คำเตือน
**นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ชื่อ สกุล สถานที่ ตัวละคร เป็นเพียงเรื่องสมมุติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงของใครทั้งสิ้น
**นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ความรุนแรงไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
**นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ สแกนหนังสือหรือกระบวนการอิเล็กทรอนิกซ์ใดๆ ของเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของนิยาย (หากพบเห็นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย)
ตอนที่ 1
คฤหาสน์มนเทียน
ในห้องนอนของชายหนุ่มนักรักที่ชื่อภัคพงศ์ เสียงครางทุ้มอย่างมีความสุขดังแว่วมาจากลําคอของผู้บรรเลงเพลงรัก ผสานเสียงครางหวานของหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง ใบหน้านวลสไตล์ลูกครึ่งหลับตาเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความเสียวซ่าน จวบจนกระทั่งทั้งคูุ่เดินทางเกือบถึงฝั่งฝัน เสียงกรีดร้องแหลมยาวดังขึ้น จนทั้งคู่ตกใจจนต้องหันไปมองที่มาของเสียง
“กรีดดดดดดดดด!!”
“ไหม!!!!!!!”
“ลีน่า” ภัคพงศ์พยายามเปล่งเสียงและรีบเอาผ้าห่มมาคลุมร่างให้คู่รักทันที จากนั้นตัวเขาก็รีบดึงกางเกงที่อยู่ใต้ข้อเท้าขึ้นมาสวมใส่ ก่อนที่คนดูจะทันได้ต่อว่าหรือพูดอะไรออกมาอีก
ห้องนอนภัคพงศ์ที่เธอเข้าออกเป็นประจำ หญิงสาวไม่คิดว่าจะเห็นภาพนั้นเลย ภาพเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ มันภาพบาดตาอย่างรุนแรงและมุมที่เธอยืนอยู่ประกอบกับแสงไฟสลัวๆ มือของภัคพงศ์ที่รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาเพื่อที่จะดึงปิดร่างของลีน่า กลายเป็นว่าปรานไหมเห็นเป็นการกระทำของคนทั้งคู่อย่างโจ่งแจ้ง วินาทีนั้นเธอคิดอะไรไม่ออก มีแต่ความโกรธเข้าครอบงำ
ปรานไหมมองภาพนั้นด้วยหัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เธอโกรธปนเสียใจและผิดหวัง ปรานไหมหันหลังกลับไปในห้องนอนของเธออีกครั้งด้วยความรวดเร็ว และเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
ปรานไหมเดินออกมาจากห้องนอนของเธอที่อยู่ตรงกันข้ามเพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีพร้อมกระบะทรายที่อยู่ในมือ และวิ่งตรงไปยังหนุ่มสาวที่อยู่ห้องตรงกันข้าม
“กรี๊ดดดดดดด!!...เฮ้ย!.....” เสียงทั้งสองดังออกมาใน เวลาไล่เลี่ยกันตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ประสบ
“โครม!.....”
ปรานไหมที่กำลังโมโหเธอโยนทรายแมวในกระบะใส่คนที่อยู่บนเตียงทันที และไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปรานไหม และเธอก็ก้าวเท้าวิ่งไปยังห้องของตัวเอง
“.........โอ้ย!......” คนที่กรีดร้องมีทรายอยู่บนตัวเต็มไปหมดรวมไปถึงชายหนุ่มที่หลบทันแต่ก็ยังโดนบ้างเล็กน้อย
“ลีน่าคุณใส่เสื้อผ้าซะ เดี๋ยวผมมา” ชายหนุ่มที่รีบร้อนสั่งคู่ขาและรีบเดินออกห้องตรงไปยังห้องของน้องสาวผู้ที่โยนกระบะทรายใส่ทั้งคู่เมื่อกี้
“ทำไมไม่รู้จักเคาะห้อง” ภัคพงศ์ดุน้องสาวและเหลือบตาไปมองหน้าคนทำผิดด้วยความโกรธ ปรานไหมมองหน้าด้วยความโกรธเช่นกันและพยายามแกะมือของภัคพงศ์ที่บีบข้อมือของเธออยู่
“พี่ภัค!!...ไหมเจ็บนะคะ!!!” ปรานไหมร้องออกมาและเอามืออีกข้าง มาแกะมือภัคพงศ์ออกจากการรัดข้อมือเธอทันที
“พี่ถามว่าเมื่อกี้ไหมทำไมไม่เคาะห้องก่อน”
“แล้วทำไมพี่ไม่ล็อกห้องล่ะ”
“ทำไมพี่ทำแบบนี้ ทำไมพี่ต้องพาผู้หญิงคนนั้นมาที่บ้านเราด้วย
“พี่ขอโทษ...พี่ผิดเองแหละ” เขาปล่อยมือน้องสาวแล้วเดินกลับไปที่ห้องเดิมเพราะไม่อยากทะเลาะกับเธอมากไปกว่านี้
ทันทีที่ประตูห้องเปิด ก่อนที่หญิงสาวในห้องจะได้พูดอะไรออกมา ชายหนุ่มตรงหน้าก็รีบพูดขึ้นมาก่อนทันที
“ลีน่า คุณกลับไปก่อนนะ”
“ทำไมภัค..ต้องแคร์ยัยน้องสาวขนาดนั้นด้วยคะ”
“เอาไว้ผมจะอธิบายให้คุณฟังเองแต่ตอนนี้คุณกลับไปก่อนนะครับ...ผมขอร้อง”
“ภัคคะ...นี่คุณไม่แคร์ฉันเลย...” เธอร้องถามทั้งที่น้ำตาคลอดวงตาอย่างไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน้องสาวของเขาที่เป็นฝ่ายผิดและไม่คิดจะขอโทษสักคำ บทลงโทษจากพี่ชายอย่างภัคพงศ์ที่เธอคิดว่าจะเห็นหลังจากที่น้องสาวแผลงฤทธิ์ก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรทำให้เธอหายโกรธได้ในตอนนี้ และเนื้อตัวเธอและเตียงนอนผ้าห่มก็เต็มไปด้วยทราย ยังดีที่เจ้าเหมียวไม่มาปล่อยของดีไว้เสียก่อน
“ถ้าคุณยังอยากคบกับผม...คุณกลับไปก่อนเถอะนะ...” ภัคพงศ์พูดเพียงแค่นั้นและพาหญิงสาวเดินออกจากห้องไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดอยู่หน้าคฤหาสน์ เขาเป็นคนขับรถออกไปส่งลีนาที่คอนโด
“ภัคคะ คืนนี้อยู่กับลีน่านะคะ”
“ไม่ได้หรอกครับ..ลีน่า เอาไว้หลังนะ”
“คุณจะกลับไปให้น้องสาวรังแกทำไมคะ”
“ลีน่าคุณไม่เข้า..เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกันนะ ผมขอตัว”
เมื่อภัคพงศ์กลับมาถึงบ้านชายหนุ่มเดินคอตกกลับมาที่ห้องนอนของตัวเองในสภาพที่เต็มไปด้วยทรายเกลื่อนพื้นและบนที่นอน เขารีบตามป้าแม่บ้านให้รีบมาทำความสะอาด
ภัคพงศ์ทำได้เพียงไปอาบน้ำใหม่ เขาไม่กล้านอนที่ห้องเพราะยังทำความสะอาดไม่เสร็จ ชายหนุ่มมาเคาะห้องและนั่งลงข้างๆ ปรานไหม ทั้งสองต่างนิ่งเงียบกัน เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่ภัคพงศ์กับปรานไหมมีปัญหากัน เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาของทั้งสองคนไม่เคยสักครั้งที่จะมีปัญหากัน
รุ่งเช้าทั้งบิดามารดายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกทั้งสองที่ไม่ยอมคุยกัน เขาไม่เคยเป็นลูกสาวหมางเมินต่อพี่ชายเลยสักครั้ง วันนี้ทั้งครอบครัวออกไปทำธุระเสร็จนอกบ้านพร้อมกัน เนื่องจากมีงานเลี้ยงต้อนรับตำแหน่งผู้บริหารของบิดา จากนั้นจึงกลับบ้านมาพร้อมกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตลอดทางที่นั่งรถมาปรานไหมไม่ยอมพูดจา หรือแม้แต่จะชายตามองภัคพงศ์เลย จนกระทั่งสาวน้อยที่นั่งมาข้าง ๆ เอนมาซบไหล่กว้างของชายหนุ่ม เขาหันมาดูปรากฏว่าปรานไหมหลับไปแล้ว
คฤหาสน์มนเทียน
“ไหม ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้วนะ"
ภัคพงศ์เรียกน้องสาวขี้เซาแต่เธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาจนต้องให้เขาอุ้มเธอขึ้นไปนอน เพราะเห็นเธอหลับสบาย
“อ้าว! น้องหลับเหรอลูก”
“ครับพ่อ น้องคงจะเพลียน่ะครับ”
“แกอุ้มน้องไปนอนซะ”
“แล้วคืนนี้จะออกไปไหนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกครับ”
ผู้เป็นบิดาอยากให้ลูกชายเพลย์บอยยอมอยู่บ้านดูแลน้องบ้าง
ร่างเล็กถูกภัคพงศ์อุ้มขึ้นมาไว้ที่ห้องนอนของเธอที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับห้องนอนของเขา เฟอร์นิเจอร์สีขาวตัดชมพูเต็มไปหมดดูแล้วโรแมนติก
ภัคพงศ์วางร่างบางลงจัดท่านอนแล้วห่มผ้าให้ เพียงเขาหันหลังให้เธอ ปรานไหมก็พลิกตัวดึงผ้าห่มออกมาแล้วลุกเดินไป นี่เธอแกล้งหลับเพื่อให้เขาอุ้มมานอนอย่างนั้นหรือ
“จะไปไหน?” เสียงถามดังมาก่อนขาจะทันแตะพื้นเสียด้วยซ้ํา
“จะไปข้างล่าง ยังไม่ง่วงค่ะ”
“นี่ไหมแกล้งให้พี่อุ้มมาเหรอ?” คิ้วดกเข้มเลิกน้อย ๆ
ครั้นเธอจะก้าวออกไป เขาก็เอี้ยวตัวคว้าร่างบางเอาไว้ ดึงหญิงสาวให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“พี่ว่าเราน่าจะคุยกันให้รู้เรื่องนะ” ยิ่งเห็นริมฝีปากบาง เม้มแน่น หากแต่ยังสั่นระริก เขาก็ยิ่งได้ใจอยากกอดเธอไว้ให้นานที่สุด ภัคพงศ์ไม่อยากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เลย
“ไหมเกลียดพี่ภัค!”
“ถ้าเป็นเรื่องเมื่อวานพี่ต้องขอโทษ” เขารีบบอกแต่เธอไม่รอฟังเหตผล พอดิ้นหลุดจากอ้อมกอดได้ก็วิ่งหนีไปทันที