REGERT01:ขึ้นชื่อว่าแฟน(เลว)

1746 Words
REGERT 01 ************************** เมื่อหกเดือนก่อน “นี่มันเสื้อในของใครคะพี่เรซ?” ฉันชูเสื้อในสีแดงสดที่อยู่ในมือตัวเองให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของฉันดูว่ามันเป็นเสื้อในของใคร ฉันไม่ได้อยู่ที่ห้องมาสามวันเพราะต้องกลับบ้าน แต่พอกลับมาก็มาเจออะไรแบบนี้ มันหมายความว่ายังไง พี่เรซหันหน้ามามองแล้วทำหน้าเฉยๆ เหมือนเขาไม่รู้ว่ามันเป็นของใครเหมือนกัน เขาจะไม่รู้ได้ยังในเมื่อคนที่อยู่ห้องนี้มันมีแค่ฉันกับเขา และนี่มันก็ไม่ใช่ของฉันด้วย และถ้ามันไม่ใช่ของฉันมันก็ต้องเป็นของเขาที่พาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในห้องไง “หนูถามว่านี่มันเสื้อในของใคร?” ฉันถามย้ำคนตรงหน้าอีกครั้ง “เสื้อในผู้หญิงก็ต้องเป็นของหนูหรือเปล่าคะ?” “เสื้อในหนูไม่ใหญ่เท่าหัวขนาดนี้ค่ะ” ถ้ามันเป็นเสื้อในของฉันทำไมฉันจะจำไม่ได้ล่ะ ฉันก็ต้องจำได้สิ แต่นี่มันไม่ใช่ของฉันจริงๆ ไง ฉันมองจ้องหน้าพี่เรซที่ยังคงทำหน้าไม่รู้เรื่อง เขานอกใจฉันอีกแล้วงั้นเหรอ นี่มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เขารับปากและให้สัญญากับฉันแต่ก็ไม่เคยทำได้เลย แล้วนี่ฉันยังจะหวังอะไรจากเขาได้อีกหรือเปล่า “นอกใจหนูอีกแล้วเหรอคะพี่เรซ?” “พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่รู้เรื่อง พี่ไม่ได้พาผู้หญิงคนไหนเข้าห้องทั้งนั้น” “เมื่อก่อนพี่ก็พูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดว่าหนูจับไม่ได้หนูก็กลายเป็นอีโง่ที่โดนที่พี่หลอกต่อไปใช่มั้ย” ฉันไม่ได้อยากหาเรื่องทะเลาะกับเขาหรอกนะ เพราะรู้ว่าเขาจะต้องออกไปทำงานข้างนอกกลับมาก็เหนื่อยแล้ว แต่ดูสิ่งที่เขาทำกับฉันสิ จะไม่ให้ฉันพูดอะไรมันก็คงไม่ได้หรือเปล่า เพราะนี่มันเป็นการนอกใจครั้งที่ร้อยแล้วมั้ง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังยกโทษให้เขามาเรื่อยๆ เพราะเขาขอโอกาสจากฉันว่าจะไม่ทำอีกแล้ว แต่สุดท้ายคำพูดของผู้ชายตรงหน้าฉันคนนี้ก็ทำให้ฉันเชื่ออะไรในตัวเขาไม่ได้เลยสักอย่าง ฉันเกลียดคำว่าจะไม่ทำอีกแล้วของเขา เพราะเขาพูดแบบนี้ทีไรเขาก็กลับไปทำอีกไง “ถามจริงยังรักกันอยู่หรือเปล่า?” “จะถามอะไรคำถามเดิมๆ ก็บอกไปแล้วไงคะว่ารัก ถ้าไม่รักก็เลิกไปนานแล้วป่ะ” “...” น้ำเสียงรำคาญของพี่เรซที่พูดตอนนี้เหมือนว่าเขาอยากจะตัดปัญหาและไม่อยากให้ฉันถามถึงเจ้าของเสื้อในตัวปัญหานี้ นิสัยแบบนี้ของเขาน่ะทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ เราคบกันมาสามปีแล้วนะ นิสัยแย่ๆ ของเขาฉันรู้หมดนั่นแหละ เมื่อสามเดือนก่อน “คืนนี้มารับหนูที่มหาลัยได้มั้ยคะ น่าจะเลิกดึกเพราะต้องทำกิจกรรม” “แต่พี่นัดกับเพื่อนเอาไว้แล้วค่ะ คืนนี้หนูให้เพื่อนไปส่งก่อนได้มั้ย?” พี่เรซมองหน้าฉันแล้วทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดที่มารับฉันไม่ได้ แต่ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดจริงๆ หรอก การที่เขานัดกับเพื่อนแล้วมันทำให้เขามารับฉันไม่ได้เลยเหรอ แวะมารับแล้วค่อยกลับไปกินเหล้ากับเพื่อนต่อมันยากขนาดนั้นเลยหรือไง แล้วเขาไม่เป็นห่วงฉันเหรอว่าฉันจะกลับยังไงถ้าเกิดว่าเพื่อนไม่ยอมไปส่ง ฉันเลือกที่จะเงียบแล้วไม่ได้พูดอะไร ได้แต่น้อยใจที่เขาไม่สนใจฉันเท่าที่ควรทั้งๆ ที่ฉันคือแฟนของเขาแต่กลับถูกเขาละเลยแบบนี้ “พี่ก็อยากมารับหนูนะคะ แต่พี่นัดเพื่อนเอาไว้แล้วจริงๆ” “แวะมารับหนูแล้วค่อยกลับไปต่อกับเพื่อนไม่ได้เลยเหรอคะ หรือว่าหนูขอพี่มากเกินไปหรือเปล่า?” “แล้วการที่หนูให้เพื่อนไปส่งมันยากขนาดนั้นเลยไงที่จะให้พี่วนกลับไปกลับมาแบบนี้” พี่เรซถอนหายใจแล้วเริ่มพูดเสียงแข็งกับฉันทั้งที่ฉันยังไม่ได้ชวนเขาหาเรื่องทะเลาะอะไรด้วยเลย เดี๋ยวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะหงุดหงิดใส่ฉันบ่อยมากเลยนะทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ และการที่เขาพูดแบบนี้มันก็ชัดเจนมากเลยว่าเขาไม่ได้อยากมารับฉันแต่อยากไปสังสรรค์กับเพื่อนมากกว่า ฉันก็ไม่เคยห้ามเขานะว่าอย่าไปกับเพื่อน แค่อยากให้เขาแวะมารับฉันที่มาหาลัยแล้วไปส่งฉันที่ห้อง แล้วค่อยไปต่อก็ได้หรือจะค้างกับเพื่อนก็ได้ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำไมเขาถึงมองว่าฉันมันน่ารำคาญแบบนี้ไปได้ “เฮ้อ เอาไว้วันหลังแล้วพี่จะเป็นคนมารับแล้วกันนะคะ” “ไม่ต้องแล้วค่ะ เพราะต่อไปหนูจะไม่คาดหวังอะไรในตัวพี่เรซอีกแล้ว” พูดจบฉันก็เดินหนีเข้าคณะทันทีไม่แม้แต่จะยืนส่งเขาเหมือนที่เคยทำ และรู้ด้วยว่าเขาเองก็คงไม่ได้อยากให้ฉันยืนส่งหรอก เขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาเย็นชากับฉันมากขึ้น ไม่ได้ใส่ใจฉันเท่าที่ควร พอถามเขาก็บอกว่าเขาเหมือนเดิมกับฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันต่างหากที่คิดมากไปเอง ถ้าเขาไม่เปลี่ยนไปแล้วฉันจะคิดมากมั้ยล่ะ แต่ช่างมันเถอะ เพราะฉันคงไม่คาดหวังอะไรจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของฉันแล้วล่ะ การที่เราไม่คาดหวังมากเราก็จะได้ไม่ต้องผิดหวังมากไง ปัจจุบัน “ให้พี่ไปส่งมั้ยคะ?” ฉันที่กำลังจะเดินออกจากห้องก็ชะงักเท้าค้างเอาไว้ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่เรซที่มองหน้าฉันอยู่ก่อนแล้ว เขายิ้มให้ฉันแล้วเดินเข้ามาโอบเอวฉันอย่างเอาใจ แต่ฉันก็ดึงมือเขาออกก่อนจะบอกว่าวันนี้ฉันจะขับรถไปเรียนเอง ฉันขอให้พ่อเอารถยนต์มาให้ฉันใช้ เวลาที่อยากจะไปไหนมาไหนจะได้สะดวกและไม่ต้องรอให้เขาคอยไปรับไปส่งด้วย “ไม่เป็นไรค่ะ หนูไปเองน่าจะสะดวกกว่า” “เดี๋ยวนี้ไม่อยากนั่งมอไซค์ของพี่แล้วใช่มั้ยคะ?” พี่เรซเป็นวินขับมอเตอร์ไซค์ เขาไม่ได้มีรถยนต์คันหรูหรือห้องพักสบายๆ หรอก แต่ที่ฉันเลือกอยู่กับเขามันเป็นเพราะว่าฉันรักเขาและคิดว่าถ้าเราได้อยู่ด้วยกันเขาก็คงจะทำให้ฉันไม่ต้องลำบาก ที่ผ่านมาเขาก็พยายามทำอย่างนั้นฉันเองก็พอจะดูออก แต่มันยังไม่มากพอสำหรับฉันไง คนนอกอาจจะคิดว่าฉันบีบบังคับพี่เรซมากเกินไปหรือเปล่า อยากให้เขาเป็นอย่างที่ฉันอยากให้เป็น แต่คนพวกนั้นไม่รู้อะไรสักอย่างเลยไงถึงได้พูดแบบนั้น ฉันไม่เคยบีบบังคับให้พี่เรซเป็นอย่างที่ฉันต้องการ แต่ที่ฉันบอกว่าเขายังพยายามไม่มากพอเพราะอะไรรู้ป่ะ เพราะเขาพยายามไม่เต็มที่ไง เวลาที่เขารับปากอะไรกับฉันหรือให้คำสัญญาอะไรกับฉันเขาก็ไม่เคยทำได้เลย วันนี้รับปากว่าจะไม่ทำอีก ผ่านมาได้ไม่กี่วันก็ทำเหมือนเดิม แบบนี้มันเรียกว่าพยายามแล้วเหรอ หรือแม้แต่วันที่บอกว่ารักฉันเขายังปล่อยให้ฉันกลับห้องเองดึกๆ เลย แล้วแบบนี้มันคือคำว่ารักที่ให้กันแล้วเหรอ ยังไม่หมดเท่านี้หรอกนะ ถ้าเกิดว่าการพยายามเป็นแฟนที่ดีของเขามันมากพอมันก็จะไม่มีคำว่านอกใจหลายต่อหลายครั้งหรอกจะบอกให้ มันเลยทำให้ฉันรู้ไงว่าสิ่งที่พี่เรซทำอยู่เขายังพยายามไม่เต็มที่และไม่มากพอสำหรับฉันตอนนี้ “หรือว่าพี่มันไม่มีอะไรดีเลยหนูก็เลยไม่อยากอยู่กับพี่แล้วเหรอคะ?” “ถ้าเกิดว่าหนูไม่อยากอยู่กับพี่เรซ หนูบอกเลิกพี่ไปนานแล้วล่ะคะ” ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าแล้วพูดประโยคเมื่อกี้ออกไป ทำให้เขาเงียบไปทันที ฉันคิดว่าเขาเองก็น่าจะจำได้นะว่าไอ้ประโยคเมื่อกี้เขาก็เคยใช้พูดกับฉัน แล้วพอฉันพูดกลับไปบ้างมันจุกใช่มั้ยล่ะ เพราะตอนนั้นฉันก็พูดไม่ออกเหมือนที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้เหมือนกันนั่นแหละ “หนูไปเรียนแล้วนะคะ วันนี้น่าจะกลับดึกถ้าพี่เรซกลับมาก่อนก็ไม่ต้องรอนะคะนอนไปก่อนได้เลย” “แล้วหนูจะไปไหนคะ?” “วันนี้งานวันเกิดเพื่อนค่ะ หนูนัดกับเพื่อนเอาไว้ว่าจะไปผับกัน” “พี่ไปด้วยได้มั้ยคะ พี่เป็นห่วง” “จะไปทำไมคะมันเป็นงานวันเกิดเพื่อนหนูนะ ไม่ใช่เพื่อนพี่เรซสักหน่อย” พูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทันที คำพูดที่ฉันพูดทุกคำมันก็คือคำที่พี่เรซเคยพูดกับฉันมาก่อนนั่นแหละ เมื่อก่อนฉันคาดหวังในตัวเขามาก อยากให้เขาเป็นแฟนที่ดีมากกว่านี้ เขาไม่จำเป็นต้องหาเงินมาเลี้ยงฉัน หรือไม่ต้องซื้อข้าวของแพงๆ ให้ฉันเลย แต่สิ่งที่ฉันต้องการจากเขาคือการเอาใจใส่ที่มันเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่พอเวลาผ่านไปความรักความห่วงใยก็เริ่มน้อยลงแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่ามากพอที่จะให้เขารักษาเอาไว้ และตอนนี้ฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวพี่เรซอีกต่อไปแล้วล่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD