EP.13 ฟาร์มวรินทร

982 Words
“เฮ้ย!ๆ มาเอาไอ้พวกนี้ไปเก็บที ไอ้พวกนี้นี่เห็นคนแปลกหน้ามาไม่ได้เลย จ้องจะกัดอย่างเดียว” “ก็ดีแล้วไงพี่ ก็เลี้ยงให้มันกัดคนแปลกหน้านี่นา ไม่งั้นมันก็เป็นมิตรไปทั่วน่ะสิ แล้วนั่นใครมา” “ไม่รู้เหมือนกัน รถไม่คุ้น” กฤตส่ายหน้ากับเมียแต่เมื่อเห็นคนที่ก้าวลงมาจากรถ อารามดีใจทำให้เขาตะโกนเรียกเมียดังลั่น “วริน! วริน! ดูสิว่าใครมา วริน!” ตะโกนเรียกเมียก่อนจะรีบสาวเท้าไปต้อนรับคนที่ยืนข้างรถทำสีหน้าแขยงๆ หมา แต่ก็ส่งยิ้มกว้างมาให้ ส่วนวรินทรนั้นถึงกลับถลาเข้าไปจับมือเจ๊หงส์ด้วยความคิดถึง ก่อนจะเข้าไปกอดส้มเช้งเพราะคุ้นเคยกันมาแต่เด็ก กฤตกับวรินทรเชิญเจ๊หงส์กับส้มเช้งให้นั่งที่โต๊ะใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านและรีบให้เด็กหาน้ำมารับรอง เจ๊หงส์มองโรงเรือนเลี้ยงวัวที่อยู่ห่างจากบ้านราว 100 เมตร แต่ความยาวของโรงเรือนก็พอกะได้ว่าคงมีวัวนับร้อยตัว “หนูคิดถึงซ้อมาเลยค่ะ” วรินทรบอกน้ำตารื้นๆ ยังคงเรียกเจ๊หงส์ว่าซ้อเหมือนเมื่อครั้งนั้น “แหม... คิดถึงแล้วทำไมไม่แวะเข้าไปหากันบ้าง นี่ไม่ได้เจอกันเกือบสิบปีแล้วมั้ง บ้านก็ไม่ได้ไกลกันเลย ที่เจอกันหลังสุดก็คงเป็นตอนงานโรงเรียนลูกได้มั้ง ใช่ไหมวริน” “ใช่ค่ะซ้อ ตั้งแต่ตอนลูกเรียนมัธยมฯ น่ะค่ะ” “แล้วนี่ลูกกี่คน ซ้อก็ลืมไปแล้ว เคยบอกว่าสองใช่ไหม” “ใช่ค่ะ หญิงคนชายคน หัวปีท้ายปีเลยค่ะ” “ดีเลย เลี้ยงทีเดียว” เจ๊หงส์พูดพลางมองอาณาจักรของกฤตและวรินทรอย่างชื่นชม เพราะกฤตกับวรินทรคือคนที่คุ้นเคย กฤตเป็นลูกน้องคนสนิทของเฮียย้ง เป็นลูกน้องรุ่นแรกๆ ที่แทบจะก่อร่างสร้างโรงหมี่มาด้วยกัน เพราะตอนนั้นทั้งเฮียย้งและหล่อนยังล้มลุกคลุกคลาน ทั้งหาตลาด ทั้งวิ่งส่งของ และก็กฤตเป็นหัวแรงหลักในการดูแลการผลิต ซึ่งนั่นก็ทำให้กฤตพบรักกับวรินทรที่ขณะนั้นเป็นคนงานในโรงหมี่ และเฮียย้งก็เป็นคนมาสู่ขอวรินทรให้กับกฤต จากนั้นทำงานร่วมกันอีกไม่นาน พ่อแม่ของวรินทรก็อยากให้ลูกสาวและลูกเขยออกมาช่วยงานฟาร์มวัวที่บ้าน เฮียย้งก็เห็นด้วยเพราะวรินทรกำลังตั้งท้อง ควรจะสร้างครอบครัวและก็เห็นใจความห่วงใยของพ่อตาแม่ยาย เฮียย้งจึงให้เงินกฤตมาตั้งตัวก้อนหนึ่ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทั้งบ้านและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เปลี่ยนไปมาก บ้านหลังใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ แต่หลังเดิมที่เคยมาสู่ขอวรินทรก็ยังคงอยู่ด้านข้างเพียงแต่ต่อเติมปรับให้แข็งแรงมากขึ้น โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ดูสะอ้านสะอ้านเป็นระบบ และใหญ่ขึ้นเกือบ 10 เท่า แต่สิ่งที่เห็นทำให้ฉุกใจ “เอ... ซ้อจำได้ว่าบ้านวรินเลี้ยงวัวเนื้อไม่ใช่เหรอ” เพราะที่เห็นคือวัวตัวขาวดำและถังใส่นมที่ถูกลำเลียงลงจากรถ “ใช่ค่ะซ้อ แต่เป็นก่อนเป็นวัวเนื้อทั้งหมดค่ะ แต่ตอนที่หนูท้องก็เปลี่ยนเป็นวัวนมหมดเลย” จากนั้นวรินทรก็เล่าเรื่องความฝันหลังจากที่กฤตมาช่วยงานที่ฟาร์มพ่อแม่เต็มตัว เวลานั้นหล่อนและกฤตคิดจะขยายโรงเรือนเพิ่ม เงินที่เฮียย้งให้มาก้อนใหญ่นั้นพอซื้อวัวได้หลายตัวทีเดียว แต่ยังไม่ทันได้ซื้อ ช่วงนั้นมีงิ้วที่ศาลเจ้าในตลาด วรินทรชวนกฤตไปหาซื้อของกินในยามค่ำคืนและแวะไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลกับลูกที่จะเกิดมาด้วย ประจวบเหมาะกับเป็นคืนสุดท้ายมีเปียของกัน เมื่อกฤตเห็นชาวบ้านแข่งกันเปียของก็นึกสนุกอยากเปียบ้าง และสิ่งที่กฤตได้มาก็คือถาดผลไม้มีทับทิมอยู่ 4 ผล แล้วคืนนั้นวรินทรก็ฝันว่าเจ้าแม่กวนอิมทรงประทานทับทิมมาให้ผลหนึ่ง แม้จะคิดว่าเพราะไปไหว้เจ้าและเปียของทำให้ฝันเป็นตุเป็นตะ แต่ใบหน้าเมตตาของเจ้าแม่กับน้ำเสียงกังวานทั้งที่ท่านไม่ได้ขยับปากก็ทำให้วรินทรคลายความคิดไม่ได้ และเมื่อมองไปเห็นวัวในฟาร์ม หล่อนก็เลยคิดว่าเจ้าแม่คงมาบอกให้หล่อนละเนื้อวัว ตามความเชื่อของคนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม ประจวบเหมาะกับผู้ใหญ่บ้านในชุมชนมาแจ้งข่าวเรื่องกรมปศุสัตว์อยากส่งเสริมเรื่องการเลี้ยงวัวนม หล่อนกับกฤตจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ นำเงินที่เฮียยังให้มาลงทุนทำฟาร์มวัวนม และค่อยๆ ลดการเลี้ยงวัวเนื้อของพ่อแม่ลง จนปัจจุบันเป็นฟาร์มวัวนมเต็มตัว “ดีเลย เลี้ยงวัวนมก็ดี ไม่บาปด้วย” เจ๊หงส์พูดสนับสนุนเพราะหล่อนเองก็นับถือเจ้าแม่กวนอิม มีการตั้งรูปบูชาไว้ที่โรงงาน อีกทั้งเฮียย้งสามีก็ยังเคร่งครัดเรื่องการกินเนื้อวัว ถือศีลกินเจไม่ได้ขาด ดังนั้นหากกฤตและวรินทรเปลี่ยนมาเลี้ยงวัวนม หล่อนก็ดีใจด้วย “ไม่ต่างกันหรอกค่ะเจ๊” “ทำไมล่ะ ก็วัวนมไม่ได้ขายเนื้อนี่นา เราเอาแต่น้ำนมเขาไม่ใช่เหรอ” “ก็ต้องขายอยู่ดีล่ะค่ะ เวลาแม่วัวแก่ตัวหมดระวางก็ต้องขายให้โรงเชือดอยู่ดี แถมยังต้องเร่งผสมให้แม่วัวท้องจะได้มีน้ำนมให้เรารีดตลอด ถ้าตกลูกมาเป็นตัวเมียก็เลี้ยงไว้ให้นมต่อ แต่ถ้าเป็นตัวผู้ หนูก็ต้องขายออกค่ะ” “ขายออก ขายตั้งแต่เล็กๆ เลยเรอะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD