REGERT 02
*****************************
ฉันขับรถมาจอดที่ลานจอดรถหลังตึกคณะ พอรถจากรถก็เจอเข้ากับเต๋าเพื่อนร่วมคลาสเรียนกับฉัน เขาเองก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน
ฉันกับเต๋าค่อนข้างที่จะสนิทกันมากและเขาก็เป็นเพื่อนผู้ชายคนเดียวด้วยที่ฉันกล้าที่จะเข้าใกล้และมีเรื่องอะไรก็พูดให้ฟัง
จริงๆ ฉันก็มีเพื่อนผู้ชายเยอะนะแต่ก็ไม่ได้สนิทด้วยเท่าไหร่ ก็มีแต่เต๋านี่แหละที่ฉันสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง
“วันนี้วันเกิดใบตอง หญ้าไปด้วยหรือเปล่า?”
“ไปสิ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวมันงอนแย่เลย”
จริงๆ พวกเราไม่ได้จะไปผับกันหรอก แต่ที่จะไปก็คือคาเฟ่นั่งชิวกันเท่านั้น แต่ที่ฉันบอกพี่เรซแบบนั้นเพราะอยากให้เขารู้ไงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ทำได้ ฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน
ไม่ได้จะเอาคืนนะแต่ฉันอยากให้เขารู้ไงว่าความรู้สึกของคนที่รอและคนที่คิดมากมันเป็นยังไง
รู้มั้ยว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เขาไม่ยอมมารับฉันที่มหาลัยตอนที่ฉันมีกิจกรรมแล้วต้องกลับดึกน่ะมันทำให้ฉันเปลี่ยนไปจากเดิม
ฉันเลือกที่จะไม่สนใจเขา เลือกที่จะไม่คาดหวังอะไรในตัวเขา ไม่ถามว่าเขาจะออกไปไหนมาไหนหรือกลับตอนไหน
แม้กระทั่งเห็นเขานั่งซ้อนท้ายกับผู้หญิงคนอื่นฉันยังไม่ถามเลยว่าเป็นลูกค้าหรือเปล่า พอกลับมาถึงห้องพี่เรซก็เป็นฝ่ายถามฉันเองว่าทำไมฉันถึงไม่สนใจเขาเหมือนที่ผ่านมา
ก็เวลาที่ฉันสนใจเขาก็ไม่ต้องการไม่ใช่เหรอ แล้วพอฉันไม่สนใจกลับบอกว่าฉันไม่แคร์เขาเลย
นี่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่ แม้กระทั่งจะให้เขาไปรับไปส่งฉันยังเลือกที่จะไปเองเลย
เพราะไม่อยากรอเขาและไม่อยากทำให้ตัวเองต้องเสียความรู้สึกไปมากกว่านี้ ก่อนที่จะคบกันฉันเองก็พอจะรู้กิตติศัพท์ของพี่เรซนะว่าเขาเป็นคนยังไง
เขาเคยเป็นนักเลงเก่ามาก่อน ชอบยกพวกตีกันบ่อยๆ และโดนตำรวจจับหลายต่อหลายครั้ง
แต่พอเขามาจีบฉันและเริ่มเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นมันเลยทำให้ฉันคิดว่าเขาคงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ
และใช่ เขาเปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ แต่มันยังไม่มากพอสำหรับฉันไง หลายคนก็บอกว่าเขาเป็นแฟนเลวที่แสนดีของฉัน
แต่สำหรับฉันคำว่าแสนดีจากผู้ชายคนนี้สะกดยังไงฉันยังไม่รู้เลย
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ แฟนไม่ได้มาด้วยไง?”
“เลิกกันได้เป็นอาทิตย์แล้วมั้ง”
ฉันที่เห็นว่าเต๋ามาคนเดียวก็เลยถามขึ้น เพราะปกติแล้วมักจะเห็นเขามากับแฟน แต่แล้วเขาก็บอกว่าเลิกกันได้เป็นอาทิตย์แล้วมันเลยทำให้ฉันตกใจมากเหมือนกัน
“เป็นเพราะเราหรือเปล่า?”
ฉันรีบถามทันที เพราะแฟนของเต๋าชอบคิดว่าฉันกับเขาแอบคบกัน แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ
ฉันกับเต๋าก็สนิทกันแบบนี้มานานแล้วและใบตองเพื่อนสนิทฉันอีกคนก็สนิทกับเต๋าเหมือนกัน
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแฟนของเขาถึงคิดว่าฉันกับเขาแอบคบกัน ฉันก็บอกไปแล้วนะว่าฉันมีแฟนแล้วและฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับเต๋าเลย
พอรู้ว่าเลิกกันแบบนี้มันเลยทำให้ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเพราะฉันหรือเปล่า แต่หลังจากที่แฟนเต๋าไม่สบายใจฉันก็เลือกที่จะอยู่ห่างๆ จากเขานะ
เพราะรู้ไงว่าความไม่สบายใจมันเป็นยังไง พี่เรซเขาทำกับฉันบ่อยน่ะ ฉันก็เลยไม่อยากให้คนอื่นต้องรู้สึกไม่ดีกับฉันด้วย
“เปล่าหรอก มันเป็นความระแวงกันไปมาน่ะ ไม่ว่าเราจะไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงคนไหนก็เอามาทะเลาะกันได้ตลอด เธอก็เลยบอกเลิกเราน่ะ”
“แล้วนายโอเคหรือเปล่า?”
“โอเคดิ มันผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วล่ะ”
เต่ายิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร เพราะทำใจเอาไว้แล้วว่าเรื่องระหว่างเขากับแฟนมันคงไปต่อกันไม่ได้
เมื่อมันมีแต่ความระแวงกันไปหมด จริงๆ ฉันกับพี่เรซก็เกือบจะเลิกกันหลายครั้งแล้วล่ะเพราะความระแวง
ฉันไม่ชอบที่เขาเฟรนลี่กับผู้หญิงแทบทุกคน เข้าใจนะว่าเทคแคร์ลูกค้าที่มาใช้บริการ แต่เขาก็ควรจะให้เกียรติแฟนตัวเองบ้าง
พอฉันพูดเรื่องนี้เขาก็บอกว่าฉันหาเรื่องทะเลาะกับเขาอีกแล้วแค่ทำงานก็เหนื่อยมากพออยู่แล้วยังจะต้องมารับอารมณ์ความงี่เง่าของฉันอีก เลยกลายเป็นว่าฉันเป็นคนผิดซะอย่างนั้น
“แล้วหญ้ากับพี่เรซล่ะเป็นไงบ้าง ยังหวานกันเหมือนเดิมป่ะ?”
“หวานเหรอ มันหมดโปรหวานไปนานแล้วล่ะ”
ฉันพูดยิ้มๆ เหมือนตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไร จริงๆ ฉันไม่ได้หวังให้พี่เรซมาหวานกับฉันตลอดเวลาหรอก
แต่ฉันแค่อยากให้เขาใส่ใจฉันให้มันเสมอต้นเสมอปลายเหมือนวันแรกที่เขาอยากคุยกับฉัน
ไม่ใช่พอเวลาผ่านไปจากที่มันเคยดีกลับกลายเป็นว่าผิดไปหมดเลย เต๋าเองก็ยิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าชีวิตรักมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ มีทะเลาะบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง
แต่ก็อย่าถึงขั้นต้องเลิกกันเลยอะไรที่พอปรับเข้าหากันได้ก็ควรทำ แต่คู่ของเขาน่ะพยายามปรับเข้าหากันแล้วแต่ดูเหมือนว่าเขาจะปรับฝ่ายเดียว ก็เลยเลือกที่จะแยกทางกันดีกว่า
“คนหล่ออย่างเต๋าอ่ะหาสาวสวยๆ ได้สบายๆ อยู่แล้วล่ะ”
“เรายังไม่คิดที่จะมีใครตอนนี้หรอก อยากอยู่คนเดียวแบบนี้ไปก่อนเอาไว้เจอคนที่ใช่แล้วค่อยเข้าหา”
“เข้าหาแบบไหนล่ะ?”
“เข้าหาแบบที่เราเข้าหาหญ้าแบบนี้ก็ได้นะ”
“...”
เต๋ามองหน้าฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้ฉันเงียบไปทันที เพราะแววตาที่เขามองฉันตอนนี้มันทำให้ฉันไม่กล้าพูดแซวเขาแล้ว เลยชวนเขาเข้าเรียนดีกว่าจะมาพูดเรื่องนี้
แล้วมันทำให้บรรยากาศมาคุด้วย เราเดินเข้ามาในห้องเรียนก็เห็นใบตองนั่งอยู่ก่อนแล้ว เต๋าเดินแยกไปนั่งกับเพื่อนผู้ชายของเขา ส่วนฉันก็มานั่งกับใบตองที่นั่งรอฉันอยู่
“เมื่อกี้พี่เรซทักไลน์มาหากู ถามว่าจะไปฉลองวันเกิดกูที่ผับไหน?”
“พี่เรซทักหามึงเหรอ?”
“ใช่ ดูเหมือนว่าเขาจะหวงมึงมากเลยนะ แล้วมึงไปบอกเขาแบบนั้นเหรอว่าจะไปฉลองที่ผับอ่ะ”
ใบตองเลิกคิ้วถามฉัน ทำให้ฉันยิ้มแห้งๆ ไปให้มันแล้วบอกว่าแค่อยากให้พี่เรซรู้สึกกระวนกระวายบ้างก็เท่านั้นเอง
เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนเขาไม่แคร์อะไรฉันเลยและดูไม่เป็นห่วงฉันด้วย แต่พอมาตอนนี้กลับอยากทำหน้าที่แฟนที่ดีว่างั้นเหอะ
เขาไม่คิดบ้างเหรอว่าตอนนี้ฉันอาจจะไม่ได้ต้องการให้เขาเป็นแฟนที่แสนดีแล้วก็ได้
“แล้วอยากให้กูตอบเขาไปว่าอะไรล่ะ?”
“ก็ตอบแค่ว่าไม่รู้ยังไม่คิดเท่านั้นแหละ กูแค่อยากให้เขารู้สึกเหมือนที่กูรู้สึกก็เท่านั้นเอง”
“เฮ้อ แล้วแบบนี้มันเรียกว่าแฟนกันได้เหรอ เอาคืนกันไปมาแบบนี้”
“กูไม่ได้เอาคืนนะ แต่กูอยากให้เขารับรู้ความรู้สึกของกูตอนนั้นว่าการที่เขาไม่ได้ต้องการกูน่ะ กูเสียใจและเสียความรู้สึกมากแค่ไหน”
“...”
“วันแรกที่อยากให้กูคุยด้วยก็พูดดีกับกูทุกอย่าง แต่ตอนนี้เหมือนว่ากูกลายเป็นของที่เขาไม่ต้องการแล้วอ่ะ”
“ก็แล้วทำไมไม่เลิกล่ะ?”
ใบตองมองหน้าฉันแล้วถามว่าในเมื่อคบกันไปไม่มีความสุขแล้วทำไมไม่เลิก
ตอนแรกฉันเองก็กะว่าจะเลิกกับพี่เรซแล้วล่ะแต่เขาก็มาขอโทษแล้วขอโอกาส บอกว่าจะพยายามให้มากกว่านี้ มันเลยทำให้ฉันใจอ่อนไง แต่เขาก็ทำไม่ได้
และพอทำให้ฉันเสียใจเขาก็มาขอโทษฉันอีกและขอโอกาสอีกครั้ง มันเลยกลายเป็นว่าคำขอโอกาสจากเขามันเหมือนไม่มีความหมายอะไรเลย
และที่ฉันไม่อยากเลิกกับพี่เรซอีกเหตุผลก็คือฉันยังรักเขา รักทั้งที่รู้ว่าเขาใจร้ายกับฉันมากแค่ไหนไง
“ที่กูไม่เลิกเพราะกูยังรักเขา รักผู้ชายใจร้ายอย่างเขาไง”
“แล้วมึงจะมีความสุขได้ยังไงล่ะ รู้นะว่ารักแต่ถ้าเขาทำให้มึงไม่มีความสุขก็ควรเลิกป่ะแล้วไปหาผู้ชายที่เขาให้ความสุขกับมึงได้ดิ”
“กูเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ไปจากพี่เรซซะทั้งที่เขาไม่ดีขนาดนี้”
“แต่เท่าที่ดูก็เหมือนว่าเขาเองก็พยายามเป็นแฟนที่ดีไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ แต่มันยังไม่มากพอสำหรับกูไง”