ตอนที่ 1
EP1: ของหวงท่านประธาน
อองเดร มาร์แต็ง นักธุรกิจผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากระดับโลก ชายหนุ่มคือหนุ่มหล่อในฝันที่สาวๆ ทุกคนล้วนแต่อยากได้มาครอบครอง แต่อองเดรไม่ใช่สมบัติของใครทั้งนั้น เพราะในหัวของเขาเกลียดคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่สุด
คำว่าครอบครัวไม่เคยเฉียดเข้าใกล้สมองของเขามาก่อน และเขาก็แทบไม่รู้จักกับคำนี้เลย คงเพราะฝันร้ายในวัยเยาว์ ทำให้เขาเลือกที่จะไม่สนใจคำนี้อีกเลย
บิดาของเขาร่ำรวย แต่ก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตา เขาต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์เมื่อเห็นน้ำตาของมารดาไหลอาบแก้มทุกเมื่อเชื่อวัน จนกระทั่งวันที่มารดาจากโลกนี้ไป และทิ้งรอยแผลขนาดใหญ่เอาไว้ในใจของเด็กสิบขวบเช่นเขา
ความรักเหรอ... มันก็ไม่มีอยู่จริงเหมือนกับคำว่าครอบครัวนั่นแหละ
ดวงตาสีสนิมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานหรูอย่างไร้จุดหมาย
ตอนนี้เขาอายุย่างเข้าสู่เลขสี่มาสิบสองวันแล้ว แต่ในหัวของเขาก็ยังคงว่างเปล่า ชีวิตในทุกวันคือการทำงาน ส่วนค่ำคืนก็คือการหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
เขาสนุกกับการมีเซ็กซ์โดยไร้การผูกมัด เงินในกระเป๋าจบปัญหากวนใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีบ้างที่เขาถูกคู่นอนตามตื้อ แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเขามีเลขาฯ คู่ใจผู้ที่จะจัดการกับผู้หญิงพวกนั้นจนไม่กลับมาตอแยกับเขาอีก
เรือนร่างสูงใหญ่เกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรขยับเดินกลับมาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำตัวโต
หลังจากที่บิดาตายคานมปลอมของนางแบบชุดชั้นในไปเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน เขาก็รับช่วงต่อจากท่านดูแลธุรกิจน้ำมัน และพัฒนาจนมันรุ่งเรืองจนไม่มีคู่แข่งใดๆ กล้าเทียบเคียง
ชีวิตของเขาประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งงาน และความรื่นเริงในยามค่ำคืน แต่ทำไมนะ เขาถึงรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางสิ่ง
มันไม่ใช่คำว่าครอบครัว และมันก็ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง แต่มันคือ...
ลูก...
ใช่แล้วล่ะ ชีวิตของเขายังขาดอีกหนึ่งสิ่งนั้นก็คือลูกที่จะมาสืบทอดธุรกิจทั้งหมด
ชายหนุ่มยกมือขึ้นบีบขมับอยู่ชั่วครู่ เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง และสามารถคิดหาทางออกให้กับตัวเองได้
เขาคิดเรื่องการมีลูกมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีลูกสักคน แต่สิ่งที่ยากและยังหาทางออกไม่ได้นั่นก็คือ เขาจะไปหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมพอจะเป็นแม่พันธุ์ให้กับตัวเองได้จากที่ไหนกัน
ผู้หญิงที่จะยอมรับเงื่อนไขร้ายๆ ทุกอย่างจากเขา และยอมจากไปเมื่อคลอดลูกน้อยให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่ไว้ใจใคร โดยเฉพาะผู้หญิง เพศที่ในหัวคิดถึงแต่เงิน
กรามแกร่งที่มีไรหนวดจางๆ ขับกันแน่น ก่อนที่ดวงตาสีสนิมน่าเกรงขามจะเลื่อนไปมองที่บานประตูห้องทำงานที่กำลังถูกเคาะเบาๆ
“เข้ามา”
น้ำเสียงของเขาทุ้มนุ่ม แต่มันก็อัดแน่นไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้คนฟังไม่กล้าที่จะปฏิเสธความต้องการได้เลย
“แพรเข้ามาเตือนท่านประธานน่ะค่ะว่าอีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาประชุมผู้ถือหุ้นแล้วค่ะ”
ชมพูแพรหญิงสาววัยยี่สิบห้าปี ทำงานเก่งมาก รู้ใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร แค่มองตาหล่อนก็พร้อมจะหามาประเคนให้ทุกอย่าง หล่อนเพียบพร้อม สมบูรณ์ แต่โคตรเชย
ใช่ โคตรเชย
ชมพูแพรแต่งตัวได้เชยระเบิด จนบางครั้งเขาอดคิดไม่ได้ว่าบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ของตัวเองคือโบสถ์ หรือไม่ก็วัดวาอาราม
เขาเคยทวงติงหลายครั้ง แต่ชมพูแพรแย้งกลับมาด้วยเหตุผลที่ทำให้เขาต้องหุบปากและเลิกยุ่งวุ่นวายกับการแต่งตัวของหล่อนอีก
‘แพรใช้สมองทำงานรับใช้ท่านประธานมาเกือบห้าปี มีงานไหนไหมคะที่แพรทำได้ไม่ยอดเยี่ยม’
เขาจำได้ว่าตัวเองส่ายหน้าไปมา เพราะนึกไม่ออกเลยว่าชมพูแพรเคยทำงานไม่ดีตอนไหน
‘ก็ในเมื่อแพรทำงานได้ดีทุกอย่าง ถูกใจท่านประธานทุกอย่าง ดังนั้นการแต่งกายของแพรก็ไม่จำเป็นต้องตามสมัยนิยม หรือเปิดเผยเนื้อตัวเหมือนกับสาวๆ สมัยนี้ได้ใช่ไหมคะ’
ซึ่งแน่นอนว่าเขาตอบว่า ‘ใช่’ และก็ไม่ก้าวก่ายการแต่งตัวที่เฉิ่มเชยของชมพูแพรอีกเลย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“โอเค”
ชมพูแพรมองใบหน้าหล่อจัดยิ่งกว่าเทพบุตรของนายจ้างผ่านแว่นหนา เก็บรายละเอียดของเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบอย่างฉกฉวยโอกาส และไม่ต้องการให้อองเดรเห็น
เขาจะรู้ไม่ได้ว่าเลขาฯ เฉิ่มที่ตัวเองยกย่องว่าทำงานยอดเยี่ยมตกหลุมรักเขาจังเบ่อเร่อมาตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาทำงานที่นี่
เกือบห้าปีแล้วสินะที่หล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจเอาไว้ใต้แว่นหนา เจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น และก็เจ็บปวดเสมอที่รู้อยู่เต็มอกว่าอองเดรไม่เคยมองหล่อนด้วยสายตาของผู้ชายคนหนึ่งเลย
ในสายตาของอองเดร หล่อนก็แค่เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพ ทำงานยอดเยี่ยม แค่นี้... ใช่แล้วล่ะ สำหรับเขาแล้วหล่อนก็เป็นได้แค่นี้จริงๆ
ชมพูแพรระบายยิ้มปั้นแต่งเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์โศกในหัวใจ ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนทำมันได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด เพราะอองเดรไม่เคยสงสัยเลย
“งั้นแพรขอตัวออกไปเตรียมเอกสารประชุมต่อนะคะ”
“เดี๋ยวก่อน”
คำพูดของท่านประธานสุดหล่อ ทำให้เท้าขาวสะอาดในรองเท้าส้นเตี้ยสีดำชะงักกึก หล่อนหันกลับมาจ้องมองผู้เป็นนายจ้างอีกครั้ง
“มีอะไรเหรอคะท่านประธาน”
ท่าทางของอองเดรในตอนนี้เต็มไปด้วยความอึดอัด และก็แปลกไปจากทุกครั้ง นั่นทำให้หล่อนอดที่จะคาดเดาไม่ได้
“หรือว่าผู้หญิงที่แพรจัดส่งไปให้เมื่อคืน ทำตัวไม่ดีคะ”
มือใหญ่ยกขึ้นโบกไปมา เป็นเชิงปฏิเสธว่าสิ่งที่หล่อนคิดมันไม่ถูกต้อง
“ลินเซ่ถูกใจผมมาก”
ทำไมหัวใจของหล่อนต้องเจ็บแปลบรุนแรงขนาดนี้ด้วยนะ ทั้งๆ ที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินเขาเอ่ยชมผู้หญิงต่อหน้า
“แล้วท่านประธานมีอะไรไม่สบายใจคะ”
อองเดรเอียงคอมองหล่อน และก็อมยิ้มออกมาบางๆ
“คุณสมกับเป็นเลขาคนโปรดของผมจริงๆ รู้ใจผมไปหมด”
ชมพูแพรปั้นยิ้มน้อมรับคำชื่นชมจากปากของผู้ชายที่ตัวเองแอบรัก
“ก็สีหน้าท่านประธานบอกนี่คะว่ากำลังสับสนหาทางออกไม่เจอ”
อองเดรถอนใจออกมาเบาๆ จ้องหน้าเลขาฯ สาวคู่ใจ ก่อนจะพูดออกมา
“คุณอยู่กับผมมานาน คงรู้ใช่ไหมว่าผมไม่เคยคิดถึงเรื่องแต่งงานมาก่อน”
“แพรทราบดีค่ะ”
หล่อนตอบรับออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ซ่อนความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ภายใต้แว่นหนา
“ผมไม่ชอบคำว่าครอบครัว มันดูผูกมัด และน่าอึดอัด”
“แพรทราบดีค่ะ” หล่อนตอบออกไปด้วยคำพูดเดิม
“แต่ผมอยากมีลูก”
แววตาใต้แว่นหนาของชมพูแพรถูกความประหลาดใจรุกราน
“ท่านประธานอยากมีลูก?”
“ใช่ ผมอยากมีลูก แต่ผมไม่ต้องการเมีย”
หล่อนตอบรับด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ท่านประธานต้องการไปขอเด็กมาเลี้ยงใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่”
“หรือว่าท่านประธานจะแต่งงานคะ”
อองเดรส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอ่ยแซวเลขาฯ ของตัวเอง
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่คุณเดาใจผมผิด ชมพูแพร”
หล่อนมองเขาด้วยความแปลกใจ หากสิ่งที่หล่อนคาดเดาผิดพลาดไป แล้วอองเดรต้องการอะไรกันนะ
“แพรนี่แย่จังเลยค่ะ”
“คุณไม่ได้แย่หรือทำงานไม่ดีหรอก แต่ผมว่าตัวเองมีความคิดซับซ้อนสำหรับเรื่องนี้เกินไปต่างหากล่ะ”
“...”
“ผมคิดเรื่องนี้มาสองอาทิตย์กว่าแล้ว ก่อนจะตัดสินใจได้ว่าควรจะทำยังไง”
“ท่านประธานจะทำยังไงเหรอคะ”
หากอองเดรไม่ต้องการขอเด็กมาเลี้ยง ไม่ต้องการแต่งงานเพื่อมีทายาท แล้วเขาจะใช้วิธีการไหนกันนะเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
มุมปากหยักสวยสีแดงระเรื่อของอองเดรยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ แววตาสีสนิมฉายความเจ้าเล่ห์ไม่แยแสผู้ใด
“ผมต้องการให้คุณหาผู้หญิงโปรไฟล์ยอดเยี่ยมสักคนมาอุ้มบุญให้กับลูกของผม”
“ท่าน... ประธาน...?”
“สวย ฉลาด มีมันสมอง การศึกษาอย่างน้อยๆ ต้องระดับปริญญาโท ไม่เอานะพวกนมโต ร่อนเก่งน่ะ สาวพวกนั้นเหมาะแค่เอามาสนุกบนเตียงเท่านั้น”
“นี่ท่านประธาน... พูดจริงเหรอคะ”
เขาเอียงหน้ามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแปลกใจของเลขาฯ คนโปรด
“มองตาผมสิ แล้วคุณลองตอบมาสิว่าผมพูดเล่นหรือเปล่า”
หล่อนมองตาเขา แล้วก็เหมือนกับถูกดึงดูดเข้าไปในนั้น
พระเจ้า กว่าจะพาตัวเองกระโจนออกมาจากเสน่ห์สุดแสนเซ็กซี่ของอองเดรได้ หล่อนก็ต้องเสียแรงกายแรงใจไปไม่น้อย
“ไงล่ะ คุณยังคิดว่าผมพูดเล่นอยู่อีกหรือเปล่า ชมพูแพร”
“ไม่ได้พูดเล่นแล้วค่ะ”
ชายหนุ่มขยับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สองแขนเท้ากับโต๊ะทำงาน และยื่นหน้าออกไปหาเลขาฯ คนโปรด พร้อมกับอมยิ้มล้อเล่น
“แต่สีหน้าคุณยังดูตกใจอยู่เลยนะ ชมพูแพร”
เจ้าของชื่อยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แพรก็แค่ยังแปลกใจกับความคิดของท่านประธานน่ะค่ะ”
“ไม่เห็นต้องแปลกใจอะไรเลย ผมอยากได้ลูก แต่ไม่อยากได้เมีย”
“ค่ะ”