ตอนที่ 3 รู้สึกผิด

1129 Words
หลังจากเกิดเรื่องฉันก็โทรเรียกพี่สมคิดให้มารับฉันและกำชับไม่ให้บอกใคร “คุณวามาทำอะไรที่นี่คะ” เขาถามด้วยท่าทีที่เป็นกังวลและเหมือนรู้สึกผิดหวังในตัวฉัน “มาส่งเพื่อนน่ะค่ะ แล้วโดนเท” ฉันโกหกเขาเป็นครั้งแรกก่อนจะหลับตาลงบนเบาะหลังด้วยความเหน็ดเหนื่อย รู้สึกผิดกับเรื่องเกิดขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อนึกถึงมันแล้วก็อดรู้สึกดีและตื่นเต้นกับมันไม่ได้เช่นกัน ก่อนออกมาทั้งสองพยายามที่จะแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่เหมือนว่าพวกเขาเองก็รู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไปกับคนที่เมาจนขาดสติอย่างฉัน แต่ก็ยังไม่วายจะแก้ตัวว่าพวกเขาเองก็พึ่งจะเคยถูกชวนวันไนท์สแตนด์พร้อมกันเป็นครั้งแรก เลยตื่นเต้นและรับปากอย่างไม่ลังเลเมื่อฉันยืนยันจะทำมันให้ได้ ‘ครั้งแรกบ้าอะไร ร่วมมือกันอย่างชำนาญเชียวนะ’ ฉันคิดไปก็หมั่นไส้ไป นึกภาพตอนที่เขาช่วยกันอาบน้ำให้ฉันและช่วยกันมอบประสบการณ์ที่แสนสุขสมให้กับฉันบนเตียงจนฉันสลบคากิจกรรมที่แสนหฤหรรษ์นั้น นึกแล้วก็เจ็บใจ ฉันเพลียหลับไปขนาดนั้นแทนที่จะหยุดกับหาความสุขจากเรือนร่างฉันต่อ “อย่าให้เจออีกนะ แม่จะเอาคืนให้ขาสั่นไปเลย...ไม่สิ อย่าได้เจอกันอีกเลยจะดีกว่า” “คุณหนูพูดอะไรคะ คริสซี่ได้ยินไม่ถนัด อะไรสั่นๆ นะคะ” พี่สมคิด เอ่อ..พี่คริสซี่ถามฉันทำให้ฉันรู้ตัวว่าเผลอพูดความในใจออกมา “วาโกรธเพื่อนจนมือไม้สั่นไปหมดแล้วนะคะ เจอกันครั้งหน้าว่าจะตีเข้าให้โทษฐานที่ทิ้งวาไปกับผู้ชาย” ฉันแกล้งบอกเขาไป โกหกครั้งแรกก็จะตามมาด้วยคำโกหกเพื่อปิดบังในสิ่งที่เราโกหกต่อไปเรื่อยๆ สินะ เฮ้อ! พอกลับถึงบ้านฉันก็ย่องเข้าไปให้เสียงเบาที่สุด กว่าจะผ่านห้องนอนของคุณยายเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่สุดทางเดินได้ก็เล่นเอาใจสั่นอยู่เหมือนกัน อาการเจ็บหน่วงที่สะโพกที่เกิดจากการถูกล่วงล้ำอย่างหนักมือจากชายแปลกหน้าทั้งสองทำให้ฉันรู้สึกว่าจะมีไข้ร่วมด้วย จึงรีบทานยาลดไข้ดักเอาไว้ คิดแล้วก็เจ็บใจตัวเองที่บ้าบอรับคำท้าจากเพื่อนจนต้องเสียตัวให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้ “ดีนะพวกเขาใส่ถุงยาง ไม่อย่างนั้นถ้าฉันเกิดท้องมาแล้วจะบอกว่าใครเป็นพ่อของลูกล่ะ” ฉันบ่นไปแล้วในสมองก็คิดแต่ภาพที่แสนตราตรึงนั้นอย่างอดไม่ได้ “เลิกคิดได้แล้ววา มันก็แค่ประสบการณ์เรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น” ฉันบอกตัวเองแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบคาวน้ำลายจากพวกเขา ตอนที่ออกมาจากห้องนั้นฉันรีบร้อนออกมาเลยไม่ทันได้สำรวจดูร่างกายของตัวเอง พอตอนนี้ที่กำลังอาบน้ำฉันก้มลงถูสบู่ก็เป็นรอยจ้ำสีกุหลาบช้ำแล้วแทบจะกรีดร้องออกมา รอยจ้ำที่เนินอกอยู่ในขอบเสื้อที่ปิดเอาไว้พอดี โชคดีที่พี่สมคิดไม่สังเกตเห็น “ไอ้พวกบ้าดูดฉันจนเป็นรอยเลย ฮือ ฉันจะไม่ดื่มเหล้าจนขาดสติแบบนี้อีกแล้ว” ฉันร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิดต่อร่างกายตนเอง รู้สึกผิดต่อคำสอนของคุณยายและพ่อแม่ที่ประคบประหงมฉันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงทุกคนที่พร่ำสอนฉันเรื่องรักนวลสงวนตัว รู้สึกโคตรแย่! เพียงเพราะเหล้าไม่กี่แก้วกับความกลัวเสียหน้าทำให้ฉันขาดสติและทำให้เกิดเรื่องที่น่าอับอายนี้ขึ้น ************************ ในตอนเช้าฉันลุกขึ้นแทบไม่ไหว เมื่อคืนนี้พวกเขามือหนักไปมากเล่นเอาฉันเป็นไข้และปวดร้าวไปทั่วสะโพกและตามร่างกายส่วนอื่นๆ ด้วย อาหารเช้าถูกคนรับใช้ยกขึ้นมาบนห้อง พร้อมกับคุณยายที่เดินตามหลังเข้ามาดูสภาพที่น่าเวทนาของฉัน “เมื่อคืนกลับกี่โมงล่ะ” “ไม่รู้ค่ะ วาไม่ได้ดูนาฬิกา แต่น่าจะดึกพอสมควร” ฉันตอบเสียงเบาแล้วยิ้มให้ท่านอย่างฝืนๆ “ตีสาม หล่อนกลับบ้านตีสาม อากาศเย็นขนาดนั้นและเสื้อผ้าน้อยชิ้นก็สมแล้วที่จะไม่สบาย ต่อไปห้ามเที่ยวหนักแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นจะกักบริเวณไม่ให้ไปไหนมาไหนเลย” “วาเข้าใจแล้วค่ะ” “พักอีกสองสามวันค่อยไปทำงานแล้วกัน พ่อแม่เขาออกไปทำงานแล้ว ว่าจะเปิดตัววันนี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อน งามหน้านักเชียวแม่ตัวดี” คุณยายเอาแต่บ่นๆ แต่ก็เดินมานั่งข้างๆ แล้วใช้หลังมืออังที่หน้าผากแล้วลูบศีรษะเบาๆ “ทานข้าว ทานยา แล้วนอนพักนะ หายดีแล้วยายกับพ่อแม่ของวามีเรื่องจะคุยด้วย มันน่าจะถึงเวลาแล้วล่ะ” คุณยายพูดในสิ่งที่ชวนฉงนใจ “ถึงเวลาอะไรคะ” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ “หายดีก่อนค่อยคุยกัน” คุณยายบอกแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนมือที่ลูบอยู่จะเปลี่ยนเป็นเคาะมะเหงกลงที่กลางหน้าผาก ก๊อก! “โอ๊ย คุณยาย วาเจ็บนะคะ” “เจ็บก็จำเอาไว้ อย่าไปเที่ยวเมามายจนเจ็บป่วยแบบนี้ให้ยายต้องเป็นห่วงอีก ยายรอเรากลับบ้านไม่ได้หลับได้นอนเลยรู้ไหม ตอนที่สมคิดขับรถออกไปรับยายก็รอใจจดใจจ่อ พอวากลับมาถึงบ้านยายถึงวางใจและหลับได้” คุณยายบ่นต่ออีกรอบ ฉันเลยขยับเข้าไปกอดท่านแล้วกราบลงที่ตัก “ขอโทษนะคะคุณยาย วาไม่ทำอีกแล้วค่ะ วาผิดไปแล้ว” ฉันพูดเสียงสั่น เพราะฉันเอาแต่ใจและมั่นใจว่าตัวเองเอาตัวรอดได้ เลยเที่ยวปล่อยตัวปล่อยใจเต็มที่ไม่คิดว่าสุดท้ายเหล้าจะทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่ร้อนแรง วันไนท์สแตนด์ควบสองอย่างเมื่อคืนนี้ได้ “อืม สำนึกแล้วก็ดี” คุณยายพูดแล้วลุกเดินออกไป ท่านทั้งรักและห่วงฉันมาก ซ้ำยังไว้ใจว่าฉันจะไม่มีวันทำให้ท่านผิดหวัง นี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจ เพราะตอนนี้ฉันทำลายความไว้ใจของท่านไม่เหลือแล้ว แม้ท่านไม่รู้แต่มันก็จะเป็นแผลในใจของฉันตลอดไป ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD