3

1234 Words
นางโลมผู้นี้คงเสียสติไปแล้ว รั่วตวอวิ๋นรู้ว่าหน้าที่นางคือสิ่งใดทำให้คนผู้นั้นพึงใจ และรับเงินเขา แน่นอนนางต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำ และต้องมากพอที่จะสามารถพักยาวๆ หลายเดือน หรือหากเป็นไปได้ คือไถ่ตนออกจากหอวสันต์รัญจวนแห่งนี้ ก่อนที่นางจะมาถึงห้องพักชั้นบนที่มีพื้นที่กว้างขวาง นางได้รู้ว่าสาวงามหลายคนถูกไล่ตะเพิดออกไป ไม่ใช่เพียงแค่พวกนางไม่สามารถมัดใจคนผู้นั้นได้ แต่เพราะเขาเรื่องมาก และยังต้องการสตรีที่ทำให้เขาเกิดกำหนัด ทั้งต้องการหลับนอนด้วยอย่างมีความสุข และหลั่งออกมาจากไม่รู้จักพอ ฮึ ก็แค่อุ่นเตียง และมีความสุข ไฉนต้องเรื่องมากถึงเพียงนั้น ก่อนก้าวผ่านประตูห้องดังกล่าว หมางจูที่ไม่ใช่คนอ่อนแอ นางหอบเสื้อผ้าออกมา ร่างกายกึ่งเปลือย สีหน้าไม่สู้ดี และที่หัวไหล่มีแผลเป็นรอยฟันด้วย กระนั้นนางในมืออีกข้างหนึ่งนางมีถุงผ้าที่มีเครื่องประดับมากมายห่อไว้ พร้อมกับถุงเงินที่คะเนด้วยสายตาแล้วมันไม่น้อยเลย “พี่จูจู สุนัขตัวไหนทำร้ายท่าน” รั่วตงอวิ๋นเสียงดัง และนางจงใจให้คนที่อยู่ในห้องได้ยิน “ขะ ข้าบกพร่องเอง ทำเรื่องไม่เอาไหน... เสี่ยวอวิ๋น... ทางที่ดี แกล้งเป็นลมเสีย แล้วข้าจะให้คนพาเจ้าไปให้ไกลคนผู้นั้น” ได้ยินหมางจูบอกแผนเช่นนี้ รั่วตงอวิ๋นยิ่งสงสัย “หากข้าทำอย่างที่พี่จูจูบอก อาจสร้างความเดือดร้อนถึงแม่เล้าลี่” “เด็กน้อย เจ้าไม่ห่วงชีวิตตนแล้วหรือ” “ข้าหวงแหนยิ่ง แต่เงิน... ข้าได้ข่าวว่าเขาจ่ายให้ทุกคนไม่อั้นมิใช่หรือ นี่คงไม่ใช่ว่า พี่กลัวข้าจะเอาใจคนในห้องได้ดีกว่าพี่หรอกนะ” นางว่าและดูถุงเงินกับผ้าผืนงามที่ห่อเครื่องประดับมากมาย ซึ่งหลายชิ้นนางคิดว่าคงเป็นของหายาก หรือทำโดยช่างฝีมือดี “เสียสติ เจ้าคงเสียสติไปแล้วเสี่ยวอวิ๋น” หมางจูกล่าวจบ นางก็ไม่อยากสู้หน้าใครอีก เพราะนอกจากถูกอาวุธทำร้ายจนได้แผลที่หัวไหล่ เมื่อครู่นางยังต้องใช้กัวซา*หัวเห็ดอันใหญ่ แทงเข้ากลีบสวาทของตนเพื่อตรวจสอบความสามารถในการรับทวนทองสองกำโผล่ ทว่านางเสียวจัด เลยเผลอครางราวกับสตรีร่านสวาท สุดท้ายจึงต้องรับโทษด้วยการถูกกระสวยบ่วงชนิดพิเศษ ที่หัวมันทำเลียนแบบเขี้ยวสุนัขฟาดใส่หนึ่งที! รั่วตงอวิ๋นในวันนี้ไม่ได้สนใจหมางจูอีก นางตัดสินใจเดินหน้าแล้วต้องไปให้ถึงที่สุด และวันนี้นางไม่ใช่คนนุ่มนิ่มเช่นเดิม กล่าวไปแล้วคือ มองโลกในแง่ร้ายอยู่มาก และพอนางอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่สวมหน้ากากเหล็กครึ่งหน้า นางจึงทำความเคารพเขา สำหรับนางไม่ได้สนใจว่าใครจะรูปงาม หรือ รูปชั่วตัวดำเช่นไร บุรุษก็คือบุรุษ ล้วนไว้ใจไม่ได้ ทว่าคนผู้นี้เล่า ไฉนถึงได้ทำให้ขนที่หลังต้นคอนางลุกซู่ กลัว รั่วตงอวิ๋นก็ไม่อาจกล่าวได้เต็มปาก ทว่านางรู้สึกว่าเขากำลังดูถูกนางมากกว่า สายตาอีกฝ่ายที่มองมา ทำให้ร่างกายร้อนรุ่ม แต่ท่าทางและริมฝีปากที่ยกยิ้มร้ายกาจ ทั้งส่งเสียงหัวเราะหึๆ ๆ ในลำคอ คือการเหยียดหยามนาง “เข้ามาใกล้ๆ คุณชายสิ” คนที่สั่งคือจางคังฉิก และดูเหมือนพ่อบ้าน มากกว่าจะเป็นสหายของบุรุษผู้นั้น รั่วตงอวิ๋นทำตาม และนางสืบเท้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ยิ่งใกล้ร่างกายก็สั่นน้อยๆ ขณะเดียวกันสายตาจดจ้องหีบเหล็กที่มีเครื่องประดับมากมายที่อัดแน่นอยู่ในนั้น สร้อยไข่มุก เครื่องสวมศีรษะ กำไล ปิ่นต่างๆ เรียกได้ว่ามากมายจนล่อตาล่อใจรั่วตงอวิ๋นให้พุ่งเข้าไปหา “อยากถ่ายเบาหรือ... เหตุใดถึงไม่ดูแลตนเองให้เรียบร้อย” โต้วเซ่าเหล่ยถามเพราะเห็นนางตัวสั่น และนางก็เผลอถลึงตาใส่อีกฝ่าย “ข้าหนาว และท่านก็ทำให้บรรยากาศในห้องนี้ ดูน่ากลัว ปกติที่นี่คึกครื้นเสมอ แต่ดูเอาเถิด ยามนี้แม้แต่เสียงหายใจตนเองข้าก็แทบจะได้ยิน” เมื่อนางต่อปากต่อคำเช่นนั้น โต้วเซ่าเหล่ยก็หัวเราะเสียงห้าวใหญ่ “เจ้าช่างเป็นสตรีที่ไม่กลัวตาย... เอาล่ะ... เปลื้องเสื้อผ้าออกให้หมด และร่ายรำให้ข้าดู” รั่วตงอวิ๋นหน้าชา นางมองไปทั้งห้อง มีสาวงามหลายคนที่เหลืออยู่ที่นี่ ทว่าพวกนางต่างหน้าซีด และแสดงอาการหวาดกลัวโต้วเซ่าเหล่ยไม่ต่างจากนางในยามนี้ “ข้าเป็นนางโลมก็จริง แต่หากต้องแก้ผ้า นั่นย่อมหมายถึงข้าพร้อมที่จะนอนกับท่าน อีกอย่าง...ข้าไม่คิด ทำเรื่องเช่นนั้น ให้ผู้อื่นดู หวังว่าคุณชายคงไม่มีพฤติกรรมสมสู่เยี่ยงสัตว์ ที่ไม่อายสายตาผู้ใด” นางใช้วาจาเจ็บแสบ พลางส่งสายตาไปยังจางคังฉิก ฝ่ายนั้นส่ายหน้าน้อยๆ เขาหรือจะอยากดูสตรีเปลือยกาย อีกอย่างสตรีผู้นี้กล้าหาญเกินไปแล้ว “ฮ่าๆ ๆ นางโลม ก็คือคนขายตัว ยังมีค่าพอที่จะเรียกร้องสิ่งต่างๆ ด้วยหรือ” เสียงโต้วเซ่าเหล่ย ทั้งท่าทาง แสดงให้เห็นว่าดูถูกนางมาก “หากท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็ขออภัยด้วย ที่ไม่อาจปรนนิบัติคุณชายได้” นางคงรนหาที่ตายแน่ๆ ถึงได้กล่าวเช่นนั้นออกมา และอึดใจเดียวกันร่างสูงใหญ่พลันลุกจากตั่งไม้ แล้วพุ่งมาถึงตัวนาง เขาใช้มือใหญ่ๆ บีบลำคอของระหง “กระดูกอ่อนๆ ของเจ้า ข้าออกแรงเพียงเล็กน้อย มันคงหัก” รั่วตงอวิ๋นกลัวเรื่องนั้นไม่ต้องสงสัย แต่ใจหนึ่งนางคิดว่า ตายไปก็คงดี และคนแรกที่นางจะหลอกให้หัวโกร๋น จนทำให้เขาตกตายไปตามกันก็คือคนใจร้ายที่สวมหน้ากากผู้นี้ “คุณชายทำข้าเจ็บ ท่านก็จะเจ็บด้วย นางโลมมีชีวิตจิตใจ และข้าขายร่างกายแลกเงิน ทว่าไม่ได้ขายจิตวิญญาณ” เขาได้ยินอย่างนั้นจึงบีบคอนางแรงกว่าเดิม จนใบหน้าของรั่วตงอวิ๋นมีสีแดงเข้ม และนางไอโขลกๆ ตามมา แต่เขากลับไม่ได้ยินเสียงนางร้องขอให้ปล่อย จึงบันดาลโทสะหนัก “ไสหัวออกจากห้องนี้ไปให้หมดทุกคน!” คำสั่งเขาดุดัน และมันมีผลอย่างว่องไว จางคังฉิกไล่ต้อนสาวงาม ไปให้พ้นหน้าชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว พอประตูงับลง เสียงฉีกเสื้อผ้าของรั่วตงอวิ๋นก็ดังแควกๆ “ข้าจะทำให้เจ้าหนาวเข้าไปถึงกระดูก เนื้อตัวนี้จะต้องแหลกเละ จนขยับไปไหนไม่ได้เป็นเดือน” “ฮึ... ได้ แต่ต้องแลกกับสมบัติในหีบนั้นทั้งหมด” “ช่างเป็นหญิงที่ละโมบ นอกจากทำงานชั้นต่ำแล้ว เจ้ายังเป็นขอทานที่เห็นแก่ได้” รั่วตงอวิ๋นนิ่งเพียงชั่วประเดี๋ยว จากนั้นนางก็ทำในสิ่งที่คนเผด็จการ แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD