9
1499 Words
ชายหนุ่มดึงมือของเด็กสาวให้รีบวิ่งออกมาจากห้องพัก ทั้งสองหอบหายใจพร้อมกันเมื่อมาถึงห้องนอนของตัวเอง
“จะไปไหน”
“ปล่อยเลยนะคะ เกือบโดนคุณลุงกับคุณแม่จับได้แล้วเห็นไหมคะ”
“แต่ก็ยังไม่โดนจับไง” เขาดึงเธอมาสวมกอดเอาไว้
“พี่ธีร์ปล่อยได้แล้วค่ะ”
“จะปล่อยได้ไง เยิ้มขนาดนั้น”
“อะไรคะ” คนถามหน้าแดงก่ำ ลามไปถึงใบหู
“นั่นสิอะไร ที่พี่ได้สัมผัสเมื่อครู่” เขายกนิ้วขึ้นดูดเบาๆ ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้เธอหน้าร้อนซู่
“รสชาติหอมหวานมาก มาให้พี่เลียให้ไหมจะได้หายเยิ้ม”
“พี่ธีร์บ้า”
“ไม่บ้าหรอก ทำอะไรกับพี่เอาไว้ ต้องรับผิดชอบ ถ้าอยากฟันพี่แล้วทิ้งทีหลังไม่ต้องใช้ยาปลุกเซ็กซ์นะ พี่พร้อมเสมอสำหรับหนูยิ้ม” เขาดึงเธอมากอด กระซิบบอกแล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่
“พี่ธีร์ไม่มีถุงยางอนามัย ก็อดนะคะ” เธอใช้เหตุผลนี้มาอ้างกับเขา
“ปล่อยนอกก็ได้” เขาดันร่างของเธอไปที่เตียงนอนกว้าง
“ไม่เอาค่ะ”
“เอากันหน่อยนะ รับรองว่าครางลั่นเตียงแน่ ๆ”
“พี่ธีร์ อื้ม...” เธอครางเสียงหลงเมื่อเขาปลดกางเกงนอนของเธอลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า แล้วซุกใบหน้าเข้าหาอย่างแนบชิด
“พี่ธีร์ อย่าเลียค่ะ ไม่เอานะคะ ตรงนั้นไม่ได้ค่ะ” เธอบิดกายด้วยความเสียวซ่าน เขาก็ลงลิ้นตวัดขึ้นลงหนักข้อขึ้น
ลิ้นสากร้อนเปียกชุ่มสัมผัสลากไล้ไปกับกลีบสวาทถนัดถนี่ เธอครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน ร่างกายเกร็งสะท้านทุกครั้งที่เขาบดบี้ติ่งสวาทกลางกายสาวที่สั่นระริกด้วยความกระสัน
“พี่ธีร์”
“ครับ”
“ไม่เอาแบบนี้ค่ะ”
“แล้วจะเอาแบบไหน”
“ไม่เอาแบบไหนทั้งนั้นค่ะ เดี๋ยวคุณลุงกับคุณแม่รู้เข้า”
“ตอนฟันพี่แล้วทิ้งไม่เห็นกลัวใครรู้”
“ก็ตอนนั้น อื้ม...” เธอกัดปากด้วยความเสียว พูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนทั้งลิ้นและนิ้วของเขาจู่โจมไม่หยุดหย่อน
“ตอนนั้นทำไม คิดว่าไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น ไม่สนใจด้วยว่าพี่จะคิดยังไง”
“ไม่ใช่เสียหน่อย”
“แล้วยังไง”
“หนูยิ้มถามพี่ธีร์แล้ว พี่ธีร์บอกว่าเอ็นดูหนูยิ้มเหมือนน้องสาว รักเหมือนน้องสาว แล้วจะให้หนูยิ้มทำยังไงคะ”
“พี่ยังพูดไม่ทันจบต่างหากล่ะ” เขาผละออกห่าง ก่อนจะลามเลียลงไปใหม่ เรียกเสียงครวญครางจากเธอได้อีกระลอกใหญ่
“พี่ธีร์คุยกันก่อน” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง แม้จะเสียวซ่านเพียงใด แต่คำตอบของเขาก็ทำให้เธอหัวใจเต้นระทึกจนแทบจะโลดออกมาจากอก
“คุยกันหลังจากนี้นะ พี่ไม่ไหวแล้ว”
“คุยกันก่อนไม่ได้เหรอคะ อื้ม...” เขาซอยจังหวะเข้าออกถี่ยิบ เกร็งนิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าในร่องความเสียวซ่าน ร่างน้อยเกร็งกระตุก เสร็จสมอารมณ์หมายอย่างรุนแรง
“พี่ธีร์” เธอเรียกชื่อเขาเสียงหอบๆ ยังอยากได้คำตอบจากเขาอยู่นั่นเอง
“เด็กดื้อ” เขาแยกเรียวขาของเธอออก ก่อนจะเสียดสีส่วนปลายของความแข็งแกร่ง แล้วสอดเสียบแก่นกายชายเข้าไปในร่องเสียวจนหมดลำ
“อ๊า... พี่ธีร์”
“ยังอยากได้คำตอบอยู่อีกเหรอ” เขาเอ่ยถามขณะซอยกายเข้าออกในซอกกายสาว
เธอนิ่วหน้าด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะพยักหน้าให้เขา พร้อมกับลมหายใจหอบสะท้าน
“ตอนนั้นพี่ยังพูดไม่ทันจบ”
“ตอนไหนคะ”
“ตอนที่หนูยิ้มถามว่าพี่ว่าคิดยังไงกับหนูยิ้ม แล้วจำได้ไหมพี่ตอบว่ายังไง” เขาไล้สะโพกงอนงามของเธอเล่น ขยับโยกเป็นจังหวะจะโคน
“พี่ธีร์บอกว่ารักและเอ็นดูหนูยิ้มเหมือนน้องสาว” เธอตอบด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น
“นั่นแหละ พี่รักและเอ็นดูหนูยิ้มเหมือนน้องสาว น่ะใช่ และพี่กำลังจะพูดต่อ ทศก็เข้ามาเสียก่อน”
“พูดต่อว่ายังไงคะ”
“พี่จะพูดต่อว่า ไม่ใช่รู้สึกแค่นั้น แต่รู้สึกห่วงใยอยากได้หนูยิ้มมาเป็นคนรักของพี่ด้วย” เขาแช่กายนิ่ง หยุดขยับท่อนกาย เคลื่อนใบหน้าลงไปหา กระซิบที่ริมหูของเธอเบาๆ เพื่อบอกความในใจให้เธอได้รับรู้
ประโยคของเขาทำให้เธอหน้าแดงก่ำ ลามไปถึงใบหู แก้มร้อนซู่ หัวใจเต้นระทึก ท้องไส้ปั่นป่วน และรู้สึกวาบหวามอบอุ่นกรุ่นอยู่ในอก
“พี่ธีร์” เธอครางชื่อของเขาออกมา
“ครับ”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกล่ะคะ”
“ก็บอกแล้วไง”
“อื้อ...” เธอหลุดเสียงครางออกมา
“ถ้าวันนั้นพี่บอกว่าชอบหนูยิ้มเหมือนกัน หนูยิ้มจะฟันพี่แล้วทิ้งหรือเปล่า” เขาพูดปนขำกับความคิดของเด็กสาว
ยิ้มใสส่ายหน้าไปมา ทำเอาคนฟังถึงกับเข่นเขี้ยว เขากอบกุมสะโพกผายของเธอเอาไว้ แล้วขยับจังหวะเข้าออกในซอกกายสาวเป็นจังหวะเร่าร้อน
เธอครวญครางเสียงสั่นไม่เป็นส่ำ เหมือนรู้ตัวว่าถูกเขาทำโทษเข้าให้แล้ว
สะโพกสอบกดเข้าหาร่องสวาทซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอถูกช้อนสะโพกผายให้ขึ้นรับการรุกรานอย่างต่อเนื่องจนแทบจะขาดใจ
“พี่ธีร์ขา”
“ขา”
“ไม่ไหวแล้วค่ะ”
“อีกนิดครับคนดี” ประโยคเรียกขานของเขาทำให้เธอเกาะกอดบ่ากว้างของเขาเอาไว้แน่น ก่อนที่จะร้องครางออกมาไม่เป็นส่ำ หวีดร้องอีกครั้งก็เสร็จสมอารมณ์หมายอย่างรุนแรง
เขาโยกคลอนเข้าหาเป็นจังหวะระรัว ใช้มือหนาช้อนสะโพกของเธอขึ้นมารับแรงรักจากเขา เพียงไม่นานเขาก็ตามติดเธอไปถึงจุดหมายปลายทางสวาทไม่ต่างกัน
ธีรวัชรพลิกร่างลงจากร่างของสาวน้อยด้วยอาการหอบเหนื่อย ดึงร่างของเธอมากอดแนบอก เหงื่อที่ไหลซึมไปทั่วร่างสร้างความเหนียวเหนอะพอสมควร ธีรวัชรจึงตวัดอุ้มร่างของเธอขึ้นสู่อ้อมแขนพาไปยังห้องน้ำกว้าง
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ทั้งสองก็มานอนกอดกันบนเตียงนอนกว้าง เธอลูบไล้แผงอกกว้างของเขาไปมา ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งและความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแบบนี้
“พรุ่งนี้พาไปเที่ยวสวนสนุกเอาไหม”
“พี่ธีร์คิดว่าหนูยิ้มเป็นเด็กตัวน้อยๆ เหรอคะ”
“ไม่อยากไปเหรอ”
“จะเหลือเหรอคะ” เธอตอบแล้วหัวเราะน่ารัก เขาจึงบีบจมูกเล็กๆ ของเธอด้วยความเอ็นดู
“คืนนี้นอนห้องพี่นะ พี่อยากกอดหนูยิ้ม”
“เดี๋ยวคุณลุงกับคุณแม่ก็รู้หรอกค่ะ”
“รู้ก็รู้ไปสิ พี่โตแล้วทำงานแล้ว สามารถเลี้ยงดูหนูยิ้มได้สบาย”
“มันอาจจะไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิคะ คุณลุงกับคุณแม่อาจจะไม่เห็นด้วยกับเราสองคนก็ได้นะคะ หนูยิ้มคิดว่าเราควรจะรอดูท่าทีไปก่อนนะคะ” เธอไม่อยากทำให้พวกท่านผิดหวัง เพราะที่แล้วๆ มาไม่เคยทำตัวเหลวไหลเลยสักครั้ง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่จะกระทำ ยิ่งเธอกับเขาในเวลานี้อยู่ในสถานะพี่น้องแล้วด้วย ยิ่งไม่เหมาะไม่ควรเป็นอันมาก
“พี่ตามใจหนูยิ้ม” เขาไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจ จึงพยักหน้ารับคำโดยง่าย ไม่อยากจะทะเลาะหรือเถียงกันให้มากความ ด้วยว่าเขาไม่ใช่คนที่อยากเอาชนะคะคานใคร
รุ่งเช้าของวันใหม่ ธีรวัชรขออนุญาตบิดาและมารดาเลี้ยงพายิ้มใสไปเที่ยวสวนสนุกตามสัญญา
ยิ้มใสมีความสุขมากที่ได้มีช่วงเวลาดีๆ กับธีรวัชรพี่ชายที่แอบชอบและประทับใจในตัวเขายิ่งนัก
“เฉาก๊วยอร่อยจังเลยค่ะ” เฉาก๊วยราดด้วยน้ำเชื่อมหอมหวาน ตามด้วยน้ำแข็งก้อนเล็กๆ เพิ่มความเย็นฉ่ำ กินแล้วชื่นใจคลายร้อนได้เป็นอันมาก
“อร่อยก็กินเยอะๆ เลย น้ำแข็งใสร้านนี้ก็อร่อยนะ เจ้าเก่าเลยละ” เขาสั่งน้ำแข็งใสที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องเน้นๆ แน่นๆ รับประทานแล้วอิ่มอกอิ่มใจแถมยังอิ่มท้องอีกด้วย
“พี่ธีร์น่ารักจัง พามากินของอร่อยแบบนี้”
“มีร้านแนะนำอีกเยอะเลย ปิดเทอมนี้พี่จะพาเที่ยว แล้วพาไปกินของอร่อยๆ ให้พุงกางไปเลย”
“อ้วนแน่ ๆ เลยค่ะ น้ำหนักอาจจะขึ้นจนใส่ชุดนักเรียนไม่ได้” เธอลูบท้องตัวเองไปมา
“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพี่จะพาไปออกกำลังกายเอง”
“พี่ธีร์ใจดีจังเลยค่ะ ได้ออกกำลังกายก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้ไม่อ้วน ร่างกายแข็งแรงด้วย”
- Writer
