ตอนที่ 3

1478 Words
3 “คุณชาย!” เพียงแค่เห็นหน้าข้าเท่านั้น บ่าวรับใช้ผู้แสนดีและแสนจะซื่อสัตย์ก็ร้องเรียกและรีบวิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว ใบหน้านั้นตื่นตระหนกและหวาดกลัวระคนห่วงใยในตัวข้าเป็นยิ่งนัก มันทำให้ข้ารู้ว่าคิดไม่ผิดในสิ่งที่คิดจะทำลงไปหลังจากนี้ ข้าส่งยิ้มให้กับเสี่ยวฝาน “กลับเรือนของเรากันเถอะ” ข้าบอกและเดินนำไป “แล้ว...” เสี่ยวฝานหันรีหันขวาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินตามมาอย่างรวดเร็ว “นางเป็นคนฉลาด สิ่งที่ข้าไปบอกกล่าว นางได้ประโยชน์มากกว่าใคร แล้วทำไมนางถึงไม่ทำเล่า” ข้าบอกกล่าวกับเสี่ยวฝานที่ยังคงมีความกังวลใจอยู่ “จากนี้ไปพวกเรามีเรื่องต้องทำมากมาย เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมนะเสี่ยวฝาน” โอกาสที่ได้รับมามีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำพลาดไป ข้าไม่กลัว เพราะถือว่าได้ทำแล้วและผลก็ย่อมต่างจากที่เคยเป็นมา หากไม่ทำต่างหากเล่า นั่นคือความน่าเสียดายและเสียใจ เพราะจุดจบของข้าก็จะยังคงเป็นเช่นเดิม “ขอรับคุณชาย” “อย่างแรก ข้าจำได้ว่าเจ้าสามารถออกนอกเรือนไปได้โดยไม่มีใครสงสัยใช่หรือไม่” หลังจากฟื้น ความทรงจำที่ข้ามี...มันเลือนรางเป็นเสมือนม่านหมอกที่ปกคลุมไปเสียจนหมดสิ้น แต่ก่อนหน้าจะเกิดเรื่องราว บางครั้งข้าก็มีความรู้สึกสะท้อนก้องอยู่ในหัว มันจะมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่เมื่อข้าเพ่งพิศคิดและมอง กลับปวดจนศีรษะแทบจะแตก ข้าจึงทำได้เพียงแค่เตรียมตัวรับมือเท่านั้น แต่ความทรงจำหนึ่งที่เหลืออยู่และฝังแน่นในดวงจิต นั่นคือ...ข้าต้องรอด! “ขอรับ คุณชายจะให้ข้าทำอันใดขอรับ” ข้ารู้ว่ามีงานให้เสี่ยวฝานทำ หากในหัวกลับว่างเปล่า คิดมิออกเลยว่าจะต้องทำสิ่งใด โว้ย! ใครมันช่างกลั่นแกล้งข้ากันเนี่ย เอาความทรงจำข้าคืนมานะ นึกสิ...นึกให้ออกสี่หนิงเหอ เจ้าต้องทำเรื่องใดกันแน่! “คุณชายขอรับ” “หือ...มีอันใดรึเสี่ยวฝาน” ข้าหยุดคิดถึงเรื่องที่จะให้เสี่ยวฝานไปทำชั่วคราว ก่อนจะก้มลงมองบ่าวข้างกายที่คิดไม่ตกว่าควรจะบอกกล่าวสิ่งที่ได้รับรู้มาให้ข้ารู้หรือไม่ แต่ถ้าให้ข้าคาดเดา ก็คงจะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องอาการบาดเจ็บของตัวข้านั่นแหละ ถ้าให้คาดเดาเพิ่มเติม...คนที่ทำร้ายข้านั่นก็คงจะไม่พ้น... “คุณชายรองรู้เรื่องที่คุณชายฟื้นแล้วนะขอรับ” นั่นไง...ข้าก็คิดเอาไว้แล้วล่ะ เพราะลำพังเพียงบ่าวไพร่นั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำร้ายข้าจนถึงกับเลือดตกยางออกหรอกนะ ถึงจะอยากเอาใจผู้เป็นนายก็ตามเถอะ ข้าได้แต่หัวเราะ ความทรงจำข้าผุดขึ้นมาว่า...เคยถูกบ่าวไพร่และก็คุณชายรองทำร้ายมาหลายครั้งมาก เอาเรื่องไปฟ้องฮูหยินและนายท่านแล้ว ก็พูดทำนองว่า... เดี๋ยวจะจัดการตักเตือนให้ หรือไม่ก็... ทำไมชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แค่เล่นกันในหมู่พี่น้องไม่ใช่รึ บาดเจ็บนิดหน่อย จะเป็นอะไรไปเล่า ถือเสียว่าเป็นการฝึกฝนร่างกาย ฮึ! เวลาที่ตัวเขาถูกทำร้าย ช่างกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างเลือดเย็นยิ่งนัก หากเมื่อใดที่ข้านั้นเผลอทำร้ายคุณชายรองลงไป...ข้าจะต้องถูกลงโทษ ไม่ถูกโบยจนเนื้อแทบจะปริแตก เลือดไหลซิบ ก็จะถูกกักขังให้สำนึกผิดอยู่ที่เรือนนอนและให้อดอาหาร ช่างมีความยุติธรรมเสียเหลือจะกล่าว! “ก็ไม่ได้ตายเสียหน่อย ทำไมจะไม่ฟื้นเล่า” ความจริงที่ลงมือนั้น คงคิดจะให้ข้าตายไปนั่นแหละ แต่เผอิญว่าคราวนี้ข้ามันคนดวงดี...หรือเปล่า แค่ดวงมันแข็งเกินไปเท่านั้นแหละ ก็เลยรอดชีวิตกลับมาเสียได้ ดูท่าทางว่า คุณชายรองคงจะผิดหวังเป็นอย่างสูง จะว่าไปก็...อยากเห็นหน้าเขียวหน้าเหลืองของคุณชายชะมัด “คุณชายรองกล่าวว่า...ถ้าคุณชายกล้านำเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องฮูหยิน คุณชายรองจะ...” “ข้าจะทำอย่างนั้นทำไมกันเล่าเสี่ยวฝาน อย่างไรเสียนั่นก็เป็นบุตรชายสุดที่รักของฮูหยินเชียวนะ” บุตรชายผู้ไม่เอาไหน นอกจากจะเกรกมะเหรกเกเรแล้ว ยังจะเจ้าชู้เสียจนน่ากลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงแก่ ไม่ได้จะแช่งชักอะไรหรอกนะ แต่เชื่อเถอะว่าคุณชายรองนะ...ตายก่อนวัยอันสมควรแน่ “ถึงบอกไป ฮูหยินก็ไม่เชื่ออยู่ดี ไหนจะคุณหนูใหญ่ซูเจียวอีก คงหาว่าข้าใส่ความน้องชายผู้แสนจะดีเลิศเพราะความอิจฉาริษยาเสียมากกว่า คนเช่นนี้เราอย่าไปเสียเวลาด้วยเลย ปล่อยให้เขาได้พบเคราะห์กรรมที่เขากระทำลงไปด้วยตัวเขาเองเถอะ” “ขอรับคุณชาย” ว่าแต่...ข้าจะให้เสี่ยวฝานทำอันใดกันน่ะ? ทำไมข้าถึงได้คิดไม่ออก แล้วแวบหนึ่งในสมองอันขาวโพลนของข้าก็ผุดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ มันคือความทรงจำก่อนจะตาย ที่ตอกย้ำให้ข้าจดจำไม่อาจจะลืมเลือนได้เลย ข้า...ต้องรอดชีวิต! จะได้ท่องเที่ยวไปอย่างอิสรเสรี จะไปได้ก็ต้องมีเงินไว้ใช้จ่ายและ...ใช่! อีกเรื่องที่สำคัญไม่ต่างกัน อาหารรสเลิศที่แสนจะอร่อยล้ำเหลือและเพียงพอที่จะทำให้ข้ากับเสี่ยวฝานอิ่ม ข้าจะไม่อยู่อย่างอดอยากปากแห้งจนรูปกายผอมแห้ง เรี่ยวแรงไม่มี เหมือนคนพิกลพิการอีกแล้ว เมื่อไปที่โน่น ข้าจะต้องกินดีอยู่ดีมีอาภรณ์ที่อุ่นสบายใจ ดังนั้นข้าต้องมีวิธีการหาเงิน! “เรื่องนี้สำคัญยิ่ง เราคงต้องไปคุยกันที่เรือนข้าแล้วละเสี่ยวฝาน” ข้าลืมไปได้เช่นไร ที่นี่หูตาของพวกนางนั้นเต็มไปหมด เพียงแค่ขยับกายก็เหมือนกับจะจำแลงแปลงกายเป็นแมลงบินไปแจ้งข่าวกันเสียแล้ว เฮ้อ! ช่างน่าสมเพชเสียนี่กระไร     ข้ารู้แล้วว่าบุรุษผู้นั้นที่จะทำให้สิ่งที่ข้าคิดไว้สำเร็จชื่อเรียงเสียงใด...ที่เมื่อได้รู้ มันก็ทำให้ข้านั้นตกตะลึง งุนงงและคาดไม่ถึงเอาเสียเลย ทั้งที่เป็นคนที่มีอำนาจมาก จะเลือกใครเป็นอนุภรรยาก็ได้ แต่กลับมาเลือกข้าผู้ซึ่ง...ไม่มีอะไรเลย แต่ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะมีความคิดเช่นไรที่เลือกข้าไปเป็นหนึ่งในอนุภรรยา ข้าก็ไม่คิดจะหาคำตอบ เพราะการอยู่ใกล้เขาผู้นั้นก็เหมือนกับว่าข้ายื่นเท้าข้างหนึ่งลงไปในยมโลกแล้ว ถ้าทำดีก็เพียงแค่เสมอตัว แต่ถ้าเมื่อใดที่ข้าทำพลาด...โอกาสที่จะมีชีวิตของข้าก็จบสิ้นลงในทันที! มัวแต่คิดถึงเรื่องของเขาคนนั้นไปก็เสียเวลาอันมีค่าของข้าไปมากมายนัก สิ่งที่ข้าควรจะทำในตอนนี้คือคิดหาวิธีการเพิ่มเงินในกระเป๋าเงินดีกว่า การค้า...ก็ต้องมีสินค้า ที่มันควรจะแปลกใหม่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น แต่ไม่ว่าใครเห็นแล้วจะต้องชื่นชมชื่นชอบและอยากจะได้มันจนถึงขั้น...ไม่ว่าจะต้องเสียเงินกี่อีแปะก็ยอม ว่าแต่...ไปถึงที่นั่นแล้วข้าจะทำการค้าขายอันใดดีนะ เย็บปักถักร้อยหรือ...ฝีมืออย่างข้าที่ปักผ้าเป็นรูปฟ่งเหนี่ยว[1]  เป็น...เอาตามตรงข้าเองก็มองไม่ออกว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ เพราะมันเละ มันขาดและมันสกปรกเสียยิ่งกว่ารองเท้าคู่เก่าที่ขาดจนเห็นถุงเท้าที่ก็เก่าอีกเช่นกันของข้าเสียอีก ถ้าอย่างนั้นปักอะไรที่ง่าย ๆ อย่างผลผิงกั๋ว[2] ก็แล้วกัน ผลที่ออกมาก็เป็นเช่นเดิม มันกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ ที่ข้าเห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก ไม่ผ่าน! จะค้าขายอาหารหรือ...มันก็ดูน่าจะยุ่งยากไม่น้อย ที่สำคัญคือว่าตัวข้า...ทำอาหารพอแค่ทานได้...เท่านั้น ถ้าทำจริงข้าจะต้องหาที่ทางเพื่อเปิดร้านด้วย ถ้าได้ที่ดีหน่อยก็น่าจะพอขายได้ แต่อาจจะต้องเจอเจ้าถิ่น ซึ่งคนผอมแห้งแรงน้อยขี้โรคอย่างข้ากับเสี่ยวฝานเห็นทีว่าจะต้องวิ่งหนีอย่างเดียวแล้วล่ะ [1] หงส์ที่มีรูปร่างคล้ายไก่ฟ้าและนกยูงรวมกัน [2] แอปเปิล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD