DISTANCE 01
****************************
เมื่อสามเดือนก่อน
“นาวนี่เชอรี่น้องที่เราสนิทด้วยตั้งแต่เด็ก เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่น่ะ”
ธนาพาน้องสาวข้างบ้านที่เขาสนิทด้วยมาตั้งแต่เด็กมาให้ฉันรู้จัก ฉันยิ้มให้พวกเขาสองคนก่อนที่เธอจะเดินมานั่งข้างฉันแล้วสวมกอดฉันเอาไว้ก่อนจะบอกว่าดีใจมากที่ได้มาเจอฉันแบบนี้
เพราะเวลาที่ธนากลับบ้านไปก็มักจะพูดถึงเรื่องฉันให้เธอฟังตลอดเลยว่าเขามีแฟนที่น่ารักเลยทำให้เธออยากจะเจอตัวจริงฉันว่าน่ารักมากแค่ไหน
แล้วพอได้มาเจอตัวจริงแบบนี้มันก็ทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่ธนาพูดมาทั้งหมดมันคือเรื่องจริง
“ได้เจอตัวจริงพี่นาวสักทีนะคะ เห็นพี่ธนาพูดถึงพี่นาวบ่อยๆ ว่าแฟนน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ทำให้หนูอยากเจอตัวจริงเลย”
“แอบไปพูดอะไรให้เราในทางที่ไม่ดีหรือเปล่าธนา?”
“ใครจะกล้าพูดให้แฟนไม่ดีล่ะคะหืม?”
คนตรงหน้ายิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าเขาไม่เคยไปพูดอะไรในทางที่ไม่ดีให้ฉันเสียหายเลย เพราะตั้งแต่ที่เราคบกันมาฉันก็เป็นแฟนที่น่ารักกับเขาเสมอ
ไม่ใช่แค่ฉันหรอกนะที่เป็นแฟนที่น่ารักกับเขาน่ะ เขาเองก็เป็นแฟนที่น่ารักเหมือนกัน
ฉันกับธนาเราคบกันมาเกือบปีแล้วล่ะ และตั้งแต่ที่เราคบกันมาน้อยครั้งมากเลยนะที่เราจะทะเลาะกัน
แต่ถ้าถามว่ามีเรื่องทะเลาะกันมั้ยก็มีบ้าง ธนาเขาเป็นคนเฟรนลี่และเข้ากับคนอื่นได้ง่ายมันเลยทำให้ผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจใครหรอก
เวลาที่มีคนเข้ามาหยอดหรือจีบเขา เขาก็มักจะบอกไปทันทีเลยว่าเขามีแฟนแล้ว มันเลยทำให้ฉันเชื่อใจเขาว่าเขาจะไม่ทำอะไรลับหลังฉันแน่ๆ
ที่เราเจอกันได้เพราะธนาเป็นญาติกับพี่เกื้อแฟนของข้าวเพื่อนสนิทฉันเอง เราก็เลยได้รู้จักกันและลองคุยกันก่อนที่เขาจะมาขอฉันเป็นแฟน และเราก็คบกันมาเกือบจะหนึ่งปีแล้วล่ะ
พี่เกื้อบอกว่าน้องชายของเขาคนนี้ไว้ใจได้แน่นอนและไม่มีทางทำให้ฉันเสียใจด้วย ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก
แต่พอคบกันมาเรื่อยๆ เขาก็ทำให้ฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่คุยไปเรื่อยและเขาก็พร้อมที่จะจริงจังกับฉันด้วย
“เชอรี่ย้ายมาเรียนที่มหาลัยเดียวกับเราน่ะก็เลยอยากพามาให้เธอรู้จักและสนิทกันเอาไว้”
“รับหนูไว้เป็นน้องสาวของพี่นาวอีกคนนะคะ”
“ได้สิจ๊ะ”
ฉันยิ้มให้เชอรี่อย่างเอ็นดู น้องของธนาก็เหมือนน้องของฉันนั่นแหละ อีกอย่างเธอเองก็ดูน่าเอ็นดูมากด้วย เราคงได้สนิทกันมากขึ้น
ดีซะอีกฉันจะได้มีเพื่อนไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเวลาที่ธนาไม่ว่าง เพราะเขาน่ะไม่ค่อยชอบพาฉันไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเท่าไหร่
“อีกไม่นานพี่คงกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วมั้งเนี่ย สนิทกันเร็วแบบนี้”
“ใครบอกล่ะคะ พี่ธนาก็ยังเป็นพี่ชายที่น่ารักของหนูเหมือนเดิมและยังเป็นคนที่หนูรักมากด้วย”
“...”
คำพูดของเชอรี่เมื่อกี้ทำให้ฉันหันไปมองเธอทันทีที่เธอบอกว่าธนาคือคนที่เธอรักมาก
แต่ก็พยายามคิดว่ามันคงไม่มีอะไรหรอกเพราะพวกเขาสองคนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว และธนาเองก็คงจะรักเธอเหมือนน้องสาวเขาคนหนึ่งเหมือนกัน
เมื่อสองเดือนก่อน
“มันคืออะไรอ่ะธนา พากันไปซื้อเสื้อผ้าเหรอ?”
ฉันเลิกคิ้วถามคนตรงหน้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบพาใครไปซื้อเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ
แม้กระทั่งฉันที่เป็นแฟนเขายังไม่ชอบพาฉันไปเลย แล้วอะไรคือการที่พาเชอรี่ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าและเดินควงแขนกันเหมือนว่าเป็นแฟนกันมากกว่าคำว่าพี่น้องอ่ะ
“ไหนบอกว่าไม่ชอบไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนใครไง แล้วที่เห็นนี่ไม่ใช่เลยนะ”
“ก็น้องไม่มีเพื่อนไงแล้วจะให้เราทิ้งน้องให้น้องไปเองงั้นเหรอ?”
“อ๋อ คือทิ้งน้องไม่ได้แต่ทิ้งให้เรากลับห้องเองได้ว่างั้นเหอะ?”
ฉันยังคงมองหน้าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนตัวเองไม่ยอมละสายตาไปไหน ก่อนหน้านี้ฉันโทรให้ธนามารับฉันที่มหาลัยเพราะฉันไม่มีรถกลับ
เมื่อเช้าเขาเป็นคนไปส่งฉันและเขายังบอกอีกว่าจะมารับฉันเอง แต่แล้วเขากลับบอกว่าติดธุระไม่สามารถมารับฉันได้
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร จนมารู้ว่าธุระของเขามันคือการพาน้องสาวข้างบ้านไปซื้อของ
“ธุระที่ว่าเป็นแบบนี้เหรอ?”
“อย่าหาเรื่องทะเลาะกันได้ป่ะ มันไม่ได้มีอะไรเลยเว้ยนาว”
“แล้วต้องให้มีก่อนใช่มั้ยอ่ะถึงจะคิดมากและหาเรื่องได้?”
“เชอรี่เป็นน้องเรานะนาว เราเองก็พาน้องมาให้เธอรู้จักแล้วไง”
“เรารู้ แต่เราแค่ไม่โอเคกับสิ่งที่นายทำ”
การที่ธนาจะสนิทกับเชอรี่ฉันไม่เคยห้ามเลยนะเพราะเข้าใจว่าพวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก
แต่ฉันรู้สึกว่าการที่เธอปรากฏตัวขึ้นมาเวลาของธนาที่เคยมีให้ฉันมันถูกเธอแย่งไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เหมือนอย่างวันนี้ไงที่เขาควรจะมารับฉันแต่กลับต้องพาเธอไปเลือกซื้อของ ถามจริงเธอไม่มีเพื่อนหรือไงถึงได้ตัวติดกับธนาตลอดเวลาแบบนี้
ฉันสังเกตมาสักพักแล้วนะว่าเชอรี่ไม่ยอมอยู่ห่างจากธนาเลย เวลาที่อยู่ต่อหน้าฉันเธอยังไม่เกรงใจเลยด้วยซ้ำ
จากที่เคยมองว่าน่ารักตอนนี้กลับมองว่ามันล้ำเส้นกันมากเกินไปแล้ว และฉันก็ไม่ได้ต้องการแบบนี้ด้วย
“สิ่งที่นายกับเชอรี่ทำน่ะมันมากกว่าคำว่าพี่น้องแล้วนะธนา”
“อะไรที่เรียกว่ามากกว่าคำว่าพี่น้อง เรายังไม่เห็นว่าน้องทำอะไรแบบนั้นเลยนะนาว”
“ไม่เห็นจริงๆ หรือพยายามมองข้ามกันแน่?”
“...”
“เราไม่มีปัญหาอะไรนะหากว่านายจะไปไหนมาไหนกับเชอรี่อ่ะ แต่เราอยากจะให้นายเว้นระยะห่างจากเธอไม่ได้เหรอ เพราะเราไม่สบายใจอ่ะ”
“เฮ้อ นาวเธอไม่เชื่อใจเราไง?”
“เราเชื่อใจนาย แต่เราไม่ไว้ใจเชอรี่ เราเป็นผู้หญิงด้วยกันเราดูออกว่าเชอรี่คิดเกินเลยกับนาย เราไม่ชอบ”
ฉันพูดไปตามที่ตัวเองคิดและพยายามบอกให้เขาเว้นระยะห่างจากน้องข้างบ้านคนนี้ด้วย เข้าใจว่าสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก
ตอนนั้นทั้งเขาและเธอต่างก็ไม่มีใครไง การที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันหรือจะกอดกันควงแขนกันมันไม่มีใครว่าอะไรหรอก
แต่ตอนนี้เขาเป็นแฟนฉันและฉันก็หวงเขามากด้วย และไม่ชอบให้เขาทำอะไรแบบนี้
เขาก็ไม่ควรจะทำให้ฉันคิดมากหรือเปล่า เพราะเชอรี่ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของเขาด้วยซ้ำ
“ก็เรากับน้องสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้วไงนาว การที่น้องจะติดเรามันก็ปกติป่ะ”
“มันไม่ปกติเว้ย นายมีแฟนแล้วนะนายจะปล่อยให้เราคิดมากแบบนี้เหรอ?”
“เธอก็อย่าคิดมากดิ เพราะมันไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำ”
“ธนานายไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่อ่ะ?”
ปัจจุบัน
ธนา : กำลังจะกลับแล้วนะอยากได้อะไรหรือเปล่า?
ธนา : เดี๋ยวจะซื้อเข้าไปให้
ฉันอ่านข้อความไลน์ของธนาที่ส่งมาบอกว่ากำลังจะกลับห้อง เพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งไปส่งเชอรี่มา
รู้อะไรมั้ยว่าตั้งแต่ที่เชอรี่ก้าวเข้ามาในความสัมพันธ์ของเราสองคนน่ะ อะไรๆ มันก็ไม่เหมือนเดิมเลยสักอย่าง
เธอแย่งเอาเวลาของธนาไปจากฉัน จากที่อะไรๆ ก็เป็นฉันคนเดียวตลอดแต่ตอนนี้กลับต้องแบ่งเวลาไปให้เธอด้วย และมาอ้างว่าเธอไม่มีเพื่อนอยากให้ธนาอยู่เป็นเพื่อน
อีกอย่างพวกเขาก็สนิทกันมาก่อนด้วย เรื่องนี้ฉันคุยกับธนาหลายครั้งแล้วนะว่าฉันไม่สบายใจที่เขาใส่ใจเชอรี่มากกว่าฉันแบบนี้
แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจแล้วบอกว่าเขาก็แค่เอ็นดูเธอในฐานะน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น เขาน่ะอาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่อีกคนไม่ได้คิดแบบเขาแน่
การที่เธอพยายามเข้ามาแทรกกลางเราแบบนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอตั้งใจที่จะมาแย่งคนของฉันไป
แล้วแบบนี้ฉันจะมีสิทธิ์หวงคนของฉันได้หรือเปล่า อยากไว้ใจนะแต่เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันไว้ใจเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะทุกอย่างที่มันเคยมีแต่ฉัน ตอนนี้กลับมีอีกคนแทรกเข้ามา
และดูเหมือนว่าเขาจะเต็มใจให้เธอเข้ามาด้วย