บ้านเตชะภูวนนท์
“ตาเพลิง!!! ไปมีเรื่องกับใครมาลูก” มาดามขวัญเดือนร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของลูกชายมีรอยฟกช้ำเต็มใบหน้าและมีบางส่วนที่เป็นบาดแผล ทำเอาคนเป็นแม่ถึงกับหายใจ
“มีเรื่องกับว่าที่พ่อตามาครับ พอดีผมอาสาไปส่งภารดาที่บ้าน แล้วพบกับรุ่นน้องของแม่ ผมเลยบอกว่าจะมาจีบยัยเฉิ่ม ถ้าไม่อนุญาตผมจะฉุด คุณพ่อตาเลยเลือดขึ้นหน้าท้าผมดวลครับ” เขานั่งลงข้างมารดาแล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง
“แล้วแกก็ไปบ้ายอตามเนี่ยนะ ดูสภาพเข้าสิ เหมือนโดนหมาฟัดไม่มีผิด แล้วผลเป็นยังไงบ้าง ทางนั้นเขาอนุญาตไหม” นางอยากจะหยิกเนื้อให้เขียวเลยทั้งคู่ ทำตัวเหมือนเด็กไปได้ อีกคนก็แก่จวนจะเข้าโลงแล้วยังซ่าเหมือนตอนวัยรุ่นอีก ส่วนลูกชายตัวดีก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ใครมาท้าก็บ้ายอทำตามหมด เฮ้อ... เพลียจิต
“อนุญาตสิครับแม่ คนอย่างเพลิงพิษซะอย่างไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”
“ลุงเพลิงฮับ ลุงเพลิง!” เสียงเรียกเล็กของหลานชายตัวแสบ พร้อมกับเจ้าตัววิ่งปรือลงมาจากห้องนอนแล้วถือบางอย่างไว้ในมือ
“ว่าไงตัวแสบของลุง” เขาขยี้หัวหลานตัวแสบด้วยความมันเขี้ยว
“ทำไมลุงเพลิงหน้าตาแบบนั้นละครับ ไปต่อยกับใครมา” หนุ่มน้อยเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“ลุงไปต่อยกับคุณตาชาติมาน่ะ”
“หูย คุณตาหมัดหนักมาก โชคดีที่ลุงเพลิงรอดมาได้ เอานี่! เอเดนซื้อมาฝาก” มือป้อมเล็กยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้กับคุณลุง ซึ่งตนเพิ่งไปซื้อที่มาจากร้านหนังสือ
“อะไรอะ กลเม็ดการจีบสาวแบบขั้นเทพ เอามาให้ลุงทำไม” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยกับหนังสือในมือ
“หม้ามี้บอกว่าคุณลุงจีบสาวไม่เป็น เอเดนเลยให้หม้ามี้พาไปซื้อหนังสือจีบสาวมาให้คุณลุงฮับ”
“เอเดน... คนอย่างลุงไม่ต้องพึ่งหนังสือการจีบสาวก็ได้นะ แต่ละคนมีวิธีในการจีบไม่เหมือนกัน ไม่เชื่อใจในฝีมือลุงหรือไง” เขาอยากจะเขกหัวเจ้าหลานชายแรง ๆ สักยก กล้าดียังไงมาบอกว่าเขาจีบสาวไม่เป็น ผู้ชายทุกคนก็ต้องจีบสาวเป็นกันทั้งนั้น ไม่มีใครจีบไม่เป็นหรอกนะ
“เชื่อใจฮะ แต่เอเดนกลัวว่าลุงเพลิงจะจัดการช้า เอเดนอยากให้พี่ภามาอยู่บ้านเราเร็ว ๆ คุณลุงต้องรีบจีบให้ได้นะฮับ”
“อือ ๆ จะพยายามแล้วกัน” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่ายกับความจุ้นจ้านของเอเดน ไม่รู้ว่าจะใจร้อนไปทำไมกัน ในเมื่อสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องได้ภารดามาเป็นเมียแน่ และเขาก็ไม่มีทางให้ใครมาแย่งได้เด็ดขาด
ลั่นวาจาไปขนาดนั้น มาเฟียอย่างเขาจะผิดคำพูดได้ยังไง
1 อาทิตย์ต่อมา
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบเรียบมีเพียงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปเท่านั้น วันไหนที่ไม่ติดประชุมหรือพบลูกค้า เพลิงพิษจะไปกินข้าวเที่ยงกับภารดาเป็นประจำและไปส่งที่บ้านทุกครั้ง ทำให้พนักงานหลายคนในบริษัทต่างซุบซิบนินทาถึงความสัมพันธ์แปลก ๆ ของทั้งสองคนว่า ต้องมีอะไรมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องอย่างแน่
“ทำไมช่วงนี้ท่านประธานถึงได้มากินข้าวกับแกเป็นประจำ แล้วยังไปส่งที่บ้านด้วยอีกต่างหาก” เก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว เลยเอ่ยถามไปตรง ๆ ด้วยความอยากรู้นั่นแหละ พอดีกับจังหวะที่ต้องเอาขนมมาให้เพื่อน
“เขากำลังตามจีบฉันอยู่” เธอก้มหน้ากระซิบบอกเพื่อนสาวด้วยความเขินอาย
“จีบ!!!” รุ้งวิไลร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจกับคำตอบที่ได้รับ พลางหันหน้ามองภารดาว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกหก
“อย่าเสียงดังไปสิยัยรุ้ง เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ได้ยินหมดหรอก ฉันไม่อยากโดนตบนะ” เธอเอ็ดรุ้งวิไลเล็กน้อยแล้วหันมองรอบ ๆ กลัวว่าจะมีใครผ่านมาได้ยินเข้า เธอไม่อยากจะปะทะฝีปาก ปะทะอารมณ์กับใครอยู่ด้วย ถ้าเกิดบางคนอาจจะเอาเธอไปด่าเสียหาย ๆ ได้
“แหม... น่าอิจฉาจังเลยนะ มาแป๊บเดียวก็ได้ใจบอสไปแล้ว แต่ว่า… สาว ๆ ของบอส เธอจัดการหมดแล้วยัง” เพราะกลัวว่าเพื่อนรักจะโดนผู้หญิงพวกนั้นตามตบเลยถามให้แน่ใจ เธอเป็นห่วงเพื่อนเหมือนกัน ไม่อยากให้ต้องมานั่งคิดมากหรือเสียใจกับนิสัยเจ้าชู้ของท่านประธาน
“อันนั้นให้เขาไปเคลียร์เอง ฉันไม่อยากจะยุ่งด้วย เหนื่อย” เธอคุยกับเขาเรียบร้อยแล้วถึงเรื่องพวกนี้ เธอไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใครและไม่ชอบการตบตีแย่งผู้ชายด้วย
“ย่ะว่าที่นายหญิงคนใหม่”
“ยัยรุ้ง! ไปทำงานเลยไป!” เธอไล่รุ้งวิไลให้ไปทำงานก่อนจะเขินไปมากกว่านี้ นี่ก็อายจนหน้าแดงหมดแล้ว ทว่ากำลังหยิบขนมเข้าปากก็ได้เสียงเรียกเสียก่อน
“ภารดาเข้ามาหาผมที่ห้องหน่อย”
“ค่ะบอส”
เสียงอินเตอร์คอมจากเพลิงพิษทำให้ภารดารีบจัดการเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย แล้วเข้าไปในห้องทำงานทันที ถ้าขืนช้ามีหวังได้โดนเอ็ดยกใหญ่
“นั่งก่อนสิ” เสียงทุ้มกล่าว
“บอสมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไหนลองเล่าเรื่องราวของเธอให้ฟังหน่อยสิ ผมอยากรู้” เพลิงพิษบอก พลางเท้าคางมองหน้าหญิงสาวตาแป๋ว
“จะเอาตรงไหนก่อนดีล่ะคะ เรื่องราวของภามีเยอะแยะมาก” เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาอยากรู้
“เอาแบบที่เด็ด ๆ อะมีไหม”