กษิดิสนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องทำงานเงียบๆ วันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เขายังคงให้ลูกน้องออกตามหาลูกสาวอยู่ตลอด ลูกน้องของเขาเพิ่งเข้ามารายงานว่าพบเบาะแสของพิชชาแล้ว แค่รู้ว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ก็รู้ลึกโล่งใจแล้ว ซึ่งเขาก็ทำได้เพียงนั่งฟังอย่างตั้งใจ
“หลังจากออกจากบ้านไปคุณพีชก็ไปทำงานเป็นเชฟที่ผับครับ ทุกคนเอ่ยชมคุณพีชเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอขยันทำงานมากครับ งานหนักงานเบาไม่เคยเกี่ยว แถมยังเต็มใจช่วยงานคนอื่นด้วยครับ เธอได้รับการชักชวนให้มาทำงานที่นี่จากผู้หญิงที่ชื่อว่าแคทครับ แต่แล้วเธอก็หายตัวไปไม่ได้มาทำงานอีกเลย” คนเป็นพ่ออดยกยิ้มมุมปากไม่ได้ ต้องบอกว่าสายเลือดแม่มันแรงสินะ ลูกสาวของเขาถึงได้เป็นคนขยัน พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
“แล้วผู้ชายที่หนีตามกันไปล่ะ”
“ไม่มีผู้ชายเข้ามาวอแวกับคุณพีชนะครับ คุณพีชมาทำงานที่นี่ตัวคนเดียว”
“พาผู้หญิงที่ชื่อแคทมาหาฉันให้เร็วที่สุด” คิ้วของกษิดิสขมวดเข้าหากันอัตโนมัติ ก็ไหนลิยลดาบอกว่าลูกสาวของเขาหนีตามผู้ชายไปไงล่ะ แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นมันหายหัวไปไหนตอนที่ลูกของเขากำลังลำบาก เขาเชื่อว่าเข้าถึงตัวผู้หญิงคนี้ได้อะไรๆก็จะง่ายดายขึ้น
“อะ เอ่อลักพาตัวเธอมาน่ะหรอครับ”
“จะใช้วิธีอะไรก็ได้ขอแค่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากปากผู้หญิงคนนั้นก็พอ” กษิดิสสั่งออกเสียงเข้ม หมดเวลาที่เขาจะรอคอยให้เวลามันผ่านไปเรื่อยๆแบบนี้แล้ว
หลังจากเลิกงานแคทก็บอกลากับผู้เป็นเจ้านายอย่างอิฐิอย่างนอบน้อมแล้วเดินมารอรโดยสารสาธารณะเพื่อกลับห้องพักผ่อนตามปกติ วันนี้เธอรู้สึกแปลกไปเพราะท้องถนนมันดูโล่งเกินไป แต่แล้วจู่ๆก็มีรถตู้คันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าป้ายรถประจำทาง รถจอดอยู่อย่างนั้นน่าจะสักห้านาทีได้ จากนั้นก็มีชายชุดดำสามคนลงมาจากรถ พวกเขาเดินตรงมาหาเธอโดยเฉพาะ เธอรู้สึกว่าความกลัวกำลังเกาะกินอยู่ที่หัวใจของเธอ แล้วสติของเธอก็ดับวูบไป
ภาณุรุจที่ตั้งใจขับรถมารับแคทไปส่งที่ห้องพักหลังเลิกงานถึงกับสติหลุดเมื่อเห็นว่าหญิงสาวถูกอุ้มขึ้นรไปต่อหน้าต่อตา เขาจึงไม่รอช้าโทรหาเพื่อนสนิททันที
“ไอ้เธียรช่วยคุณแคทด้วย คุณแคทูกจับตัวไป”
“แกพยายามตามรถคันนั้นไปให้ทันแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะประสานกับตำรวจให้”
“ขอบใจนายมาก ฉันกำลังตามรถตู้คันนั้นไป” ภาณุรุจรู้สึกร้อนใจและเป็นห่วงหญิงสาวมากๆ ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้เขาต้องช่วยเธอให้ได้
“อืม”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นคนตัวโตคุยโทรศัพท์หน้านิ่วคิ้วขมวดก็รู้สึกเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่งานมีปัญหานิดหน่อย เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดการครับ” ชายหนุ่มจำเป็นต้องโกหกออกไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้คนข้างกายเป็นกังวลจนนอนไม่หลับ นั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
“แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะคะ”
“ไม่มีอะไรที่พี่จัดการไม่ได้หรอกครับ เพราะฉะนั้นเวลานี้คุณแม่คุณลูกควรเข้านอนได้แล้วนะครับ”
“ก็ได้ค่ะ สามีของพีชเก่งที่สุดเลย” หญิงสาวยอมรับตาลงในอ้อมแขนของผู้เป็นสามี ไม่นานหญิงสาวก็ลมหายใจสม่ำเสมอ ชายหนุ่มจึงรีบผละห่างไปจัดการอะไรบางอย่าง
สติของหญิงสาวเริ่มกลับมาอีกครั้ง เธอค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ รู้สึกมึนงงและสับสนว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอบ้าง
“อะ อื่อ ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” เธอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว
“ตื่นแล้วหรอแม่หนู”
“คุณเป็นใครคะ คุณจับตัวฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรอ”
“หนูรู้จักพิชชาใช่ไหม” บิดาของหญิงสาวถามออกไปเสียงเข้ม
“...”
“พีชมาทำงานที่นี่ได้ยังไง”
“…”
“นายถามอะไรก็ตอบสิว่ะ”
“ออกไปรอข้างนอก” อาการสั่นผวาของแคททำให้กษิดิสต้องออกคำสั่งให้ลูกน้องไปรอด้านนอกก่อน
“คุณเป็นใคร ทำไมต้องสนใจน้องพีชด้วย หรือว่าคุณคือพวกที่ตามฆ่าน้องพีช”
“หนูว่าไงนะ” กษิดิสถามออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ มีคนกำลังตามฆ่าลูกสาวเขาด้วยอย่างนั้นหรอ
“ไม่ใช่หรอก ลุงหวังดีกับพีชเสมอ”
“เหอะ ใครจะเชื่อ คุณไม่รู้หรือไงว่าน้องพีชเกือบเอาชีวิตไม่รอด พวกที่ตามฆ่าน้องพีชมันจิตใจโหดเหี้ยมเกินไป”
“แล้วหนูรู้ไหมว่าตอนนี้พีชอยู่ที่ไหน”
“บอกให้ก็โง่แล้ว” กษิดิสพยายามใจเย็นและพูดกับอีกฝ่ายด้วยเหตุผล
“หนูชวนพีชมาทำงานที่ผับนั่นใช่ไหม”
“ใช่ ตอนนั้นน้องหนีมาหาที่พึ่ง หนูเป็นคนดีมากพอเลยช่วยเหลือน้องเอาไว้ ตอนนี้น้องได้เจอคนดีๆแล้วก็เลิกยุ่งกับน้องเถอะค่ะ ให้น้องได้มีความสุขบ้าง”
“ลุงขอบใจมากนะ นี่ถือเป็นของตอบแทนเล็กๆน้อยๆจากลุงที่หนูช่วยพีชเอาไว้” แคทงงเป็นไก่ตาแตก นอกจากเธอจะไม่โดนขโมยทรัพย์สินแล้วยังได้เงินกลับมาปึกใหญ่
“นี่มันอะไรกัน”
“รับเอาไว้เถอะ ลุงตั้งใจมอบให้จริงๆ” หญิงสาวรับเงินก้อนนั้นมากอด จากนั้นกษิดิสก็เรียกให้ลุงน้องมาพาตัวหญิงสาวกลับไปส่งที่เดิม รถตู้หายวับไปกับตาพร้อมกับสติที่กลับมาของหญิงสาว เธอได้แต่ถามตัวเองว่าคุณลุงคนนั้นเป็นใคร แต่สายตาเมื่อพูดถึงพิชชาแล้วมีความอ่อนโยนแฝงเอาไว้