ตอนเย็น เหอตี้ รีบกลับบ้านพักเพื่ออาบน้ำไปทานอาหารที่บ้านจ้าว ตามที่น้องชายคู่หมั้นมาบอกไว้เมื่อตอนเที่ยง ก่อนจะออกจากห้องเขาจึงหยิบเหล้าที่ซื้อมาไว้ติดมือไปด้วย เพราะดูแล้วในห้องไม่มีอะไรพอจะเอาไปเป็นของฝากติดมือไปได้เลย เพราะถ้าจะให้ไปมือเปล่าก็ดูจะแปลกๆ อยู่เหมือนกัน เขาปิดห้องเสร็จก็ออกจากบ้านพักและเดินไปบ้านไป๋ ซึ่งอยู่คนละฟากของหมู่บ้านกับบ้านพักที่เขาพักอยู่ จึงต้องเดินอ้อมมาทางหนองน้ำใหญ่ ก่อนจะถึงบ้านจ้าวอีกที ไปถึงหน้าบ้านก็เห็นน้องชายหลี่เจี้ยน ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
" พี่เขยสาม พี่มาแล้วหรือครับ เข้ามาก่อนครับ"
" อืม ขอบใจอาเจี้ยน"
หลี่เจี้ยนพาพี่เขยเดินไปที่ห้องโถงที่ใช้ทานอาหารรวมกัน และได้จัดสำรับไว้เรียบร้อยแล้ว กลิ่นอาหารหอมยั่วน้ำลายไม่น้อย เหอตี้ มองดูกับข้าวที่จัดใส่จานไว้สวยงาม และดูน่าทานเป็นอย่างมาก
" สวัสดีครับ ผู้อาวุโส จ้าว " เหอตี้ ทักทายปู่จ้าว
" ยุวชน หวัง เข้ามานั่งได้เลยตามสบายนะ และเรียกปู่เหมือนอาอิงเถอะ"
" ครับคุณปู่จ้าว เรียกผม เหอตี้เถอะครับ"
" อืม อาเหอตี้ อาหารนี่เสี่ยวอิงของเราลงครัวเองทุกอย่างเลย วันนี้ลองกินฝีมือคู่หมั้นดูนะ 555 แล้วถืออะไรมาล่ะนั่น"
" อ้อครับ พอดีที่บ้านมีเหล้าซื้อมานานแล้วแต่ผมไม่ค่อยดื่ม จึงติดมาให้ลองดื่มดูไม่รู้จะถูกคอไหมครับ"
" อืม ดีดี งานเลี้ยงจะขาดสุราได้ยังไง มาๆ เอาจอกมาดื่มกันสักหน่อย เรียกน้ำย่อย" ปู่จ้าวบอกขณะที่ พ่อหลงเทียนกับหลี่อิงเดินเข้ามาในโถงพอดี
" สวัสดีครับ คุณอาหลงเทียน คุณน้าหลี่อิง" เหอตี้ทัก
" อืม มานานแล้วหรือ อาเหอ " หลงเทียน
" พึ่งมาครับ "
ทุกคนทักทายกันตามอัธยาศัย ปู่จ้าว จิบเหล้าที่เหอตี้นำมา รวมทั้งพ่อหลงเทียน ลุงใหญ่เฟยเทียน แล้วชวนกันไปทานอาหารเมื่อเห็นว่าทุกคนมากันพร้อมแล้ว
อิงเยว่ เมื่อเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะครบแล้วจึงมานั่งที่ตัวเองปกติจะนั่งถัดจากพ่อแม่ วันนี้เหอตี้ถูกจัดให้นั่งแทนที่เธอและเธอนั่งถัดมา หลี่เจี้ยนจึงขยับตามกันไป
" เหนื่อยไหมครับเห็นจัดนั่นนี่อยู่ ตลอดเลย" เหอตี้ถามคู่หมั้นเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน ตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องก็เห็นจัดโต๊ะและเตรียมจานชาม ตักข้าวจนเสร็จจึงมานั่ง ส่วนบางคนก็นั่งเฉยๆ รอทานอย่างเดียว อย่างไม่คิดจะทำอะไรเห็นแล้วก็ออกจะเคืองในใจ เล็กน้อย
" ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ" อิงเยว่ บอกพร้อมกับยิ้มให้เขา
" ครับ "
" อาเหอ ทานเยอะๆ นะวันนี้ อาอิงทำเองทุกอย่าง เลย อร่อยไม่อร่อยก็ต้องทนกินแล้วหล่ะนะ" ปู่จ้าวบอก
" ครับ แค่เห็นก็รู้ว่าอร่อยแล้วครับ "
" ลองกินดูก่อนเถอะค่ะ ถ้าไม่อร่อยคืนไม่ได้แล้วนะคะ สำหรับคำชม" อิงเยว่
" ไม่คืนแน่นอนครับ "
เมื่อลงมือทานอาหาร ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทานอย่างเอร็ดอร่อย อิงเยว่ กินแทบไม่ทัน เหอตี้จึงคอยคีบกับข้าวมาวางที่ชามข้าวให้ เพราะดูท่าแล้วหากไม่คีบให้คงไม่ได้กิน ผิดกับคนอื่นที่กินอย่างรวดเร็วถึงจะเป็นปกติทั่วไป แต่คู่หมั้นของเขากับเหมือนคุณหนูตระกูลใหญ่ ที่ไม่เคยต้องแย่งอาหารกับใคร ทั้งที่เป็นคนบ้านเดียวกันหรือเธอจะอายเขากันก็ไม่น่าใช่ เพราะดูจากการทานก็เรียบร้อยทาน ค่อยๆ เคี้ยวข้าวช้าๆ
เฟยเถาที่นั่งอยู่ตรงข้ามหลี่เจี้ยนคอยแอบมองเหอตี้และอิงเยว่ อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่กล้าแสดงอะไรออกไป ถึงจะอิจฉาแค่ไหนก็ต้องเก็บไว้ก่อน แต่เธอไม่รู้ว่าได้แสดงออกทางสายตาจนหมด แม้เหอตี้เองก็รู้สึกตัวเหมือนกันแต่เขาไม่สนใจ เพราะไม่ได้มีความสำคัญกับตัวเขาอยู่แล้ว อิงเยว่เองก็เช่นกัน ทำไมจะไม่รู้สึก ยิ่งเธอมีระบบเตือนภัยด้วยแล้วไม่รอดพ้นเรดาร์ของเธอไปได้หรอก เมื่อสงครามโต๊ะอาหารจบลง อย่างอิ่มหนำทั้งยังอร่อยจนแทบกลืนลิ้น อีก
เหอตี้เองก็อิ่มมากทีเดียว เขาดื่มน้ำซุปจนหมด เขาไม่ได้ดื่มน้ำซุปอร่อยๆ แบบนี้นานแค่ไหนแล้ว อิงเยว่ ก็คอยเติมให้ตลอดเพราะต้มไว้เยอะ
" อาอิง ถ้าน้องทำกับข้าวอร่อยขนาดนี้ พี่ต้องกลายเป็นหมูสักวันแน่ๆ " พี่รอง พูดขึ้น
" ใช่ รสมืออาอิง ดีขึ้นมากจริงๆ" พี่ใหญ่ลู่เหวิน
" พี่สาวผมต้องเก่งมากอยู่แล้ว เรียนก็เก่ง ทำอาหารก็เก่ง แบบนี้พี่เขยสามถือว่าโชคดีมากเลยนะครับ" หลี่เจี้ยน
" อาเจี้ยน พูดอะไร เดี๋ยวเถอะ" อิงเยว่
" ขอบคุณค่ะ พี่ใหญ่พี่รอง "
" เก่งจริงๆ ครับ พี่โชคดีมากจริงๆ ต่อไปทุกคนต้องอิจฉาที่พี่มีภรรยา ทั้งเก่งทั้งน่ารักขนาดนี้"
" พี่ น่ะ ....."
" เอาล่ะ ขอบใจเสี่ยวอิงนะ ที่ทำอาหารอร่อยๆ ให้ทุกคนได้กิน ปู่กับย่าจะรอที่ห้องโถงนะ เสร็จแล้วก็ตามมาแล้วกัน"
" ติ้ง ...+500 แต้ม คะแนนความพึงพอใจรวม"
' ค่อยหายเหนื่อยหน่อย' อิงเยว่คิด
" เสี่ยวอิง พาพี่เขาตรงโน้นด้วยเถอะ เดี๋ยวพี่สะใภ้เก็บโต๊ะเอง " พี่สะใภ้ใหญ่บอก ดูท่าแล้วเฟยเถาคงไม่คิดจะช่วย หากจะพูดก็จะอายแขกเปล่าๆ
"ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้ใหญ่"
" ไม่เป็นไรหรอก เหนื่อยทำอาหารคนเดียวตั้งแต่บ่ายแล้วพักบ้างเถอะ " พี่สะใภ้ใหญ่บอก
" อาเถา ไปช่วยพี่สะใภ้ล้างจานด้วย" ป้าสะใภ้ใหญ่ บอกลูกสาวเพราะนั่งรอดูนานแล้วเห็นลูกสาวคอยนั่งส่งสายตาให้คู่หมั้นคนอื่นอย่างหน้าไม่อาย เธอคงต้องรับจัดการอะไรแล้วเพราะไม่รู้ว่าลูกสาวจะก่อปัญหาอีกไหม
" ค่ะ" เฟยเถาเลี่ยงไม่ได้ จึงต้องไปช่วยพี่สะใภ้ล้างจานทั้งที่อยากไปฟังที่เขาคุยกันมากกว่า
ปู่กับย่าจ้าว และพ่อแม่ของอิงเยว่ รวมทั้งตัวอิงเยว่ และเหอตี้ จึงเข้าไปคุยกันที่โถงรับแขก ส่วนคนอื่นแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพราะรู้อยู่แล้วว่า พวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน
" อาเหอ เรื่องที่จะบอกกล่าวก็เรื่องฤกษ์วันหมั้นนั่นแหละย่าได้มาแล้ว วันดีคืออีก 10 วันข้างหน้าเตรียมตัวทันไหม แต่ไม่ต้องทำอะไรใหญ่โตหรอกแค่ให้ถูกต้องตามประเพณีก็พอแล้ว " ย่าจ้าว
" คิดว่าทันครับ ผมจะโทรไปบอกทางบ้านอีกที "
" อืมดีแล้ว หมั้นหมายเสร็จจะได้ไม่เป็นที่ครหาของชาวบ้านแค่นี้ก็ดีแล้ว" ปู่จ้าว
" ครับ ขอบคุณมากครับคุณปู่คุณย่า คุณอาทั้งสองด้วยครับ"
" เราก็ขอบใจอาเหอมากนะที่ช่วยอิงเอ๋อของเราในวันนั้นและยังต้องมารับผิดชอบแต่งงานด้วยอีก" หลงเทียน
" ครับ ผมเต็มใจและยินดีมากครับ"
" อืม ได้ฟังแบบนี้อาก็สบายใจ ยังไงก็ฝากน้องด้วยนะอาเหอ " หลี่อิง
" ผมสัญญาว่าผมจะดูแลอิงเอ๋อ ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ"
" ขอบใจ ๆ นะ" หลงเทียน
"ถ้าคุยกันเข้าใจแล้ว ปู่กับย่าขอไปพักก่อนนะ " ปู่จ้าว
" ครับ พ่อแม่ เดินดีๆ นะครับ" หลงเทียน
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวจะดึก คุณอาทั้งสองกับอิงเอ๋อ จะได้พักผ่อน"
" อืม อิงเอ๋อ ไปส่งพี่เขาแล้วปิดประตูบ้านดีๆ นะ " พ่อบอก
" ค่ะพ่อ "
"โฮส มีรังสีร้ายอยู่ในรัศมี 10 เมตร ระวังด้วยนะรู้สึกเป้าหมายจะเป็น คู่หมั้นของโฮสครับ" เอลิค
" อืม ฉันรู้แล้วขอบใจนะ"
" พี่เหอเดินระวังด้วยนะคะ รู้สึกจะมีอะไรแปลกๆ" อิงเยว่ กระซิบบอก
" อืม น้องก็เดินดีๆ เถอะพี่ระวังตัวดีอยู่แล้ว"
" ค่ะ หึหึ ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ค่ะ"
" ระวังไว้ก็ดีแล้วครับ พลาดมาล่ะแย่เลย"
" จริงค่ะ"