หล่อนก็เข้าใจพี่สาวอยู่หรอก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงดี เพราะพี่สาวบาดเจ็บขนาดนี้ หมอคงไม่มีทางอนุญาตให้ออกไปนอกโรงพยาบาลแน่นอน
“โมว่าพี่มีปล่อยวางเถอะค่ะ เพราะเราไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว”
“พี่รอมาห้าปีเลยนะโม และวันนี้ก็มาถึง วันที่พี่จะได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่ไอ้อุบัติเหตุบ้าๆ นี่มันกลับมาทำให้ฝันของพี่สลาย”
พี่สาวของหล่อนร้องไห้คร่ำครวญอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
มีนาเข้มแข็ง ฉลาด และเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองมาก
หล่อนไม่เคยเห็นพี่สาวร้องไห้เลยตั้งแต่อายุสิบขวบ ครั้งนี้พี่สาวคงจะผิดหวังมากจริงๆ
“พี่มีอย่าคิดมากนะคะ รักษาตัวให้หายก่อน แล้วเราค่อยแก้ปัญหา...”
“พี่จะไม่คิดมากได้ยังไง ในเมื่อพี่หวังเอาไว้มาก หวังเอาไว้มากจริงๆ”
หล่อนสงสารพี่สาวจับใจ
“ถ้ามีอะไรให้โมช่วยได้ โมยินดีจะช่วยนะคะ หรือจะให้โมเดินทางไปที่บริษัทของพี่มี แล้วก็แจ้งข่าวกับเจ้านายของพี่ก็ได้ค่ะ”
หล่อนเห็นมีนาชะงักกึกไปชั่วขณะ พร้อมกับจ้องมองหล่อนด้วยสายตาที่มีรอยยิ้ม
“พี่มี... คิดจะทำอะไรเหรอคะ”
“โมรู้ใช่ไหมว่างานของพี่เป็นยังไง”
“อ๋อ ก็พอรู้ค่ะ”
มีนาเอางานกลับมาทำที่บ้านประจำ และหล่อนก็มีน้ำใจช่วยพี่สาวทำหลายครั้ง
“งั้นโมก็ช่วยพี่ได้”
“พี่มีจะให้โมไปที่บอกเจ้านายพี่ใช่ไหมคะ”
พี่สาวของหล่อนยิ้มกว้าง ไม่เหลือความเป็นกังวลใดๆ บนใบหน้าอีกแล้ว
“ใช่ พี่จะให้โมไปที่ทำงานพี่ แต่ไม่ใช่ให้ไปลาเจ้านายให้นะ แต่พี่ต้องการให้โมปลอมตัวเป็นพี่”
“พี่มี?!”
หล่อนส่ายหน้าไปมา ตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของมีนา
“โมต้องช่วยพี่นะ มีโมคนเดียวเท่านั้นแหละที่จะช่วยให้พี่ไม่ต้องชวดตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายได้”
“ตะ... แต่เราไม่ใช่คนเดียวกันนะคะ แล้วโมก็โง่มากๆ ด้วย...”
“แต่เราเหมือนกันมาก จำไม่ได้หรือไง”
“ถึงเราจะมีหน้าตาคล้ายกับเป็นฝาแฝดกัน แต่บุคลิกของเราไม่เหมือนกันนะคะ โม... โมกลัว...”
“ไม่ต้องกลัวน้องรัก ปกติพี่อยู่ที่นั่น ไม่ค่อยได้สุงสิงกับใครอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้”
“แต่โมไม่...”
“นี่โมไม่ได้รักพี่เลยใช่ไหม อยากเห็นความฝันของพี่ดับไปต่อหน้าเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะพี่มี แต่โม... โมมั่นใจว่าตัวเองจะต้องทำพลาด และพวกนั้นจะต้องจับได้ และถ้าพวกเขาจับได้ ผลเสียมันจะมากมายกว่าการชวดตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายนะคะพี่มี”
“พี่จะเสี่ยง ยังไงพี่ก็ต้องลงชิงตำแหน่งให้ได้”
แววตาของพี่สาวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“แต่ถ้าโมไม่ช่วยพี่ พี่ก็จะหอบสังขารแบบนี้ไปทำงานด้วยตัวเอง”
“ไม่ได้นะพี่มี...”
“ถ้าไม่อยากให้พี่กระเตงตัวเองออกไปในสภาพนี้ โมก็ต้องเข้าไปทำงานแทนพี่ จนกว่าพี่จะสามารถไปทำงานด้วยตัวเองได้”
พี่มี...”
หล่อนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือเกิน เพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางทำแบบที่มีนาทำได้
“วันนี้ไม่ได้ไปเรียนใช่ไหม”
“ค่ะ โมไม่ได้ไปเรียนแล้ว แล้วมะรืนนี้ก็ปิดเทอมแล้วค่ะ”
“ดีเลย งั้นพี่จะติวให้โมกลายเป็นพี่อย่างสมบูรณ์แบบ”
“แต่โม...”
“มั่นใจหน่อยสิน้องรัก ยังไงโมก็ทำได้”
มีนามั่นใจในตัวของหล่อนได้ยังไงกัน ในเมื่อหล่อนเองยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย
โมรีมีสีหน้าจะร้องไห้ ไม่สิ... หล่อนกำลังร้องไห้ออกมาจริงๆ ต่างหาก
โมรีนั่งมองพี่สาวที่หลับไปเพราะความอ่อนเพลียและฤทธิ์ยาหลังจากที่พร่ำสอนสิ่งต่างๆ ที่หล่อนควรจะรู้ ยามที่ต้องสวมบทบาทเป็นมีนา เกิดวิจิตร
หล่อนจะทำได้เหรอ...
ไม่มีทางทำได้แนบเนียนหรอก ในเมื่อหล่อนไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความมั่นใจเหมือนกับพี่สาว และสมองของหล่อนก็มีน้อยกว่ามีนาเกือบครึ่ง แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ในเมื่อการปลอมตัวเป็นพี่สาว มันคือทางออกเดียวของเรื่องทุกอย่าง
หล่อนพยายามจดจำทุกอย่างที่พี่สาวบอก และก็พยายามที่จะจดจำใบหน้าของเพื่อนร่วมงานคนที่พี่สาวมีรูปถ่ายเอาไว้ในมือถือ และก็ต้องใช้เวลานานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าหล่อนจะจำได้ทุกคน
หญิงสาวเป่าปากออกมาด้วยความทุกข์ใจ หล่อนปลีกตัวออกไปนอกห้องพักฟื้นของมีนาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะมายืนเกาะอยู่ที่ขอบระเบียง
คุณหมอเจ้าของไข้บอกว่าน่าจะเกือบสิบวันนั่นแหละกว่ามีนาจะออกจากโรงพยาบาลได้
“นี่เราจะต้องปลอมตัวเป็นพี่มีสิบวันเลยเหรอ แล้วจะรอดไหมเนี่ย”
ความจริงหล่อนอยากจะเดินกลับไปบอกพี่สาว อยากจะบอกยกเลิกทุกอย่าง แต่สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของมีนาที่มองมา มันทำให้คนขี้สงสารอย่างหล่อนหมดหนทางที่จะปฏิเสธ
“โม... จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ...”
หล่อนพึมพำออกมาน้ำเสียงแผ่วเบา แม้จะตั้งใจที่จะช่วยพี่สาว แต่ความหวาดกลัวก็ยังคงเต้นระริกอยู่ในหัวใจมหาศาล
“เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะแม่”
ในที่สุดวันที่มารดาจะเดินทางไปถือศีลก็มาถึง หล่อนยังคงโกหกท่านว่าพี่สาวอยู่ที่จีนเหมือนเดิม
“ดูแลบ้านให้ดีล่ะ แม่น่าจะกลับอาทิตย์หน้า”
“แม่ไม่ต้องรีบหรอกจ้ะ ถือศีลสักสิบวันก็ได้ ไม่ต้องห่วงทางนี้ โมจะดูแลบ้านแทนเองจ้ะ”
“ให้แม่ไปสิบวัน กลับมาบ้านคงกลายเป็นรังหนูพอดี เพราะไม่มีคนทำความสะอาด”
“แหม แม่อย่าห่วงเลยจ้ะ เดี๋ยวโมจะทำความสะอาดให้กริบเลย จะทำเช้ากลางวันเย็นเลย”
แม่มองมาที่หล่อนอย่างไม่เชื่อถือ แต่ก็อมยิ้มน้อยๆ ออกมา
“แล้วถ้าพี่แกกลับมา ส่งข่าวบอกแม่บ้างล่ะ แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงพี่มีหรอกจ้ะ ตอนนี้คงทำงานหัวบานอยู่ที่จีนนั่นแหละ”
แม่ของหล่อนผงกศีรษะรับเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวคำล่ำลา
“งั้นแม่ไปล่ะ ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ”
“จ้ะแม่ เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะ ถึงแล้วก็ส่งไลน์มาบอกโมหน่อยนะ”
“อืม”
หล่อนยกมือไหว้ท่าน ก่อนจะยืนมองท่านก้าวขึ้นรถตู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทาง
ท้ายรถตู้หายไปจากสายตาแล้ว โมรีก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน และรีบแต่งตัว
วันนี้มาถึงแล้ว วันที่หล่อนหวาดกลัวมาตลอด วันที่หล่อนจะต้องปลอมตัวเป็นนางสาวมีนา เกิดวิจิตร
หล่อนนำชุดทำงานของพี่สาวมาสวมใส่ และก็โชคดีมากที่ช่วงนี้น้ำหนักของหล่อนลงมาสองกิโล ทำให้สามารถยัดตัวอวบๆ ลงไปในชุดของพี่สาวได้สำเร็จ
โมรีมองตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาบานใหญ่อย่างเป็นกังวล
หล่อนทำผมแต่งหน้าแบบเดียวกับมีนา ทำให้ใบหน้าเหมือนราวกับคนๆ เดียวกัน แต่ตรงที่มีปัญหาก็คือรูปร่างนี่แหละ
หล่อนเป็นผู้หญิงที่มีน้ำมีนวล ไม่ได้ผอมหุ่นนางแบบเหมือนกับพี่สาว ดังนั้นเมื่อมาสวมใส่ชุดทำงานของมีนา หน้าอกหน้าใจ รวมถึงบั้นท้ายก็เด่นชัดเจน จนไม่น่าสบายใจนัก
“มีตัวอื่นอีกไหมเนี่ย”
หล่อนกำลังจะเปลี่ยนชุดทำงานตัวใหม่ แต่โทรศัพท์มือถือกรีดร้องขึ้นเสียก่อน
“ค่ะพี่มี”
“แต่งตัวเสร็จหรือยัง ไหนถ่ายรูปมาให้พี่ดูหน่อยสิ”
“เอ่อ... ใกล้แล้วค่ะพี่มี”
“ห๊ะ... งั้นก็แสดงว่ายังแต่งตัวไม่เสร็จน่ะสิ ไม่ได้แล้วนะโม ทางไปที่ทำงานพี่รถมันติด แล้วถ้าพี่ไปสายทุกคนจะสงสัยเพราะพี่ไปทำงานเป็นคนแรกทุกเช้า”
“อ๋อ... ค่ะๆ เดี๋ยวโมรีบออกไปเลยค่ะ”
“ฝากด้วยนะโม พี่เชื่อว่าเธอทำได้”
“ค่ะ พี่มี”
หล่อนตอบรับเสียงแผ่วเบา เพราะไม่ได้มีความมั่นใจในตัวเองเลย
“โมจะไปเยี่ยมเย็นๆ นะคะ”
“ไม่ต้องมาก็ได้ถ้าเหนื่อยน่ะ พี่อยู่ได้”
“โมจะพยายามไปค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่มี โมจะต้องรีบออกไปขึ้นแท็กซี่”
“เดี๋ยวก่อนโม”
“คะ พี่มี”
“ถ้ามีคนถามว่าทำไมพี่ไม่ขับรถไปทำงาน โมจะต้องบอกว่ารถไปชนมา ตอนนี้เข้าอู่อยู่ โอเคนะ”
“ได้ค่ะพี่มี งั้นโมไปก่อนนะคะ”
“โชคดี แล้วอย่าลืมที่พี่สั่งเอาไว้ล่ะ”
พี่สาวของหล่อนยังคงกำชับซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะวางตัดสายสนทนาไป
โมรีไม่ได้เปลี่ยนชุดใหม่อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะไม่มีเวลาพอ หล่อนรีบวิ่งออกจากบ้าน ล็อกประตู และก็ไปรอรถแท็กซี่ที่หน้าปากซอยด้วยความรีบร้อนที่สุดในชีวิต