ตอนที่14

3087 Words
        กลุ่มของโยธกาเองก็เช่นกัน ห้องคาราโอเกะในห้างกำลังถูกแหกปากร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีแอลกอฮอล์บ้างนิดหน่อยพอเรียกเลือดให้สูบฉีด พากันร้องกินไปจนกระทั่งมีสายเรียกเข้ามา โยธกาหยิบมือถือออกมาก่อนจะลุกออกจากที่นั่ง ไม่วายที่จะมีเสียงแซวไล่หลังตามมา "โห้ยย อิจฉาคนมีแฟนเว้ย ไอ้โย ชวนพี่เขามาเปิดตัวแนะนำหน่อยสิวะ" ไอ้เต้ หรือเตชิตเพื่อนชายในกลุ่มพูดแซวให้เพื่อนคนอื่น หัวเราะโห่ทั้งยังเออออเรียกร้องไปด้วย โยธกาส่ายหน้ายิ้มก่อนเปิดประตูออกไป ด้วยความที่เธอกดรับสายไปแล้ว เสียงทุกอย่างจึงดังเข้าเครื่องให้คนปลายสายได้ยินไปด้วย "ฮัลโหล พี่คะ" "ยังอยู่ค่ะ พากันเมาแล้วหรือเปล่าคะ เสียงดังเชียว" คนเป็นพี่ตอบกลับมาชัชญาได้ยินทั้งหมด แม้แต่คำที่เจ้าเด็กถูกเพื่อนแซวนั่นแหละ ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกออกจะเขินด้วยซ้ำไป "ไม่ได้เมาหรอกค่ะ โยกินนิดหน่อยแค่นั้น ส่วนเพื่อนมันก็ปากมอมอย่างนั้นแหละค่ะ แล้วพี่กินอะไรยัง" "กินบะหมี่เกี๊ยวน่ะ แล้วพากันอยู่ดึกหรือเปล่า" "ไม่ดึกหรอกค่ะ จองไว้แค่สามชั่วโมงอีกชั่วโมงก็หมดเวลาแล้ว" ชัชญามองเวลาตอนนี้ก็ทุ่มนึงแล้ว "ค่ะไม่กลับดึกก็ดี งั้นก็ไปสนุกกับเพื่อนเถอะ" "พี่จ๋า คืนนี้โยมาค้างด้วยได้มั้ยอ่ะ เนี่ยอ่อนแรงไปหมด เพราะพลังงานไม่ได้ชาร์จนานแล้ว นะคะ" น้ำเสียงออดอ้อนพาให้คนได้ฟังอดขำไม่ได้ จะว่าไปก็เป็นเดือนแล้วเหมือนกัน ที่เราได้แค่พูดคุยกันผ่านมือถือ "ตามใจค่ะ มาถึงก็โทรขึ้นมาแล้วกัน" "ค่ะ นางฟ้าเค้าน่ารักที่สุด" ชัชญาวางสายพร้อมกับรอยยิ้ม เจ้าเด็กช่างปะเหลาะขี้อ้อนก็ปานนั้น "ปากจะฉีกถึงหูแล้วแก" น้ำเสียงแซวปนหมั่นไส้ของเพื่อนหญิงเอ่ยขึ้นทันทีที่กลับเข้ามานั่งในห้อง "ก็คนเขามีความสุข แกจะให้ฉันร้องไห้หรือไงล่ะ" "นี่ตกลงแกมีแฟนจริง ๆ ใช่มั้ยโยเย" กิ๊บกี๋เพื่อนอีกคนเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง โยธกาอมยิ้ม "ก็ยังไม่ได้ใช้สถานะนั้นหรอก พี่เขาบอกเรียนให้จบก่อน ค่อยขอเขาเป็นแฟนก็ยังไม่สาย" โยธกาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มกริ่ม เมื่อนึกถึงคำพูดของคนเป็นพี่ ตอนที่พี่เขาไปค้างกับเธอหลายคืนนั่นแหละ  "แหม พี่เขาช่างเป็นคนดีห่วงการเรียนแกจะตกต่ำ เพราะมัวแต่หมกมุ่นกับเรื่องความรัก" ฮ่า ๆ โยธกาหัวเราะไปกับคำพูดของเพื่อน เพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ พี่เขาบอกแบบนั้นแหละ ถึงสถานะจะยังไม่ได้ใช้คำว่าแฟน แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอสักหน่อย ก็ในเมื่อพี่เขาตามใจเธอเสมอโดยเฉพาะเรื่องขอเติมพลังงานให้กันนี่ไง      หลังหมดชั่วโมงที่จองห้องไว้โยธกาเอ่ยขอตัวกับเพื่อนทันที แม้ว่าจะโดนพวกมันแซวยังไงก็เถอะ เธอไม่อยากให้พี่ต้องมาพลอยนอนดึกเพราะรอกัน ดีว่าเป็นเวลาที่รถราบนถนนไม่ค่อยติดแล้ว เธอเลยใช้เวลาจากห้างมาถึงที่พักพี่เขาเพียงครึ่งชั่วโมง  ชัชญาลงมาเปิดประตูตึกให้ก็มองคนที่ยืนยิ้มเผล่ "กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเหรอคะ" โยธกาก้มมองชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ก็ส่ายหน้า "เปล่าค่ะ พวกเราเปลี่ยนมาจากมหาลัยน่ะ ไม่เคยใส่ชุดนักศึกษาไปกินเที่ยวสักทีหรอกค่ะ เผื่อเกิดไปทำอะไรไม่เหมาะสมเดี๋ยวเสียชื่อสถาบันหมด" ชัชญาได้ฟังก็ถึงกับยิ้ม มองเจ้าเด็กที่เดินเกาะแขนแทบจะนัวเนียกันเดินอยู่แล้ว ก็ถือว่าเด็กกลุ่มนี้รู้จักคิดนะอย่างน้อยก็ยังห่วงไปถึงภาพลักษณ์สถาบันตัวเอง  "ไปอาบน้ำก่อนค่ะ" คนเป็นพี่บอกเมื่อเข้ามาในห้องแล้วอีกคนทำท่าจะปรี่เข้ามากอดกัน ให้เจ้าเด็กทำเป็นก้มดมตัวเองฟุดฟิต ก่อนจะเงยหน้าหัวเราะ ก็ไม่ได้เหม็นนี่นา "ดีนะที่ไม่มีกลิ่นบุหรี่ติดมาด้วย" ชัชญามองตามคนที่เดินไปวางเป้ไว้แล้วเปิดตู้ค้นหาเสื้อผ้าตัวเอง ไม่รู้ว่าเด็กมันแอบวางแผนอะไรไว้ก่อนแล้ว ถึงได้ขนเสื้อผ้ามาไว้ที่นี่หลายชุด ปล่อยให้น้องจัดการตัวเองไปเธอก็นั่งพิงหัวเตียงดูหนังไปเรื่อย จนกระทั่งเจ้าเด็กตัวสูงมาทิ้งตัวขวางที่นอนเอาหัวมาหนุนตักกัน รอยยิ้มสดใสจ้องมองมาพร้อมกับมือเธอ ที่ถูกน้องจับไปแนบแก้มเย็นชืด และความอุ่นร้อนผ่าวก็แล่นปราดไปกระแทกใจ เมื่อน้องกดริมฝีปากจูบที่หลังมือ "คิดถึงที่สุดเลยค่ะ" ชัชญามองคนที่ส่งสายตาหวานกว่าปกติมาให้  "นี่ดื่มไปกี่แก้วคะ" คนน้องหัวเราะ "โยดื่มเบียร์ไปสองแก้วเองค่ะ ไม่ได้เมาสักหน่อยสติยังสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ" พูดจบก็ขยับตัวเข้ามาโอบกอดเอวซบหน้าท้องคนที่นั่งอยู่ ชัชญายกมือลูบหัวเจ้าคนขี้อ้อนที่ทำตัวแปลก ๆ "พี่เป็นเหมือนพลังงานชีวิตของโยเลย แค่ได้อยู่ใกล้ได้กอดแบบนี้ โยก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ" ใบหน้าใสผละออกมาเอ่ยกับคนที่มองกันอยู่ ชัชญาฟังแล้วอดยิ้มไม่ได้ "ขนาดนั้นเลยเหรอคะ แล้วเมื่อก่อนเวลาเหนื่อยไปกอดใคร" น้องมองหน้าเธอแล้วอมยิ้ม "ไปอ้อนป๊ากับม๊าสิคะ ถึงจะได้พลังงานไม่สดชื่นเท่าพี่แต่ก็อบอุ่นใจ แต่พลังงานจากคนนี้ เหมือนน้ำที่รดต้นไม้ที่เหี่ยวเฉากำลังจะตายให้ฟื้นคืนชีพเลยค่ะ" ยิ่งฟังคำเปรียบเทียบชัชญาก็ยิ่งขำ "ขำทำไมคะ โยไม่ได้พูดเล่นนะ" "เปล่า พี่แค่ไม่คิดว่าเราจะเปรียบเปรยอะไรแบบนี้น่ะ" "ก็โยรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ นี่นา ว่าแต่ที่รับปากไว้เรื่องเกรดน่ะ ต้องรอผลออกหรือเปล่าคะ" "ก็ต้องรอสิคะ ผลไม่ออกพี่จะรู้ได้ยังไงว่าเด็กคนนี้ทำคะแนนได้เท่าไหร่น่ะ ขนาดว่าผลยังไม่มาพี่ยังตามใจขนาดนี้เลย จะซีเรียสอะไรอีก หืม" คนเป็นน้องยิ้มหน้าเป็น "ก็อยากใช้เวลากับพี่เยอะ ๆ นี่คะ" "พี่ก็ไม่ได้หนีหายไปไหนนี่ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ไปค้างกับเราอยู่ดี" "อืม ว่าแต่พี่ทำงานถึงวันไหนคะแล้วเปิดงานวันไหน" "ทำถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดน่ะแหละ ปีนี้ดีที่มันเป็นวันหยุดติดกันที่จริงก็เปิดงานวันที่สอง แต่พี่ทำเรื่องลาพักร้อนล่วงหน้าไว้แล้ว สองวันที่เหลือก็เลยได้หยุดทั้งอาทิตย์ค่ะ" "ดีจัง แบบนี้โยก็ได้ใช้เวลากับพี่หลาย ๆ วันเลย ก่อนเปิดเทอม กลับจากวังน้ำเขียวโยไปค้างกับพี่ที่บ้านนะ" ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะห้ามไม่ให้น้องไปนี่นะ สุดท้ายก็ต้องตามใจเหมือนเคย "นอนดีกว่าค่ะสี่ทุ่มแล้ว พี่ยังต้องไปทำงานไม่ได้ปิดเทอมเหมือนเด็กแถวนี้" หึ ๆ "แต่โยก็จะตื่นออกไปพร้อมพี่อยู่ดีแหละ" ตั้งแต่ครั้งที่ไปค้างด้วยกันล่าสุด การที่เรานอนกอดกันทั้งก่อนหลับและตื่น มันเลยกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วตอนนี้ สถานะอะไรไม่สำคัญ แต่การกระทำมันล้ำสถานะไปมากแล้วล่ะ     ช่วงสัปดาห์แรกของการปิดเทอม คนอื่นอาจจะไปเที่ยวเล่นพักผ่อน หรือบางคนก็อาจจะไปหางานพิเศษพาร์ทไทม์ทำก็ว่ากันไป สำหรับโยธกาถึงจะไม่ได้ออกไปหารายได้นอกบ้าน แต่เธอก็มีงานตัวเองที่ต้องทำเหมือนกัน ทุกวันจึงไม่ได้หยุดพักอย่างที่ควรจะเป็น เวบไซต์ส่วนตัวที่เขียนไว้ตั้งแต่เริ่มเรียนปีหนึ่ง จนถึงวันนี้มันสร้างรายได้ต่อเดือนให้เธอมากกว่าเงินเดือนเด็กจบใหม่ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นค่าโฆษณาที่มาลงในเวบ และรายได้จากการโหลดโปรแกรมหลายอย่างที่เธอเขียนขาย ที่มีให้โหลดฟรีก็มีเหมือนกัน และก็ไม่มีใครรู้สักคน ว่าเจ้าของเวบไซต์ที่มีการค้นหาติดหน้าแรกของกูเกิ้ลนั้นคือเธอที่เป็นเจ้าของ เพราะคนในครอบครัวรับรู้แค่ว่าเธอมีรายได้จากการรับเขียนเวบไซต์ กับเขียนโปรแกรมบางอย่างขายแค่นั้น วันทั้งวันก็หมดไปกับการเขียนบล็อคบ้าง อัพเดตโปรแกรมมั่งจนกระทั่งหมดสัปดาห์      เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการทำงานในปีนี้ พนักงานบริษัทหลาย ๆ ที่ก็คงจะมีสภาพไม่ต่างกัน คือต้องเร่งเคลียร์งานที่คั่งค้างกันให้เสร็จก่อนจะหยุดยาวในช่วงเทศกาล และชัชญาก็เช่นเดียวกันที่ต้องกลับดึกในสัปดาห์นี้ เธอก็เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเหตุใดคืนนั้นลุงรปภ.ถึงมีสีหน้าท่าทางแปลก ๆ เพราะเดือนถัดมาแกเข้างานกะกลางวันแล้วบังเอิญจำเธอได้ แกก็เลยทักแถมแซวอีกต่างหากว่าได้แฟนน่ารักมาก ซื้อของกินมาฝากแกกับเพื่อนทุกวันที่มารับเธอ "ลุงก็เพิ่งเห็นนี่ล่ะว่าสาว ๆ เขารักกันมันก็น่ารักน่าเอ็นดูดี" นั่นคือคำพูดของลุงที่ทำให้เธอได้แค่ยิ้มตอบกลับไป เจ้าเล่ห์จริง ๆ นะโยเย คงจะไปบอกลุงเขาว่ามารอรับแฟนนั่นแหละ และป่านนี้น้องก็คงมานั่งโม้รอเธอด้านล่างแล้วเหมือนกัน "แฟนมารับเหรอคะคุณเพื่อน" นี่ไงผลจากที่ลุง รปภ.แซวเธอและวันนั้นนิภาพรก็ได้ยินด้วย คราวนี้นางก็ผูกโยงเรื่องไปเองเลย ว่านาฬิกาที่เธอซื้อวันนั้นก็คงเป็นของขวัญให้น้องด้วย ชัชญาไม่ตอบแค่ยิ้มเฉย ๆ "เดี๋ยววันนี้ขอไปดูหน้าคนที่มาพิชิตใจสาวสวยคนนี้หน่อยนะ ที่สำคัญเราจะไปขอบคุณน้องเขาด้วย ที่เขาช่วยเธอจากไอ้พี่นิสัยเสียน่ะ ที่จริงไม่ได้อยากนับญาติหรอกนะ แต่เพราะมันนามสกุลเดียวกันกับพ่อนี่แหละเลยไม่มีทางเลี่ยง" "ช่างเถอะแค่เขาเลิกมาวุ่นวายกับเราก็โอเคแล้ว งานเธอเสร็จแล้วเหรอ" นิภาพรยิ้มแหย เมื่อโดนถามเรื่องงานที่รับผิดชอบ "ก็เหลือเยอะอยู่ แต่เคลียร์ทันน่าอีกตั้งสี่วัน นี่ก็สี่ทุ่มแล้วจ๋าจะกลับตอนไหนล่ะ" "เดี๋ยวเสร็จชุดนี้ก็คงกลับแล้วล่ะ" "โอเค งั้นเราไปเก็บงานเราก่อน" ชัชญามองตามเพื่อนแล้วส่ายหน้ายิ้ม นิภาพรเองแฟนก็คงมารอรับอยู่เหมือนกัน จะว่าไปคู่นี้ก็น่าจะไปด้วยกันได้ดีเห็นบอกว่าปีหน้าอาจจะมีข่าวดี เห็นคนรอบข้างมีความสุขเธอก็ยินดีด้วยนะ เพื่อนอาจโชคดีได้เจอผู้ชายที่ดีก็ได้ มันไม่มีอะไรมาการันตีทุกอย่างได้จริง ๆ นั่นแหละ  "นั่นไงแฟนหนูเลิกแล้ว" โยธกาที่นั่งโม้กับลุงรปภ.คนเดิมหันไปมอง ก่อนจะลุกขึ้นยิ้มส่งให้พี่และก็ผู้หญิงอีกคนที่เดินมาด้วยกัน "โย นี่เพื่อนพี่ เรียกพี่นิแล้วกัน" "หน้าตาน่ารักเชียว มิน่าล่ะเพื่อนพี่ถึงได้หลงเด็ก คิก ๆ เออ พี่ขอบใจเรามากนะที่ช่วยเพื่อนพี่จากคนนั้นน่ะ ไม่งั้นพี่คงรู้สึกผิดมากที่ปล่อยเพื่อนไปกับเขา ที่จริงน้องน่าจะเอาไม้เบสบอลฟาดหน้ามันไปสักทีสองที ให้เลือดชั่วมันออกบ้าง" โยธกาฟังแล้วก็หัวเราะขำ อ๋อ พี่คนนี้คงเป็นญาติกับผู้ชายคนนั้น "ถ้าเขาเป็นฝ่ายเข้ามาทำร้ายโยอาจจะป้องกันตัวนะ แต่ดีที่เขากลัวตำรวจเผ่นไปซะก่อนก็เลยไม่มีการนองเลือด" นิภาพรมองเด็กสาวรูปร่างหน้าตาดีก่อนจะยิ้ม พร้อมโน้มตัวไปกระซิบข้างหูเพื่อน "งานดีมีคุณภาพ" ชัชญาอยากจะขำอยู่เหมือนกันกับคำพูดเย้าแหย่ของเพื่อน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ "เอาอะไรมาฝากลุงเขาอีกคะวันนี้ เหมือนจะเป็นคู่หูกันเลยเน๊าะ เดือนก่อนลุงแกเข้าเช้านะ" "ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็พวกของกินกับเครื่องดื่มชูกำลังนิดหน่อย ผูกมิตรเอาไว้แกจะได้เป็นหูเป็นตาให้โยด้วยไงฮ่า ๆ" "เป็นหูเป็นตาเรื่องอะไรคะ" น้องอมยิ้มก่อนจะหันมาตอบ "ก็แค่ให้แกช่วยดูว่ามีใครมาวอแว หรือลวนลามยุ่มย่ามพี่มั้ยแค่นั้นค่ะ" คนเป็นพี่หัวเราะบ้าง "พูดยังกับว่าลุงเขาจะเห็นพี่ตลอดเวลางั้นแหละ" ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็รู้สึกดี ที่น้องคอยห่วงกันตลอด กลับมาถึงบ้านหรือตึกที่พักก็ตอนสี่ทุ่มครึ่ง รอบนี้ไม่ต้องคอยปั่นผ้าตอนดึกแล้วเพราะชุดสำรองน้องขนมาไว้ให้ถึงห้าชุด ชัชญาอาบน้ำกลับเข้ามาในห้องยังเห็นน้องนั่งอยู่โต๊ะเขียนหนังสือ "ทำงานอยู่เหรอคะ" น้องหันมายิ้ม "ก็ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ พี่ง่วงยังจะนอนเลยก็ได้ งานโยไม่ได้รีบแค่ทำไปเสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น" ชัชญาเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายโน้มตัวไปด้านหน้า สอดแขนสองข้างพาดเป็นท่าโอบกอดคอน้องเอาไว้จากด้านหลัง เอาคางเกยบ่ามองดูหน้าจอคอมที่น้องเปิดค้างอยู่ แอบอมยิ้มกับปฏิกิริยาตัวแข็งทื่อของน้อง ไม่ได้อยากแกล้งหรอกแต่อยากกอดน้องแค่นั้น ส่วนคนที่ถูกพี่กอดไว้ตอนนี้หัวใจเต้นแรงจนกลัวมันจะหลุดกระเด็นออกมานอกอก งือ พี่จะทำให้โยหัวใจวายได้นะ กลิ่นกายหอมสะอาดลอยกรุ่นอยู่แค่ปลายจมูกเท่านั้น เจ้าเด็กมีความรู้สึกเหมือนหูตาพร่ามัวไปโดยฉับพลัน "ทำอะไรบ้างคะในเวบนี้" น้ำเสียงหวานเอ่ยถามชนิดชิดติดใบหูเลยล่ะ เด็กที่กำลังสติหลุดลอยกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะตอบได้ "ก็ทำหลายอย่างค่ะ มันมีทั้งเขียนบล็อค ลงโปรแกรมด้วย อัพเดตโปรแกรมออนไลน์เพิ่มหรือแก้ไขให้มันใช้งานได้ไม่ตกรุ่นน่ะ มีเกมให้เล่นด้วยค่ะ ไว้ถ้าอยากเล่นแก้เบื่อพี่เข้ามาเล่นได้นะเวบนี้น่ะ" "อือหึ แต่ตอนนี้เริ่มง่วงแล้วไปนอนดีกว่าค่ะ" ฟอดด ปลายจมูกพี่กดลงที่แก้มใสของน้อง และมันก็กลายเป็นสีชมพูและแดงเรื่อตั้งแต่ใบหูยันลำคอ ให้พี่กลั้นยิ้มเอาไว้ ผละออกมาทิ้งตัวลงบนเตียงนอน มองเจ้าเด็กที่ยังเงอะงะอยู่หน้าจอคอมอีกหลายนาที กว่าน้องจะปิดเครื่องปิดไฟ แล้วมานอนลงไม่ห่างกัน ชัชญามองน้องผ่านแสงสลัวที่ผ่านเข้ามาก็พรายยิ้ม "พี่ งือ โยอยากทำบ้างได้มั้ยคะ" หืม ชัชญาขมวดคิ้วเมื่อน้องส่งเสียงงุ๊งงิ้งออกมา "ทำอะไรคะ?" เจ้าเด็กขี้เขินแต่ก็แอบเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย มองคนเป็นพี่ที่ตะแคงใบหน้ามาหากัน "ก็ทำแบบที่พี่ทำกับโยน่ะ หือ น้องโยขอทำบ้างได้มั้ย" คราวนี้คนเป็นพี่พอจะเข้าใจแล้วว่าน้องหมายถึงอะไร แต่ก็ยังแกล้งถาม "พี่ทำอะไรคะ" "กะ ก็พี่หอมแก้มน้องโยอ่า งืม น้องโยเขินนะหัวใจเต้นแรงมากเลย" โอ้ย ชัชญาอยากจะขำ ดูซิเขินเธอจนจะเอาหน้ามุดที่นอนอยู่แล้ว ยังมีหน้าอยากจะมาทำเหมือนพี่อีก จะน่ารักไปไหนเด็กคนนี้ "มัวแต่เขินอยู่นั่นแหละ พี่ง่วงแล้วนะ แล้วห้ามแอบทำอะไรตอนพี่หลับด้วย เร็ว จะหอมแก้มไม่ใช่รึไง" เพราะน้องมันแย่งซีนเขินไปหมดแล้วเธอก็เลยเริ่มชินล่ะ เจ้าเด็กฉีกยิ้มกว้างจนตาปิดลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาจดจมูกที่แก้มนุ่มของพี่บ้าง เด็กมันเจ้าเล่ห์บอกแล้วไง ก็กดแช่อยู่หลายวิเชียว ก่อนที่น้องมันจะทิ้งตัวลงมานอนเบียดแล้วรั้งเธอไปกอดเอาไว้ "พี่ทำให้โยหลงรักหัวปักหัวปำแล้วเนี่ย รักที่สุดเลยนางฟ้าของเค้า" ชัชญาระบายยิ้มออกมาเช่นกัน มือบางยกขึ้นลูบผมคนที่ซุกใบหน้ากับซอกคอเธอ "รู้ใช่มั้ยว่าถ้าพี่ไม่รู้สึกอะไรด้วย ก็คงไม่ยอมให้ขนาดนี้" คนเป็นน้องยิ้มกว้างผละใบหน้าออกมาพูด "รู้ค่ะ น้องโยไม่ได้ซีเรียสเลยเดี๋ยวเมื่อไหร่ที่พี่เก็บความรักในใจเอาไว้ไม่ได้ พี่ก็บอกรักโยเองแหละ แต่โยไม่เก็บหรอกนะเพราะมันจุกมันแน๊นอกต้องรีบบอกรักค่ะ" หึ ๆ คนเป็นพี่หลุดหัวเราะกับคำพูดทั้งน่าหมั่นไส้และมันเขี้ยวไปพร้อมกัน เพราะเด็กมันน่ารักนี่แหละคิดว่าเธอจะอดใจไม่รักน้องได้เหรอ แต่ขอเก็บเอาไว้บอกทีหลังแล้วกัน เพราะตอนนี้มันยังไม่จุกอกเธอ จะรอบอกวันที่น้องขอเป็นแฟนมันก็ดูไม่เลวนะว่ามั้ยล่ะ☺ คนที่ซุกกอดพี่หลับตาพริ้มใบหน้าก็เปื้อนยิ้มจนเข้าสู่นิทรา ก่อนหลับก็ยังคิดว่าวันมะรืนเป็นวันคริสต์มาสเธอจะให้ของขวัญพี่เขาวันนั้นแหละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD