EP.14 คนนี้ล่ะลูกสะใภ้

1034 Words
“ใช่ค่ะ ของหนูน่ะมีเจ้าประจำมาซื้อ เขาเอาไปขุนต่อ รอโตสักหน่อยก็ขายเข้าโรงเชือดเหมือนกัน หนูก็เลยว่าถ้าจะคิดว่าบาปก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะ แต่หนูก็ลดได้อย่างหนึ่งนะคะ ในครอบครัวหนูน่ะไม่กินเนื้อวัวกัน เพราะถือว่าพวกเขามีพระคุณกับเรา ให้เรามีอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดีแบบนี้” “ใช่ๆ คิดแบบนั้นก็ถูกแล้วล่ะ เออ... แล้วลูกๆ ไปไหนกันหมดล่ะ มาให้ป้าดูหน้าค่าตาหน่อยสิ” เจ๊หงส์รีบเปลี่ยนเรื่องพูด รู้ตัวว่าพูดเรื่องบาปเรื่องกรรมคงไม่เหมาะในเวลานี้ และหล่อนก็เพิ่งรู้ว่าวัวนมไม่ได้มีน้ำนมเองเหมือนที่ไก่ไข่ออกไข่ได้โดยไม่ต้องผสม และวัวนมก็ต้องถูกขายเข้าโรงเชือดเมื่อหมดระวางอยู่ดี “ไปที่ศาลเจ้ากันน่ะค่ะ อาแปะนัดไปคุยเรื่องจดบัญชีให้งานงิ้วปีนี้” เจ๊หงส์มองหน้าส้มเช้งที่นั่งกินขนมที่วรินทรนำมารับรองดั่งจะถามว่าใช่หนุ่มสาวที่เห็นหรือเปล่า แต่คนไหนล่ะที่เป็นลูกของวรินทร ผู้หญิงหรือผู้ชาย “หนูยังไม่ได้ถามซ้อเลย ซ้อกับเช้งมีธุระอะไรเหรอคะถึงได้มาแถวนี้” “ก็...” เจ๊หงส์ถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองบ้าง ทั้งเล่าทั้งปรับทุกข์ เพราะทั้งบ้านก็มีแค่ส้มเช้งที่ปรึกษาได้ ถ้าได้ระบายออกให้วรินทรฟังอีกคนก็คงจะคลายอึดอัดไปได้มาก “เจ้าท่านต้องช่วยให้ซ้อเจอลูกสะใภ้แน่ค่ะ ท่านศักดิ์สิทธิ์ ใครมีลูกยากก็บอกปากต่อปากกันไป หนูก็เห็นกลับมาแก้บนกันนะคะ” “ก็นี่แหละที่เจ๊เขาห่วง เจ๊เขาว่าศาลเจ้าไว้ขอลูก ไม่ได้ขอลูกสะใภ้” “โถ... ถ้าเรื่องการขอ ก็ขอกันทุกอย่างล่ะค่ะ รถหาย ควายหาย ก็มาขอให้ตามพบ บางคนลูกหายลูกหนีก็ไปบนนะคะ ตอนหนูท้องหนูก็ขอให้ลูกออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ พอทำวัวนม หนูก็ขอให้ได้ผลผลิตดีๆ และตอนพี่ทิมทำแปลงหญ้า หนูก็แอบไปขอนะคะ ขอให้หญ้างามๆ ขอให้พี่ทิมทำได้ตามที่หวัง เพราะพวกญาติๆ น่ะไม่มีใครเห็นด้วยกับลูกหนูเลยสักคน ก็มีแค่หนูกับพี่กฤตน่ะค่ะที่เห็นด้วยกับลูก และตอนนี้นะคะ แปลงหญ้าของพี่ทิมทำรายได้แซงนมหนูแล้วค่ะ” “ลูกของวรินชื่อพี่ทิมเหรอ” “ชื่อทับทิมค่ะ แต่ที่บ้านเนี่ยเรียกพี่ทิมกันเพราะว่าเป็นพี่สาวคนโต และที่ตั้งชื่อทับทิมก็เพราะเจ้าแม่กวนอิมเอาลูกทับทิมมาให้หนูไงคะ พูดถึงก็มาพอดีเลยค่ะ นี่แหละค่ะ หัวหอกคนสำคัญของพี่กฤตเลย” เจ๊หงส์มองรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน กระจกใสทำให้เห็นหน้าคนขับและคนนั่งได้ชัดเจน ดวงตายาวรีดุจดวงตาหงส์หันมองส้มเช้งที่หันมาสบสายตากันพอดี “ลูกหัวปีท้ายปีน่ะค่ะซ้อ ไปที่ไหนใครเขาก็ว่าแฟนกัน” “คนนี้เหรอทับทิม” “ใช่ค่ะซ้อ ทับทิมเป็นลูกสาวคนโตค่ะ ส่วนผู้ชายน่ะชื่อการิน” เจ๊หงส์ยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายความหวังมองหญิงสาวที่ก้าวลงจากรถอย่างทะมัดทะแมง อะไรหลายๆ อย่างในวันนี้คงไม่ใช่เหตุบังเอิญ ทั้งกลิ่นน้ำมันใส่ผมของเฮียย้ง ทั้งเรื่องที่ศาลเจ้า และก็เหตุให้ต้องมาที่ฟาร์มวรินทร และหล่อนจะไม่ทำให้วันนี้เสียเปล่า หล่อนจะต้องได้ในสิ่งที่หวัง การินมองตามท้ายรถยนต์ที่เคลื่อนตัวออกไปก่อนจะตวัดสายตามองพี่สาว กรวินท์มีทีท่าเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้พบหน้าคุณป้าใจดีอีกครั้ง พ่อแม่แนะนำว่าคุณป้าใจดีก็คือ เจ๊หงส์ อดีตเจ้านายและเป็นผู้มีพระคุณ เพราะทำให้พ่อกับแม่ได้แต่งงานกัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมกรวินท์จึงมีท่าทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้ ท่าทางแบบสาวน้อยเริ่มมีความรักเดินลัดเลาะคอกวัว ประหนึ่งเดินเล่นริมรั้วดอกไม้ ยิ้มให้วัว ยิ้มให้หญ้า ยิ้มให้อาหารเม็ด ก่อนจะยิ้มให้แม้กระทั่งเต้านมของวัว นั่นผิดปกติไปมากจริงๆ “ทิม... ทิม!” “หือ... ไรเหรอริน” กรวินท์หันมองน้องชาย เพิ่งรู้ว่าหล่อนเดินมาถึงคอกวัวแล้ว และตรงหน้าของหล่อนก็คือเต้านมขนาดอวบที่กำลังถูกรีดน้ำนม “เป็นอะไรหรือเปล่า ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถูกใจอะไรเหรอ” “เปล่า!” เสียงสูงที่ตอบอัตโนมัติทำให้ต้องรีบป้องตะครุบไว้ ทั้งพยายามกลั้นรอยยิ้มไม่ให้เกิด แต่ยิ่งกลั้นก็เหมือนจะยิ่งฝืน ทางเดียวคือต้องไปจากที่นี่ ไม่ให้น้องชายเห็นใบหน้าที่เริ่มร้อนวูบวาบ แน่นอนว่ามันต้องแดงแจ๋ หล่อนอยากหลบไปยิ้มกว้างๆ กับตัวเอง อยากเพ้อถึงใครบางคนที่หล่อนเพิ่งเจอเขาไม่นาน ที่ธนาคารในเมือง หล่อนเห็นเขาแต่เขาไม่เห็นหล่อน แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับหัวใจเหี่ยวแห้งนี้ “เปล่าแล้วทำไมต้องทำเสียงสูง มีอะไรปิดบังหรือเปล่า” “ไม่... ไม่มี” ไรฟันขบริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น กำมือจิกเล็บลงที่เนื้อ พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะ ‘ไม่มี’ นั้นเริ่มจะสูงตาม ‘เปล่า’ ไป “รินมีอะไรอีกหรือเปล่า ถ้าไม่มีทิมจะเข้าไปในสวนนะ” กรวินท์ไม่รอคำตอบหันหลังทันที ต้องไปจากตรงนี้ก่อนจะอดกรี๊ดไม่ได้ “ยังไม่เลิกชอบเฮียหมี่” เสียงน้องชายที่พูดตามหลังทำให้หล่อนชะงัก จากนั้นก็รีบซอยเท้าอย่างเร็ว ไม่สนใจว่าการินจะตะโกนตามว่าอะไรอีก เพราะหล่อนทนไม่ไหวแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD