ตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงาน ทว่าเธอยังไปไหนไม่ได้เพราะต้องรอกลับพร้อมบอส ไม่รู้นึกอย่างไรถึงจะไปส่งที่บ้านด้วยตัวเองและเธอก็ต้องรอให้บอสเซ็นเอกสารอีกหลายฉบับเสร็จหมดก่อนถึงจะกลับบ้านได้
แกรก
“รอนานไหม” เพลิงพิษเดินออกมาจากห้องทำงานเมื่อเคลียร์เอกสารเสร็จ แล้วนั่งทำใจอยู่นานที่ดันเอ่ยปากบอกว่าจะไปส่งภารดาที่บ้าน
“ไม่นานค่ะ”
“ไปกันเถอะ”
ทั้งสองพากันเดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อไปยังลานจอดรถของผู้บริหาร ซึ่งถ้าหากเธอมีรถส่วนตัวก็สามารถนำมาจอดได้ เป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ได้รับจากการทำงานดี
“บอสนึกยังไงถึงได้มาส่งภาคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิ แค่อยากจะไปส่งเท่านั้น มีปัญหาอะไรเหรอ” เขาตอบ
“ไม่มีอะไรค่ะ ภาแค่แปลกใจเท่านั้น ตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว นึกว่าบอสโดนผีเข้าสิง”
“ตลกละภารดา คนอย่างผม ผีตัวไหนมันกล้ามาสิงกัน เดี๋ยวเอาน้ำมนต์ราดเรียงตัวเลย นิผมหิวแล้วไปหาอะไรกินกันดีกว่า เธอรู้ไหมว่าแถวนี้มีร้านไหนอร่อย” เขารีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันทีเดี๋ยวจะยาวไปมากกว่านี้ คิดได้ยังไงว่าเขาโดนผีเข้า ผีที่ไหนกล้ามาวุ่นวายกับเขาล่ะ เดี๋ยวให้หมอผีจับถ่วงน้ำให้หมดหรอก คิดเป็นตุเป็นตะไปได้
“วันนี้มีตลาดนัดตอนเย็นค่ะบอส จะไปหรือเปล่าคะ” เธอนั่งคิดว่ามีร้านไหนบ้าง แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าแถวนี้มีตลาดนัดอยู่ซอยข้างหน้า
“บอกทางมา จะตลาดไหนผมก็เดินได้หมดแหละ ขอแค่มีของกินก็พอ” เขาเป็นคนไม่เรื่องมากอยู่แล้ว กินง่ายอยู่ง่ายสบาย ๆ
“บอสเลี้ยวซ้ายข้างหน้า แล้วตรงไปอีกสองร้อยเมตรก็ถึงแล้วค่ะ”
“ทำไมคนเยอะขนาดนี้เนี่ย” ยังไม่ทันถึงตลาดรถก็ติดเป็นหางว่าว
“ปกติของตลาดนัดค่ะ เดี๋ยวพาไปกินร้านประจำเจ้าอร่อย รับรองได้เลยว่าบอสต้องชอบมากเลย”
เมื่อหาที่จอดรถได้เรียบร้อยแล้วทั้งสองก็พากันไปเดินในตลาดนัด มีของมากมายให้จับจ่ายใช้สอยและส่วนมากจะมีพวกร้านของกินมาตั้งเรียงรายสองข้างทาง แต่ละร้านชวนน้ำลายสอเหลือเกิน ภารดาเดินนำหน้าพาเจ้านายหนุ่มไปยังร้านผัดกะเพราร้านโปรดของหญิงสาวที่ต้องแวะมากินทุกครั้ง และมีร้านต้มเล้งสุดแซ่บอีกที่เธอชื่นชอบโปรดปราน พอกินเสร็จก็พากันเดินเล่นวนรอบตลาด ซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้าน
บ้านของภารดา
“เดี๋ยวลงไปด้วย ต้องไปจ่ายค่าขนมให้แม่คุณนะ” เขาบอกแล้วลงจากรถพร้อมกับภารดา
“แม่... ภากลับมาแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกมารดา
“สวัสดีครับคุณน้า”
“สวัสดีค่ะคุณเพลิง นั่งก่อนสิคะ เดี๋ยวน้าไปเอาขนมกับน้ำเย็น ๆ มาให้” ฟ้าลดากล่าว แล้วลุกเดินหายไปยังในห้องครัว
“ภาขอตัวเอาของไปเก็บก่อนนะคะ”
เพลิงพิษถูกทิ้งให้นั่งอยู่คนเดียวภายในบ้าน ดวงตาคมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านด้วยความสนใจ และเขาเหลือบไปเห็นภาพวัยเด็กของภารดาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ ช่างดูน่ารักน่าหยิกจริง ๆ ตอนเด็กน่ารักแบบไหนตอนโตก็น่ารักแบบนั้น แล้วยังสวยมากอีก
“เฮ้ย! ไอ้หนุ่มเอ็งเป็นใครวะ มานั่งในบ้านข้าได้ยังไง” ชาติศักดิ์ซึ่งเดินเข้ามาในบ้านพอดี โดยไม่ทันสังเกตว่ามีรถจอดอยู่หน้าบ้าน พอเห็นมีผู้ชายนั่งอยู่เลยตกใจเตรียมถือไม้ฟาด
“ผมชื่อเพลิงพิษ เป็นเจ้านายลูกสาวคุณลุงครับ” สะดุ้งด้วยความตกใจหันไปแนะนำตัวให้ท่านรู้จัก นี่เหรอ...รุ่นน้องที่คุณแม่ท่านตามหามานาน หน่วยก้านบอกเลยว่า ระดับเซียนแน่ ถึงได้ทำงานใน FBI ได้ หน้าตาโหดไม่น้อย แต่...หลานตัวแสบเขาดันชอบซะด้วยสิ รายนั้นกลัวอะไรที่ไหน
“จริงเหรอ... แล้วเอ็งมาทำอะไรที่บ้านข้าล่ะ” ชาติศักดิ์หรี่ตามองลงชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณาแล้วอดนึกถึงขวัญเดือนไม่ได้ หน้าตาละม้ายคล้ายกันมาก
“ผมมาส่งภารดาครับ แล้วจะมาสั่งขนมเพิ่มด้วย”
“จริงนะ”
“จริงครับ คุณลุงคือ คนที่สอนเอเดนต่อยมวยหรือเปล่าครับ” เขาถามกลับอีกฝ่าย
“ใช่ข้าเอง เอ็งมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” มือหนาเท้าสะเอวอย่างหาเรื่อง ปกติแล้วไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาส่งลูกสาวเขาที่บ้านและเข้ามานั่งภายในบ้านด้วย แต่ไอ้หนุ่มนี้มันกล้าดียังไงมาส่งลูกสาวเขา ต่อให้เป็นเจ้านายก็ตามเถอะ เขาก็ไม่สนใจหรอกนะ แม้จะเป็นลูกชายของขวัญเดือนก็ตาม มีลูกสาวคนเดียวก็ต้องย่อมหวงเป็นธรรมดา
“ตาแก่! ไปขู่คุณเพลิงเขาทำไมกัน แก่แล้วยังอันธพาลอีกนะ เดี๋ยวโดนหรอก” ฟ้าลดาเดินออกมาพอดี ได้ยินเสียงสามีขู่ชายหนุ่มเลยเอ็ดใส่ พลางวางแก้วน้ำและขนมลงบนโต๊ะ
“ฉันแค่ล้อเล่นเองนะแม่ฟ้า ไม่ได้จริงจังซะหน่อย” ชาติศักดิ์รีบเปลี่ยนเสียงคุยทันที
ต่อให้เก่งแค่ไหน ห้าวแค่ไหนก็ต้องพ่ายแพ้ต่อภรรยาผู้เป็นที่รัก
“ขนมหวานกับน้ำค่ะคุณเพลิง”
“ขอบคุณครับ คุณน้าครับพอดีผมจะมาจ่ายค่าขนมกับสั่งเพิ่ม” เขาบอกพลางเหลือบมองบิดาของภารดาเป็นระยะ ดูแล้วคงจะหวงลูกสาวมากแหละ ถึงได้มองเขาด้วยสายตาดุจนแทบจะกินหัวอยู่แล้วเนี่ย
“ไม่เห็นจะต้องมาเองเลย สั่งยัยภามาก็ได้ค่ะ ลำบากเปล่า ๆ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะมาสั่งช่อม่วงเพิ่มอีก 5 ชุดครับ”
“เดี๋ยวน้าขอไปคิดราคาก่อนนะ”
ฟ้าลดาลุกขึ้นไปคิดราคาขนมหวานที่ชายหนุ่มสั่งวันนี้และวันก่อน ปล่อยให้สามีและชายหนุ่มอยู่ด้วยกันท่ามกลางสายตาไม่เป็นมิตรของชาติศักดิ์ที่มองมายังชายหนุ่มราวกับจับผิด