เพื่อนใหม่
“ตัวเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้น” เด็กสาวของธนกฤตเอ่ยอย่างฉุนๆ ยัยนี่ใครกล้าวางแผนให้พ่อรวบหัวรวบหางอาพลอยของเธอ
“แล้วตัวเป็นใครห่ะ เค๊าจะเป็นใครมีสิทธิ์อะไรตัวไม่เกี่ยวนิ ยังไงเค๊าก็ทำสิ่งที่ถูกต้องสองคนนั้นควรจะได้รักกันอยู่ด้วยกัน พวกเขารักกัน” พัญวลัยเอ่ย ยัยนี่ใครกันมาถามหาสิทธิ์กับเธอ เธอมีสิทธิ์สิ สิทธิ์ของลูกที่ดีไง ธนกฤตเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยปากจะห้าม
“เอ่อ ทั้งสองคนคืออย่า”
“อย่ามายุ่ง” แต่ยังไม่ทันได้ห้ามทั้งสองก็สวนกลับจนธนกฤตต้องนั่งเงียบ ไม่รู้ว่าเพราะเด็กสองคนพูดพร้อมกันหรือว่าเพราะเริ่มเกรงใจเมียเด็กก็ไม่รู้เขาถึงไม่ยุ่งกับเด็กทั้งสองที่ถือเป็นญาติกันไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
“ตัวแน่ใจได้ไงว่าเขารักกัน อย่ามาโมเม “ พิมพ์ลภัสเอ่ยบอก ยัยนี่มั่นใจและมั่นหน้าเหลือเกินว่าอาพลอยรักกับเพื่อนอีกคนของธนกฤต ก็วันนั้นที่สามสหายไปกินข้าวที่บ้านสองคนนั้นยังเถียงกันอยู่เลย
“พิสูจน์ป่ะล่ะ ถ้าพิสูจน์แล้วว่าสองคนนั้นรักกันตัวต้องทำตามคำสั่งเค๊า” สาวน้อยมั่นหน้าตอบอย่างมั่นใจ
“โอเค ถ้าอาพลอยไม่ได้รักพ่อตัว ทั้งตัวทั้งพ่อตัวห้ามมายุ่งกับอาพลอย” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนจะสะบัดหน้าหนี สาวน้อยสุดแสบอีกคนหายอมไม่สะบัดหน้าหนีไปอีกทางเช่นกัน
“อ้าวไอ้ธามอยู่นี่เอง พายุเฮอร์ริเคนกำลังจะถล่มนายพอดี” พีรวัศที่เดินเข้ามาใหม่เอ่ย ที่จริงเขาและพรปวีร์จะไปที่บ้านของเธอแต่แค่ขับรถออกมาได้ไม่นานคุณเธอก็ให้เขาพากลับมาที่บ้านของธนกฤตก่อนจะพากันมาที่นี่เมื่อไม่เห็นใคร
“พายุเฮอร์ริเคนบ้าอะไร นายสิจะโดน “ ธนกฤตเอ่ยบอก มันสิจะโดนแม่หนูของเขาจัดการ ดูหน้าระรื่นนั้นสิยังไม่รู้อีกว่าคนหวงอากำลังฉุน
“ธาม นายอยู่ไหนพริกหวานล่ะ นางคงไม่ได้ฆ่ายัยหนูของฉันนะ” คนห่วงหลานเอ่ยมาแต่ไกลก่อนที่จะเห็นว่ายัยหนูของเธอจ้องอีตาพีรวัศอย่างฉุนๆ “อะไรกันน่ะ พริกหวานคะอย่ามองแบบนั้นลูกมันไม่น่ารักเลย เป็นอะไรคะใครทำให้พริกหวานของอาโกรธ นายรึเปล่าธาม”
“จะบ้าสิยัย เอ้ยไม่สิ พลอย ไอ้พีต่างหากล่ะ” ธนกฤตเอ่ยก่อนที่จะลดคำเรียกประจำชายหนุ่มหันมาเห็นพิมพ์ลภัสหันมาจ้องตนทำให้รีบเปลี่ยนคำเรียกอย่างไว ก็เพิ่งอยู่ด้วยกันวันเดียวก็แค่ไม่อยากให้โกรธกัน
“ นายพีนายไปทำอะไรให้ยัยหนูโกรธ อย่าโดนดีใช่มั้ย” คนรักหลานเอ่ยด้วยเสียงเรียบแต่สร้างความหวาดหวั่นให้คนฟังได้ดีแต่กลับสร้างเสียงหัวเราะให้กับธนกฤตและเพลิงตะวันที่ระเบิดหัวเราะออกมา
“อะไรๆผู้การพีรวัศไม่ทันไรก็กลัวเมียซะแล้ว” เพลิงตะวันเอ่ยแซวจนพีรวัศหันมองด้วยสายตาดุ
“ใครกลัว คนอย่างพีรวัศไม่อยู่สมาคมเดียวกับนายหรอกผู้การเพลิงตะวัน” พีรวัศเอ่ยแถมแซวกลับ ก็เพื่อนเขาอยู่ในสมาคมเกลัยมัวนะสิ คนอย่างเขาไม่กลัวเมียแน่นอน
“หึ แล้วฉันจะคอยดู เฮ้ยธามนายจะเข้ามาอยู่สมาคมเดียวกันเปล่าจะได้รอสมน้ำหน้าไอ้คนไม่กลัว” เพลิงตะวันเอ่ยก่อนจะหันมาพูดกับธนกฤตที่หัวเราะอยู่ เสียงหัวเราะเงียบลงทันทีพร้อมกับคำที่ออกจากปากของธนกฤต
“ฝันไปเถอะ บังเอิญยังไม่มีเมียจริงๆรออีก5-6ปีค่อยมาชวนนะ” เขาไม่ได้โกหกก็แม่หนูน้อยยังไม่ทันเป็นเมียเขาเลยจะให้บอกว่ากลัวไม่กลัวอันนี้ยังบอกไม่ได้
“หึ ถึงยังไม่ได้เป็นแต่มีแววว่าท่านจะเกรงใจเมียเด็กนะ ผู้การธามมมมายยย หนูอย่างนั้น หนูอย่างนี้ ครับๆหนู555 “ เพลิงตะวันเอ่ยทำให้ธนกฤตหันมองตาขวางจนเพลิงตะวันหัวเราะออกมา
“นี่ฉันกับพลอยพลาดอะไรไปรึเปล่า มีครับมีขาด้วยเหรอ” พีรวัศเอ่ยถามพร้อมใช้สายตาล้อเลียน
“นั้นสิ ไอ้ที่ว่าอีก5-6ปีนี่แสดงว่าไม่แต่งกับใครแล้วใช่มั้ย” พรปวีร์เอ่ยอย่างสงสัย ธนกฤตที่เจอคำถามนี่ไปถึงกับอยากหายตัวไปจากตรงนี้
“หยุด อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ พริกโกรธยัยเสาไฟฟ้านี่กับพ่อของยัยนี่อยู่นะ อาพลอยรู้มั้ยว่าสองพ่อลูกนี่วางแผนรวบหัวรวบหางอาพลอยนะ มันไม่ใช่อุบัติเหตุ” คนยังไม่อยากฟังคำตอบของธนกฤตเอ่ยโวยวายกลับมาเรื่องเดิมจนพรปวีร์ถึงกับหันไปมองพีรวัศ
“นี่ตัวว่าใครห่ะ ยัยพริกหยวกหน้าม้า” พัญวลัยเอ่ยอย่างไม่ชอบใจ เตี้ยแล้วไงเธอยังไม่โตยังสูงได้
“พริกหยวกเหรอ ตัวว่าเค๊าเหรอยัยเพี้ยน” พิมพ์ลภัสผู้ไม่ยอมให้ใครมาว่าได้ตั้งชื่อใหม่ให้อีกฝ่ายทันที
“หยุดทั้งพริกหยวกทั้งเพี้ยนนั้นแหละ พริกหวานไหนหนูได้ยินอะไรมาบอกอามาให้หมดลูก” ถ้าเป็นก่อนที่จะได้ยินเรื่องสองพ่อลูกเธออาจจะหัวเราะกับการทะเลาะกันแบบน่ารักของเด็กสาวทั้งคู่แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา พิมพ์ลภัสชักกลัวน้ำเสียงของผู้เป็นอาจึงเรื่องเล่าให้ฟัง
“ไอ้บ้าพี นายสอนอะไรให้น้องพั้นห่ะถึงได้แก่แดดแบบนี้ หรือวันๆเอาแต่ไหลไปเรื่อย นายเพลิงนายใช่มั้ยที่ช่วยดูแลน้องพั้นแทนไอ้บ้าพี นายสอนหลานให้แสบแบบนี้ได้ยังไง นายมีส่วนมั้ยธาม” คนได้ฟังเรื่องทั้งหมดเอ่ยถามสามหนุ่มเรียงตัวเมื่อรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้เด็กสาวคงไม่มีทางรู้ถ้าไม่ใช่ผู้ใหญ่สอน
“ฉันไม่เกี่ยวนะพลอยวันๆทำแต่งาน ไม่ว่างพอจะไปสอนให้น้องพั้นแก่แดดหรอก ไหนๆก็อิ่มแล้ว ฉันไปทำงานก่อนนะ หนูเย็นนี้กินข้าวที่นี่น่ะพี่คงไม่ได้พาไปตลาด” ธนกฤตเห็นสายตาของเพื่อนหญิงคนเดียวถึงกับรีบปฎิเสธ ก่อนจะหันไปบอกพิมพ์ลภัสและทำท่าจะเดินออกไป
“หยุด! ถ้าฉันยังไม่เคลียร์ใครก็ห้ามออกจากห้องนี้ และฉันยังมีเรื่องคุยกับนาย” พรปวีร์เอ่ยก่อนหันมามองสองหนุ่มที่เหลือ
“ฉันแค่บอกว่า ไอ้พีมันเคยชอบเธอเท่านั้นนะพลอย ไม่เคยสอนอะไรแบบนั้นเลย “ เพลิงตะวันเอ่ยบอก ครูสาววัย37จึงหันมาจ้องพ่อของเด็กสาวอย่างเอาเรื่อง โกรธที่โดนหลอก โกรธที่โดนพรากพรหมจรรย์ที่รักษามา37ปี โกรธที่สอนเรื่องแก่แดดให้กับเด็กสาว อีตานี่ต้องโดนดี คอยดูเถอะเธอจะทำให้มาสยบแทบเท้าขอร้องอ้อนวอนให้ดูไอ้พ่อปลาไหลไฟฟ้าแสนไวไฟตัวนี้
“พลอย ที่ทำไปเนี่ยเพราะฉันรักเธอนะ” พีรวัศเอ่ย พัญวลัยมองทั้งคู่ก่อนจะเอ่ยออกมา “อาพลอยคะ พั้นผิดเอง พั้นอยากได้อาพลอยเป็นแม่ พั้นอยากให้พ่อพีกับอาพลอยได้อยู่ด้วยกัน ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้น หมายถึงแม่น่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอพ่อพีกับอาพลอยอาจจะได้แต่งงานกันมีครอบครัวที่อบอุ่น พั้นก็คงไม่ต้องเป็นเหมือนลูกกำพร้าแม่แบบนี้”
“น้องพั้น” พรปวีร์ครางชื่อเด็กสาวออกมาอย่างแผ่วเบา เธอพอจะเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาวบ้างเพราะอาชีพที่ต้องเข้าใจเด็กให้มากที่สุด แม้แต่พิมพ์ลภัสที่ตอนแรกเหมือนจะไม่ชอบยังอดที่สงสารและเข้าใจพัญวลัยไม่ได้
“อาพลอยมาเป็นแม่ให้พั้นนะคะ” เด็กสาวเอ่ยออกมาจากใจ พรปวีร์นึกลังเลขึ้นมาพิมพ์ลภัสจับมืออาสาวแล้วเอ่ยบอก “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เป็นแม่ให้ยัยเพี้ยนนั่นเถอะค่ะอาพลอย จะได้อยู่ใกล้ๆพริก พริกจะได้ไม่เหงา”
“ยัยพริกหยวก” พัญวลัยเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างซาบซึ้ง
“ก็ได้ค่ะ น้องพั้น อาพลอยจะเป็นแม่ให้น้องพั้น แต่แค่แม่น้องพั้นนะไม่เกี่ยวกับพ่อน้องพั้น” ครูสาวเอ่ยพร้อมทั้งเอ่ยดักทางคนเป็นพ่อของสาวน้อย
“ก็ได้ค่ะ แค่แม่พลอยก็พอแล้วส่วนเรื่องของพ่อพีให้พ่อพีจัดการเอง พั้นไม่ยุ่ง” พัญวลัยเอ่ยบอก พีรวัศถึงกับร้องอ้าวเมื่อลูกสาวที่ร่วมวางแผนมาด้วยกันทิ้งเขาซะง่ายๆ
“คุณอาพีค่ะ ช่วยพาอาพลอยกลับบ้านแล้วไปสู่ขอให้เรียบร้อยด้วย ถ้าไม่อยากเห็นภาคแม่มดของหนู” พิมพ์ลภัสเอ่ยบอกว่าที่อาเขยด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่น่ากลัวไม่น้อย
“มีภาคแม่มดด้วยเหรอ เออดี ไปเลยไอ้พีก่อนที่จะเห็นภาคแม่มดของหนูน้อยของป๋าธามเค้า บอกเลยว่าฉันกับภาคอวตารของไอ้ธามเข้าข้างหนูพริกหวาน” เพลิงตะวันเอ่ยบอก
“ไอ้ภาคแม่มดนี่สู้ตอนพลอยโกรธเมื่อกี้ได้มั้ยหนูพริกหยวก เอ้ย หนูพริกหวาน” พีรวัศยังคงสงสัยแต่คนที่ตอบกลับเป็นพรปวีร์ “นายอย่าเอานิสัยกวนประสาทของนายมายั่วโมโหแม่สาวน้อยสุดแสบสายโหดถ้ายังอยากอยู่กับน้องพั้นนานๆ”
“น้องพั้นคะ แม่พลอยคงต้องกลับก่อนเพราะจริงๆลางานมาไม่นานเอง ไว้วันเสาร์อาทิตย์จะมาหานะ ส่วนเรื่องสู่ขออะไรนั่นเอาไว้ก่อน แม่พลอยเป็นแม่ให้น้องพั้นได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องแต่งงานร่วมหอลงโลงกับพ่อพีของหนู พริกหวานคะอย่าดื้อนะไว้วันเสาร์อาจะมาหา สองคนนี้อย่าทะเลาะกันนะ แล้วก็ธามตามฉันออกไปด้วยมี-เรื่อง-จะ-คุย-ด้วย” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะกอดร่างของเด็กสาวทั้งสองไว้แล้วผละออกเดินออกจากบ้านไป โดยมีพีรวัศตามไปพร้อมกับธนกฤต
“ตัวคงไม่ได้จะเอาแค่แม่ใช่มั้ย” พิมพ์ลภัสเอ่ยถามหลังจากร่างอาสาวลับตาไป พัญวลัยหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“แล้วตัวคิดว่า...แค่นั้นเค๊าต้องลงทุนคิดแผนรวบหัวรวบหางเหรอ” พัญวลัยเอ่ย บรรยากาศการพูดคุยของทั้งสองต่างจากตอนแรกเพราะเริ่มจะดีขึ้น”งั้นเป้าหมายต่อไปของเค๊ากับตัวคงเหมือนกันคือ...”
“ทะเบียนสมรส/ทะเบียนสมรส” เด็กสาวคุยกันก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“งั้นเรามาร่วมมือกัน แต่ก่อนจะร่วมมือเราต้องเป็นเพื่อนกันก่อน” พัญวลัยเอ่ย พิมพ์ลภัสเห็นด้วยก่อนที่ทั้งสองจะกำหมัดยื่นออกมาชนกันเบาๆ
“ขอโทษนะสาวๆ พีมร่วมด้วยดิน่าหนุกแฮะ” พีมตะวันที่ได้ยินสองสาวคุยกันเอ่ยบอก พิมพ์ลภัสและพัญวลัยจึงพยักหน้าตอบรับ
“ต่อไปเราจะเป็นเพื่อนกัน เพื่อนกันตลอดไป” สองสาวกับหนึ่งหนุ่มวัยใสเอ่ยสัญญากันก่อนจะยิ้มให้กัน จนเพลิงตะวันและนารารินได้แต่ขำ บทจะทะเลาะไม่ชอบกันก็ง่ายดาย บทจะรักกันก็ยิ่งง่ายดายนี่ล่ะนะเด็ก พิมพ์ดาวยิ้มที่อยู่ๆพี่ชายคนโตก็มีเพื่อนเพิ่มมาอีกหนึ่ง ส่วนพายัพเมฆเบ้ปากมองบนแล้วก็แอบลอบยิ้มร้าย สำหรับเด็กหนุ่มแล้วมีคนมาให้แกล้งเพิ่มอีกหนึ่งมันก็คงสนุกไม่หยอกเลยล่ะ
ด้านธนกฤตที่เดินตามเพื่อนทั้งสองออกมาได้แต่เงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยความรำคาญ พรปวีร์เอาแต่ปฎิเสธพีรวัศ ส่วนพีรวัศเอาแต่ตื้อให้ครูสาวยอมแต่งงานด้วย
“หยุดไม่ต้องมาพูดแล้ว ฉันจะพูดกับธาม ธามนายห้ามทำอะไรพริกหวานเด็ดขาดจนกว่าหลานฉันจะพร้อมและเต็มใจ อย่ามาล่อลวงพริกหวานเชียว และอีกข้อห้ามทำรุ่มร่ามจนกว่าพริกหวานจะเข้ามหาลัย ไม่งั้นล่ะก็ตาย” พรปวีร์เอ่ยบอกเน้นคำว่าตายจนน่ากลัว ธนกฤตยิ้มก่อนจะเอ่ย “ฉันสัญญากับพี่สะใภ้เธอไปแล้วพลอย แต่ถ้ากลัว เธอน่าจะมาอยู่คุมนะ ฉันชักไม่ไว้ใจตัวเองแฮะ เด็กมันน่ารัก “
“ธาม นายพูดแบบนี้กะจะให้ฉันยอมแต่งกับอีตาบ้านี่ใช่มั้ยฝันไปเถอะ และอีกอย่างนะถึงไม่อยู่นี่ฉันก็เชื่อหลานฉันไม่ง่าย ขนาดหอมแก้มเนี่ยปีนี่นายยังไม่มีทางได้หอมแก้มพริกหวาน ยิ่งจูบนะอย่าได้ฝันว่าพริกหวานจะยอมอีก6ปีก็คงไม่มีทาง ฟันธง” พรปวีร์เอ่ยบอกก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินไปขึ้นรถอย่าอารมณ์ดี แต่คนฟังเองก็ยิ้มกวนก่อนที่จะบอกหญิงสาวก่อนที่รถจะออกไป “จูบไม่รู้นะ แต่หอมแก้มเนี่ยฉันได้หอมมาแล้ว ถ้ากลัวหลานจะโดนปู้ยี่ปู้ยำก็มาเฝ้านะอาพลอย”