แล้วหล่อนควรทำตามที่เขาบอกแกมบังคับแกมข่มขืนจิตใจให้ยอม หรือหล่อนควรเลยตามน้ำไปกับแม่ของเขา อย่างไรกันที่หล่อนควรทำ แต่ท่าทางของเขาก็บอกโต้งๆ ว่าไม่ชอบที่นี่ นั่นไง เขาล้วงเอาทิชชูเปียกออกมาเช็ดมือเช็ดแขน ทั้งที่หล่อนเห็นนะว่าเขาไม่ได้หยิบแตะอะไรเลยสักนิด
“เฮ้ย!”
ทว่าเสียงร้องของเขาพร้อมกับร่างสูงที่ลื่นแพล็ดลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้นกระดาน ฝ่ามือเท้าอยู่บนดินโคลน และขาก็กางคร่อมแผ่นกระดานเอาไว้ ก็ทำให้กรวินท์ถลาเข้าไปจะประคองแต่เขากลับสะบัดออก
“ไม่ต้องมาแตะตัวผม!”
เสียงตวาดดังพร้อมๆ กับที่เขาค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ฝ่ามือกำเข้ากันแน่น หายใจฟึดฟัดกลั้นอารมณ์รุนแรงจนหล่อนได้ยินชัด ‘เขาไม่ชอบสิ่งสกปรก’
“เดี๋ยวฉันเช็ดให้นะคะ”
“ไม่ต้อง! ผมบอกแล้วไงไม่ต้องมาแตะตัวผม คุณดูมือคุณบ้างไหม!”
เขาปัดมือหล่อนที่เอื้อมจะแตะขากางเกงพร้อมทำน้ำเสียงจิ๊จ๊ะไม่สบอารมณ์ นั่นทำให้กรวินท์มองฝ่ามือตัวเอง มือหล่อนดำจริงๆ เพราะเมื่อครู่หล่อนกอบดินเพื่อฝังน้องสอง
“ฉันขอโทษค่ะ เมื่อกี้ฉันกอบดินฝังลูกวัวที่เพิ่งตายน่ะค่ะ พอดีคุณมาก็เลยยังไม่ทันไปล้าง”
“ฮะ! นี่เธอกอบดินฝังลูกวัวที่เพิ่งตายเหรอ”
“ใช่ค่ะ วัวฉันออกลูกตายน่ะค่ะ ฉันก็เลยเอาไปฝัง”
เสียงซี้ดปากแต่ไม่ใช่จากอาการเสียดเสียวฟันอย่างที่หล่อนเป็น แต่เป็นจากอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันจากคนตรงหน้าทำให้กรวินท์จ้องเขม็ง เขากำมือแน่นหลับตาก่อนจะเปล่งเสียงเข่นเครียดออกมา แต่หล่อนฟังผิดไปหรือเปล่า
“คุณ... คุณว่าอะไรนะคะ”
“อึ๊ยยยยย... ฉันบอกว่า! เธอกล้าดียังไงเอามือสกปรกมีเชื้อโรคมาแตะต้องฉัน วัวนั่นเป็นโรคอะไรบ้าง แล้วดินอีกล่ะ สกปรกไหม มีเชื้อโรคไหม ไหนจะขี้วัวอีกละ แล้วเชื้อโรคจะติดตัวฉันไหมเนี่ย ฉัน... ฉันต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
เขาที่พูดพล่ามอยู่คนเดียวก่อนจะผลุนผลันไปที่ประตูรถด้านคนขับทำให้หล่อนถลาตาม เขากำลังเข้าใจผิด ที่ฟาร์มของหล่อนไม่มีเชื้อโรคอะไรแบบนั้น
“นี่เธอ! หลีกไปเดี๋ยวนี้!”
“คุณ... คุณใจเย็นๆ ก่อนนะคะ วัวไม่มีเชื้อโรคค่ะ แล้วดินก็ไม่มีเชื้อโรคด้วย หรือจะมี คุณก็แค่ล้างน้ำฟอกสบู่ก็หายค่ะ”
“ไม่มีแล้วลูกวัวมันจะตายได้ยังไง”
“ก็ฉันบอกแล้วไงคะ ว่ามันออกลูกตาย”
“ก็นั่นล่ะ ถ้ามันแข็งแรงมันจะตายเหรอ แล้วเธอเอามือไปกอบดิน อึ๊ยยยยย... ทำไมเธอเป็นผู้หญิงสกปรกแบบนี้”
กรวินท์ยืนอึ้งเพราะคำพูดของเขาพร้อมสายตากวาดมองหล่อนไปทั้งร่างฉายชัดว่าเขารังเกียจ วงศวัฒน์ในมโนของหล่อนไม่ใช่แบบผู้ชายคนนี้เลย
เฮียเส้นหมี่ในวันวานเป็นคนเฟรนลี่... ไม่ใช่
เฮียเส้นหมี่เป็นคนลุยๆ... ก็ไม่ใช่
เฮียเส้นหมี่เป็นคนง่ายๆ ยังไงก็ได้... ก็ไม่ใช่อีก
ทุกภาพแห่งความทรงจำคล้ายจะฉายเป็นฉากๆ เขาไม่เฟรนลี่เลยสักนิด ไม่เคยยินดีกับความปลาบปลื้มที่รุ่นน้องแสดงออกยามเจอเขา เขาคบแต่เพื่อนกลุ่มเดียวกัน ออกจะถือตัวด้วยซ้ำ
เขาไม่ใช่คนลุยๆ เขาเนี้ยบตลอดเวลา หล่อนไม่เคยเห็นเขาเอาเสื้อออกนอกชายกางเกงสักครั้งเมื่ออยู่ในโรงเรียน แม้แต่ตอนนี้เสื้อกางเกงเขาก็ยังเนี้ยบ
เขาไม่ใช่คนง่ายเลย ทุกอย่างเป๊ะ แต่หล่อนกลับไม่เคยมองสิ่งนั้น หล่อนมองแค่เขาคือพี่เส้นหมี่ และทุกอย่างดูดีสุดๆ ในสายตาของหล่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วล่ะ แถมเขายังคิดว่าพ่อแม่หล่อนอยากได้เงินค่าสินสอดเลยไม่ได้ปฏิเสธเรื่องแต่งงาน
สิ่งนี้หล่อนก็ไม่เคยมอง ไม่เคยคิดว่าเขาจะดูถูกอาชีพของครอบครัวหล่อน และร้ายแรงที่สุดคือเขาดูถูกพ่อแม่
ท่าทางอึ้งๆ ไปของผู้หญิงตรงหน้าทำให้วงศวัฒน์รู้ตัวว่าคงพูดและแสดงท่าทีรังเกียจสิ่งสกปรกเกินเหตุ แต่เขาก็รังเกียจจริงๆ นั่นแหละ แต่คงต้องเก็บอาการให้มากกว่านี้ ขอให้หลุดออกจากฟาร์มนี้ก่อนเถอะ เขาจะถอดกางเกงทิ้ง
“เอ่อ... ฉัน... ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแรง ผมแค่กลัวจะมีเชื้อโรค โรงงานผมต้องการความสะอาดมากๆ ถ้าบ้านคุณเลี้ยงวัวแบบนี้ ผมว่าธุรกิจของเรามันไม่เข้ากัน กลิ่นมันจะไปติด คุณเข้าใจนะ”
กรวินท์ยิ้มเย็นมองดวงตาคมที่โผล่พ้นขอบผ้าปิดจมูกออกมา ‘กลิ่นมันจะไปติด’ ความคิดเขาช่างล้ำเลิศ
“คุณไม่ชอบกลิ่นขี้วัว กลิ่นหญ้า กลิ่นฟาง” น้ำเสียงเนิบนาบราวเข้าใจหัวอกเขาเอ่ยถาม
“ไม่ชอบน่ะสิ ใครจะชอบล่ะ ขอบคุณ... ที่คุณเข้าใจผม”
“ค่ะ ฉันเข้าใจค่ะ ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว ฉันจะย้ายไปอยู่กับคุณที่โรงหมี่นะคะ ไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นคุณสบายใจได้ค่ะ ว่าจะไม่มีกลิ่นที่นี่... ติดไปแน่” หล่อนพูดช้าๆ ชัดๆ ตามองเขาเขม็ง และเมื่อดวงตาคมดูตื่นตกใจหล่อนก็ยิ้มออก
“อะไรนะ... เธอจะไปอยู่กับฉันที่โรงหมี่”
กรวินท์ยิ้มกว้างพยักหน้าว่าเขาเข้าใจถูกแล้ว และหล่อนก็เข้าใจเขาถูกเช่นกัน แค่หล่อนแข็งข้อ สรรพนาม ‘คุณ-ผม’ ก็เปลี่ยนเป็น ‘เธอ-ฉัน’ ได้ในบัดดล และตอนนี้หล่อนคงแหย่หนวดมังกรเข้าแล้ว เพราะแววตาขุ่นของเขามันฟ้อง
“เธออยากได้เงินเท่าไร แลกกับไม่แต่งงานกับฉัน”
รอยยิ้มยังคงระบายอยู่บนใบหน้าแต่กรวินท์รู้ว่ามันขื่นสุดๆ ฝันหวานของหล่อนเปื้อนโคลนเสียแล้ว และหัวใจก็เจ็บจนอยากจะทรุดร่างลงนั่งอย่างหมดแรง แต่ที่ยังยืนอยู่และส่งยิ้มเย็นใจให้เขาก็เพราะว่าหล่อนจะไม่ยอมให้เขาดูถูก