บ้านพุดซ้อนเรือนพุดตาน

1371 Words
รุ่งเช้าเขาพาหล่อนมาที่นี่ แก้วกานต์ทั้งดีใจแต่ก็แอบไม่พอใจลึกๆที่พอมาถึงกลับไม่ได้รับการต้อนรับเท่าที่ควร เหมือนคนในบ้านของเขาพร้อมจะเมินหน้าต่อหล่อน มีแต่ ปรัณย์ เท่านั้นที่ให้กำลังใจ แนะนำเครือญาติให้รู้จัก หล่อนยกมือไหว้ตามที่เขาบอก แม้จะไม่ได้รับการพยักเพยิดหน้าเป็นที่พอใจว่าหล่อนมาแล้ว แก้วกานต์พยายามเก็บอาการทุกอย่างไว้ หล่อนคิดว่า จะต้องผ่านไปได้ ปรัณย์รักหล่อนมาก พร้อมที่จะปกป้องดูแลได้ทุกสถานการณ์ และอาจจะตลอดชีวิตของเขา บ่อยครั้งนักที่เขาเอ่ยเรื่องแต่งงาน ระหว่างหล่อนกับเขา เรียกว่าเขาอยากจะแต่งงานกับแก้วกานต์ หรือ น้ำหวานมาก หากไม่มีก้างขวางคอที่หล่อนเพิ่งรู้จากเขานี่ล่ะ ปรัณย์ไม่ได้พึงพอใจกับการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ หล่อนแอบน้อยใจเช่นกันที่เกิดเรื่องแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แน่ละ ในเมื่อปรัณย์ไม่ปรารถนา ผู้หญิงคนนั้นควรล่าถอยไป คงไม่มีความหมายเหมือนหล่อน แก้วกานต์พยายามคิดอย่างนี้อย่างเหนือชั้น “หนูรวี” คุณปารตีเอ่ย ในวันนี้ปกติที่รินรวีมักจะเข้ามาที่นี่บ่อยครั้ง หล่อนนิ่งสงบ แต่เข้ามาในช่วงนี้ ที่คิดว่า บรรดาเครือญาติอยู่น้อยที่สุด รินรวีไม่ชอบอะไรที่พลุกพล่าน เห็นว่า คุณปารตี อยู่กับคุณนิ่มนวล หากแต่ว่าสายตาที่มองถัดไปด้านข้างอีก มีเก้าอี้หวายวางอยู่พร้อมกับชายหนุ่มที่หล่อนรู้แล้วว่าเขาคือใคร ยังมีหญิงสาวอีกคนที่นั่งชิดใกล้ แต่คราวนี้ รินรวีไม่ได้มาคนเดียว เพราะคนที่เดินตามมาและเพิ่งจะขึ้นเรือนมาได้ คือ คุณ ทัศนวรรณ มารดาของหล่อน เพราะอยากจะทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยความเป็นห่วงบุตร “อ้าว ทัศนา เธอก็มาด้วยหรือ” คุณนิ่มนวลเอ่ยทักเพื่อนสนิทที่ไม่ใคร่จะแวะมาหาเหมือนลูกสาว เพราะอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน “อ้าว พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ใครหรอกจ้ะ ตาปรัณย์ เอง ว่าที่คู่หมั้นของยายรวีไง” คุณทัศนาวรรณคอแข็ง เมื่อพบว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร และมีหญิงสาวที่นั่งอยู่ชิดติดกับเขา ท่าทางฉอเลาะและเหมือนจะออดอ้อนเอาใจชายหนุ่ม ที่ นางเพิ่งทราบว่า เขากำลังจะมาเป็นลูกเขย ในไม่ช้านี้ “อ้อ” คุณทัศนาวรรณ ได้แต่พยักหน้ารับรู้ “รู้จักกันแล้วหรือยังล่ะ” เมื่อรินรวีก้าวเข้ามานั่งพับเพียบ หากแต่สายตาของหล่อนเมินไปจากชายหนุ่ม เหมือนไม่อยากสนใจภาพตรงหน้าสายตา ว่าเขาอยากจะทำอะไรก็เชิญ ทำให้สายตาของปรัณย์ก็แข็งเขม็งจ้องเหมือนกัน เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่อวดดีท้าทาย “ใครล่ะ ที่พามาด้วย” คุณทัศนาวรรณอดถามไม่ได้ “แก้วครับ แฟนผมเอง” ปรัณย์เอ่ยตอบออกมาแบบท้าทายสายตาผู้ใหญ่ และเขาไม่ยี่หระในคำพูดที่เอ่ยออกมา ดังนั้นแก้วกานต์ จึงเหมือนกระดี๊กระด๊านัก ที่ ปรัณย์พูดเอาใจหล่อน และพูดปกป้องหล่อนด้วยความจริง ว่าหล่อนมีความสัมพันธ์กับเขา “นี่ ได้ยังไง จะต้องแต่งกันแล้วไม่ใช่หรือ สัญยิงสัญญากันไว้ ตั้งแต่พ่อคุณพ่อทูนหัว อย่างคุณปรัณย์ ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ” คุณทัศนาวรรณเอ่ยกระทบกระเทียบชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอันดัง รินรวีเหนื่อยหน่ายใจ หล่อนรู้ว่า มารดาของหล่อนกำลังแผลงฤทธิ์บ้าง “ถ้ามันยุ่งยากมาก ก็ไม่ต้องแต่งสิคะ” รินรวีปากไวเช่นกัน “เอ๊ะ คุณทัศนาวรรณหันมาติงดุใส่บุตรสาว “เราน่ะทำยังงั้นได้ไง ก็ผู้ใหญ่เขามั่นเขาหมายกันไว้ตั้งแต่ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ อะไรที่เป็นไปแล้วก็ให้มันถูกต้องสิ” ปรัณย์รู้ว่าเขาถูกแดกดันและประชดมาจากสุภาพสตรีอาวุโส และเพิ่งจะมาทราบว่าสตรีผู้นี้เอง ที่จะเป็นว่าที่แม่ยายของเขา ถ้างั้น สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำเอาไว้ คงไม่ถูกต้องนะสิ พวกผู้ใหญ่บ้าเอง ที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง รินรวีเบื่อหน่ายหนักกว่าเก่า และไม่อยากอยู่ตรงนี้ จนกระทั่งว่าปรัณย์รีบลุกเดินจากไป พร้อมกับมีร่างของแก้วกานต์เดินตามด้วย แต่ทั้งคู่ยังไม่ออกจากบ้านหลังนี้ เพียงแต่ก้าวเดินไปในสวนดอกไม้ที่เห็นเป็นทุ่งกว้าง ฝ่ายหญิงชี้ชวนดูโน่นนี่แสนเพลิดเพลินใจ โดยไม่สนใจสายตาของใครที่เมียงมองผ่านมายังหล่อน เหมือนเป็นตัวประหลาด แต่คนอย่างแก้วกานต์ก็ไม่แยแส เพราะหล่อนมีปรัณย์อยู่ใกล้ชิดตัว เขาจะเป็นเหมือนด่านปราการที่ปกป้องหล่อน คุณทัศนาวรรณมองอย่างขัดใจเมื่อเห็นภาพนั้นจากบนเรือน ที่หน้าต่าง ไม่อยากมอง มันก็อดไม่ได้ รินรวีเสียอีก ที่นิ่งเฉยแบบไม่พอใจ และเหมือนไม่อยากจะรับรู้ เช่นเดียวกับคุณนิ่มนวล ที่แสดงความรู้สึกไม่สบายใจออกมาเป็นกังวลกับสีหน้าที่เครียด นี่ละน๊า คนหนุ่มใจร้อน ทำอะไรก็พากันมองข้ามหัวผู้ใหญ่ไปหมด พ่อปรัณย์นะพ่อปรัณย์ นี่ถ้าเป็นลูกจะเฆี่ยนตีให้หลังลายเลยล่ะ “ปรัณย์ขา ต้องการแต่งงานกับแม่ผู้หญิงคนนั้นมั๊ย” หล่อนถามเขาเพราะต้องการคำตอบ เพราะจะว่าไป รินรวีแม้จะดูราบเรียบสงบแต่ก็เป็นผู้หญิงที่มีโครงใบหน้าเรียวรูปไข่และใบหน้าช่างหวานคมน่ารักเหลือเกิน จนหล่อนทนอิจฉาไม่ได้ แต่หล่อนคงจะมีดีกว่าผู้หญิงคนนั้น ตรงที่รู้จักออดอ้อน ใช้จริตจะก้านมารยาผู้หญิงกับเขาได้ถูกทาง และปรัณย์เหมือนจะหลงหล่อนอย่างไม่ลืมตาหรือหลงจนแบบโงหัวไม่ขึ้น หล่อนพึงพอใจที่เขาเป็นแบบนี้ ที่หล่อนสามารถปั้นเขาได้ “ไม่ ผมไม่แต่งหรอก ไม่ชอบ พวกผู้ใหญ่เจ้ากี้เจ้าการดีนัก ก็แต่งไปเองเสียสิ ฮึ” ปรัณย์ ตอบด้วยอารมณ์ไม่พอใจ ทำให้แก้วกานต์เบือนหน้าไปอีกด้าน ยิ้มออกมา “งั้นแก้วว่าเราออกไปหาอะไรทานกันที่ข้างนอกเถอะค่ะ แก้วหิวแล้ว” เขาตอบสนองความต้องการของหล่อนทันที มีแต่สายตาของผู้ใหญ่ที่มองตามอย่างขวางหูขวางตากับพฤติกรรมหลานชายไม่รักดี ที่ไม่สนใจโลกสนคนรอบข้าง พร้อมกันนั้นก็สตาร์ทรถยนต์ออกไปข้างนอก โดยมีหญิงสาวชื่อแก้วกานต์เป็นตุ๊กตาหน้ารถยิ้มแฉ่ง แก้วกานต์ต้องการทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่า คนอย่างแก้วกานต์ไม่ธรรมดา เพราะหล่อนคิดว่า ทุกคนต้องยอมรับ ถ้าหากหล่อนชิดใกล้และเป็นแฟนของปรัณย์ และในเวลานี้หล่อนกับปรัณย์ก็มีความสัมพันธ์กันบ้างแล้ว แต่ระยะหลังมานี่เขาไม่ค่อยจะแตะต้องหล่อนเท่าไหร่ และหล่อนคิดว่า หล่อนจะต้องชิงพูดเรื่องแต่งงานกับเขา ก่อนที่การแต่งงานจริงของเขาที่ถูกผู้ใหญ่บงการสั่งมาจะอุบัติขึ้นเสียก่อน ซึ่งหล่อนไม่พอใจ และไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น อยากให้ทุกคนยอมรับหล่อนด้วย หล่อนต้องการที่จะเป็นเจ้าสาวเพียงคนเดียวของปรัณย์เท่านั้น “ปรัณย์คะ คุณไม่ต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้ใช่ไหม” หล่อนถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจของตัวเอง “ก็ตอบแล้วไง ผมจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่ คุณไม่ต้องห่วง” “ แล้วถ้าเกิดว่าพ่อแม่ของคุณบังคับล่ะคะ” แก้วกานต์พูดด้วยความกลัว และหล่อนมีลางสังหรณ์ “ ฮึ จะยากอะไร ถ้าอยากแต่งก็จะแต่ง แต่ผมจะไม่สนใจผู้หญิงคนนั้น จะทนอยู่จนกว่าจะหย่าขาดจากกัน” เขาตอบทำให้หล่อนสบายใจ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะเขายังพูดถึงการแต่งงาน “คุณก็รู้นี่ ว่าผมขัดใหญ่ไม่ได้ แล้วคอยดูเถอะ ผมจะทำให้ยัยเด็กนั่นหย่าขาดจากกัน” เขาบอกหล่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD