ำอยู่กับตู้เย็น เพื่อไม่ให้เธอออกมาได้
“คำว่ากินของเธอหมายความว่าอะไร” ผมถามขึ้นอีกครั้ง
ผมรู้ว่าเธออาจจะพูดเล่นแต่ถ้าได้ผมก็เอา
ตัวน่ารำคาญไม่ใช่ว่าไม่สวย สวยทีเดียวเลยครับ
“นะ...หนูพูดเล่นค่ะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นต่อพร้อมกับพยายามจะออกจากวงแขนของผม
“แต่ฉันคิดจริง” ผมทำท่าโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ ตัวน่ารำคาญ
อ่า…ตัวโคตรหอม
“คือพี่พายุเอามือออกก่อน”
“ทำไมฉันต้องเอาออก”
“หนูอึดอัด” เธอพูดขึ้นอีกครั้งและพยายามดันมือผมออกแต่แรงอันน้อยนิดของเธอจะมาสู้อะไรแรงผมได้
“พี่พายุหิวข้าวไหมคะ เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าค่ะ” ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งผมรู้ดีว่าเธอพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้หลุดจากผม
“เธอบอกว่าเธอกินได้”
“งั้นฉันกินเธอแทนข้าวเป็นไง”
“นะ...หนูพูดเล่นค่ะ พี่พายุออกไปก่อน”
“ฉันพูดจริง”
“อ๊ะ…ว๊าย” ผมพูดจบก็จัดการอุ้มตัวน่ารำคาญด้วยท่าเจ้าสาวพามายังโซฟาทันที
“ปล่อยหนูนะพี่พายุ” เธอพูดพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของผม
“พี่พายุอยากได้หนูหรอคะ” เมื่อเห็นว่าผมไม่ปล่อยเธอก็ถามขึ้นต่ออีกครั้งพร้อมกับหยุดดิ้น
ทำให้ตอนนี้ท่าที่เราอยู่คือเธอนอนอยู่กับโซฟาส่วนผมก็คร่อมอยู่บนตัวเธอ
“เธอพูดเอง”
เปลี่ยนอารมณ์ไว้ฉิบหายเมื่อกี้ยังขัดขืนแต่ตอนนี้นอนนิ่งซะงั้น
“พี่พายุอยากได้หนู นี่ชอบหนูแล้วใช่ไหมคะ”
“ฉันแยกแยะเรื่องความรักกับเซ็กซ์”
คนไม่เชื่อในความรักอย่างผมใช่ว่าจะมีเซ็กซ์ไม่ได้ เซ็กซ์ก็คือเซ็กซ์มีความสุขทั้งสองฝ่ายแล้วก็แยกย้าย
“แสดงว่าพี่พายุมีเซ็กซ์กับใครก็ได้หรอคะ” เธอถามผมต่อทันที
“กับใครก็ได้ที่ไม่มีผัวและคนนั้นก็ต้องยินยอม”
“แต่ไม่ได้รักกันหรอคะ”
“เซ็กซ์ก็คือเซ็กซ์มันไม่ใช่ความรัก”
“แต่สำหรับหนูไม่ใช่” เธอพูดขึ้นทันทีพร้อมกับผลักผมออกส่วนผมที่ไม่ทันตั้งตัวก็ถลาลงไปด้านหลังทันที
“นั่นเธอไม่ใช่ฉัน” ผมพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
คนเรามีสิทธิ์คิดไม่เหมือนกันได้อยู่แล้ว
“ความรักเป็นสิ่งสวยงามนะคะ เซ็กซ์ก็ต้องเกิดจากความรักสิคะ” คนโลกสวยอย่างเธอก็คงคิดแบบนี้แหละครับ
“ความรักมันไม่ได้เป็นสิ่งสวยงามสำหรับทุกคน”
“มีความรักที่ไม่ดีมาหรอคะ”
เคยมีความรักที่ไม่ได้ดีมาหรอ สำหรับผม ผมไม่เคยมีความรักไม่เคยมีความรักที่ดีหรือไม่ดีแต่ความรักที่ผมเห็น มันไม่ดีไม่ดีเลยจริงๆ
ถ้าคนเรารักกันจริง
ทำไมคนคนหนึ่งถึงต้องเสียใจอยู่คนเดียว
เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้ผมเป็นแบบนี้มันทำให้ผมปิดกั้นและไม่เชื่อว่าความรักคือสิ่งที่สวยงาม
“พูดกับหนูได้นะสัญญาจะเก็บเป็นความลับ” เธอพูดขึ้นต่อพร้อมกับจับมือผมเป็นการปลอบ
“ไม่ต้องยุ่ง”
“เอาไว้พี่พายุอยากเล่าหรืออยากปรึกษาอะไร คิดถึงหนูเป็นคนแรกนะ”
เรื่องราวในอดีตของผม
ผมไม่คิดอยากจะเล่าให้ใครฟังทั้งนั้น
“เธอมีหน้าที่มาทำความสะอาดทำอาหารแค่นี้” ผมพูดขึ้นต่อเพื่อเป็นการบอกว่าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม
“ห้องพี่พายุสะอาดจะตาย ของสดก็ไม่มีมันก็เลยไม่มีอะไรให้หนูทำ”
“งั้นไปซื้อ” ผมพูดขึ้นทันทีพร้อมกับลุกขึ้นหยิบกุญแจรถเพื่อที่จะไปห้าง
“ตอนนี้หรอคะ”
“ฉันไม่ได้จ้างเธอวันละห้าพันเพื่อให้นั่งเฉยๆ”
“ไปเลยค่ะ หนูพร้อมแล้ว”
ห้างสรรพสินค้า
“อะไรที่ควรมีในตู้เย็นเธอหยิบเลยละกัน” ผมพูดขึ้นทันทีเพราะผมก็ไม่รู้ว่าอะไรควรอยู่ในตู้เย็นบ้าง
“พี่พายุจ่ายเงินนะคะหนูไม่มีเงิน”
“ฉันรู้”
“งั้นเข็นตามหนูมาเลยค่ะ”
ตัวน่ารำคาญเดินไปทางนู้นทีทางนี้ทีเพื่อหยิบเอาหลายๆ อย่างลงรถเข็น ตั้งแต่เครื่องปรุงต่างๆ จวบจนเนื้อสัตว์
“กินเนื้อไหมคะ” เธอถามผมขึ้น
“ฉันกินแต่ถ้าเธอไม่กินก็ไม่ต้องเอาไป”
“เกี่ยวอะไรกับหนูคะ”
“ฉันไม่ใจดำถึงขั้นให้เธออาหารแล้วไม่ให้กินด้วยกันหรอกนะ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับรีบเข็นรถเข็นเดินนำหน้าตัวน่ารำคาญทันที
“หักจากค่าจ้างไหมคะ” คนด้านหลังผมถามขึ้นทันที
“ถ้าเธอเกรงใจฉันหักก็ได้”
“หนูไม่เกรงใจค่ะ เพราะงั้นขอฝากท้องทุกวันเลยนะ” ผมยิ้มกับคำพูดตัวน่ารำคาญทันที
“ครบแล้วค่ะ” เธอพูดขึ้นอีกครั้งส่วนผมมองในรถเข็นตอนนี้มีแต่พวกของที่ใช้ทำอาหาร
“ขนมไหม” ผมถามขึ้นทันที แต่เอ๊ะ ผมถามยังกับจะอยู่ด้วยกัน
“ไปโซนขนม” ผมรีบพูดใหม่ทันทีเมื่อคิดได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรเกี่ยวกับเธอ
“วันนี้กินข้างนอกแล้วกันขืนกลับไปให้เธอทำมีหวังเกินเวลาทำงานของเธอ” ผมพูดขึ้นทันทีเมื่อเราเดินมายังลานจอดรถรถหลังจากซื้อของเสร็จ
“หนูทำให้ได้ค่ะยังไงหนูต้องเอาของเข้าตู้เย็นอีก”
“เสียเวลาอีกอย่างฉันหิวแล้ว”
“เธอจะกินอะไร”
“อะไรก็ได้ค่ะ”
“ไม่มีอะไรก็ได้”
“หนูไม่รู้ไงคะ พี่พายุเลือกเลยค่ะขอร้านไม่แพงนะคะ หนูมีเงินไม่เยอะ” เธอพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับช่วยผมเอาของที่ซื้อมาไว้ท้ายรถ
“ค่าจ้างวันนี้” ผมพูดขึ้นทันทีพร้อมกับหยิบเงินในกระเป๋าจำนวนห้าพันบาทให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ ตอนนี้พี่พายุจะไปร้านไหนได้หมดหนูเลี้ยงเอง” เธอพูดอีกครั้งพร้อมกับรับเงินและใช้เงินสะบัดข้างๆ ตัว
ทำยังกับเงินเยอะ
“เก็บไว้ฉันเลี้ยงเอง”
“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” เธอพูดขึ้นเมื่อเราเข้ามานั่งในรถส่วนผมพยักหน้าเป็นการตอบ
“พี่พายุเคยมีแฟนไหม”
“ไม่”
“เพราะไม่เชื่อในความรักหรือเปล่าคะ”
“เรื่องส่วนตัวของฉัน”
“อดีตมันอาจจะแย่นะคะแต่ถ้าพี่พายุเปิดใจให้หนูมันดีกว่าเก่าแน่นอนค่ะ” ผมหันไปมองเธอ
เปิดใจงั้นหรอ ถ้าผมเปิดใจแล้วผมต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้น ผมไม่เปิดยังจะดีกว่าเพราะการอยู่คนเดียวมันไม่ได้แย่
“มันอยู่ที่คนค่ะ ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นไปทุกครั้ง ความรักที่สวยงามมันมีจริงๆ นะคะเพียงแค่พี่พายุเปิดใจรับมัน”
“ที่พูดจะให้เปิดใจให้เธอ” ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่ตัวน่ารำคาญพูดขึ้นมันหมายถึงอะไรแต่ผมคิดไปในทางนี้
“ก็ส่วนหนึ่งค่ะ อีกส่วนหนึ่งหนูไม่อยากให้พี่พายุปิดกั้นตัวเองบางทีการที่พายุรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต อาจจะมีความสุขกว่าตอนนี้ก็ได้นะคะ”
“คนคนนั้นไม่ต้องเป็นหนูก็ได้ เพียงแค่ใครสักคนที่พี่พายุมั่นใจ” โลกสวยไปหรือเปล่า ?
“ขอบใจ” ผมพูดขึ้นทันทีที่เธอพูดจบ
ผมคิดตามที่เธอพูดทุกอย่าง
ไว้ผมพร้อมเมื่อไหร่ผมค่อยเปิดใจแล้วกัน
“แต่เป็นหนูก็ดีเพราะหนูชอบพี่พายุมากๆ ชอบมากจนอยากจะถวายตัวให้”
“อย่าพูดเล่นเพราะฉันคิดจริง” ผมพูดขึ้นทันทีที่เธอพูดจบสงสัยไม่เข็ดกับเมื่อตอนเย็น
“คิดจริงที่จะชอบหนูกลับหรอคะ”
“คิดจริงที่ฉันจะได้เอาเธอ”
โมจิ
“งั้นหนูกลับก่อนนะคะพี่พายุ” ฉันพูดขึ้นทันทีเมื่อจัดการของทุกอย่างที่ซื้อมาเสร็จ
“ฉันไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดึกแล้วหนูกลับเองดีกว่า” เพราะตอนนี้ก็ดึกแล้วฉันไม่อยากให้เขาต้องวนไปวนมา
“เพราะดึกไงฉันถึงต้องไปส่งเธอ”
“เอางั้นหรอคะ”
“หรือเธอจะนั่งแท็กซี่ไปดึกๆ แบบนี้”
“หนูไม่นั่งแท็กซี่หรอกค่ะ เปลืองเงิน” ฉันพูดออกไปอย่างติดตลกแต่ฉันคิดจริงตามที่พูด ต่อให้ฉันจะได้เงินจากเขาเยอะแต่ค่าใช้จ่ายฉันไม่ใช่น้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด
“รถเมล์” พี่พายุพูดขึ้นทันที
“แน่นอนค่ะ หนูไปนะคะขอบคุณสำหรับค่าจ้างค่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” พี่พายุพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับลุกขึ้นเต็มความสูงคว้ากุญแจรถเดินมาทางฉันทันที
“เสียเวลานะคะเวลานี้รถเยอะด้วย”
“มอเตอร์ไซค์ไม่เสียเวลา” พี่พายุพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินนำหน้าฉันออกจากห้องทันที
“อีกอย่าง”
“คีย์การ์ดหรอคะ” ฉันมองที่สิ่งที่พี่พายุส่งมาให้
“คีย์การ์ดสำหรับขึ้นลิฟต์มันจะเปิดให้ใช้เฉพาะคนมีคีย์การ์ดเพราะลิฟต์ตัวนี้ขึ้นตรงห้องฉัน เผื่อวันไหนฉันเลิกช้าเธอจะได้มาทำความสะอาดทำอาหารรอฉัน”
“โอเคค่ะ” ฉันตอบรับอย่างเข้าใจและรับคีย์การ์ดมาทันที
“โคตรเปลี่ยว” พี่พายุพูดขึ้นทันทีเมื่อขับเข้าในซอยแปดซอยหอพักของฉัน
“หนูชินแล้วค่ะ”
“เธอไม่กลัว” ถ้าถามว่ากลัวไหม ฉันไม่กลัว ฉันเดินเข้าเดินออกอยู่ตลอดมันไม่เคยมีอะไร
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูเดินเข้ามาทุกวันไม่เห็นมีอะไร”
“ระวังไว้บ้างก็ดี”
“เป็นห่วงหนูหรอคะ”
“เปล่า”
“แต่ที่พูดแบบนั้นมันหมายความว่าเป็นห่วงนะคะ”
“อยากจะคิดอะไรก็คิด”
“คิดว่าพี่พายุกำลังเริ่มชอบหนูแล้ว”
❤️