“อีกสักขวดไหม”
“ฮ่า ๆๆ พี่จะลากหนูไปปล้ำไหมล่ะ”
“หึ ๆๆ ฉันไม่เคยฝืนใจใคร”
“อู้ว~” ผมยิ้มขำส่วนเธอก็รินไวน์ที่เหลือก้นขวดลงในแก้วตัวเอง ดื่มเก่งมากครับหมดไปหนึ่งขวดผมเห็นอาการมึนของเธอแค่นิดหน่อยเท่านั้น
“ลืมถามเลยว่ามายังไง”
“ขับรถมา” จบคำพูดมือเรียวก็จับแก้วไวน์มาควง ควงเบา ๆ ดูดีเหมือนถูกฝึกมาอย่างดี หรือบางทีอาจจะดื่มจนเซียนก็ได้
“กลับไหวเหรอ”
“ทำไมคะ จะไปส่งรึไง”
“เปล่า แค่ถาม” ผมแค่ถามจริง ๆ ส่วนเธอก็แค่แกล้งถามทีเล่นทีจริง ไม่ได้มีท่าทีว่าจะอยากอ่อยผมเหมือนที่เคยเจอมานักต่อนักเลยสักนิด
“หนูขับไหว ไม่ได้เมา แต่อีกขวดก็ดีเนอะ เลี้ยงนะ ไวน์ที่นี่โคตรแพงเลยไม่รู้เจ้าของกลัวรวยช้าหรือกลัวลูกค้าไม่จน แพงทุกอย่าง แพงแม้กระทั่งน้ำแข็ง แพงสุด ๆ แพงไม่เกรงใจรัฐบาลที่ประกาศลดค่าไฟฟ้าด้วยซ้ำ” แพงไม่เกรงใจรัฐบาล อะไรของยัยนี่วะ หึ ๆๆ
“หึ ๆๆ สงสัยทั้งสองอย่าง อยากลองดื่มไวน์ที่ดีกว่านี้ไหม”
“ไวน์ไรอ่ะ ไวน์ที่แพงกว่านี้ก็ต้องแพงกว่านี้ไหม ไม่เอาอ่ะ เอาแบบเดิมนี่แหละแค่นี้ก็แพงมากแล้ว”
“เดี๋ยวจัดการให้” ผมบอกแค่นี้แล้วพิมพ์ข้อความสั่งงานก่อนที่ไม่ถึงห้านาทีพนักงานจะเดินมาพร้อมกับไวน์แดงรสชาติดีที่มีอยู่ในห้องทำงานผม
“นี่ค่ะเฮีย”
“ขอบใจมาก” ผมมองไวน์ที่มาพร้อมถังแช่ไวน์ไม้โอ๊คอย่างดีก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมันมาปิดให้เธอที่ตอนนี้กำลังมองผมไม่ละสายตา
“เฮีย?”
“ว่าไงนะ?” ผมรินไวน์ให้เธอพร้อมกับถาม
“ทำไมพนักงานเรียกพี่ว่าเฮีย แล้วนี่พี่สั่งไวน์ตอนไหนทำไมไม่เห็น...” เธอพูดด้วยความสงสัยก่อนที่จะหยุดพูดเพราะผมยิ้มขำ พอเห็นผมยิ้มขำผู้หญิงตรงหน้าก็จ้องก่อนจะกรอกตามองบนแล้วทำหน้าเหมือนกำลังขายขี้หน้า
“โอ๊ย~ นี่อย่าบอกนะว่าพี่เป็นเจ้าของที่นี่” T^T
“หึ ๆๆ ชิมเร็ว“ ผมดันแก้วไปด้านหน้าให้เธอที่กำลังมองหน้าผมอยู่ หน้าตาแสดงความขายหน้าและอายออกมา อายที่เอกี้บ่นเรื่องของที่นี่แพงมั้งครับ
“ดื่ม”
“พี่...ไม่โกรธเหรอที่หนูเม้าท์พี่ลับหลัง”
“ต้องโกรธด้วยเหรอ”
“เอ้า! ก็หนูนินทาพี่ลับหลังนี่ไง”
“หึ ๆๆ ไม่โกรธหรอก มันก็แพงจริง ๆ ดื่มเถอะ” ผมบอกอีกรีบแล้วจัดการรินเหล้าให้ตัวเองบ้างทำให้เธอเลิกสนใจเรื่องนี้แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มบ้าง
“หืม~” แขกแปลกหน้าของผมชิมไวน์แล้วร้องออกมาเบา ๆ หึ ๆๆ ไวน์ยี่ห้อนี้ใครได้กินก็ติดใจกันทั้งนั้น ขวดตั้งหลายหมื่นจะไม่ติดใจได้ยังไง
“รสชาติดีใช่ไหม”
“รสชาติโคตรดีเลยค่ะ”
“ชอบก็ดื่ม” ผมบอกสั้นแล้วดื่มเหล้าของตัวเอง ผมกับเธอนั่งคุยกันมาจนถึงช่วงเที่ยงคืน คุยกันเป็นระยะบางช่วงก็ต่างฝ่ายต่างเงียบเพราะมีเรื่องให้คิดในใจกันทั้งคู่ เหมือนตอนนี้ที่เราเลิกคุยกันแล้วตกอยู่ในห้องความคิดของตัวเองอีกครั้ง
ติ๊ด!
T : ลงไปช่วยไอ้แฟรงค์ดูร้านที
P.NAT : ผมดูร้านมานานแล้วเฮีย ดูคนเดียวไอ้ห่าแฟรงค์หายหัว
“...”
TUN END
SHEYNNIS TALK
ไวน์ที่เขาดีมาก~ เห็นขวดแล้วค่ะตอนแรกไม่ได้ดูแต่พอชิมก็แอบเหลือบดู พอเห็นว่าเป็นไวน์ยี่ห้ออะไรฉันก็แอบอุทานในใจ
ฉันชอบดื่มไวน์มากแทบจะไม่ดื่มเครื่องดื่มอย่างอื่นเลย พอชอบมากเวลามีเวลาก็จะนอนหาข้อมูลไวน์ชั้นดีต่าง ๆ บนโลกใบนี้ซึ่งยี่ห้อของไวน์ขวดนี้ก็เป็นอันดับต้น ๆ ของไวน์ชั้นดีเลยล่ะ หลักหมื่นและไม่ใช่หมื่นต้น ๆ แน่นอน เอาเป็นว่าดื่มอีกสักเกือบสองสามแก้วก็ขอตัวกลับแล้วกัน อย่าอยู่นานให้เปลืองไวน์พี่เขาเลยเกรงใจ ถึงแม้ว่าการนั่งตรงนี้และได้คุยกับเขาที่จนถึงตอนนี้เราสองคนก็ยัง ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ จะทำให้ฉันรู้สึกสบายใจและแอบสนุกพอสมควรที่ได้นั่งคุยกับพี่เขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ตลกอะไรก็ตาม แต่ก็นะดีกว่านั่งเศร้าอกหักอยู่คนเดียวพอมีเพื่อนคุยบ้างก็เลยรู้สึกดี ยิ่งคุยกับคนแปลกหน้าด้วยยิ่งผ่อนคลายไม่ต้องกลัวเขามาพูดเรื่องของเราในภายหลัง
เฮ้อ~ สบายใจพอสมควรนะคะ หวังว่าจะดีขึ้นเนอะเพราะการที่คนที่เรารู้สึกดีมีเจ้าของแล้วนั่นก็เท่ากับว่าสิทธิ์ในการหวังของเราเป็น ศูนย์ นอกซะจากฉันจะคิดไม่ดีด้วยการพยายามเข้าไปแทรกกลางความรักของคนสองคนหรือแอบภาวนาให้เขาเลิกกัน ซึ่งแน่นอนว่าคนอย่างเซย์นิสคนนี้ไม่ทำแน่
ฉันอกหักได้แต่ฉันจะไม่ทำลายความรักที่สวยงามของใคร แม้แต่การแอบคิดก็ไม่คิดจะทำ
ฉันเหลือบมองพี่เขาที่ก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไรและไม่รู้ว่าจะรู้ชื่อไปทำไมในเมื่ออีกไม่นานก็แยกย้ายแล้สว เขานั่งปล่อยอารมณ์อยู่ฉันเลยหยิบโทรศัพท์มาดู จะเช็คงานเช็คข้อความด้วยเพราะฉันมีผู้ติดตามเยอะเลยแอบมีสปอนเซอร์เข้านิดหน่อยพอได้ค่าเสื้อผ้าเครื่องสำอาง
Kun. F : เซย์
“...” ข้อความล่าสุดถูกส่งมาเมื่อกี้เลยค่ะตอนฉันกดเข้าเช็ค DM แต่... Kun. F เหรอ?
ตึก ตึก ตึก
...บ้า ไม่ใช่หรอก
Sheynnis : คะ ใครเหรอคะ
ฉันตอบกลับ ปกติถ้าทักมาแค่นี้หรือแค่ทักทายมาชมฉันจะไม่ค่อยตอบ ส่วนมากจะตอบข้อความเพื่อน คนรู้จัก แล้วก็คนที่ทักมาเรื่องงานมากกว่าแต่กับไอดีนี้ฉันรู้สึกแปลก ๆ เลยตอบ คือ...ฉันไม่ได้แอบหวังว่าจะต้องเป็นพี่แฟรงค์และไม่ได้หวังให้พี่เขาส่งข้อความมาเพราะสนใจฉันนะคะ แต่ฉันก็กลัวว่าจะเป็นพี่เขาแล้วไม่ได้ตอบกลับ เพราะยังไงซะเราก็เป็น...รุ่นพี่รุ่นน้อง กันอยู่ดี
Kun. F : พี่เอง พี่แฟรงค์
“...” ใช่...จริง ๆ เหรอ
Sheynnis : ค่ะพี่แฟรงค์ ว่าไงคะ
Kun. F : อยู่ในพี่กลับไปหาที่โต๊ะไม่เจอ กลับไปแล้วเหรอ
...ยัง เซย์อยู่
Kun. F : พี่ว่าจะพาแฟนไปทักทายหน่อย
“...” ฉันกำลังพิมพ์ข้อความเพื่อตอบกลับแต่ข้อความจากพี่แฟรงค์ก็ถูกส่งมาอีกครั้งเลยทำให้นิ้วฉันชะงักทันที
ฉัน...รู้ว่าตัวเองจะไม่คิดคาดหวังให้เขามาสนใจฉัน ฉันรู้จักตัวเองดี แต่ฉันก็ไม่พร้อมจะเจอหน้าแฟนของผู้ชายที่เป็นรักแรกของฉันหรอกนะคะ ฉันชอบพี่เขาโดยที่ไม่เคยคิดมองใครเลยแม้แต่คนเดียวมาตั้งแปดปีเลยนะ
Sheynnis : เซย์กลับแล้วพี่แฟรงค์
ฉันลบข้อความเดิมทิ้งแล้วพิมพ์ใหม่ ระหว่างนี้ความรู้สึกบีบรัดในใจก็เกิดขึ้นมาอีกครั้ง
Kun. F : เหรอ เสียดาย
เสียดายทำไมทางนี้เสียใจอยู่นะพี่แฟรงค์
Sheynnis : โอกาสหน้าเนอะ
Kun. F : โอเค ๆ เจอกัน มาเมื่อไหร่ก็ทักบอกพี่ทางนี้ได้เลยนะเดี๋ยวเลี้ยงเอง
Sheynnis : ค่า
“...” ฉันมองข้อความสุดท้าย ส่งไปแล้วส่งติด ๆ เลยแต่เขาไม่ได้อ่านแล้วล่ะ นั่งจ้องอยู่พักใหญ่ก็ไม่ถูกอ่านเลยปิดหน้าจอแล้วมองไปที่คนแปลกหน้าที่กำลังนั่งปล่อยอารมณ์ของเขาอยู่ สภาพแบบนี้ฉํนว่าอกหักมาเหมือนกันนั่นแหละแต่แค่ไม่อยากบอกให้เสียฟอร์ม
“พี่”
“อื้ม”
“ถ้าหนูเมา...พาไปส่งที่รถด้วยนะ” ฉันบอกเขาจบก็หยิบไวน์ชั้นดีที่แช่อยู่ในถังไม้โอ๊คขึ้นมาเปิดฝาจากนั้นก็กระดกมันอย่างไม่คิดชีวิตท่ามกลางสายตาของผู้ชายแปลกหน้าที่กำลังมองฉันด้วยสายตางุนงง แต่ฉันไม่ไหวแล้วว่ะ ฉันไม่เคยอกหักและฉันรับความอกหักจากรักแรกที่ยาวนานถึงแปดปีของตัวเองไม่ไหวเลย...