บทที่6 เขาคนนั้นกับความเข้าใจที่คาดเคลื่อน

2223 Words
บทที่6 เขาคนนั้นกับความเข้าใจที่คาดเคลื่อน เช้าวันแรกของการนอนโรงพยาบาลของพิมพ์พิชชาไม่ได้สดใสนัก...ออกจะอึมครึมพิกลเสียด้วย “ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าน้องทรายจะเป็นหนักได้ขนาดนี้...แสดงว่าพี่ชายไม่เก่งจริงนี่น่า” น้ำเสียงที่แสดงออกต้องการแขวะพี่ชายของคนไข้ของชายหนุ่มในชุดลายพรางพาให้พิมพ์พิชชาพาลหายใจไม่ออกขึ้นมากะทันหันมือบางสะกิดให้แพรวารินทร์ช่วยทำอะไรสักอย่างแต่เพื่อนสาวกลับไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย...แพรวารินทร์มัวแต่ปอกผลไม้อยู่ไม่ได้มองอะไรเลย “เก่งไม่เก่งถึงเวลาคุณต้องผ่าตัดแล้วผมเป็นหมอเจ้าของไข้คุณจะรู้เอง...อยากลองมั้ยล่ะ” พี่เสือของหญิงสาวก็ไม่ได้ปล่อยให้มีใครมาแขวะอยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน...นี่ล่ะที่ทำให้หายใจไม่ออก ไม่รู้ไปเกาเหลากันเมื่อไร่นะคู่นี้...เฮ้อ หนักใจ “พี่เมฆกับพี่เสือนี่ตลกดีเนาะ ฮะฮะ เอ่อ แล้วนี่พี่เมฆรู้ได้ยังไงคะว่าทรายอยู่โรงพยาบาล” พิมพ์พิชชาทำลายบรรยากาศมาคุด้วยการสอบถามชายในชุดลายพราง พงศ์พยัคฆ์เบือนหน้าหนีทันทีราวกับไม่อยากจะมองหน้าคนอุตส่าห์มีน้ำใจมาเยี่ยมน้องสาวของเขา เขารู้จักผู้ชายคนนี้ดี เขาคนนี้ไงล่ะคนที่อยู่ในดวงใจของแพรวารินทร์ ผู้ชายแสนดีที่ชื่อ...เมฆา “พี่โทรหาน้องแพรว่าจะเอาของฝากจากเชียงรายไปให้ที่บริษัทน่ะแต่น้องแพรบอกว่าไม่ได้อยู่ที่บริษัทเพราะน้องทรายเข้าโรงพยาบาลน่ะ พี่ก็เลยมาที่นี่” “ฮะฮ่า ตกใจมากเลยสิที่ทรายเป็นแบบนี้” “ตกใจสิ มากเลยด้วย” การสนทนาภายในห้องตกเป็นของพิมพ์พิชชาและเมฆาขณะที่พี่ชายแท้ ๆ ของคนไข้กลับมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่แสดงความผิดปกติใด ๆ ดวงตาคู่คมไหววูบโดยไม่มีใครได้เห็นเมื่อย้อนคิดไปถึงอดีตอันยาวนาน...นานจนคิดว่าจะลืมแต่ก็ไม่เคยลืมได้สักวินาทีเดียว 9ปีก่อน “จะเอาดอกไม้ไปไหนเหรือครับไอ้คุณเสือ” น้ำเสียงล้อเลียนที่ถูกส่งมาทำให้พงศ์พยัคฆ์ในวัย21ปียิ้มเขินออกมาน้อย ๆ ดวงตาคมยังคงจดจ้องช่อดอกกุหลาบขาวช่อโตในมือ ปัญจวัตรจึงยังคงล้อเลียนต่ออย่างสนุกสนาน “แหมๆๆ เอ ใครน๊าชอบดอกกุหลาบขาว เอๆ ใครน๊า...จะเอาไปสารภาพรัก?” “เฮ้ยไม่ใช่...ฉันไม่ได้เอาไปให้เพราะเจตนาแบบนั้น” ชายหนุ่มที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยปฎิเสธ “อย่าเข้าใจผิดซิวะ ฉันไม่ได้รู้สึกพิเศษแบบนั้นกับน้องเขาซะหน่อย” “แน่ใจนะเว้ย นายเนี่ยห่วงน้องเขายิ่งกว่าฉันที่เป็นญาติอีก” ปัญจวัตรเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อตรง ๆแต่คนทั้งสองก็เข้าใจตรงกันว่า “น้องเขา” คนนั้นคือแพรวารินทร์ เขาไม่อยากจะเชื่อพงศ์พยัคฆ์ว่าชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเด็กสาวผู้ที่มีศักดิ์เป็นญาติของเขา คุณปู่ของเขาเป็นพี่ชายของพ่อเลี้ยงพยัคฆ์เขาจึงมีศักดิ์เป็นญาติที่สนิทกันแต่พงศ์พยัคฆ์ปฏิบัติกับแพรวารินทร์ดียิ่งกว่าตัวเขาที่มีศักดิ์เป็นพี่เสียอีก แบบนี้น่ะเหรอไม่ได้รู้สึกพิเศษ “แน่ใจซิ น้องเว้ย เพื่อนน้องก็เหมือนน้อง” นักศึกษาแพทย์ตัวท็อปของมหาวิทยาลัยเอ่ยบอกก่อนที่จะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก “ไม่ได้...พิเศษอะไรเลย” “จะพยายามเชื่อเว้ย” ปัญจวัตรเอ่ยแล้วถอนหายใจขำๆ เพื่อนเขายังไม่เข้าใจเลยว่าตัวเองนั้นรู้สึกพิเศษกับญาติผู้น้องเขาเข้าเต็มเปาแล้ว เมื่อไหร่ล่ะเนี่ยพงศ์พยัคฆ์ถึงจะรู้หัวใจตัวเอง “ไม่ไร้สาระกับนายแล้ว ไปล่ะ” คนพูดแล้วเพื่อนสนิทไม่เชื่อเอ่ยก่อนที่จะหอบช่อดอกกุหลาบเดินจากไป ปัญจวัตรมองตามแล้วส่ายหน้าขำๆ “เอาเข้าไป ไม่ได้พิเศษอะไรแต่หอบดอกไม้ที่เขาชอบไปให้เขา เหอะ” ด้านคนหอบดอกไม้มาฝาก “เพื่อนน้องสาวผู้ไม่ได้พิเศษอะไรเลย” นั้นอมยิ้มอย่างไม่เข้าใจตัวเองจนกระทั่งเดินทางมาถึงบ้านของเด็กสาว ชายหนุ่มก้มลงมองช่อกุหลาบในมืออีกครั้งก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านยังไม่ทันที่จะได้เจอเจ้าของบ้านก็ได้ยินเสียงสนทนาดังมาจากห้องนั่งเล่นเสียก่อนจนเขาต้องหยุดฟัง “ขอบคุณพี่เมฆมากนะคะที่ช่วยหนูไว้ ถ้าไม่ได้พี่เมฆช่วยคงแย่แน่เลย” “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง” “ทรายกับพี่เสือต้องชอบของขวัญวันเกิดปีนี้แน่ ๆเลย” “ก็ไม่แน่หรอกค่ะ เออ จริงสิคะน้องแพร ความจริงแล้วพี่...กำลังจะไปช่วยงานที่หาดใหญ่น่ะ ก็เลยมาหาเราที่นี่” “แล้วมาหาหนูทำไมคะ” “พี่คิดว่าพี่รักน้องแพรค่ะ” “พี่เมฆ?” “แล้วเราล่ะรักพี่ไหม ถึงมันจะเร็วไปแต่พี่ก็รู้จักเรามาครบปีแล้วนะจะเร็วไปไหมถ้าพี่จะขอหมั้นเราไว้ก่อน” เสียงสนทนาเงียบลงไปในขณะที่คนแอบฟังนั้นหัวใจเต้นโครมครามราวกับลุ้นคำตอบ คนที่สนทนากันอยู่หนึ่งคนคือแพรวารินทร์ส่วนอีกคนนั้นคือเมฆา นายทหารหนุ่มโปรไฟล์ดีที่บังเอิญเข้ามาช่วยแพรวารินทร์ไว้ไม่ให้ถูกรถชนเมื่อปีก่อน นับแต่นั้นนายทหารหนุ่มคนนี้ก็มาหาแพรวารินทร์ทุกเย็นราวกับคนว่างจัดจนคนทั้งคู่สนิทกัน...สนิทจนบางครั้งสาวน้อยละเลยเขากับน้องสาวเลยทีเดียว “หนู...รักพี่เมฆค่ะ” “จริงเหรอคะ พี่ดีใจนะที่เราใจตรงกัน” เสียงสนทนาดังขึ้นอีกครั้งคำตอบของแพรวารินทร์ยังไม่ทันจบประโยคแต่ทั้งคนด้านในและด้านนอกก็เข้าใจเพียงว่าแพรวารินทร์ใจตรงกับนายทหารหนุ่ม คำตอบของแพรวารินทร์ทำให้พงศ์พยัคฆ์รู้สึกเจ็บอย่างบอกอาการไม่ได้ชายหนุ่มรีบเดินออกจากตรงนั้นทันทีโดยไม่รั้งฟังต่อราวกับกลัวยิ่งฟังจะยิ่งเจ็บ ปัจจุบัน มันเป็นเรื่องบ้าที่สุดในชีวิตของเขา...ในตอนนั้นเองที่เขารู้ใจตัวเองว่าเขารักเพื่อนน้องสาวคนนี้ในแบบที่พิเศษกว่าการเป็นพี่น้อง ความผูกพันแปรเปลี่ยนเป็นความรักที่ไม่อาจตัดใจได้ แต่ในตอนนั้นอีกเช่นกันที่เขาได้รู้ว่าแพรวารินทร์รักเมฆา แน่นอน...คนแพ้ก็ต้องเก็บอาการและเดินจากออกมา เขาจะไปเทียบอะไรผู้ชายคนนี้ได้ “อย่ามัวพูดเรื่องอื่นอยู่สิคะพี่เมฆ...พูดเรื่องสำคัญดีกว่า” เสียงหวานของแพรวารินทร์ที่เงียบมาโดยตลอดดังขึ้นทำให้คุณหมอหนุ่มหันมาสนใจปัจจุบันอีกครั้งแม้ว่าไม่อยากจะสนใจ “คือ...” “เซย์เยส หรือเซย์โนคะ” พิมพ์พิชชาเอ่ยพร้อมกับแสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเช่นเดียวกับแพรวารินทร์ที่มองเมฆาอย่างคาดคั่น เมฆายกมือเกาท้ายทอยด้วยก่อนจะเอ่ย “วันที่20เดือนหน้าที่เชียงใหม่” “กรี๊ด แพรแกได้ยินมั้ย พี่เมฆขายออกแล้ว” พิมพ์พิชชาร้องกรี๊ดอย่างดีใจออกมาทันทีที่ได้ยินคำตอบแพรวารินทร์ที่นน้อยครั้งจะยิ้มเองก็คลี่ยิ้มจนแก้มแทบแตกเช่นกัน “ดีใจด้วยค่ะพี่เมฆ ทราย เราต้องเตรียมชุดกันแล้ว กั้นประตูกันมั้ย?” “เป็นความคิดที่ดีเลยแก เราต้องปล้นพี่เมฆให้หมดตัวเลยจะมาเป็นน้องเขยพวกเราทั้งที” พิมพ์พิชชาเอ่ยก่อนจะหุบยิ้มฉับเมื่อนึกบางเรื่องขึ้นมาได้ “แล้วฉันจะออกโรงพยาบาลทันวันงานมั้ยอะแก...พี่เสือ น้องต้องได้ไปงานนะ น้องต้องหายทันวันงาน พี่เสือต้องช่วยน้องนะ” “วันงานอะไร?” เมฆายิ้มระรื่นก่อนที่จะตอบด้วยท่าทีโอ้อวด “งานแต่งของฉันไง วันที่20เดือนหน้านี้” “งานแต่งงาน?” มันคือสิ่งที่ฟังแล้วในหัวมีแต่ความสงสัย อะไรกันเมฆากำลังจะแต่งงานอย่างนั้นเหรอ “ใช่ค่ะ พี่เมฆจะแต่งงาน แล้วก็ไม่ได้แต่งกันใครที่ไหนนะคะ น้องพลอยลูกอาสิริของเรานี่เอง” “น้องพลอย?” คนกำลังจะแต่งงานยิ้มก่อนที่จะตอบออกไป “ใช่ ฉันกับพลอยคบกันมาหลายปีแล้ว” กริ๊ง “น้องพลอยโทรตามแล้วพี่คงต้องกลับแล้วนะน้องแพร น้องทราย มันอาจจะฉุกละหุกไปหน่อยแต่หวังว่าคุณจะรับผมเป็นน้องเขยนะหมอ หวังว่าวันงานเราจะเจอกัน” คนที่อยู่ ๆ ก็มีธุระเร่งด่วนเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกจากห้อง ไม่ทันได้คิดถี่ถ้วนร่างสูงก็ตามไปทันทีจนสองสาวภายในห้องได้แต่มองหน้ากันด้วยความงุนงง...พงศ์พยัคฆ์เป็นอะไรไปล่ะ “เดี๋ยว” หมอหนุ่มเรียกไว้ก่อนที่จะเร่งรุดมายืนขวางหน้านายทหารหนุ่ม “ที่ผ่านมานายกับแพร...ไม่ได้รักกันแบบหญิงชายเหรอ” “อ้าว ทำไมนายคิดอะไรบ้า ๆ แบบนี้วะ” เมฆาถามกลับอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน และแล้วเขาก็พอจะคาดเดาอะไรได้ คงไม่ใช่ว่านายคนนี้เข้าใจผิดว่าเขารักกับแพรวารินทร์หรอกนะถึงได้ละเลยเธอมาตลอด “เฮ้ย ฟังนะไอ้หมอแมว ฉันรักน้องแพรเหมือนน้องสาวแท้ ๆ เว้ย เขาเองก็รักฉันแบบพี่คนนึง” “งั้นหรอกเหรอ” เสียงที่เปล่งออกมาราวกับพงศ์พยัคฆ์กำลังถามตัวเองแต่ถึงจะอย่างนั้นเมฆาก็เอ่ยอธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจ “ความจริงฉันก็เคยชอบน้องเขาแบบชายหญิงนะ เคยสารภาพรักด้วยแต่น้องเขาบอกว่ารักฉันแบบพี่ชาย อยากให้ฉันเป็นพี่ชายเขาตลอดไป น้องเขาเป็นคนชัดเจนนะ ถ้าไม่ชอบก็วางสถานะให้อย่างตรงไปตรงมา แล้วนายล่ะ น้องเขาเคยขอให้นายเป็นพี่ชายตลอดไปไหม” “...” ความเงียบของหมอหนุ่มทำให้เมฆาลอบยิ้ม คนตรงหน้าคงไม่ถูกขีดสถานะให้เป็นพี่ชายตลอดไปเป็นแน่ “ถ้าไม่ แสดงว่านายยังมีหวัง ให้ตายเถอะ ตอนนั้นคิดแบบนี้แล้วโคตรอิจฉาเลย แต่ตอนนี้ไม่แล้วเพราะนายชักจะทำตัวเองจนไม่อาจบอกได้เลยว่าน้องเขาจะมองนายเป็นคนแปลกหน้าหรืออากาศ ไม่คุยด้วยล่ะต้องรีบไปรับแฟน ไปล่ะไอ้หมอแมว” “โอ๊ะ” คนนำลังจะก้าวออกไปส่งเสียงอุทานขึ้นก่อนจะเอ่ยบอก “คงไม่โกรธนะที่ฉันเปลี่ยนชื่อจากเสือให้เป็นแมวนะ ถึงโกรธฉันก็ไม่สนหรอก บาย” “อย่างนั้นหรอกเหรอ หึ แกนี่มันโง่งี่เง่าจริง ๆไอ้เสือเอ้ย” เมฆาออกไปแล้วแต่หมอหนุ่มยังคงยืนนิ่งคิดอยู่ ที่ผ่านมาเขางี่เง่าเข้าใจผิดใช่ไหม มันบ้าที่สุด เขามันบ้า โง่ และงี่เง่า ปีนั้นด้วยด้วยความเจ็บปวดผิดหวังทำให้เขาอยากหายไปไกล ๆและในที่สุดก็เขาสอบชิงทุนไปเรียนต่อยังมหาวิทยาลัยสายการแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกทั้งที่ก่อนนั้นไม่เคยมีความคิดจากบ้านไปไหนเลยสักนิด ในตอนแรกก็เป็นไปด้วยดีเขาสอบติดแต่แล้วเขาก็ถูกคนเป็นปู่บังคับให้สละสิทธิ์เพราะไม่อยากให้เขามุ่งมั่นกับการแพทย์มากนักด้วยว่าเขายังมีธุรกิจสายการบินและศูนย์การค้าของตระกูลให้ต้องสืบทอดในอนาคต เพราะท่านรู้ว่าถ้าให้เหตุผลเรื่องสานต่อธุรกิจเขาจะไม่ฟังคุณสัตยาผู้เป็นปู่จึงให้เหตุผลว่าเขาจะต้องแต่งงานกับแพรวารินทร์เพื่อปกป้องเด็กสาวจากผู้ไม่หวังดี เพราะพ่อเลี้ยงพยัคฆ์ลงแรงขอร้องด้วยเขาจึงยอมตกลงแต่งงานแต่ในใจก็เกิดทิฐิต่อต้านคนเป็นปู่และพ่อขึ้นมา ทั้งคู่ได้แยกแพรวารินทร์จากคนที่เธอรักแล้วเขายังจะมีหน้าเห็นแก่ตัวเข้าไปแทรกกลางอีกเหรอ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่จนถึงทุกวันนี้เขาแทบจะไม่มองหน้าสบตาหญิงสาวเลย...เพราะไม่อยากให้เธอลำบากใจอย่างไรล่ะ ในตอนนี้เขาก็ได้รู้ว่าตัวเขามันบ้าสิ้นดี งี่เง่า ไร้สาระ และเป็นสามีที่แย่มาก ถ้าเขาจะแก้ไขตอนนี้มันจะสายเกินไปหรือเปล่านะ หรือจะเป็นอย่างที่เมฆาพูด ตอนนี้เขาเป็นคนแปลกหน้า หรือ อากาศ สำหรับแพรวารินทร์ไปแล้วรึเปล่านะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD