ตอนที่ไม่มีชื่อ

1946 Words
เมื่อร่างของเด็กสาวตัวน้อยหันหลังเดินจากไปผู้ที่มาเป็นแขกยามวิกาลจึงได้ประสานมือขออภัยเจ้าของเรือน “คุณชายกู้ขออภัยที่ข้าได้ล่วงเกิน” “ไม่เป็นไรเป็นเพียงเรื่องที่เข้าใจผิด” “ขอบคุณคุณชายกู้ที่ไม่ถือสาถ้าเช่นนั้นข้าขอลา” กู้หวังหมิ่นพยักหน้าให้กับคนที่บุกรุกมายามวิกาลเล็กน้อยเขาไม่ได้ถามไถ่ว่าคนพวกนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยไหนเพราะไม่ต้องการรับรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเรื่องบางอย่างรู้ให้น้อยที่สุดจะปลอดภัย “พี่ใหญ่ทำไมท่านถึงปล่อยคนพวกนั้นไปง่าย ๆ เช่นนี้” “น้องรองเจ้าหัดใช้สมองเสียบ้างไม่ใช่ใช้แต่กำลังคนพวกนั้นเป็นยอดฝีมือต่อให้พวกเราร่วมมือกันต่อสู้ถึงแม้จะเอาชนะได้แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนบาดเจ็บมีเรื่องให้น้อยดีที่สุดเจ้าต้องนึกถึงความปลอดภัยของหนิงเอ๋อด้วย” กู้หวังหมิ่นดุน้องชายอย่างโมโหเจ้าน้องชายคนนี้ของเขาในศีรษะมีแต่กล้ามเนื้อเอะอะอะไรก็มีแต่จะใช้กำลังแก้ไขปัญหาเป็นคนที่ไม่ประมาณกำลังของตนเองไม่ยอมคิดอ่านให้รอบคอบ ไม่เป็นห่วงคนที่อยู่รอบข้างบ้างเลยถ้าการเดินทางครั้งนี้มีเพียงแค่พวกเขากู้หวังหมิ่นไม่ได้หวั่นเกรงที่จะต่อสู้ แต่ในค่ำคืนนี้พวกเขาจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของกู้ฮุ่ยหนิงผู้เป็นน้องสาวก่อนเป็นอันดับแรกจึงต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้เป็นดีที่สุด ภายในป่าบนภูเขาที่อยู่ห่างจากบ้านพักของตระกูลกู้ไปไม่ไกล “ท่านหัวหน้าทำไมพวกเราถึงไม่บุกเข้าค้นบ้านพักของคนพวกนั้น” “แกโง่หรือไงรู้ไหมว่าพวกนั้นเป็นใคร” “แล้วพวกมันเป็นคุณชายตระกูลใดถึงอย่างไรความยิ่งใหญ่ก็ไม่เท่าคุณชายของพวกเรา” “เจ้าโง่ คนพวกนั้นเป็นองครักษ์ของตระกูลแม่ทัพกู้ แม่ทัพกู้ตงหยางมีตำแหน่งเป็นแม่ทัพพิทักษ์ชายแดน ส่วนสามคนนั้นถ้าข้าจำไม่ผิดคงบุตรชายและบุตรสาวของแม่ทัพกู้ตงหยางที่ประจำการอยู่ที่เมืองเสียนหยางในเวลานี้ ถึงแม้คุณชายของเราจะยิ่งใหญ่แต่ในเวลาสำคัญเช่นนี้ไม่สร้างศัตรูเพิ่มจะดีกว่า” “แล้วอย่างนี้พวกเราจะทำยังไง” “ข้าเชื่อว่าคนผู้นั้นคงจะไม่ได้อยู่ที่เรือนที่พักของตระกูลกู้ เพราะองครักษ์พวกนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือหากมีผู้ใดบุกรุกเข้าไปภายในเรือนต้องรู้ตัวนานแล้วแต่ดูเหมือนว่าองครักษ์พวกนั้นไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนของผู้บุกรุกคนอื่นภายในเรือนก่อนที่พวกเราจะบุกเข้าไป” “เช่นนั้นก็หมายความว่าอีกฝ่ายคงจะลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าบนภูเขา” “อืมม สั่งคนของเราแยกย้ายกันตามหาให้เจอ อยู่ต้องเห็นคนตายต้องพบศพถูกพิษสลายวิญญาณข้าไม่เชื่อว่าคนผู้นั้นจะหลบหนีไปได้” “ขอรับหัวหน้า” ภายในห้องนอนของกู้ฮุ่ยหนิง “คุณหนูให้ข้านอนเป็นเพื่อนไหมเจ้าค่ะ?” “ไม่จำเป็นพี่อันฉีไปพักผ่อนเถอะข้าง่วงจะนอนแล้ว” กู้ฮุ่ยหนิงถอดรองเท้าขึ้นเตียงก่อนที่จะนอนลงพร้อมกับห่มผ้า อันฉีเห็นว่าคุณหนูไม่ต้องการให้ตนเองนอนเป็นเพื่อนจึงได้เปิดประตูห้องนอนออกไปและปิดให้อย่างแผ่วเบา “หนิงเอ๋อเล่า?” “คุณหนูนอนหลับไปแล้วเจ้าค่ะ” “อืม เจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ” ชายหนุ่มทั้งสองคนยืนมองประตูห้องนอนของน้องสาวอยู่สักพักก่อนที่จะหันหลังเดินจากไปเพื่อพักผ่อนเช่นกัน เด็กหญิงตัวน้อยนอนฟังเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปของพี่ชายทั้งสองจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเดินกลับมาที่ห้องนอนของตนเองอีกร่างเล็กของเด็กหญิงวัยสิบขวบจึงได้ลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะลงจากเตียงนอนแล้วเดินไปที่ตู้ ภายในห้องนอน กู้ฮุ่ยหนิงมั่นใจว่ามีคนร้ายแอบอยู่ภายในห้องนอนของเธอแม้ว่าอีกฝ่ายจะบังคับลมหายใจให้แผ่วเบาแค่ไหนนางก็สามารถสัมผัสได้ เพราะจากประสบการณ์ที่ถูกองค์กรนักฆ่าฝึกมาอย่างหนักสัญชาตญาณของนางเฉียบคมเสมอแม้จะมาอยู่ในร่างของเด็กวัยสิบขวบสัญชาตญาณของมือสังหารก็ไม่ได้ถูกลืมเลือนไป เมื่อครู่นางตั้งใจว่าจะออกไปบอกคนพวกนั้นว่าคนร้ายแอบอยู่ในห้องนอนของตน แต่เมื่อบังเอิญได้เห็นป้ายหยกที่แขวนอยู่ตรงเอวของคนพวกนั้นกู้ฮุ่ยหมิงก็เปลี่ยนใจทันที คนพวกนั้นเป็นองครักษ์ของจวนองค์รัชทายาทเพราะกู้ฮุ่ยหนิงจำสัญลักษณ์ได้และมีเพียงองครักษ์ที่องค์รัชทายาทไว้ใจเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้รับป้ายเช่นนี้ นั้นหมายความว่าคนที่องครักษ์ของจวนรัชทายาทไล่ล่าสังหารไม่ใช่คนร้ายอย่างที่กล่าวอ้างแต่คงจะเป็นใครสักคนที่เป็นอันตรายกับตำหนักบูรพา เช่นนั้นแล้วจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้ากู้ฮุ่ยหนิงเดาไม่ผิดคนที่ถูกคนของตำหนักบูรพาไล่ล่าสังหารควรจะเป็นคนผู้นั้น ไม่ใช่ว่าในเวลานี้อีกฝ่ายกำลังจะได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นแม่ทัพประจำชายแดนเหนือหรือแต่ทำไมถึงมาถูกคนของตำหนักบูรพาไล่ล่าสังหารจนหนีมาถึงชายแดนใต้ได้ กู้ฮุ่ยหนิ่งใช้มือเล็ก ๆ ของนางค่อย ๆ เปิดประตูตู้ออกจึงได้เห็นร่างของคนที่บาดเจ็บกำลังนั่งขดตัวอยู่ภายในตู้ นางยื่นนิ้วมือออกไปเพื่อตรวจดูชีพจรของคนที่อยู่ในนั้นแต่ก่อนที่กู้ฮุ้ยหมิงจะได้ตรวจดูชีพจรของคนเจ็บตัวของนางก็ถูกอีกฝ่ายจับแขนไว้พร้อมกับดึงตัวนางเข้าไปใกล้ ถึงแม้คนเจ็บจะไม่ได้ใช้แรงมากแต่เพราะกู้ฮุ่ยหมิงเป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบขวบจึงทำให้แรงของอีกฝ่ายทำให้ตัวของนางเซถลาล้มลงไปจนใบหน้าเล็ก ๆ ซบอยู่ที่หน้าอกของคนเจ็บก่อนที่ลำคอของนางจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ชินอ๋องรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ตนเอง จึงได้ฝืนใช้กำลังภายในกดข่มความเจ็บปวดของอาการพิษกำเริบเพื่อระวังตัวเมื่อประตูตู้ที่เขาแอบหลบอยู่ถูกเปิดออกและมีมือยื่นมาแตะที่ตัว ชินอ๋องจึงได้จับมือของคนคนนั้นแล้วดึงอย่างแรง แต่เมื่อฝืนลืมตามองกลับเห็นเป็นใบหน้าของเด็กน้อยมืออีกข้างที่ได้จ่อมีดไปที่ลำคอของอีกฝ่ายจึงหยุดไว้ได้ทันท่วงที แต่ถึงอย่างนั้นความคมของมีดสั้นที่อยู่ในมือของเขาก็สร้างรอยแผลไว้ที่ลำคอของเด็กน้อยเป็นรอยยาวเล็กน้อย อั๊กกก!! เพราะฝืนเคลื่อนไหวร่างกายทำให้ยาพิษที่อยู่ภายในร่างกายกำเริบหนักขึ้นทำให้ชินอ๋องกระอักเลือกออกมาทันที กู้ฮุ่ยหนิงขยับขืนตัวออกจากตัวคนเจ็บแล้วลุกขึ้นยืนมองดูอีกฝ่ายกระอักเลือดด้วยแววตาสะใจและสมน้ำหน้านางไม่สงสารหรอกนะใครบอกให้เขากล้าหันคมมีดใส่นางกัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายกระอักเลือดออกมาพร้อมกับหมดสติไปกู้ฮุ่ยหนิงได้แต่กลอกตามองบน ทำไมชินอ๋องถึงได้อ่อนแอเช่นนี้ฉายาแม่ทัพปีศาจที่เขาได้มาเมื่อชาติก่อนเป็นเพียงคำพูดหลอกลวงใช่ไหม เด็กหญิงวัยสิบขวบลากร่างสูงของชายหนุ่มอายุยี่สิบปีออกจากตู้อย่างทุลักทุเล ถึงแม้ระยะห่างจากตู้มาที่เตียงจะเป็นระยะทางแค่สั้น ๆ แต่ก็ทำให้กู้ฮุ่ยหนิงถึงกลับยกมือปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อยเป็นเด็กอายุสิบขวบไม่ดีเลยทำอะไรก็ไม่ได้อย่างที่ใจต้องการสักอย่าง กู้ฮุ่ยหนิงยืนเท้าสะเอวมองดูคนเจ็บที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนของตนอย่างโกรธเคืองและไม่พอใจเล็กน้อย ร่างเล็กจำใจปีนขึ้นไปนั่งบนเตียงข้าง ๆ คนเจ็บก่อนที่จะเริ่มลงมือตรวจดูอาการ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะได้รับพิษสลายวิญญาณแต่ดูเหมือนว่าภายในร่างกายของชินอ๋องจะไม่ได้มีแค่พิษสลายวิญญาณ กู้ฮุ่ยหนิงไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภายในร่างกายของชินอ๋องจ้าวเฟยฉียังได้รับพิษรักรัญจวนอีกด้วยพิษสองชนิดนี้ชินอ๋องได้รับในเวลาที่แตกต่างกัน “ท่านถูกคนวางยาพิษรักรัญจวนดูเหมือนว่าคงจะมีใครบางคนไม่ต้องการให้ท่านมีทายาทสืบสกุล” พิษสลายวิญญาณเป็นพิษที่เพิ่งได้รับเมื่อไม่กี่ชั่วยามมานี้ พิษชนิดนี้ออกฤทธิ์รุนแรงถึงแม้จะชื่อว่าพิษสลายวิญญาณแต่แท้จริงคือยาพิษที่ทำลายเส้นเอ็นและลมปราณของผู้ฝึกยุทธ หากไม่ได้รับยาถอนพิษภายในสามราตรีวรยุทธที่ฝึกมาอย่างหนักและยากลำบากหลายสิบปีจะถูกทำลายจนหมดสิ้น กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไม่มีแม้แต่แรงจะฆ่าไก่ร่างกายจะค่อย ๆ สิ้นเรี่ยวแรงลงไปเรื่อย ๆ ถึงแม้ไม่ตายทันทีแต่ก็ทำให้คนที่เคยฝึกวรยุทธทรมานเหมือนตายทั้งเป็นเหมือนเช่นท่านพ่อของนางเมื่อชาติก่อนที่ท่านได้รับพิษสลายวิญญาณจนสูญสิ้นวรยุทธ ส่วนพิษรักรัญจวนที่อยู่ภายในร่างกายของชินอ๋องอีกฝ่ายหน้าจะถูกวางยาพิษชนิดนี้มานานหลายสิบปี คนที่วางยาพิษชนิดนี้ให้กับชินอ๋องช่างโหดร้ายนักถึงแม้จะชื่อว่าพิษรักรัญจวนแต่ฤทธิ์ของมันกลับตรงกันข้าม เมื่อใดที่คนถูกพิษมีอารมณ์ทางเพศอาการของพิษจะกำเริบทันที เมื่อมีอารมณ์กับหญิงสาวคนที่ถูกพิษจะเจ็บปวดหัวใจทรมานแสนสาหัสจนแทบทนไม่ไหวดังนั้นคนที่โดนพิษชนิดนี้ไม่สามารถมีอารมณ์กับสตรีได้ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์รักหรืออารมณ์ปรารถนา เพราะอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งกระตุ้นให้พิษกำเริบได้พิษรักรัญจวนบ้าบออะไรกัน หน้าจะตั้งชื่อว่าพิษไร้อารมณ์มากกว่าเพราะคนที่โดนพิษชนิดนี้ต้องฝึกควบคุมความรู้สึกของตนเองไม่อย่างนั้นพิษจะกำเริบจนหัวใจหยุดเต้นและตายแบบไม่รู้สาเหตุพิษชนิดนี้ตรวจพบยากมากและยาแก้พิษก็หาได้ยากมากเช่นกัน เมื่อตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าภายในร่างกายของชินอ๋องได้รับพิษแค่สองชนิดเท่านั้น กู้ฮุ่ยหนิงจึงได้ลงจากเตียงเดินไปเอาขวดยาถอนพิษที่อยู่ในห่อผ้าสัมภาระของนางก่อนที่จะปีนกลับขึ้นเตียงมานั่งข้างคนเจ็บอีกครั้ง กู้ฮุ่ยหนิ่งต้องใช้แรงกายทั้งหมดที่มีประคองคนเจ็บให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงก่อนที่จะบีบปากของอีกฝ่ายไว้แล้วยัดยาถอนพิษเข้าไปในปาก ฝ่ามือเล็ก ๆ ของกู้ฮุ่ยหมินตบลงที่หน้าอกของชินอ๋องอย่างแรงเป็นการแก้แค้นที่ทำให้นางต้องลำบากช่วยเหลือเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD