โลกกลมหรือพระพรหมให้เจอ

3355 Words
โลกกลมหรือพระพรหมให้เจอ 16.00น. พิมพ์ลภัสที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนมองรถยนต์คันสีขาวแปลกตาที่จอดอยู่หน้าบ้านอย่างสงสัย แต่ก่อนที่เด็กสาวจะเข้าไปในบ้านเสียงเครื่องยนต์จากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบท์ก็ดังขึ้นทำให้หญิงสาวต้องหันไปมอง ‘กรี๊ดเท่อะ โอ๊ยพริกหวานชอบ โดนมากทั้งคนทั้งรถ’ เด็กสาวได้แต่ร้องกรี๊ดกร๊าดในใจอย่างคลั่งไคล้ก่อนจะแปลกใจเมื่อบิ๊กไบท์คนดังกล่าวแล่นเข้ามาจอดข้างๆรถยนต์คันขาวที่เธอสงสัย เด็กสาวจับจ้องมองอย่างสงสัยก่อนที่จะอ้าปากค้างเมื่อเจ้าของบิ๊กไบท์ถอดหมวกกันน็อกออกปรากฏให้เห็นใบหน้าที่ทั้งหล่อเหลาและน่าเกรงขามประกอบกับเครื่องแบบนายทหารเรือสีขาวและบิ๊กไบท์สีดำแดงสุดเท่ห์ ทำให้ชายหนุ่มเหมือนหลุดมาจากจินตนาการที่พิมพ์ลภัสเคยมโนถึงตอนที่นึกถึงนักทำลายใต้น้ำจู่โจมที่คลั่งไคล้ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคลั่งไคล้เพราะอีตาคนนี้คือคนที่เธอยกให้เป็นคู่อริหมายเลขหนึ่งไปเมื่อช่วงเที่ยง อีตาลุงทำไม “ว่าไงแม่พริกขี้หนู” คนถูกเรียกด้วยชื่อใหม่แสนไฉไลในใจเอ่ยเรียกคนอายุน้อยกว่า พิมพ์ลภัสมองอย่างหมั่นไส้ชื่อ ‘อีตาลุงทามมายเนี่ยเปลี่ยนซะรับไม่ได้’เด็กสาวคิดอย่างไม่ชอบใจก่อนจะเหลือบไปเห็นสายยางฉีดน้ำอยู่ใกล้ๆแผนชั่วร้ายพลันปรากฎในหัว “อุ๊ย นั่นโจรจี้ทรัพย์นิ” พิมพ์ลภัสเอ่ยพร้อมทั้งชี้ไม้ชี้มือไปข้างหลังผู้การหนุ่มก่อนอาศัยจังหวะที่ชายหนุ่มหันไป รีบคว้าสายยางฉีดน้ำขึ้นมาถือไว้ ‘เธอไม่โง่หลอกว่ามีสัตว์ประหลาดหรืออะไรอยู่ข้างหลัง และก็รู้ดีว่าชายหนุ่มต้องไม่นิ่งดูดายแน่ถ้าเห็นโจรผู้ร้าย แน่สิอีตาลุงนี่เป็นซีลนิ’ “555 แค่นี้ก็เชื่อ” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนจะเปิดน้ำฉีดใส่อีกฝ่ายก่อนจะหัวเราะออกมา “555 สมน้ำหน้า” “ยัยตัวแสบ” ธนกฤตเอ่ยลอดไรฟันก่อนจะยกมือขึ้นปัดป้องพัลวันก่อนจะเดินเข้าไปใกล้พร้อมทั้งจับสายยางไว้ก่อนจะแย่งมาหมายจะฉีดใส่เด็กสาวกลับแต่กลับเหลือบไปเห็นพี่ชายของเพื่อนสาวซะก่อน ผู้การหนุ่มจึงปล่อยให้ยัยเด็กแสบฉีดน้ำใส่อย่างมีความเจ้าเล่ห์ “พริกหวานหยุด นี่มันอะไรกันไปฉีดน้ำใส่ธามเข้าทำไม” พันตำรวจเอกเพชรดนัยหรือผู้กำกับเพชร เอ่ยบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงเข้ม หลังจากที่เดินออกมาเห็นลูกสาวกำลังใช้สายยางฉีดน้ำใส่เพื่อนน้องสาวที่ตนสนิท “ทำไมเสียมารยาทแบบนี้ ขอโทษพ่อธามซะ พ่อจะไม่ถามถึงสาเหตุที่มาของการกระทำเพราะถึงยังไงพริกหวานก็เป็นเด็กพ่อธามเป็นผู้ใหญ่ เราไม่ควรเสียมารยาท ควรมีสัมมาคารวะ ขอโทษพ่อธามซะแล้วก็ไปหาเสื้อผ้าของพามมาให้พ่อทูนหัวของลูกเปลี่ยนที่ห้องพัช” ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกพร้อมทั้งสั่งสอนจนยืดยาว “หนูขอโทษค่ะ คุณลุ คุณอาธาม” พิมพ์ลภัสเอ่ยขอโทษพร้อมทั้งยกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ‘ถ้าไม่ติดที่กลัวคุณพ่อดุเธอจะไม่มีทางขอโทษแถมจะเรียกคุณลุงไปเลย อีตาลุงเจ้าเล่ห์ พอเห็นว่าคุณพ่อมารีบปล่อยสายยางทันที กะจะให้เธอถูกดุสินะ เห็นเงียบๆเนี่ยร้ายกาจนัก’ “พ่อธาม ไม่ใช่อาธาม” เพชรดนัยเอ่ยเสียงเข้มใส่ลูกสาวอีกครั้งเมื่อแม่ตัวดีไม่เรียกตามที่ตนเรียก “พี่พะ” “ธามไม่ต้อง พี่ขอ” ธนกฤตที่จะค้านถูกห้ามไว้จนต้องหุบปากลง ‘เฮ่อ จะบอกว่าไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่พ่อแต่พี่เพชรฟังที่ไหนล่ะ’ “ขอโทษค่ะพ่อธาม” คนถูกพ่อดุเอ่ยกับพ่อทูนหัวอย่างกัดฟันถ้าไม่ติดที่บิดาบังเกิดเกล้ายืนอยู่ตรงนี้แถมยังมีท่าทีเทิดทูนชายหนุ่มราวเทพเจ้าเธอจะเอาคืนเขาให้สาสม “ไม่เป็นไรหรอกอาไม่ถือ เธอยังเด็กอาจจะไร้มารยาไปบ้าง พ่อแม่สอนไม่จำไปบ้าง ดื้อบ้าง ไม่มีกาลเทศะไปบ้าง อาเข้าใจ” ธนกฤตเอ่ยบอกอย่างต้องการแขวะ ‘เขาพูดน้อยจนบางทีไม่พูดแต่ถ้าลองได้พูดสิคนฟังมีจุก’ คนถูกด่าทางอ้อมกำหมัดแน่น ‘อีตาลุงเจ้าเล่ห์’ “เอาล่ะๆ ถือว่าจบนะ พี่ขอโทษแทนพริกหวานด้วย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเจ้าพัชก่อนแล้วกัน”เจ้าของบ้านเอ่ยบอกก่อนจะกอดคอน้องชายคนสนิทเข้าไปในบ้านอย่างไม่สนใจลูกสาว เขาไม่ได้เจอธนกฤตมานานแล้วจำได้ว่าครั้งล่าสุดก็งานแต่งงานน้องชายเขาที่เป็นพี่ชายอีกคนของพรปวีร์เมื่อ16ปีก่อนแต่ธนกฤตก็ยังเป็นผู้มีพระคุณในสายตาเขาและครอบครัวเสมอ พิมพ์ลภัสมองประตูห้องนอนของพชรหรือพัชพี่ชายที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจหลังจากที่ไปเอาเสื้อผ้าของพาทิศหรือพามพี่ชายคนโตตามคำสั่งของบิดา ปกติเธอชอบที่จะเข้าห้องนี้และดีใจที่ได้เข้าไปต่างจากตอนนี้เพราะข้างในมันมีอีตาลุงเจ้าเล่ห์อยู่น่ะสิ เด็กสาวถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะประตู ก็อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะเปิดเข้าไปสายตาคมมองไปในห้องก่อนจะปะทะเข้ากับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของใครบางคน 'อัยยะ แค่ข้างหลังยังดูดีขนาดนี้แล้วข้างหน้าล่ะ' เด็กสาวขบคิดตามประสาเด็กวัยรุ่นและแล้วเธอก็ได้ข้อกระจ่างในความคิดเมื่อชายหนุ่มหันกลับมามองมัดกล้ามแน่นๆจากการฝึกหนัก ผิวสีขาวผ่องที่ดูไม่ดำคล้ำทั้งที่ตากแดดตากลมทุกวัน และกล้ามท้องเป็นลอนงามที่ได้จากการฝึกและการออกกำลังกายของเขาทำให้เด็กสาวเผลอกลืนน้ำไหลลงคอ ‘คนอะไรสมบูรณ์แบบไปหมดเลย โอ๊ย ทำไมอีตาลุงนี่ต้องมีทุกอย่างเหมือนชายในฝันของฉันเลยนะ หล่อ เท่ ขี่บิ๊กไบท์ ทหารเรือ ซีล โอ๊ย เปลี่ยนนิสัยอิตาลุงนี่ได้คงดี’ “ยัยเด็กลามก เป็นสาวเป็นนางใครสั่งสอนให้มามองผู้ชายแก้ผ้าฮ๊ะ” คนถูกมองอย่างเคลิ้มฝันเอ็ดเสียงดัง ทำให้เด็กลามกตื่นจากภวังค์ “ชิ หนูจะเคลิ้มกว่านี้ถ้าลุงพูดเพราะๆ อีตาลุงธามเอ๊ย เอาไปเลยแค่สมบูรณ์แบบแต่ปากแบบนี้หนูไม่เก็บมาเคลิ้มหรอก” คนคิดไม่ซื่อกับร่างกายแกร่งเอ่ยบอกก่อนจะยื่นเสื้อผ้าให้แต่ก่อนจะได้ก้าวออกไป หญิงสาวก้มลงมองรองเท้าตัวเองที่รีบมากจนกระทั้งลืมถอดออกก่อนจะเห็นว่าเชือกรองเท้าหลุด เด็กสาวจึงย่อตัวลงไปผูกก่อนจะลุกขึ้น แต่ทันใดนั้น… “กรี๊ด อีตาลุงโรคจิต” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนจะปิดตาวิ่งออกไปเมื่อขณะที่เธอจะลุกขึ้นผ้าเช็ดตัวที่ปกคลุมท่อนล่างสมบูรณ์แบบของธนกฤตไว้ก็หลุดออกเผยให้เห็นเจ้ามังกรยักษ์ที่ซ่อนอยู่ด้วยความที่เจ้าตัวไม่ได้สวมใส่กางเกงชั้นในเพราะมันเปียกมาก “อร๊ายยย ฉันจะเป็นตากุ้งยิงไม่เนี่ย อึย” เด็กสาวได้แต่พึมพำ ใบหน้าแดงกล่ำอย่างเขินอายพร้อมสะบัดหน้าไปมาให้ลืมภาพติดตา ‘โอ๊ย ไอ้มังกรยักษ์ออกไปจากหัวฉานนนน อร๊ายยยยพริกหวานอยากตาย’ “เด็กน้อยเอ้ย” เจ้าของมังกรยักษ์เอ่ยกับตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างเอ็นดู ใบหน้าตกใจของเด็กสาวช่างอันตรายต่อใจเขาจริงๆ ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ตตัวผืนหนาขึ้นมา ‘แกจะมาหลุดทำไมต่อหน้าเด็กมันวะไอ้ผ้าเช็ตตัว เด็กนั้นไม่เพี้ยนไปเลยรึไง’ หลายวันต่อมา “กรี๊ดดดดดดด ออกไปจากหัวฉันได้แล้ว” พิมพ์ลภัสเอ่ยตะโกนขณะที่ยืนอยู่บนหาดทรายบนเกาะสมุย เธอและเพื่อนๆมาเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวโดยมีพาทิศ พี่ชายคนโตเป็นผู้สนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายเดินทางมาควบคุมพฤติกรรม “พริกหวาน เราว่าเธอไปเช็คสมองมะ” กรรณิการ์ ธาราราช หรือ ข้าวฟ่าง เพื่อนสนิทสุดที่รักของพิมพ์ลภัสเอ่ยขำขัน การได้ตะโกนดังๆปล่อยให้เสียงล่องลอยไปกับทะเลคือสิ่งที่ดีแต่ยัยคนนี้นึกบ้าอะไรถึงได้แหกปากส่งเสียงกรี๊ดออกมา แถมเธอยังไม่เข้าใจความหมายของประโยคที่พิมพ์ลภัสตะโกนอีกด้วย “เช็คสมองทำไมหะ อยากโดนดีใช่มะข้าวฟ่างนี่แน่ะๆ” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนที่จะหันกลับมาจักจี้คนบ้าจี้ก่อนที่จะหันไปเรียกเพื่อนๆอีกสามสี่คนที่นั่งเล่นอยู่ใต้ร่มไม้ “นี่พวกเธอมาช่วยเราหน่อย” “เฮ้ยไม่เอา ฮ่าๆๆ พอแล้วอย่ารุมดิ ฮ่ะฮ่าฮ่า โอ๊ยพอแล้ว” กรรณิการ์พูดก่อนที่จะขอความเมตตาจากเพื่อนๆ “ไม่เอาดิ ไปจี้ยัยพริกหวานดีกว่า นะๆเราจะหาตั๋วคอนเสิร์ตโอปป้าแดนเกาหลีให้คนละใบเลย” “เฮ้ยๆไม่เอาดิ ไอ้พวกติ่งเกาหลีออกไปน๊าาาาา” พิมพ์ลภัสที่กลายเป็นเป้าหมายจักจี้เอ่ยพร้อมทั้งวิ่งหนีบรรดาติ่งเกาหลีที่ถูกเจ้าแม่ติ่งโอปป้าตัวยงเอาตั๋วคอนเสิร์ตนักร้องเกาหลีมาล่อ “ไม่เอานะ อุ๊ยดูนั้นกัปตันยู” “ฮ่ะฮ่ะฮ่า ติ่งทั้งหลายหลอกง่ายจัง ไปดีกว่าแบร่” พิมพ์ลภัสเอ่ยหลังจากที่หลอกให้เพื่อนๆหันไปมองทางอื่นได้ก่อนที่จะวิ่งหนีโดยที่คนถูกหลอกวิ่งตาม เด็กสาวที่เอาแต่มองเพื่อนไม่ได้มองทางจนทำให้วิ่งไปชนเข้ากับร่างสูงใหญ่จนตัวเองล้มตึงลงไปบนพื้นทราย เป็นรอบที่สามในรอบสองอาทิตย์ที่เธอล้มลงมากอง ก้นกระแทกพื้นอีกแล้ว “โอ๊ย! กรรมอะไรของเธอเนี่ยพริกหวาน สามครั้งแล้วนะในสองอาทิตย์เนี่ย” พิมพ์ลภัสเอ่ยโวยวายใส่ตัวเองก่อนที่จะหันมองคนที่ตนวิ่งมาชนหมายจะขอโทษแต่เมื่อเมื่อค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองภาพเหตุการณ์วันที่เจอมังกรยักษ์ก็ลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง เพราะคนที่ยืนอยู่ก็คือธนกฤตนั่นเอง “พิมพ์ลภัส นี่พิมพ์ลภัส เฮ้” ธนกฤตเอ่ยเรียกคนที่นั่งอึ้งหลังจากเงยหน้ามามองตน ก่อนที่จะก้มลงมองชุดว่ายน้ำทูพีชของเด็กสาวอย่างตกตะลึง 'เป็นอะไรไปอีกล่ะเนี่ย ให้มันได้อย่างนี้สิ เดี๋ยวนะ เด็กมัธยมสมัยนี้เขาใส่ชุดว่ายน้ำกันขนาดนี้แล้วเหรอ โอ๊ยจะบ้าตาย เด็กนี่ขาวชะมัด แถมยัง ชิบหายไปมองนมเด็กทำไมวะ' “กรี๊ด! อีตาลุงโรคจิต” พิมพ์ลภัสที่ได้สติเห็นคนก้มหน้ามองหน้าอกของตนเอ่ยก่อนที่จะลุกขึ้นผลักอกอีกฝ่ายจนล้ม “โอ๊ยยัยพริกขี้หนู คนหรือช้างวะแรงมากเสียจริง” ธนกฤตบ่นเสียงดังจนคนถูกหาว่าแรงมากถึงกับฉุนกึกกระโดดลงไปใส่ร่างของชายหนุ่มก่อนที่จะบีบคออีกฝ่ายแต่ไม่ได้บีบแรงมาก กรรณิการ์และเพื่อนๆของพิมพ์ลภัสมองอย่างไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะจำได้ดีว่าชายคนนี้คือทหารเรือที่ไปแนะแนวที่โรงเรียนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน “เล่นขนาดนี้เลยเหรอแม่หนู เดี๋ยวพ่อฟาดก้นซะนี่” คนถูกบีบคอหาได้เจ็บแต่กลับรู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูกเอ่ย “ฟาดก้นเหรอ ฝันไปเถอะ นี่แน่ะๆ ไอ้คนโรคจิต” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนที่จะดึงหูอีกฝ่ายไปมา “เฮ้ยๆ ใครกันแน่โรคจิตแม่หนู จริงๆเราก็ถือว่าหายกันนะ เธอเห็น จุด จุด จุดของอา ส่วนอาก็แค่เหลือบเห็นเนินอกแบนๆของเธอ” ธนกฤตเอ่ยบอกอย่างต้องการกวนประสาท “หายกันเหรอ แบนๆงั้นเหรอ ฮึ้ย ตายซะเถอะอีตาลุงธามมาย” เด็กสาวผู้ถูกหาว่าเนินอกแบนๆเอ่ยก่อนที่จะดึงหูอีกฝ่ายแรงขึ้นก่อนที่จะบีบคออีกฝ่าย ธนกฤตหาได้รู้สึกอะไรกับแรงอันน้อยนิดของอีกฝ่ายชายหนุ่มพลิกตัวขึ้นนั่งทำให้เด็กสาวล้มลงคลุกดินก่อนที่จะลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้ากันก่อนที่จะยิ้มออกมา “ได้ยินจากยัยพลอยมาว่า ลูกสาวฉันบ้าจี้ถ้าจี้ที่สะเอว ลองหน่อยมั้ยลูกสาว” ธนกฤตเอ่ยก่อนที่จะจั๊กจี้ที่สะเอวของฝ่าย “ฮ่ะฮ่ะฮา อีตาลุงนิสัยไม่ดี หนูไม่ใช่ลูกสาวลุงนะ ฮ่ะๆๆ ปล่อยหนู ปล่อย” คนถูกจี้จุดอ่อนหัวเราะไปค้านอีกฝ่ายไป “อ้าวเหรอ ก็เห็นพ่อเธอกับอาเธออยากให้เป็นนักนิ มามะลูกสาวมาเล่นกับพ่อทูนหัวหน่อย” ธนกฤตเอ่ยก่อนที่จะแกล้งคนตัวเล็กอย่างเมามันแต่ก็ไม่ได้แกล้งเอาเป็นเอาตายแกล้งเอาเป็นเอาตาย เพราะไม่อยากมีปัญหากับแม่เพื่อนสาวที่พักอยู่บนห้องเพราะท้องเสียตั้งแต่เช้าโดยมีพีรวัศดูแล 'ยัยพลอยจะรู้มั้ยว่าหลานสาวสุดที่รักมาเที่ยวกับเพื่อนที่นี่ หรือที่ยัยนั้นชวนพวกเขามานี่เพราะอยากตามมาหาหลานสาว' “ฮือๆ อีตาลุงขี้แกล้ง ฮือๆ หนูจะฟ้องพี่พาม จะโทรไปฟ้องอาพลอยด้วย ฮือๆๆ” คนที่เพิ่งหัวเราะอยู่หยกๆอยู่ๆก็ร้องไห้ออกมาจนคนแพ้น้ำตาผู้หญิงถึงกับอึ้งไป “เฮ้ยแม่หนูไม่ร้องสิ พอแล้วอาไม่แกล้งแล้วอย่าร้อง ไม่เอา” คนแพ้น้ำตาผู้หญิงเอ่ยก่อนที่จะยกมือออกจากเอวของเด็กสาวทันใดนั้นคนที่ร้องไห้อยู่ก็ยิ้มร่าออกมา “หึหึหึ พ่อทูนหัวขา ไม่ได้มีแต่พ่อทูนหัวขาหรอกนะที่รู้จุดอ่อนหนู หนูก็รู้ว่าพ่อทูนหัวขาน่ะแพ้น้ำตา ข้าวฟ่าง น้ำมนต์ ส้มจี๊ด เดียร์และทุกคนมาช่วยเราหน่อยเราจะเอาทรายมาก่อกองทรายบนตัวนายทหารเรือ” “ยัยตัวแสบ เฮ้น้องๆปล่อยนะ” คนถูกหลอกเอ่ยก่อนที่จะพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับล็อคแข้งล็อคขาราบกับพื้นทรายแต่ก็ไม่กล้ารุนแรงเพราะคนที่จับล็อคมีแต่เด็กสาวทั้งนั้น เวลาต่อมา “เฮ้ย ยัยน้องทำไมทำกับอาธามแบบนั้น” พาทิศเอ่ยอย่างตกใจเมื่อเดินมาหาน้องสาวเเล้วเห็นพ่อทูนหัวของน้องสาวนอนอยู่ในกองทรายโดยยัยน้องสาวตัวดีนั่งอยู่แถวหน้าท้องมือถือลิปสติกละเลงบนหน้าของอีกฝ่ายโดยมีเพื่อนสาวอีกหลายคนคอยช่วยออกความคิดเห็น “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ลุกพี่จะโทรหาอาพลอย อาพลอยก็มานี่ เอาสิทำกับเพื่อนอาพลอยแบบนี้โดนดีแน่” คนเป็นพี่เอ่ยเสียงเข้มจนคนเป็นน้องหน้าจืดลงแล้วลุกขึ้นทันที “อาธาม ผมขอโทษแทนน้องด้วยนะครับ น้องยังเด็ก ใครเป็นคนคิดเอาทรายมากองทับตัวอาธามบอกมา” พาทิศเอ่ยขอโทษคนที่นอนปลงอยู่ใต้กองทรายก่อนที่จะหันมาถามเด็กสาวที่ไปยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ข้างๆพิมพ์ลภัส “ไม่เอานาพาม เด็กๆก็เล่นกันไปตามประสาเด็กแหละอาไม่โกรธหรอก เราไปดูอาเราเถอะยังอาการหนักไม่น้อยเมื่อคืนไม่รู้ไปดวลอะไรกับนายเพลิงนายพี” ธนกฤตเอ่ยบอกอย่างไม่ถือสา แม้จะโกรธบ้างในตอนแรกแต่พอเห็นหน้าซีดๆของเด็กสาวทำเอาเขาใจอ่อนยวบไม่อยากให้เธอโดนบ่นขึ้นมาเลย “ไม่ได้ครับ คนทำผิดต้องชดใช้ความผิด ข้าวฟ่างกับเพื่อนๆไปพักที่ห้องไป ส่วนยัยน้องมาเอาทรายออกจากตัวอาธาม แล้วก็ล้างหน้าให้อาธามด้วย พี่พามจะไปดูอาพลอยถ้าพี่พามกลับลงมาอาธามยังอยู่ในกองทราย หรือหน้ายังมีรอยเครื่องสำอางพี่จะลงโทษเรา” พาทิศเอ่ยบอกก่อนที่หันมามองน้องสาว “รับทรายมั้ยคะ” “รับทรายแล้วค่ะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยก่อนที่จะนั่งลงข้างๆกองทราย พาทิศมองก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมๆกับกรรณิการ์และเพื่อนๆคนอื่นของพิมพ์ลภัส หลังจากพาทิศเดินออกไปคนผิดก็ค่อยๆนำทรายออกจากร่างของธนกฤตโดยไม่ได้พูดอะไร ธนกฤตมองครู่หนึ่งก่อนที่จะใช้แรงขยับลงขึ้น “แค่พี่ชายบ่นแค่นี้อย่าทำหน้าแบบนี้สิ อะไรกันกลัวพามหรอกเหรอ” ธนกฤตเอ่ยราวกับยั่วโมโห เพราะไม่อยากให้เธอทำหน้าซึมๆ “ใครกลัว พิมพ์ลภัสไม่เคยกลับใคร” คนตัวบางสวนขึ้นทันทีก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “ต่อให้ร้อยพี่พามก็ทำอะไรหนูไม่ได้ ลุกขึ้นยืน เดี๋ยวพาไปล้างหน้า” ธนกฤตแอบลอบยิ้มก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเธอไป พิมพ์ลภัสจัดการช่วยล้างเครื่องสำอางออกจากไปหน้าคมเข้มก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไปห้องพักของตัวเอง สองชั่วโมงต่อมา “ช่วยด้วยๆ พริกหวานจมน้ำ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยเพื่อนพวกหนูที” เสียงร้อยตะโกนจากริมชายหาดทำให้ธนกฤตที่ออกมานั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ริมชายหาดต้องลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปทางต้นเสียง “เกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มเอ่ยถามเด็กสาวที่ยืนอยู่ริมชายหาดที่ร้องตะโกน ซึ่งเขาจำได้ว่าเธอคือกรรณิการ์ เพื่อนสนิทของพิมพ์ลภัสและเพื่อนคนอื่นๆ “พริกหวานจมน้ำค่ะ คงเป็นตะคริวนั่นไงคะ พี่ไปช่วยพริกหวานทีนะคะ” กรรณิการ์เอ่ยบอก ธนกฤตหันไปมองมือบางที่ตะเกียกตะกายใกล้จะจมลงไปในน้ำทะเลก่อนที่จะวิ่งลงไปช่วยทันที “แค่กๆ” “ไม่เป็นอะไรนะพิมพ์ลภัสเดี๋ยวอาจะพาขึ้นฝั่ง” ธนกฤตเอ่ยบอกคนที่สำลักน้ำแค่กๆอยู่ในอ้อมกอดก่อนที่จะพาเด็กสาวขึ้นฝั่งอย่างง่ายดาย “แค่กๆ” เสียงไอจากการสำลักน้ำยังคงเป็นสิ่งเดียวที่เกิดกับพิมพ์ลภัสจนกระทั่งผู้เป็นพี่ชายวิ่งมาดูอาการพร้อมกับอาสาว “ขอบใจมากนะธาม นายช่วยพริกหวานไว้อีกแล้ว” พรปวีร์เอ่ยบอกอย่างซาบซึ้งก่อนที่จะเดินตามพาทิศที่อุ้มหลานสาวไปพักที่ห้อง ธนกฤตมองตามก่อนที่จะกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ค่ำวันนั้น ก็อกๆๆ ร่างบางในชุดเสื้อยืดเอี้ยมกระโปรงยาวยืนเคาะประตูห้องของคนที่ช่วยไว้ก่อนที่จะรอให้อีกฝ่ายเปิดประตู เธออยากจะขอบคุณเขาที่ช่วยเธอไว้พอรู้สึกดีขึ้นเธอจึงมาที่นี่เพื่อขอบคุณเขา “น้องครับ คุณธนกฤตที่อยู่ห้องนี้เช็คเอ้าท์ออกไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วครับ เขายังฝากให้บอกเพื่อนๆเขาด้วยว่าเขาติดธุระ” พนักงานที่เดินผ่านมาเอ่ยบอก “เช็คเอ้าท์ออกไปแล้วเหรอคะ เอ่อ ขอบคุณค่ะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อก่อนที่จะขอบคุณที่บอกแล้วเดินออกไปอย่างเสียดาย' หวังว่าจะได้เจอกันและขอบคุณลุงนะ อีตาลุงธามมาย'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD