“ป่ะ!!กลับบ้านกัน...นาย!!”
กึก!! (เสียงกดล็อคประตูรถ)
“ขึ้นมาบนรถฉันได้ยังไงลงไปเลยนะ”
“จะตะโกนเสียงดังทำไมมิหูคิงจะแตกอยู่แล้ว”
“ฉันบอกให้นายลงไปไง”
ให้ตายเถอะค่ะนี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกทำไมอยู่ๆผู้ชายคนนี้ถึงมานั่งอยู่บนรถฉันได้คะแล้วไอ้มิกค์มันไปไหน
พรึบ!!
“ใส่เสื้อคลุมไว้ซะเดี๋ยวนี้หัดแต่งตัวโป๊แบบนี้แล้วเหรอ”
นอกจากจะไม่ลงจากรถฉันแล้วเขายังโยนเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำของเขาให้ฉันแล้วพูดประโยคนี้ออกมา ทำไมคะทำไมคนอย่างฉันจะแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้จะให้ฉันใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มาเที่ยวผับรึไง
“ไม่ใส่!! เอาคืนไปแล้วนายก็ลงไปจากรถฉันด้วย”
ฉันโยนเสื้อกลับไปให้เขาแล้วก็พูดไล่ให้เขาลงจากรถเขาก็มองหน้าฉันกลับด้วยสายตาที่หงุดหงิด แล้วไงคะมาหงุดหงิดฉันทำไมไม่ทราบฉันต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายหงุดหงิดเขาที่สาระแนขึ้นมานั่งบนรถฉันแต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังหน้าด้านหน้าทนไม่ยอมลงค่ะแถมทำท่าเหมือนจะขับรถออกไปอีก
“นายไม่ลงใช่ไหม ได้!! งั้นฉันลงเอง”
หมับ!!
“นี่!! ปล่อยแขนฉันนะ”
พอฉันทำท่าจะเปิดประตูรถลงเขาก็ดึงแขนฉันไว้อย่าเรียกว่าดึงเลยค่ะเรียกว่ากระชากเลยดีกว่าเพราะตัวฉันแทบจะติดกับตัวเขาอยู่แล้วพื้นที่ในรถก็แคบแค่นี้
“เลิกดื้อกับคิงสักทีได้ไหมมิ”
พูดไม่พอยังมาทำสายตาอ้อนวอนใส่ฉันอีกแต่เสียใจค่ะฉันไม่อินกับสายตาแบบนี้ของเขามานานแล้ว
“นายนั่นแหละเลิกยุ่งกับฉันแล้วก็เลิกเรียกฉันแบบสนิทสนมแบบนี้สักที”
“ทำไม...กลัวว่าฟังบ่อยๆแล้วจะคิดถึงความหลังของเราเหรอ”
หึ!!คิดถึงความหลังงั้นเหรอพูดมาได้ อย่างเขาจะมีความหลังอะไรให้ฉันคิดถึงมีแต่ความเลวที่เขาทำไว้เท่านั้นที่ฉันจำฝังใจ
“เอาอะไรมาคิดว่าฉันจะคิดถึงมะโนไปปะ”
“ต่อปากต่อคำเก่งนะเดี๋ยวนี้แต่ก็ดี...คิงชอบ”
พูดเฉยๆก็ได้ทำไมต้องยื่นหน้ามาใกล้ฉันด้วย
ผลัก!!
“อย่ายื่นหน้าตอแหลๆของนายมาใกล้ฉัน”
พรึบ!!
“นี่!! นายจะทำอะไรฉัน”
ไม่ให้ฉันโวยขึ้นมาแบบนี้ได้ยังไงคะก็อยู่ๆเขาก็เอื้อมแขนมาคร่อมที่ตัวฉันไว้ใครไม่ตกใจก็บ้าแล้ว
“ไม่ได้ทำอะไรแค่จะคาดเข็มขัดให้”
“ไม่ต้อง..ฉันจะลง”
“มิ!!”
“เรียกทำไมนักหนาฉันจำชื่อตัวเองได้”
รำคาญค่ะตอนนี้เริ่มรำคาญแล้ว มิๆๆๆ เรียกอยู่นั่น
“นั่งดีๆ เดี๋ยวคิงขับไปส่ง”
“ไม่!! ถ้านายไม่ลงไปจากรถฉันๆก็จะลงเอง”
“ลงไปแล้วจะกลับยังไง”
“ฉันก็โบกแท็กซี่ไปสิ”
ถามมาได้ว่าจะกลับยังไงนี้เมืองหลวงของไทยแลนด์นะคะแท็กซี่เกลื่อนเมือง
“อยากได้ผัวเป็นคนขับแท็กซี่เหรอถึงคิดจะลงไปโบกในสภาพแบบนี้”
พอเขาพูดแบบนี้ฉันก็ก้มมองตัวเองก็จริงอย่างที่เขาพูดค่ะเพราะตอนนี้เสื้อผ้าชุดที่ฉันใส่มามันล่อหูล่อตาอยู่เหมือนกัน
“งั้นนายก็ลงไปฉันจะขับกลับเอง”
“หึ!!”
“ขำอะไร”
พอฉันพูดแบบนี้ออกมาเขาก็แสยะยิ้มแล้วทำเสียงหึใส่แถมยังมองหน้าฉันด้วยสายตาที่กวนตีนมากๆเลยค่ะ
“ขับกลับเองจนเช้ามิจะขับถึงบ้านรึเปล่าเหอะ”
“ทำไมฉันจะขับไม่ถึงบ้านตัวเองฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะที่จะไปไหนแล้วหลงหาทางกลับบ้านไม่เจอ”
“ไม่ใช่เด็กสามขวบแต่มิก็ไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปีมิจำทางไม่ได้หรอกเพราะไม่อย่างงั้นวันนี้มิคงไม่ให้ไอ้มิกค์มันขับรถมาส่ง”
เถียงไม่ออกสิคะเพราะที่เขาพูดมันก็จริงทุกอย่างเพราะฉันยังไม่ชินกับถนนหนทางที่นี่จริงๆ จะให้นั่งแท็กซี่ตอนนี้ฉันก็ไม่กล้าแล้วค่ะ
“แล้วไอ้มิกค์มันไปไหนทำไมนายถึงมาอยู่บนรถฉันได้”
“ไอ้มิกค์มันไปกับเพื่อนมันแล้วมันคงอยากให้คิงกับมิได้คุยกันอ่ะ”
“มีอะไรต้องคุย ฉันไม่ได้มีอะไรจะคุยกับนายสักหน่อย”
จริงๆนะคะฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเขาแล้วไม่อยากคุยด้วย
“มิไม่มีแต่คิงมี”
เขาพูดแล้วมองหน้าฉันนิ่งๆค่ะ นิ่งมากแล้วสายตาที่มองก็ฉายความโหยหาออกมาอย่างเห็นได้ชัดจะมาอยากอาลัยอาวรอะไรฉันตอนนี้คะในเมื่อวันนั้นเขาไม่แม้แต่จะรั้งฉันไว้
“เรื่องวันนั้นคิง..”
“ถ้าจะพูดเรื่องวันนั้นไม่ต้องฉันไม่อยากฟัง”
ฉันพูดสวนกลับเขาขึ้นมาทันทีค่ะตอนที่เขาจะพูดถึงเรื่องเหตุการณ์วันนั้น
“คิงขอโทษได้ไหมมิ”
“หึ!! ง่ายจังเลยเนอะ”
ก็มันง่ายจริงๆนี่คะทำกันขนาดนั้นมาพูดขอโทษได้ไหม
“มิจะให้คิงทำยังไงคิงต้องทำยังไงถึงได้มิคืนมา”
“เลิกพูดอะไรไร้สาระแบบนี้สักทีจะไปส่งไม่ใช่เหรอไปสิหายใจไม่ออกอึดอัดที่จะต้องมาทนนั่งหายใจในที่แคบๆแบบนี้กับนาย”
หมับ!!
“นี่!!"
จ๊วบบบบ!
“อือออ”
ปึก ปึก ปึก
เป็นบ้าอะไรอยู่ๆมารั้งฉันเข้าไปจูบ ใช่ค่ะฟังไม่ผิดหรอกว่าตอนนี้เจาจูบฉันๆก็ได้แต่ดิ้นแล้วทุบไปที่อกเขาแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย
เพี้ยะ!!
“ทำบ้าอะไรของนาย!! มาจูบฉันทำไม”
พอเขาผละจูบออกจากฉันๆก็ตบหน้าเขาไปทีหนึ่งค่ะแล้วก็พูดกับเขาออกมา
“เห็นบอกว่าอึดอัดหายใจไม่ออกคิงก็ช่วยผายปอดให้ไง”
พูดแล้วแสยะยิ้มใส่ฉันเกลียดจังเลยค่ะเกลียดสีหน้าท่าทางแบบนี้ของเขา
“ฉันโคตรเกลียดนายเลย”
“แต่คิงยังรักมิเหมือนเดิมนะ”
ซุงแหลมากค่ะอย่างเขาเรียกตอแหลยังน้อยไป
“รักงั้นเหรอ...หึ!!คนรักกันเขาไม่ทำเหมือนที่นายทำกับฉันหรอก”
“เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอวะมิ”
“นายฝันอยู่เหรอถึงพูดแบบนี้ออกมา”