“แต่ถ้าคุณไม่ชอบ...” ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็แทรกเสียงดังขึ้นมาอีก
“คุณ?”
“ใช่ ผม...คุณ” เขาว่าพลางชี้มาที่ตัวเอง ก่อนจะชี้ไปที่เธอ ทำเอาคนถูกชี้ถึงกับทำตาโตราวกับคนเห็นผี
“หรือถ้าไม่ชอบ จะให้เรียกป้า ผมก็ไม่ติดนะ” สรรพนามนี้ทำเอาคนที่ตกตะลึงก่อนหน้าถึงกับเปลี่ยนอารมณ์ทันควัน
“ปากเสีย ฉันไม่ได้แก่ถึงขนาดเป็นพี่สาวแม่นาย แต่ถึงฉันแก่ ฉันก็ไม่ได้แก่บนหลังคาบ้านนายสักหน่อย ให้ตายสิ! อารมณ์เสียชะมัด นึกว่าตัวเองหน้าเด็กตายแหละ หน้านายกับหน้าฉันมันก็รุ่นราวคราวเดียวกันนั่นแหละ” เพราะยังจิตตกกับเรื่องพรากผู้เยาว์ไม่หาย คนถูกจี้ปมจึงเลือดขึ้นหน้าด้วยความหัวเสีย แต่มันกลับไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรู้สา ตรงกันข้ามกลับยังทำหน้าระรื่น
“ก็นั่นน่ะสิ หน้าเราก็รุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ทำไมถึงชอบทำตัวแก่นักล่ะ เรียกคุณก็ไม่ได้ เรียกป้าก็ไม่เอา ตกลงจะให้เรียกว่าอะไร ที่รักเลยดีไหม”
“ไม่ดี” เธอตอบเสียงห้วนทันควัน
“งั้นจะให้เรียกอะไร”
“ก็เรียกพี่ไง ฉันอายุมากกว่านายตั้งหลายปี มากพอจะเป็นพี่สาวนายด้วยซ้ำ ทำไมจะเรียกฉันว่าพี่ไม่ได้”
“ทำไมน่ะเหรอ เพราะสำหรับผม สถานะเดียวของคุณคือเมีย...ไม่ใช่พี่ไงล่ะ” ไม่พูดเปล่า แต่เขายังตอกย้ำสถานะเมียด้วยการไล้ปลายนิ้วไปที่ไหล่ขาวๆ ของเธอ ทำเอาเจ้าของไหล่รีบกระชับผ้านวมผืนหนาแน่นยิ่งกว่าเดิม ครั้นจะหันไปผรุสวาทให้ รายนั้นก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“อืม...แต่จะว่าไป เรียกว่าเมียก็ฟังดูไม่เลวนะ จริงไหมจ๊ะเมียจ๋า” ว่าแล้วเขาก็ยิ้มยียวนให้ มือที่เคยลูบไล้ไหล่เปลือยค่อยๆ เลื่อนลงมา แต่ก่อนที่มือนั้นจะทันได้สัมผัสเนินอกอวบอิ่ม เธอก็รีบปัดมือนั้นทิ้งแล้วหันขวับมาทำตาขวางใส่
“อย่ามาทำรุ่มร่าม แล้วนายก็ไม่มีสิทธิ์เรียกฉันแบบนั้นด้วย ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องเรียกอะไรเลยยิ่งดี เพราะเราไม่จำเป็นต้องเจอกันอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” เธอตะโกนเสียงสั่นเครือ ปิ่มจะร่ำไห้อยู่รอมร่อ จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ เสียใจก็ไม่เชิง มันจึงกลายเป็นความสับสนที่กำลังรุมเร้าจนรู้สึกอึดอัด
“โอ๋ๆๆ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ ต่อให้ไม่อยากเจอผม แต่ผมก็ยังอยากเจอคุณอยู่ดี เชื่อเถอะ ยังไงคุณก็หนีผมไม่พ้นหรอก” เขาหยักยิ้มให้ แต่นัยน์ตากลับไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด
“ขอร้องล่ะ เลิกยุ่งกับฉัน แล้วเราต่างคนต่างอยู่เถอะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง
“นั่นก็เท่ากับว่าผม...ถูกคุณทิ้งน่ะสิ”
“หา! พูดบ้าอะไรของนาย”
“ก็พอคุณเสร็จสมอารมณ์หมาย ได้ในสิ่งที่ต้องการ ผมก็ไร้ความหมาย หึ! คิดจะฟันผมแล้วทิ้ง มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะป้า” คนถูกเรียกว่าป้ากัดฟันกรอด ไม่รู้จะโกรธประโยคไหนก่อนดี
“ไอ้เด็กเหลือขอ ไอ้คนปากเสีย ไอ้ปากไม่มีหูรูด ไอ้คนพูดไม่คิด นี่ถ้าไม่ติดว่าพ่อแม่ฉันสอนมาดี ฉันจะด่าให้สาแก่ใจเลย” หลังจากพ่นคำด่าออกไป เธอก็มานั่งหอบหายใจรัวเร็ว
“ดูเหมือนคุณจะด่าไปแล้วนะ แต่เอาเหอะ ก็มีแต่เมียเท่านั้นแหละที่ผมยอมให้ด่า” เขายักไหล่พร้อมกับยิ้มยียวนให้เธอเดือดดาลมากขึ้นกว่าเดิม
“ไอ้บ้านี่ ก็บอกว่าไม่ใช่เมีย ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง หรือว่าสมองมีปัญหา หืม...ไอ้ๆ ไอ้ผักตบชวา” คนถูกด่าถึงกับเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เดือดร้อนให้คนด่าต้องมานั่งอธิบายอีก
“ผักตบชวามันเป็นพืชขยะ ไม่มีค่าแถมยังรกโลก เหมือนกับนายตอนนี้ที่รกหูรกตาฉันเต็มทีแล้วยังไงล่ะ”
“ด่าขนาดนี้ยอมรับแล้วสินะว่าเป็นเมีย...เมียจ๋า” เขาลอยหน้าลอยตายิ้มยียวน และนั่นก็เพียงพอให้ความอดทนของเธอขาดผึง
“ก็บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิโว้ย เลิกตอแยฉันสักที ยังไงชาตินี้ฉันก็ไม่เอาเด็กอย่างนายมาทำผัว” เธอประกาศลั่นพร้อมกับโถมตัวขึ้นไปคร่อมเขาด้วยความโมโห
“แต่เมื่อกี้คุณทำไปแล้ว คุณเอาผมทำผัวไปแล้ว และจากท่าทางของเราตอนนี้ เหมือนผมจะต้องทำมันอีกครั้งนะ” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มกับนัยน์ตาวิบวับที่มองมาทำให้เธอจำต้องก้มมองตาม
“ว้าย!” เธออุทานพลางรีบดีดตัวออกห่าง แต่มันกลับเปิดช่องให้เขาฉกฉวยโอกาสเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมกักตัวเธอเอาไว้จนไม่สามารถดิ้นหนีไปไหนได้แทน
“จะทำอะไร” เธอถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“ก็ทำหน้าที่ผัวไง เดี๋ยวจะหาว่าผมทำหน้าที่ขาดตกบกพร่อง ถึงเสียงครางของคุณตอนนั้นมันจะชัดเจนอยู่แล้วว่าผมทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่ผมก็ยังอยากย้ำให้ชัดๆ อีกสักที ไม่สิ ไม่ใช่อีกสักที แต่เป็นอีกหลายๆ ทีว่าผมเป็นผัวคุณ และคุณเป็นของผม ไม่ต้องห่วง...ถึงคุณไม่ใช่คนแรกของผม แต่ผมแน่ใจว่าคนแรกของคุณคือผม และจะเป็นคนเดียวตลอดไป” เขาโน้มลงมากระซิบข้างหูด้วยเสียงกระเส่า ทำเอาเจ้าของใบหูถึงกับสะท้านเบาๆ เพียงเพราะลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดลงมา ก่อนจะสะท้านมากขึ้นเมื่อเขาไม่ได้หยุดแค่นั้น
“เผื่อคุณยังไม่รู้ ผมเป็นคนขี้หวง ของของผมไม่ว่าใครก็ห้ามแตะ” เขาผงกหัวขึ้นมาก่อนจะก้มลงไปขบเม้มที่ใบหูเธอเบาๆ
“อื้อ...” เจติยาเผลอครางออกมาโดยไม่รู้ตัว และเสียงครางนั้นก็ดังพอที่จะทำให้นทีหยักยิ้มได้ใจ
“หึๆ ก็บอกแล้วว่ายังไงป้าก็หนีผมไม่พ้นหรอก” ดูเหมือนคำว่าป้าของเขาจะดึงสติของเธอกลับมาอีกครั้ง
“นี่...เลิกเรียกฉันว่าป้าสักที ฉันไม่ใช่พี่สาวแม่นาย เพราะถ้าฉันมีหลานแบบนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้นายได้โตมาจนถึงป่านนี้แน่” หญิงสาวพูดเสียงลอดไรฟันพร้อมกับดิ้นขลุกขลัก พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อพาตัวเองออกมาจากเงื้อมมืออสูรร้าย
“โหดร้ายจัง แต่โหดๆ แบบนี้สิผมชอบ อืม! โหดแบบนี้เป็นพี่สาวแม่ไม่ได้หรอก เหมาะจะเป็นลูกสะใภ้แม่มากกว่า” สิ้นเสียงเขาก็ฉกวูบลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากอวบอิ่ม ทำเอาคนถูกขโมยจูบโดยไม่ทันตั้งตัวนัยน์ตาเบิกกว้าง อ้าปากหมายจะพ่นคำผรุสวาท
“ไอ้...” อีกครั้งที่เขาก้มลงมาปิดปากปิดกั้นคำพูดร้ายๆ ก่อนจะผงกหัวขึ้นมามอง