“มีค่ะ งั้นภาขอเล่าตอนที่ภาโดนเพื่อนจะตบแล้วกัน ตอนนั้นภาจำได้ว่าอยู่มัธยมต้น ภาไม่ได้ใส่แว่น มีผู้ชายมาตามจีบเยอะมาก และเพื่อนในห้องก็ไม่มีใครคุยกับภาเลยด้วย เพราะอะไรรู้ไหมคะ ภาสวยเกินไป ทุกคนเลยหมั่นไส้ที่มีผู้ชายมาจีบเยอะ แล้วเป็นที่รักของอาจารย์ด้วย เพื่อนเลยยิ่งหมั่นไส้เข้าไปอีก มีวันหนึ่งตอนเลิกเรียนภากำลังทำเวรกวาดห้องอยู่ เพื่อนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาเรื่องภาทำท่าจะตบภาด้วยค่ะ แต่โชคดีภารอดมาได้ด้วยวิชาต่อสู้มาจากพ่อ ภาเลยป้องกันตัวจนรอดมาได้และคุณครูฝ่ายปกครองมาเห็นเข้าก่อนพอดีเลยเรียกผู้ปกครองพบ
พ่อแม่ของกลุ่มเด็กที่มาหาเรื่องภา แต่ละคนจะเอาเรื่องภาให้ได้ จะแจ้งความจับที่ภาทำร้ายร่างกายลูกเขา จังหวะนั้นพ่อกับแม่มาพอดี พร้อมกับคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ไปขอมาจากทางโรงเรียน เพื่อเอามาเป็นหลักฐานว่าภาไม่ได้หาเรื่องคนพวกนี้ก่อน พอทุกคนได้ดูคลิปก็ไม่มีใครพูดออกมาเลยสักคน ตอนนั้นพ่อโมโหมากเลยนะคะ เพราะเห็นเพื่อนคนหนึ่งเอามีดพกมาด้วย ทำท่าจะแทงภา พ่อปรี๊ดเลือดขึ้นหน้ามาก ชี้หน้าด่ากราดชุดใหญ่ แล้วจะแจ้งความจับข้อหาพยายามฆ่าด้วย โชคดีที่แม่ห้ามไว้ทัน แล้วทางผู้ปกครองฝ่ายนั้นก็ขอโทษพ่อสำหรับสิ่งที่ลูกตัวเองลงไป ขอร้องไม่ให้แจ้งความจับ พ่อไม่ยอมเลยค่ะ ก่อนหน้านี้คนพวกนั้นขู่จะแจ้งความจับภา ถ้ายอมจ่ายค่าทำขวัญที่ภาต่อยลูกสาวพวกเขา
แต่พอมาเจอคลิปที่ลูกตัวเองหาเรื่องก่อนถึงกับหงอยพูดไม่ออกเลยค่ะ พูดแล้วภาก็นึกขำตัวเองไม่หายที่กล้าหาญสู้คนเดียวโดยอีกฝ่ายมีตั้งหลายคน นับตั้งแต่วันนั้นมาก็ไม่มีใครกล้ามายุ่งหรือหาเรื่องภาอีกเลยค่ะ พอขึ้นมัธยมปลาย พ่อกับแม่ก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพ ท่านเลยให้ภาใส่แว่นปกปิดใบหน้าเอาไว้ ทำตัวเฉิ่ม ๆ จะได้ไม่มีใครมาสนใจจนถึงทุกวันนี้แหละค่ะ” เธอเล่าเรื่องราวตอนสมัยเรียน ม.ต้นให้ชายหนุ่มฟังถึงวีรกรรมอันเด็ดสุดเป็นที่กล่าวขานในโรงเรียนมาก
“ก็ร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย แล้วทำไมคุณถึงไม่มีเพื่อนเลยล่ะ ผมเห็นไปไหนมาไหนกับรุ้งวิไลตลอด” เขาถามกลับด้วยความแปลกใจ คอยสังเกตเห็นหลายครั้งแล้วว่าภารดาไม่เคยไปไหนกับเพื่อนเลย นอกจากรุ้งวิไล สาวประชาสัมพันธ์เท่านั้นและในเฟซบุ๊กก็ไม่มีภาพที่ถ่ายร่วมกับเพื่อนเลยสักนิด
“ภาไม่คบเพื่อนคนไหนเลยค่ะ จะคุยด้วยก็ต่อเมื่อทำรายงานด้วยกัน เพื่อนสนิทไม่มีเลยสักคน ภาไม่กล้าไว้ใจใครสักเท่าไรคะ กลัวจะโดนหักหลังเอาได้”
“ดีแล้วล่ะ ถ้าเพื่อนไม่จริงใจก็อย่าไปคบ อยู่ตัวคนเดียวให้สบายใจกว่า”
“บอสเรียกภามาเพื่ออยากฟังเรื่องพวกนี้เหรอคะ”
“ไม่ใช่หรอก ผมแค่อยากรู้จักคุณให้มากขึ้น เราสองคนไม่เคยได้มานั่งคุยกันแบบนี้เลยนะ ภารดา เดี๋ยว! คุณคิดว่าผมแกล้งจีบเล่น ๆ เหรอ”
“แล้วบอสล่ะคะ ทำไมถึงได้มาจีบภา หรือเพราะว่าเห็นหน้าภาตอนไม่ใส่แว่นแล้วเกิดชอบขึ้นมา”
“เอาจริง ๆ นะภารดา ผมชอบคุณตอนใส่แว่นมากกว่าตอนถอดแว่นเสียอีก เรื่องหน้าตาสำหรับผมไม่สำคัญเท่ากับนิสัยใจคอหรอกนะ คุณสามารถเข้าถึงผู้คนทุกกลุ่มได้โดยใช้ใจแลก ไม่มีการประจบประแจงใด ๆ และที่สำคัญฉลาดเอาตัวรอดด้วย แถมไม่ยอมคนอีก ผู้หญิงแบบนี้ผมชอบ ไอ้พวกลูกคุณหนูไรงี้ หึยยย ไม่กล้าคบหรอก เอะอะนิดหน่อยก็ร้องไห้ ผมยิ่งความอดทนต่ำด้วย”
“ภาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ แสดงนิสัยแบบไหนให้บอสเห็น คนอื่นภาก็แสดงแบบนั้นเหมือนกัน ภาไม่เคยตีสองหน้าเข้าหาใคร ทุกคนภาจริงใจหมด อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายจะรับมิตรภาพของภาหรือเปล่าเท่านั้น”
“กลัวผมฉุดหรือไง ถึงได้ยอมให้จีบ” เขาอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยอมให้จีบง่าย ๆ ด้วย ทั้งที่ขู่ไว้
“ไม่กลัวหรอกค่ะ เพราะภาสามารถจัดการบอสได้ถ้าหากโดนฉุด แต่อย่าทำจริงเลยนะคะ ภากลัว...” ตอนแรกเธอก็มีหวั่น ๆ บ้างกลัวว่าเขาจะทำจริง แต่พอคิดไปคิดมา คนอย่างเขาคงไม่ทำหรอก ยิ่งมาดามเข้าข้างเธอด้วย คงไม่กล้า
“ฮ่า ๆ ผมไม่ทำอะไรให้เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายหรอก แต่จะ... มอมเหล้า” เขาหัวเราะออกมาดังลั่น ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มใส่
“บอส!!!” เรียกเสียงลั่น พลางตีมือเขาเบา ๆ
“วันอาทิตย์นี้ไปเดตกับผมนะ ตั้งแต่ผมเริ่มจีบคุณ เราสองคนยังไม่เคยได้ไปเดตด้วยกันเลยนะ” เขาเอ่ยปากชวนหลังรวบรวมความกล้าอยู่นาน
“ตกลงค่ะ แต่ภาขอเลือกสถานที่เองได้ไหม” เธอพยักหน้าตกลง ความฝันของเธออย่างหนึ่งเลยคือการได้ไปเดตกับผู้ชายในสถานที่โรแมนติก
“ได้สิ จะไปที่ไหนละ”
“ภาอยากไปล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ภาไม่เคยไปมาก่อนเลย”
ไม่ใช่โรงแรมหรูระดับห้าดาว เป็นเพียงแค่สถานที่ธรรมดา ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืน
“ได้สิ เดี๋ยวผมให้ไอ้เอกจัดการจองให้”
อยากได้แบบไหน เพลิงพิษคนนี้ตามใจหมด สมแล้วที่เป็นภารดาจริง ๆ เรียบง่ายไม่หรูหรา
“ขอบคุณมากค่ะบอส วันนี้จะไปส่งภาหรือเปล่า”
“ไปสิ วันนี้ผมจะไปฝากท้องที่บ้านของคุณด้วย เจ้าเอเดนฝากของมาให้คุณลุงกับคุณน้าด้วย ผมต้องเอาไปให้พวกท่าน” เขาเกือบลืมไปเลยว่าต้องเอาของที่เอเดนฝากไปให้พ่อแม่ของภารดาในวันนี้ เกือบไปแล้ว...
“คิดถึงน้องเอเดนจังเลยค่ะ ไม่ได้เจอหน้าหลายวัน” ทำหน้ามุ่ยลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงหนุ่มน้อย หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย ทำให้เธอคิดถึงความซุกซน เสียงเจี๊ยวจ๊าวและความแก่แดดแก่ลมของเอเดน
“ไม่ต้องคิดถึงมากหรอก คิดถึงผมบ้างก็ได้นะ” เขาหยอดคำหวานใส่เล็กน้อย แล้วขยิบตาให้อย่างเจ้าเล่ห์
“ภาไปทำงานต่อดีกว่า ไม่คุยด้วยแล้ว” เธอรีบลุกขึ้นหมุนตัวเดินออกจาห้องทำงานด้วยความเขินกับท่าทางและคำพูดเมื่อกี้มาก ทำเอาใจของเธอสั่นระรัวอย่างบอกไม่ถูก และตอนนี้เธอสัมผัสได้ถึงใบหน้าที่ร้อนผะผ่าว