2

2067 Words
2. “คุณหนู ตื่นได้แล้ว” เสียงกระซิบดังอยู่ข้างหู แม้สำเนียงจะ แปล่งๆ ไปบ้าง เจียอีพลิกตัวหลบ ยกหมอนที่หนุนศีรษะขึ้นปิดทับดวงตา “สายแล้วเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูต้องออกไปข้างนอกนะ” เสียงเดิมพยายามเตือน และปลุกให้เจียอีตื่นจากห้วงฝัน “ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ” เจียอีพึมพำตอบ “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่านกับฮูหยินกำลังรออยู่ วันนี้เราต้องออกเดินทางไปจี๊อันกันแล้ว” เจียอีลืมลืมตาโพลง สิ่งแรกที่ดวงตาจับได้คือผ้าโปร่งสีอ่อน เปลือกตาเธอกะพริบปริบๆ ก่อนจะค่อยๆ ทรงตัวลุกขึ้นนั่ง พลางมองไปรอบๆ ตัวพร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ...ที่นี่ที่ไหน?...ทุกอย่างรอบตัวไม่คุ้นตาเลย ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ายิ่งดูแปลกตาไปใหญ่ “ที่นี่ที่ไหนกัน” เธอพึมพำ “คุณหนู เป็นอะไร ไม่สบายหรือเจ้าคะ” “คุณเป็นใครคะ?” “คุณหนูหมายถึงอะไร หยวนเหวินไงเจ้าคะ ข้าเป็นบ่าวรับใช้ของคุณหนู” “บ่าวรับใช้” “ใช่เจ้าค่ะ คุณหนูลืมอีกแล้วสินะ ไหนท่านหมอบอกว่าคุณหนูหายดีแล้วไง” หยวนเหวินบ่นพึม คุณหนูเล็กสกุลเฉินมักหลงๆ ลืมๆ ทุกครั้งที่ฝนตก เป็นโรคแปลกประหลาดที่ไม่มียารักษาก็มักจะกำเริบ แม้นายท่านสกุลเฉินจะพยายามหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาบุตรสาว ก็ทำได้แค่บรรเทาอาการเลอะเลือนนั่นได้ชั่วคราว “หมอ ข้าป่วยเหรอ?” เจียอีถามเสียงหลง “ใช่เจ้าค่ะ อีกเดี๋ยวข้าจะไปยกยาต้มมาให้ วันนี้คงไม่ต้องออกไปไหนแล้ว” หยวนเหวินส่ายหน้า ถอนใจดังเฮือกๆ “หิวหรือยังเจ้าคะ ข้าจะไปยกข้าวต้มมาให้” “เดี๋ยว ตอบมาก่อนสิ ที่นี่ที่ไหนกัน” เจียอีรั้งไว้ พยายามซักถาม เธอไม่ได้กำลังฝัน ทุกสิ่งที่เห็นนี่คืออะไร “ที่นี่ก็เรือนสกุลเฉินไงเจ้าคะ” “เรือนสกุลเฉิน แล้วข้ามีชื่อว่าอะไรละ” เจียอีถามต่อ “คุณหนูเฉินเจียอีไงเจ้าคะ” หยวนเหวินตอบพร้อมกับยิ้มจางๆ นางชินกับท่าทางเลอะเลือนของนายสาวแล้ว ทุกครั้งหลังฝนตก คุณหนูคนเล็กของสกุลเฉินก็มักจะมีอาการเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ “ไม่สิ พ่อกับแม่ข้าตายแล้ว ไม่มีทาง!!” เจียอีส่ายหน้าพึมพำเบาๆ ก่อนจะเม้มปาก ทำท่าเหมือนจะลุกพรวดพราด “เจียอี เป็นอย่างไรบ้างหยวนเหวิน” เสียงคุ้นหู กับการปรากฏตัวของใครบางคน เจียอีเบิกตาโต ไม่มีทางที่ตนเองจะลืมโคงหน้าคนที่ให้กำเนิดตนเอง “แม่จ๋า แม่ยังไม่ตาย” เจียอีถลาลงจากที่นอน พุ่งเข้าใส่มารดาที่อ้าแขนรับ “ดูสิ คงขวัญเสีย แม่ของเจ้าไม่มีทางจากโลกนี้ไปก่อนเจ้าอย่างเด็ดขาด” อ้อมแขนอบอุ่น เสียงที่แฝงไว้ด้วยความรัก เจียอีเกลือกใบหน้ากับเนินทรวงอวบอุ่น พร้อมทั้งพร่ำพรรณนาความคิดถึงที่กดอัดเอาไว้ “แม่จ๋า หนูขอโทษ หนูจะไม่ดื้ออีกแล้ว หนูจะเชื่อฟังทุกคำที่แม่บอก” “ไม่ดื้อ ดีแล้ว เชื่อฟังนะ” จือรั่วลูบไล้แผ่นหลังบุตรสาวเบาๆ ดวงตาแจ่มใสเต็มไปด้วยกลิ่นอายความรัก “กอดกันกลมเชียวนะ แม่ลูกคู่นี้” เจียอีผงกศีรษะออกห่างอกอุ่นของมารดา ดวงตาของเธอขยายกว้าง บุรุษวัยกลางคนคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า เจียอียกมือขยี้เปลือกตา ครางเสียงแผ่วๆ “พ่อเหรอ” “ลูกคนนี้ ลืมแม้กระทั่งหน้าพ่อตัวเองเชียวรึ” เจียชวนสัพยอกบุตรสาว พลางทรุดนั่งอีกฟากของเตียง “แม่จ๋า ที่นี่คือสวรรค์ใช่ไหม หนูตายไปแล้วจริงๆ เหรอ” เจียอีถามเสียงแผ่วลง ไม่มีทางที่บิดา มารดาจะยังมีชีวิตอยู่ ยกเว้นตนเองตายตามพวกท่านไป “เหลวไหล” จือรั่วดุบุตรสาวเสียงแข็ง “เจ้าแค่ไม่สบาย ตายเตยอะไรกันละ!!” เจียอีกะพริบเปลือกตาปริบๆ มองสบตาบิดาที่กำลังมองมาที่ตนเอง “พ่อหาหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมารักษาเจ้าแล้ว ก่อนที่เดินทางไปจี๊อัน เจ้าต้องหายขาดจากโรคประหลาดนี่อย่างแน่นอน” เจียวชวนกล่าวเสียงขึงขัง “จี๊อัน” เจียอีพึมพำ “เจ้าน่าจะลืม พ่อของเจ้าได้รับคำสั่งจากวังหลวงให้เดินทางไปรับตำแหน่งผู้ว่าการเมืองที่นั่น” จือรั่วอธิบายซ้ำ นางไม่รู้สึกเหนื่อยหรือรำคาญ หากต้องกล่าวย้ำกับบุตรสาวคนสุดท้องอีกหลายครั้ง “ผู้ว่าการเมือง” “ดีใช่ไหมละ ที่จี๊อันเป็นเมืองเล็กๆ ก็จริง แต่ที่นั่นมีของกินอร่อยๆ ที่เจ้าชอบหลายอย่างเลยนะ” เจียชวนกล่าวพร้อมกับยิ้ม เจียอีหน้าเบ้ พยายามนึกภาพเมืองที่บิดากล่าวถึงให้ออก แม้จะรู้สึกแปลกๆ ไม่ว่าจะเครื่องเรือนหรือการแต่งกาย มันแปลกตาไปทุกอย่าง สิ่งเดียวที่ทำให้เจียอีไม่ใส่ใจคือ การมีพ่อแม่อยู่ตรงหน้า นั่นก็เพียงพอแล้ว หยวนเหวินถือถาดใส่ถ้วยข้าวต้มควันกรุ่นเดินเข้ามา “กินข้าวต้มก่อนสักนิดดีไหมเจ้าคะคุณหนู” “นั่นสิ กินข้าวก่อนเจ้าจะได้แข็งแรง” จือรั่วก้มมองบุตรสาวในอ้อมกอด แล้วก็กระซิบปลอบเสียงทุ้มนุ่ม “พ่อออกไปดูคนงานก่อนนะ แม่เจ้าคนเดียวก็น่าจะพอแล้วมั้ง” เจียชวนทรงตัวยืน ยังมีงานอีกมากมายที่เขาต้องรีบไปจัดการ ก่อนจะย้ายถิ่นฐานเพื่อรับตำแหน่งใหม่ เจียอีรับถ้วยข้าวต้มมาถือ ท้องเธอร้องโครกคราก คงเพราะร่างกายต้องการพลังงาน เธอตักข้าวต้มกิน พลางมองหน้ามารดาไปด้วย ที่นี่ที่ไหนก็ช่างเถอะ หากบิดา มารดายังมีชีวิตอยู่ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว... เฟยฉียกมือตบหน้าผากแรงๆ หลังโดนประกายแสงสีทองลากเขาเข้าไปในหลุมดำที่เต็มไปด้วยความมืดมิด ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบลง เฟยฉีเห็นแค่เพียงร่างบอบบางของเจียอีลอยเคว้งคว้างอยู่ด้านหน้า เขาไหลเข้ามาในหลุมอากาศที่ไร้แรงดึงดูด เขาอยู่ท่ามกลางความมืดมิด และไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของหลุมดำนี่อยู่ที่ใด “ที่นี่ ที่ไหนนะ?” เขาพึมพำ ปวดตุ๊บๆ ในหัวเหมือนศีรษะจะระเบิด “คุณชายตื่นแล้วหรือขอรับ” เฟยฉีเหลือบมอง เขายืดตัวนั่งตัวตรง เด็กชายตรงหน้าวงหน้าอ่อนเยาว์ แถมยังดูเด็กมากๆ หากเดาอายุไม่น่าเกินสิบสี่ปี เด็กชายผู้นั้นยิ้มแผล่เห็นฟันเกือบทุกซี่ ในมือของเขามีอ่างน้ำ กับผ้าสะอาดสีขาวขุ่นที่พาดอยู่บนบ่า “ล้างหน้าก่อนดีไหมขอรับ” เฟยฉีขมวดคิ้ว สำเนียงการพูดของชายตรงหน้าฟังแปร่งๆ พิกล เขาก้มมองตัวเองแล้วก็ต้องตกใจซ้ำ เสื้อเชิ้ตสีผ้าอ่อนที่เขาควรสวมไว้ เปลี่ยนเป็นชุดผ้าฝ้ายสีขาวขุ่นทรงโบราณ เขาเคยเห็นในซีรีย์บ่อยๆ เขาจับชายเสื้อขึ้นมามองใกล้ๆ ฝีมือการทอผ้ายังหยาบ จนเห็นรอยต่อของใยฝ้ายจนเห็นได้ชัด “เสื้อผ้าของฉันละ” เฟยฉีถามเสียงแข็ง ตัวเขาเปียกเพราะฝน คนใจดีคนนี้เลยจัดการให้ น่าจะเพราะไม่อยากให้เขาต้องไม่สบายเพราะตัวเสื้อผ้าเปียกนั่นเอง “คุณชายจะเปลี่ยนชุดเลยหรือขอรับ” ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามก่อนหน้านี้ เฟยฉีถอนใจ “เอาชุดฉันมาเถอะ ขอบใจนะที่ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” สีหน้าชายผู้นั้นดูงุนงงพิกล เขาวางอ่างไว้ตรงหน้าบนเก้าอี้กลมตัวเตี้ยๆ แล้วก็ส่งผ้าฝ้ายหยาบๆ ที่พาดไว้บนหัวไหล่ให้ “ล้างหน้าก่อนเถอะขอรับ นายท่านกับฮูหยินกำลังรอคุณชายอยู่” เฟยฉีรับผ้ามาอย่างเสียไม่ได้ เขาเงอะงะ เพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี ไฉ่หงรั้งผ้าในมือของเฟยฉีจุ่มชายผ้าลงไปในน้ำอุ่นในอ่างและส่งให้เฟยฉี เขารับมาเช็ดทำความสะอาดใบหน้า รวมทั้งแขนทั้งสองข้าง รวมทั้งที่ซอกคอด้วย “ความจริงฉันอยากแช่น้ำอุ่นมากกว่า” เฟยฉีพึมพำ “ไปเจอนายท่านตงกับฮูหยินก่อนขอรับ แล้วข้าจะเตรียมน้ำอุ่นไว้รอให้คุณชายกลับมานอนแช่” ไฉ่หงเปรยลอยๆ เขาเดินไปหยิบชุดใหม่จากหีบไม้ริมห้อง เดินมาส่งให้เฟยฉี เฟยฉีกะพริบเปลือกตาปริบๆ เขาสวมชุดเหล่านี้ไม่เป็น และไม่เคยคิดที่จะสวมชุดรุ่มร่ามแบบนี้สักครั้ง “เร่งมือหน่อยขอรับ นายท่านตงรอนานแล้ว” ไฉ่หงกระซิบย้ำ “ขอเสื้อผ้าฉันเถอะ ชุดพวกนี้ฉันไม่เคยสวม” ไฉ่หงมีสีหน้างุนงงเล็กน้อย คงเพราะเวลาจวนตัว “งั้นข้าช่วยคุณชายเอง” จากนั้นเฟยฉีก็ห้ามไม่ทัน ไฉ่งหงแม้จะตัวเล็กบาง แต่พละกำลังมีมากอย่างไม่น่าเชื่อ ชุดเก่าที่เฟยฉีสวมไว้ถูกรั้งออกไป และแทนที่ด้วยชุดใหม่ในเวลาไม่ถึงสามนาที เฟยฉีกะพริบเปลือกตาปริบๆ มองเงาตัวเองผ่านแผ่นทองเหลืองที่สะท้อนพอให้เห็นเค้าหน้าได้ ในหัวเขาเต็มไปด้วยความสับสน มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาเป็นระลอก แต่กลับไม่มีคำตอบมากพอที่ทำให้เขากระจ่างได้เลย ‘ที่นี่มันที่ไหนกันวะ’ บุรุษและสตรีสูงวัยตรงหน้า คือบิดา มารดาของเขาไม่มีผิดเพี้ยน แต่ทว่า...อาภรณ์ที่ท่านทั้งสองสวมใส่ไม่ใช่อาภรณ์ในยุคปัจจุบัน เฟยฉีพยายามทำความเข้าใจ ทุกสิ่งรอบตัวเขาล้วนแปลกตาทั้งหมด มีความเป็นไปได้ว่าระหว่างที่เขาถูกลากเข้ามาในหลุมดำ เขาเดินทางผ่านห้วงเวลาที่ทับซ้อนกัน จนมาโผล่ในพื้นที่ ที่เขาไม่คุ้นเคย “มัวตะลึงอะไรอยู่ละเฟยฉี นั่งลงสิ วันนี้เจ้าตื่นสายครั้งแรก จนพ่ออดแปลกใจไม่ได้เลยนะ” เฟยฉีทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างบิดา เขามองท่านสลับกับมองหน้ามารดา “เป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” มารดาของเขายื่นมือมาอังเหนือหน้าผาก “ก็ไม่นี่ หรือเพราะว่าเจ้านอนดึก เพลาๆ อ่านตำราบ้างเถอะ เจ้าสอบเค่อจี่ผ่านแล้วนะ อีกไม่กี่วันก็ต้องออกเดินทางไปรับตำแหน่งที่เมืองจี๊อันแล้ว” “เค่อจี่ จี๊อัน” “ดูสิคะท่านพี่ บุตรชายคนนี้ของท่านพี่เลอะเลือนอีกแล้ว” มารดาของเขาหันไปกล่าวกับบิดาที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน “เจ้าห้ามลูกได้รึ เฟยฉีเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เขามีความมุ่งมั่นมากกว่าบุรุษทั้งเมือง” “เดี๋ยวครับท่านพ่อ ผมต้องไปที่ไหนนะครับ” เฟยฉีถามบิดาเสียงสูง “ทำไมวันนี้เจ้าพูดจาแปลกๆ” เสียงมารดาท้วง เฟยฉีสูดลมหายใจแรงๆ “ข้าแค่อยากรู้ท่านแม่ ข้าต้องไปที่ไหนหรือขอรับ” เฟยฉีเปลี่ยนวิธีพูดใหม่ ให้กลมกลืนกับคนอื่นๆ “เจ้าได้นอนกี่ชั่วยาม” “ข้าจำไม่ได้” “เจ้ากินอิ่มแล้วก็ไปนอนซะนะ ให้ไฉ่หงเก็บของคนเดียวก็พอ ข้าชักไม่ไว้ใจแล้วท่านพี่ แน่ใจนะเจ้าคะที่จะปล่อยให้เฟยฉีไปทำงานต่างเมืองแค่คนเดียว” “ท่านแม่ ข้าโตแล้ว” “เจ้าโตแล้วข้าไม่เถียง แต่เจ้าไม่รักตัวเองเลย รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วง” “ข้าสัญญาท่านแม่ ข้าจะกินให้ครบสามมื้อ” “พอวางใจได้บ้างหรือยังฮูหยิน เจ้าทำแบบนี้เฟยฉีจะถูกล้อเลียนเอานะ” นายท่านตงสัพยอก ฮูหยินสกุลตงถอนใจ จำใจยอมรับสภาพ บุตรชายโตเกินกว่าที่นางจะควบคุมแล้ว “บอกไว้ก่อนนะเฟยฉี อยู่ห่างตาแม่อย่าเถลไถล” นายท่านสกุลตงเงยหน้าหัวเราะ “บุรุษย่อมมีเรื่องแบบนั้นบ้าง เจ้าอยากให้เฟยฉีอยู่บ้าน ปักผ้าหรือร้อยดอกไม้ละ” เฟยฉีแอบระบายลมหายใจ เข้าต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขากำลังฝัน...หรือว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD