10

1236 Words
“สังคมของคุณภูกับสังคมของทรายมันแตกต่างกันนะคะ ฐานะของคุณภูคือเจ้านาย ฐานะของทรายคือลูกน้อง ให้สถานะของเราเป็นอย่างนี้ไปตลอดดีกว่าค่ะ อย่าให้มันพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นเลย” “ทำไมทรายไม่เปิดโอกาสให้ผมบ้าง...หรือว่าทรายมีใครอยู่แล้ว” เขาตัดสินใจถาม และกลั้นลมหายใจรอฟังคำตอบของเธอ พิชชาพรหันลำตัวมาเผชิญหน้ากับเขา “ทรายไม่มีใครหรอกค่ะ...อย่างที่ทรายบอก ฐานะของคุณภูแตกต่างกับทรายมาก คุณภูอยู่สูงเกินกว่าที่ทรายจะตามขึ้นไปได้ หากทรายยอมรับความรู้สึกพิเศษของคุณภูและตามคุณขึ้นไปอยู่บนที่ที่แห่งนั้น และวันหนึ่งหากทรายตกลงมา คนที่จะเจ็บปวดมากที่สุดก็จะเป็นทรายเอง หวังว่าคุณภูคงเข้าใจนะคะ” พิชชาพรตัดรอนสัมพันธ์ด้วยคำพูดที่ราบเรียบ แต่นั่นไม่สามารถทำให้หัวใจที่แน่วแน่ของเขาสั่นคลอนลงเลย “ทรายบอกว่าผมอยู่สูงใช่ไหม...งั้น!!...ทรายไม่จำเป็นต้องขึ้นไปอยู่บนที่สูงหรอก เพราะผมจะเดินลงมาที่ที่คุณบอกว่าต่ำต้อยนี้เอง” มือหนาถอดเสื้อสูทราคาแพงของเขาออกจากร่างกาย พร้อมกับโยนลงไปในถังขยะอย่างไม่ไยดี ดึงชายเสื้อออกนอกกางเกง ขยี้ผมที่จัดเป็นทรงเพื่อไม่ให้มันเข้ารูป ก่อนจะใช้มือสางลวกๆ ถอดนาฬิการาคาแพงของเขาออก และโยนทิ้งไปที่ขยะเช่นเดียวกับเสื้อสูท มือหนาคว้าที่ข้อมือบางไว้มั่นและพาเดินออกไปจากโรงแรม โดยที่หญิงสาวยังมีทีท่าตื่นตะลึงและรู้สึกงงกับคำพูดและท่าทีของเขา “คุณภูกำลังจะทำอะไรคะ” พิชชาพรถามเมื่อเขาพาเธอมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ “จะพิสูจน์ให้ทรายดูไง...ว่าผมไม่ได้สูงส่งอย่างที่ทรายคิด อะไรที่ทรายทำได้ผมก็ทำได้ ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่เงินตราหรือว่าฐานะ แต่มันอยู่ที่นี่...ที่จิตใจของเราต่างหาก” นิ้วแกร่งนิ้วหนึ่งชี้ไปที่หัวใจประกอบกับคำพูด “เพื่ออะไรคะ...คุณจะพิสูจน์ตัวเองเพื่ออะไร” “เพื่อคุณไงทราย...ผมทำเพื่อทราย...ผมอยากให้ทรายรู้ว่าผมจริงจังและจริงใจกับทราย เวลาสั้นๆ ที่เราสองคนเจอกันมันตัดสินความจริงใจที่ผมพูดกับทรายไม่ได้ ผมจึงต้องแสดงออกถึงการกระทำอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อที่จะให้ทรายรู้ว่าความคิดและการกระทำของผมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน” แววตาและคำพูดของภูริภัทรเต็มไปด้วยความจริงจังและจริงใจ และตั้งมั่นไว้ในใจว่าเขาจะทำทุกอย่างให้กำแพงที่เธอก่อขึ้นไว้สูง ที่กั้นกลางระหว่างเขาและเธอให้พังทลายลงมาให้ได้ ความในใจที่เขาพูด ทำให้หัวใจของเธอลิงโลดด้วยความดีใจ ตื้นตันใจ ในชีวิตของเธอไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้ หากแต่เธอต้องทนเก็บกักความดีใจไว้ภายใน ปิดกั้นตัวเองด้วยกำแพงสูงที่เธอก่อไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอกับคำว่ารัก แม้ว่าครั้งนี้คำคำนี้จะเริ่มแทรกซึมเข้ามาในจิตใจแล้วก็ตาม “ทรายกลัวว่าสิ่งที่คุณภูทำมันจะสูญเปล่า...อย่าเสียเวลาทำดีกว่าค่ะ” พิชชาพรแข็งใจพูด เธอคิดว่าเจ็บปวดในวันนี้ ดีกว่าเจ็บปวดในวันหน้า “ไม่สูญเปล่าหรอกทราย...ผมทำให้ทรายได้ตลอดทั้งชีวิตของผม ผมจะทำจนกว่าทรายจะรับรู้ถึงความจริงใจที่ผมมีให้” ต่อไปนี้ภูริภัทรจะทำให้เธอรู้ว่า เขาทำได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขามีสิ่งหนึ่งเป็นแรงผลักดันและเป็นกำลังใจที่ดีให้กับชายหนุ่ม สิ่งนั้นคือคำว่า...รัก... ตลอดหนึ่งเดือนภูริภัทรทำให้หญิงสาวได้เห็นว่า คนที่อยู่สูงอย่างเขาสามารถลงมาเดินอยู่บนดินได้อย่างสบาย ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ฐานะทางสังคมและทางการเงินที่แตกต่างกันไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคำว่ารักเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกเช้าชายหนุ่มจะนั่งรถประจำทางมารับหญิงสาวที่บ้านแทนรถยนต์คันหรูที่ถูกใช้งานตอนที่เขาไปงานเลี้ยงหรือพบปะลูกค้าเท่านั้น ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนกับพิชชาพรพาหนะของทั้งคู่คือรถประจำทางเท่านั้น ส่วนอาหารกลางวันเขาจะลงมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารที่จัดเตรียมไว้สำหรับพนักงาน ซึ่งคราแรกพนักงานต่างแปลกใจระคนสงสัยทีท่าของประธานบริษัท เมื่อเวลาผ่านไปกลับเป็นเรื่องชินตาและเป็นเรื่องปกติของทุกคนที่นี่ไปแล้ว กำแพงที่พิชชาพรก่อสร้างขึ้น เริ่มถูกทุบทำลายด้วยความจริงใจที่ชายหนุ่มมีให้ หากแต่อดีตที่เธอยังไม่เคยลืม และตามมาหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่นึกถึง ทำให้กำแพงนั้นไม่สามารถทลายลงโดยง่ายเลย “ทราย...น้าขอพูดอะไรบางอย่างได้หรือเปล่าลูก” กานดาถามในวันหนึ่ง หลังจากที่ภูริภัทรมาส่งลูกเลี้ยงของนางที่บ้าน “น้าดาจะพูดอะไรกับทรายคะ” “อดีตมันก็คืออดีตนะลูก...เรากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ ปัจจุบันต่างหากที่เราสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ตามแบบที่เรานึกคิดได้ ส่วนอนาคตมันเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้ น้าไม่อยากให้ทรายจมอยู่กับอดีต ถึงเวลาแล้วที่ทรายจะออกมาจากอดีตมาเผชิญหน้ากับความจริงที่อยู่ในปัจจุบัน” กานดาเตือนสติพิชชาพรด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทรายกลัว...กลัวว่าวันหนึ่งหากคุณภูรู้ความจริง เขาจะทิ้งทรายไป...ไม่มี ใครรับได้หากรู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักเคยขายตัวมาก่อน” พิชชาพรพูดทั้งน้ำตา “น้าถามทรายหน่อยว่าทรายรักคุณภูหรือเปล่า” กานดามองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาของลูกเลี้ยง พร้อมกับลูบศีรษะของเธอเบาๆ “รักค่ะ รักมากด้วย” พิชชาพรเปิดเผยความรู้สึกของเธอให้กับแม่เลี้ยงฟัง “ความรักมันไม่ได้วิ่งเข้ามาหาเราบ่อยๆ นะลูก ในเมื่อทรายรักคุณภู และคุณภูก็รักทราย ทำไมทรายไม่ลองเปิดประตูหัวใจรับรักและความสัมพันธ์ที่คุณภูหยิบยื่นมาให้ล่ะลูก...ความรักที่ฉาบฉวยมันมาได้หลายครั้ง แต่ความรักที่บริสุทธิ์ที่กลั่นออกมาจากหัวใจมันมีแค่ครั้งเดียวนะลูก” “แต่ทรายกลัว” “ทราย...เรื่องในอดีตของทรายมันตายไปพร้อมกับการที่เราย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วนะลูก คนที่นี่ไม่มีใครรู้และไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว มีแต่ตัวทรายเองที่เก็บเรื่องนั้นมาบั่นทอนความรู้สึกของตัวเอง เชื่อน้านะลองเปิดใจให้กับคุณภู และนำความรักที่ทรายมีให้เขาเป็นเกราะป้องกันความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นในภายภาคหน้า อย่างที่น้าบอก ไม่มีใครรู้อนาคตนะลูก เรื่องทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเรา ตัวเราเท่านั้น”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD