ตอนที่2อ้อมกอดของแม่

1475 Words
เอี๊ยดดดดดดดดดดด " อ้ะะะะะ " ร่างเล็กที่เดินมาตามทางมืดแต่ต้องเซถลาล้มเพราะเธอดัยบังเอิญไปตัดหน้ารถของใครบางคนเข้า ธาราที่เดินลงมาจากรถด้วยท่าทีตกใจ ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านของธารา สภาพเธอแย่มากจนน่าอาย ไม่นานสายน้ำก็ตามมาหาเธอที่บ้านของธารา สองสาวโผเข้ากอดกันก่อนที่น้ำตาของผิงผิงจะไหลลงมาอีกครั้ง หลายวันต่อมา " ผิง มาหาป๊ามาลูก " ผิงผิงที่ใบหน้าเศร้าหมองเดินเข้าหาพ่ออย่างปฏิเสธไม่ได้ " ป๊าขอโทษ " อิทธิพลกุมือลูกสาวพร้อมกับเอ่ยโดยที่ผิงผิงเองก้มต่ำไม่สบตากับพ่อ " ผิงต้องกลับไปเรียนแล้วนะป๊า " เสียงเอ่ยออกมา ราวกับไม่ต้องการพูดถึงเรื่องคืนนั้น " วันไหน ป๊าซื้อรถให้เอามั้ย " อิทธิพลพยายามพูดคุยกับลูกสาวเหมือนเดิม " ไม่เป็นไรค่ะ " ผิงผิงพูดจบก็เดินขึ้นห้องไปเก็บของเพราะเธอต้องการที่จะไปก่อนถึงวันจริงๆเหลือเวลาอีกเป็นเดือนก่อนที่จะเปิดเทอม ่อิทธิพลมองลูกสาวที่เดินลงมาด้วยกระเป๋าเป้เพียงใบเดียว ใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มตอนนี้มันกลับเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด " ผิงไปนะป๊า " อิทธิพลเข้ากอดลูกสาวมือหนาลูบผมเบาๆ เสียงสะอื้นไห้ของลูกสาวทำหัวใจแกร่งสั่นไหว แต่ในเมื่อเขาเลือกแล้วเขาต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ " ดูแลตัวเองดีๆนะลูก มีอะไรบอกป๊านะ ป๊าจะรอหนูอยู่ตรงนี้ทุกวัน ป๊ารักหนูทีสุดเลยนะ " น้ำตาที่ถูกกลืนลงคอกลับไหลลงอาบแก้มเนียน " ป๊าาา ฮึก ผิงก็รักป๊านะ " ผิงผิงสวมกอดอิทธิพลครู๋นึงก่อนจะเดินไปที่หน้าบ้าน ขาเล็ก้าวขึ้นรถเก๋งสีดำคันหรูที่มารอรับเธออยู่ก่อนแล้ว เดย์ อายุ21ปี วิศวะปี3 เจ้าของใบหน้าตี๋ คิ้วหนา แก้มป๋อง ปากกระจับสีอ่อนกับส่วนสูงที่มาตรฐาน180+ รุ่นพี่ของธาราเธอมีโอกาสได้คุยได้รู้จักในฐานะรุ่นพี่ บังเอิญว่าเขามาแข่งบอลกับธาราและพักที่บ้านของธารา เขาจะเดินทางกลับวันนี้ผิงผิงเลยขอติดรถเขากลับไปด้วย " โอเคป่าว " เสียงนุ่มเอ่ยถามทันเม่อมองคนด้านข้างที่สภาพดูไม่ค่อยดี ใบหน้าที่เขาเคยเห็นมีเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะวันนี้มันกลับหมองคล้ำ ขอบตาก็แดงราวกับพึ่งร้องไห้มาอย่างหนัก " โอเคค่ะ " เสียงเล็กที่สั่นเครือตอบกลับมาโดยที่ไม่มองหน้าเขา " ยิ้มหน่อย " เดย์กับไปที่แก้มใสอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่เธอจะเงยหน้ามามองเขาด้วยแววตาเศร้า เดย์ที่ยิ้มในตอนแรกกลับหุบยิ้มทันตา แววตาเปลี่ยนเป็นสั่นไหวเมื่อเห็นหยดน้ำตา " พี่เดย์ ฮืออออออๆๆๆๆๆ " ผิงผิงโผเข้ากอดเดย์แน่น แขนเล็กเกี่ยวกอดที่คอแน่นจนเขาต้องยกมือลูบหลังปลอบอยู่นาน " ไม่เป็นไรนะ พี่อยู่ข้างๆได้ตลอด " เสียงปลอบอ่อนโยนทำเอาผิงผิงรู้สึกอบอุ่นจนหยุดร้องให้ ล้อหมุนมุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่ สายตาคมจ้องมองทางสลับกับคนตัวเล็กที่นั่งเงียบมองสองข้างทางด้วยสายตาเหม่อลอย " กินไรหน่อยมั้ย " เสียงนุ่มเอ่ยถามคนด้านข้างก่อนจะได้คำตอบเป็นการส่ายหัว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากในมือเล็กก่อนที่เธอจะกดรับและไม่พูดจา เดย์มองอยู่สักพักก่อนที่ใบน้ำนั้นจะมีน้ำตาไหลผ่านอีกครั้ง " แม่หรอคะ ฮึกกกก แม่ " " แม่เป็นยังไงบ้างคะ ฮืออออ ผิงเป็นห่วงแม่ " " ได้ค่ะ ผิงจะไปหาแม่ตอนนี้เลยนะคะ " ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาทว่ายังมีรอยยิ้มให้เห็นแววตาที่แสดงถึงความดีใจ " พี่เดย์ ช่วยอะไรหน่อยได้ไหมคะ " หญิงสาวถอดแว่นใสออกก่อนจะเช็ดน้ำตาจนหมดหน้า เดย์รอฟังพอดีกับรถติดไปแดง " พาผิงไปหาแม่หน่อยได้ไหมคะ " " ที่ไหน " ผิงผิงยื่นหน้าจอให้เขาดูด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเส้นทางไปตามที่ผิงผิงส่งให้ ใช้เวลาเดินทางกว่าสามชั่วโมงรถก็ได้หยุดอยู่ที่บ้านทรงไทยหลังใหญ่ หน้าบ้านเป็นสนามหญ้ากว้างมีต้นไม้ปลูกอยู่บางจุดให้ร่มเงา ผิงมองไปรอบๆด้วยความหลงไหล " ผิง " " แม่คะ " สาวน้อยวิ่งโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง สายตาเหลือบไปเห็นชายชราเดินมือขัดหลังตามออกมา " พ่อคะ " ธิดาหันไปหาชายชราก่อนจะโอบผิงแนบข้างเดินเข้าหา " สวัสดีค่ะ " ผิงผิงเอ่ยพร้อมกับยกมือไหว้โดยที่ไม่ต้องรอให้คนเป็นแม่แนะนำ " ดูสิ แม่แกใจร้ายกับตาขนาดไหน " ชายชราพูดขึ้นปนขำ " โถ คุณพ่อคะ " " ก็จริงหลานสาวโตขนาดนี้แล้วพึ่งจะพามาหาพ่อ " ชายชนาพูดเชิงน้อยใจแต่ใบหน้านั้นยังส่งยิ้มให้ผิงอย่าอบอุ่น " แล้วนี่มารถใคร " ธิดาหันไปมองที่รถ เดย์ที่นั่งมองภาพทุกอย่างภายใต้ฟิล์มดำสนิท เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มนั้นของผิง เขากับยิ้มไปกับเธอซะอย่างงั้น " รุ่นพี่ค่ะ พอดีผิงติดรถพี่เขากลับด้วย แม่โทรมาพอดีหนูเลยให้พี่เขาพามา " ทั้งพูดทั้งยิ้ม ใบหน้าจิ้มลิ้มตากลมโตยิ้มจนตาหยี่ก่อนหันไปมองคนที่รถ " ตายจริง ไปรบกวนพี่เขาแบบนั้นเกรงใจแย่เลย " ว่าจบธิดาก็เดินไปที่รถก่อนจะเคาะกระจก " รุ่นพี่ของผิงผิงใช่มั้ยจ้ะ " " สวัสดีครับ " ขายาวก้าวลงจากรถยืนตรงหน้าด้วยท่าทีอ่อนน้อม " ลงมาก่อนสิ กินข้าวด้วยกันก่อน " ธิดาเอ่ยชวนอย่างเป็นกันเอง เมื่อหน้าค่าตาของเดย์เธอรู้สึกเอ็นดู แม้ในใจจะคิดว่าเป็นแฟนลูกอยู่ก็ตาม " เอ่ออออ " เดย์ที่แอบรู้สึกเกรงใจอยู่ลึกๆแต่หาคำปฏิเสธไม่ได้ " ไปเถอะจ้ะ มาน้าทำกับข้าวไว้หลายอย่างเลย " ธิดากวักมือเรียกก่อนที่เดย์จะเดินตามเข้าไปอย่างเกร็งๆ ผมที่มองดูคนตรงหน้าทานข้าวอย่างอร่อย แก้มป่องๆของเธอเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ พูดคุยกับแม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมเองก็เบาใจถ้าเทียบกับเมื่อเช้าก่อนออกมาจากบ้าน ผมเองก็เจ็บใจเมื่อเห็นน้ำตาและได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ หัวใจของผมมันก็เจ็บตามไปด้วย ตั้งแต่ผมมีโอกาสได้รู็จักเธอเพราะธารารุ่นน้องของผมพามาแนะนำ จากนั้นพวกเราก็เหมือนจะเริ่มสนิทกันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกันสองกลุ่มบ่อยขึ้น ผมไม่รูว่าเพราะอะไรถึงทำให้เธอมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผมมากขนาดนี้ เวลาเธอยิ้มผมดีใจและยิ้มไปกับเธอ แต่เวลาเธอเศร้าผมก็เหมือนจะร้องไปกับเธอจุกที่อกทุกครั้ง " ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ " " ยินดีจ้ะ แวะมาทานบ่อยๆนะ " แม่ของผิงผิงเอ่ยกับผมด้วยท่าทางอ่อนโยนจนผมรู้สึกคิดถึงแม่ผู้ที่จากผมไปอยู่บนฟ้า " ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ " เมื่อเห็นเวลาปาเข้าไปเกือบสองทุ่มผมจึงขอตัวกลับก่อน " อ้าว กลับยังไงล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว อันตราย " คุณน้าบอกกับผมอีกครั้ง " ไม่เป็นไรครับ ผมขับจนชินแล้ว " " ค้างนี่เถอะ ทางแถวนี้อันตรายด้วย พรุ่งนี้ค่อยกลับ " " จริงพี่เดย์ ค่อยกลับพร้อมกันพรุ่งนี้ หนูไปด้วย " ผิงผิงที่เดินตามออกมาเอ่ยขึ้นเมื่อผมมองดวงตากลมโตนั้นกลับทำให้ใจผมแพ้พ่ายทุกที จนต้องยอมนอนค้างที่บ้านของคุณตาผิงผิงหลังนี้ " ฝันดีนะ ผิงผิง " ผมที่นอนอยู่ในห้องรับรองแขกเอ่ยเสียงแผ่วเบาบอกคนตัวเล็กเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนอยู่ห้องถัดไปกับแม่ของเธอ ก็อกกกกๆๆๆๆๆๆ " ฝันดีนะคะ " เมื่อผมเปิดประตูออกไปก็พบกับคนตัวเล็กที่ผมพึ่งนึกถึงใบหน้านั้นไป ยืนถือน้ำเปล่ามาให้พร้อมกับเอ่ยบอกฝันดี " ฝันดีครับ " ผมเอ่ยกับเธอเสียงเบาแบบที่จะอดไม่ได้จนต้องส่งยิ้มกลับไป (คนอะไรน่ารักชะมัด อยากได้เป็นแม่ของลูก)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD