เมก้าตื่นก่อนแอติโร่ เพราะว่าไม่อยากอยู่รอให้ชายหนุ่มตื่น จึงตื่นก่อนและหนีกลับมาบ้านของตัวเอง เพราะสาวเจ้าไม่รู้จะทำหน้ายังไง เมื่อแอติโร่ตื่นขึ้นมา จึงคิดหนีมาตั้งหลักอยู่ที่บ้านของตัวเองเสียก่อน พอกลับมาบ้านหญิงสาวก็ตรงขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองทันที โดยที่ไม่ได้ยินผู้เป็นแม่เรียกเมื่อตอนเดินขึ้นมาด้านบนเลย
หล่อนขึ้นมาบนห้องของตัวเองก็เอาแต่ส่องกระจกดูร่องรอยที่แอติโร่ฝากฝังไว้ตามร่างกาย ไม่ว่าจะตรงซอกไหนมุมไหน ก็มีแต่รอแดงเป็นจ้ำๆ ให้หล่อนต้องอับอายต่อผู้คนที่พบเจอ เมื่อสำรวจร่างกายตัวเองเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างของตน แต่พอล้มตัวนอนได้ไม่นานก็มีคนมารบกวน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
นางภาวีณาเห็นว่าลูกสาวขึ้นมาบนห้องแล้วเงียบไป จึงเกิดอาการเป็นห่วงลูกสาวจึงขึ้นมาตามดูว่าเป็นอะไรมากไหม
เมก้าได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูตั้งแต่แรกแล้ว แต่หล่อนก็ยังไม่อยากไปเปิดประตูให้คนข้างนอก จึงนอนอยู่บนเตียงกว้างไม่ยอมลุกไปไหน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
นางภาวีณาเห็นว่าลูกสาวไม่ยอมมาเปิดห้องให้สักทีจึงเคาะเรียกอีกครั้ง และครั้งนี้นางก็ส่งเสียงร้องถามคนข้างในไปด้วยความเป็นห่วง
“เมก้าลูกแม่ ลูกเป็นอะไรจ๊ะ ไม่สบายรึเปล่าเปิดประตูให้แม่ได้เข้าไปหน่อยลูก” ภาวีณาส่งเสียงร้องเป็นภาษาไทยถามลูกสาวด้วยความห่วงใย
เมก้าฟังได้จากน้ำเสียงของผู้เป็นแม่ว่ากำลังเป็นห่วงเธออยู่เป็นแน่ ถึงได้เสียงสั่นแบบนี้
“ขาแม่ เมก้าปวดหัวนิดหน่อยค่ะ เลยจะนอนพักสักหน่อย แม่ไม่ต้องห่วงเมก้านะคะ เมก้ากินยาแล้วเลยง่วงค่ะ เมก้าขอนอนพักก่อนนะคะ” เมก้าตอบแม่กลับด้วยภาษาไทยเช่นกัน
“อ้อ! แบบนี้เอง ถ้างั้นแม่ไม่กวนลูกแล้วนะ ถ้ามีอะไรก็โทรเรียกให้สาวใช้ให้ตามแม่มาหาได้นะลูก”
“จ้าแม่ ขอบคุณนะคะ เมก้ารักแม่นะ”
“จ้า แม่ก็รักหนูเหมือนกัน” แล้วนางภาวีณาก็ผละอกจากหน้าห้องของลูกสาวไปอย่างหมดห่วง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนเดินออกห่างจากประตูห้องแล้วเมก้าก็พยายามขมตานอนหลับ แต่พยายามแล้วพยายามเล่าก็ไม่หลับสักที หล่อนจึงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงคิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมาของเธอกับแอติโร่ พอคิดมาถึงตรงนี้สาวเจ้าก็เกิดคิดแผนจะจับแอติโร่ขึ้นมาได้อีกหนึ่งแผน
‘ติโร่นายคิดว่าคนอย่างยัยเมก้าจะกลัวนายยอมนายเหรอไม่มีทางเสียหรอก นายจะต้องเป็นของเมก้าคนนี้คนเดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวนาย หัวใจนายก็เช่นกัน ต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียว อีกอย่างเมื่อคืนวานนายไม่ได้ป้องกันตอนรวมรักกับฉัน แถมนายก็ปล่อยในทุกครั้ง แบบนี้ไม่ท้องจะว่าไงแล้ว หึหึ ฉันจะใช้ลูกนี้แหละจับนายแอติโร่’ หญิงสาวคิดทบทวนบทรักของตัวเองกับแอติโร่จนคบทวนว่าแอติโร่นั้นลืมอะไรไปบ้าง
“ยัยเมก้าเอ้ย! อาทิตย์หน้ารอบเดือนแกจะมาแล้ว ขอให้ไม่มาทีเถิด ขอให้ท้องทีเถิด ถึงจะแค่คืนเดียวก็เถอะ แต่ขอให้ท้องลูกกับติโร่ทีเถิด พระเจ้าเข้าข้างเมก้าด้วยนะคะ” หญิงสาววอนขอกับพระเจ้าให้ประทานพรให้อย่างมีหวัง
ณ คอนโดหรูกลางใจเมือง ตอนนี้มีสองร่างกายเปลือยกำลังนอนกกกอดกันอยู่จนไม่รู้เวล่ำเวลาว่านตอนนี้มันเวลาเท่าไหร่กันแล้วจนกระทั่งเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของใครคนใดคนหนึ่งดังขึ้นรบกวน
“ฮา...โหล...คาย อ่ะ” เอเดนรับโทรศัพท์ด้วยความอ่อนเพลีย
“เอเดนนายนอนยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี้มันบ่ายแล้วนะเว้ย! จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สงสัยเมื่อคืนฟัดสาวเยอะสิท่าถึงได้ตื่นสายแบบนี้” แอติโร่เหน็บแนมเอเดนมาตายสายทันที เมื่อเห็นว่าวันนี้เพื่อนรักตื่นสายผิดปกติ
“เฮ้อ! ไอ้ติโร่นายเองเหรอ นี้มันกี่โมงแล้ว ทำไมเมื่อคืนนายถึงไม่มาหาฉันที่ห้อง ฉันก็ดันลืมไปเลยว่าเรานัดกัน” เอเดนหายง่วงทันที เมื่อโนแอติโร่เหน็บแนมเอา
“บ่ายโมงแล้วเว้ย! ห้องนายไม่มีนาฬิการึไงถึงได้ถามฉัน สงสัยจะฟัดสาวจนหมดแรงเลยสิท่าถึงตื่นสายเอาได้ ถ้าให้เดา ถ้าฉันไม่โทรมานายก็ยังไม่ตื่นใช่ไหม ว่าแต่ว่ากี่คนเมื่อคืน พอดีมีธุระด่วนเลยไม่ได้ไปหา” แอติโร่เลือกโกหกเอเดน เพราะไม่อยากให้เอเดนมาหัวเราะตน เขาเคยพูดไปว่าจะไม่มีวันหันมามองเมก้าเป็นอันขาด แต่ว่าตอนนี้ขาทำมากกว่ามองไปแล้ว
“จริงด้วย ดีนะวันนี้เป็นวันหยุด ส่วนเรื่องนัดเมื่อคืนดีแล้วที่นายไม่มา เพราะฉันก็มีธุระเหมือนกัน” ต่างคนต่างโกหกกัน เพราะกลัวเสียหน้า กลัวโดนล้อเอา
“ติโร่คืนนี้นายว่างไหม ฉันว่าจะชวนนายไปดื่มกันที่เดิมของเรา ไปไหมเพื่อน” เอเดนเอ่ยชวนแอติโร่ เพื่อชดเฉยเรื่องนัดเมื่อคืนวานที่ผ่านมา
ลิลลี่ตื่นตั้งแต่โทรศัพท์เอเดนดังแล้ว แต่สาวเจ้ายังปวดเมื่อยร่างกายอยู่จึงได้แต่นอนแน่นิ่งฟังเอเดนคุยโทรศัพท์กับแอติโร่อยู่เงียบๆ
“คืนนี้เหรอเอเดน ฉันไม่ว่างเพื่อน ว่างวันไหนจะนัดไปเองนะ ขอโทษที พอดีช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยเพื่อน” เขาจะไม่ไปไหนกับใครทั้งนั้น จนกลัวเขาจะเอานางแมวสาวอย่างเมก้ามาขังไว้ที่คอนโดเสียก่อน เขาโกรธหล่อนมากที่กล้าทิ้งเขานอนคนเดียวในห้อง เขาจะสั่งสอนให้หล่อนรู้เสียบ้างว่าไม่ควรทิ้งคนอย่างแอติโร่นอนเหงาบนเตียงคนเดียว
“ยุ่งเรื่องที่โรงแรมหรือว่าเรื่องหญิงเพื่อน จะว่าไปฉันก็นัดนายไปงั้นๆ แหละ เพราะช่วงนี้ฉันก็ยุ่งเหมือนนายเพื่อน” เอเดนตอบเพื่อนไป พร้อมกับมองร่างของลิลลี่อย่างหลงใหล
“โอกาสหน้านะเพื่อน เราว่างตรงกันเมื่อไหร่ค่อยนัดเจอกัน เออเอเดนฉันลืมบอกนายว่าช่วงนี้ฉันไม่อยู่คอนโดนะ นายอย่าแวะไปหาฉันแล้วกัน ฉันไม่อยากให้นายเสียเวลาไปหา มีเรื่องอะไรโทรคุยกันเอาเข้าใจไหมเพื่อน” แอติโร่โกหกเอเดนว่าตัวเองจะไม่ค่อยอยู่คอนโด เพื่อจะเลี่ยงไม่ให้เพื่อนไปเจอเขาอยู่กับเมก้า เมื่อเขาพาเจ้าหล่อนมากักขังไว้ที่คอนโดของตน
“เออรับทราบ ฉันก็จะบอกนายเหมือนกันว่าช่วงนี้อาจไม่ค่อยอยู่คอนโดเหมือนกัน ยุ่งอย่างที่นายว่านั้นแหละ มีอะไรโทรคุยกันเอา หรือถ้าอยากเจอก็นัดเจอกันข้างนอกนะเพื่อน” เอเดนก็คิดเหมือนกันกับแอติโร่
“ตามนี้เพื่อน ถ้างั้นแค่นี้นะ พอดีต้องรีบทำธุระให้ทันคืนนี้เพื่อน” แอติโร่เอ่ยเสร็จก็ตัดสายไปทันที โดยไม่รอให้เอเดนตอบกลับแม้แต่น้อย
ลิลลี่เห็นว่าเอเดนคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว เจ้าหล่อนก็ลุกขึ้นนั่ง เมื่อนั่งมั่นคงดีแล้วก็มองหาเสื้อผ้าของตัวเองที่โดนเอเดนถอดออกเมื่อคืนว่าอยู่ไหน พอเห็นชุดแล้วสาวเจ้าก็เอาผ้าห่มพันกายลงจากเตียงเพื่อไปยังชุดของตัวเอง โดยไม่สนใจเลยว่าเอเดนกำลังจ้องมองการกระทำของเธออยู่
“ลิลลี่จะทำอะไร?” เอเดนเอ่ยถามด้วยเสียงหวน เขาไม่พอใจ ที่อยู่ดีๆ ลิลลี่ตื่นขึ้นมาแล้วทำแบบนี้ ไม่คิดจะทักเขาสักคำเลยเหรอ ไหนๆ ก็เป็น ‘ผัวเมียกันแล้ว’
“จะแต่งตัวกลับบ้าน พอดีวันนี้เป็นวันนัดของครอบครัวฉัน ฉันต้องกลับบ้านไปกินข้าวกับพ่อแม่” ปากพูด แต่ตาไม่ได้หันมามองคนฟังแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เธอกำลังยุ่งกับการแต่งตัว
“ไปกินด้วยคนนะ อีกอย่างเลิกใช้คำแทนตัวเองว่าฉันกับฉันได้แล้ว ต่อไปเรียกฉันว่าพี่เอเดน ส่วนฉันจะเรียกเธอน้องลิลลี่ ต่อไปนี้เธอต้องมาอยู่กับฉันที่คอนโด ไม่ต้องกลับไปอยู่คอนโดของตัวเอง และไม่ต้องกลับไปค้างคืนที่บ้าน ถ้าจะกลับต้องขออนุญาตฉันก่อน ฉันไม่ได้ให้เธอออกความเห็น แต่เป็นคำสั่งที่เธอต้องทำตาม เข้าใจไหมลิลลี่”
“ไม่มีทาง คนอย่างลิลลี่ไม่มีทางจะยอมคนอย่างนายหรอกเอเดน อย่าคิดว่านอนด้วยกันแล้วฉันจะยอมฝันไปเถอะ คนอย่างลิลลี่ยอมใครไม่เป็น ก็แค่พรหมจรรย์ที่เสียไปเอง ถือว่าเป็นประสบการณ์ก็แล้วกัน” ลิลลี่ไม่มีทางยอมง่ายๆ แน่ ไหนๆ ก็เสียไปแล้ว แต่อย่าคิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้เธอนอนร้องไห้เสียน้ำตาเหมือนอย่างนางเอกนิยายโรมานซ์น้ำเน่าที่เคยอ่านมา
“ปากเก่งจริงนะลิลลี่ บอกให้เรียกพี่ไม่ยอมเรียกใช่ไหมห๊า!” เอเดนก้าวเพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็มาประชิดตัวของลิลลี่แล้ว เขารวบร่างเล็กของลิลลี่เขามาบดจูบอย่างดุเดือด พร้อมกับกัดริมฝีปากของหล่อนให้เจ็บเพื่อเป็นการสั่งสอนคนปากเก่งอย่างเธออีก
ยิ่งเอเดนทำแบบนี้เธอก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้นเท่านั้น สัญญาเลยถ้าไม่ได้เอาคืนเอเดนให้สาแก่ใจ หล่อนจะไม่มีทางปล่อยมือจากเอเดนเป็นแน่ หล่อนจะแก้แค้นให้ถึงที่สุดกับการกระทำของเอเดนในค่ำคืนที่ผ่านมาและกับจูบเมื่อกี้
“พอใจแล้วใช่ไหม ถ้าพอก็ปล่อยได้แล้วจะกลับบ้าน” ลิลลี่ผลักเอเดนออกห่าง พร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดเลือดตรงมุมปากของตัวเองมาดูด้วยความโกรธเกลียด
“จะกลับก็กลับสิ แต่เย็นนี้เจอกันนะ จะไปกินข้าวเย็นที่บ้านด้วยคน”
ในเมื่อลิลลี่เฉยชากับเขานัก เขาก็จะเฉยชากลับเช่นกัน แต่ไม่มีทางที่เขาจะยอมปล่อยเจ้าหล่อนให้ไปเป็นของชายอื่นนอกจากเขา หึหึ ยิ่งตอนนี้ลิลลี่เดินจากไปแล้วเขาก็ยิ่งโกรธ ยิ่งสาวเจ้าทำเป็นไม่สนใจ ไม่ใส่ใจเขาแบบนี้ขาก็ยิ่งโกรธ และความโกรธนี้แหละจะเป็นแรงผลักดันให้เขาเอาชนะเธอ