บทที่ 11 ฝังใจ

2241 Words
หลังจากไปดินเนอร์กับมินตราแล้วเสร็จ อัทธากรก็ตรงดิ่งมาทำงานที่บริษัทต่อ ร่างหนาที่เดินเข้ามาในบริษัททำให้ไต้ฝุ่นที่ยืนรออยู่นั้นเดินตาม “เป็นไงครับ” พอหมดเวลาทำงานไต้ฝุ่นก็ไม่ต่างจากเพื่อนคนหนึ่งของเขา อัทธากรยกยิ้มเบา ๆ ก่อนที่เขาจะตอบกลับ “ก็ดี เธอคุยเก่ง” ชายหนุ่มตอบไปตามความจริง มินตราต่างจากลินินโดยสิ้นเชิง หญิงสาวตัวเล็กคนนั้นเป็นคนพูดน้อย แต่คำพูดแต่ละคำของเธอก็ไม่เคยธรรมดา “อันที่จริง คุณลินินได้ยินผมพูดเรื่องคุณครับ เธอก็เลย...” กึก! “อะไรนะ!” อัทธากรไม่อยากจะเชื่อหู เขาย่นคิ้วจนหัวคิ้วหนาแทบชนกัน แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรไต้ฝุ่นเพราะสุดท้ายแล้วลินินก็ต้องรู้อยู่ดี “ก็แค่เล่าให้แพรไหมฟังเฉย ๆ ครับ แล้วบังเอิญเธอได้ยิน” ไต้ฝุ่นยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับเจ้านาย ก่อนที่อัทธ์จะส่ายศีรษะเบา ๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา “เห้อ...” “อ้อ ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าทำไมคุณไม่เลือกลินินให้มาเป็นแฟนเพื่อกันคุณจินนี่แทนครับ เธอสวย สวยมากด้วยถึงจะคนละแบบกับคุณมินตราก็เถอะ” ชายหนุ่มพูดตามสิ่งที่เห็นแต่มันกลับทำให้คนได้ยินมีสีหน้าไม่พอใจ “มึงไม่เข้าใจหรอก” ไต้ฝุ่นมึนงงกับคำตอบของผู้เป็นนาย ซึ่งก็ไม่ได้รับการไขข้อสงสัยแต่อย่างใด อัทธากรหมุนตัวเดินเข้าบริษัทของเขาปล่อยให้ไต้ฝุ่นหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่เดิม ทว่าพอเดินมาถึงโถงทางเดินไปยังห้องทำงานของตน เขาก็พบกับแสงไฟที่ยังสว่างจากห้องทำงานของลินิน ฝ่าเท้าหนาชะงักเพียงครู่ เขาอยากผลักประตูเข้าไปดูเหลือเกินว่าเจ้าหล่อนทำอะไรอยู่ แต่สุดท้ายก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเดินต่อไปยังห้องทำงานของเขาเอง ขณะเดียวกันที่ลินินมองเห็นคนตัวโตเดินผ่านห้องทำงานของเธอไป ใบหน้าเล็กมีความกังวลหลายอย่างทั้งเรื่องเพื่อนของเธอ และงานที่ยังไม่เสร็จสักที “เห้อ...” หากว่าถอนหายใจบ่อยจะทำให้อายุสั้น เธอคงตายไปนานแล้ว ลินินพ่นลมหายใจออกมาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืน “เอาวะ...” ริมฝีปากเล็กพูดปลุกใจตัวเอง เธอคิดจะขอเวลาเขาอีกหน่อย นับดูกองเอกสารแล้วน่าจะต้องขอเลื่อนออกไปอีกสักสองวัน ขณะเดียวกันที่อัทธากรก็ได้ขมวดคิ้วเมื่อเห็นร่างเล็กของลินินเปิดประตูห้องทำงานของเธอออกมา หญิงสาวเดินมาที่ห้องทำงานของเขามีเรื่องอะไรกัน ไหล่หนายืดขึ้นทันที ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับทำใบหน้าให้เรียบตึงขึ้น เขากระแอมเสียงเล็กน้อยเพื่อรับมือกับคนตัวเล็ก ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ลินินยืนรอหน้าห้องทำงานของเขา แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากชายเจ้าของห้อง เธอจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา “ขอโทษค่ะ ฉันไม่เห็นคุณว่าอะไร” หญิงสาวค้อมศีรษะให้เขาเล็กน้อย เธอต่างไปจากมื้อเที่ยงโดยสิ้นเชิง “ตอนเที่ยงไม่เห็นเธอรอให้ฉันอนุญาต” “ก็...ตอนนี้ฉันมาในฐานะลูกน้องไงคะ” เธอว่าพร้อมกับเดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงนี้เธออยากรู้ว่าเขาซ่อนความรู้สึกอะไรไว้ข้างใน ทำไมเวลาอยู่กับเธอเขามีแต่สีหน้าแบบนี้ “มีเรื่องอะไร ตอนนี้ไม่ใช่เวลางานที่เธอจะมาถามฉัน...” “ค่ะ คือ...ฉันขอเวลา เอ่อ...” “เธออ่านไม่จบ?” ลินินเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ถ้าให้เธออ่านผ่าน ๆ อย่างลวก ๆ เธอก็อ่านจบไปแล้ว แต่มีบางจุดที่สงสัยมันทำให้เธอใคร่รู้และสืบค้นข้อมูลไม่หยุด เป็นเหตุให้ทุกอย่างล่าช้าเกินกว่าที่จะเป็น “ขอแค่สองวันค่ะ” “_” “...ไม่ได้เหรอคะ” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เขายกมือขึ้นลูบริมฝีปากอย่างใช้ความคิด “สองวันหลังจากนี้ฉันมีที่ต้องไป” “คะ?...” “_” “หมายความว่าไงคะ” ลินินมึนงง เขาจะพูดอะไรแต่ละอย่างทำไมต้องให้เธอถามย้ำตลอดเวลา “ก็หมายความว่าถ้าเธอทำเสร็จแล้ว แต่ฉันไม่อยู่เธอจะได้งานหรือไง” “ก็...ไม่ได้ค่ะ” ลินินเกลียดเสียจริง...การเอนหลังไปที่เก้าอี้ทำงาน และการประสานมือหนาไว้ที่หน้าตักอย่างนี้ สายตาดุ ๆ ที่มองเธออีก เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ “แต่คุณอัทธ์สั่งงานไว้ได้นะคะ ให้คุณแพรสอนงานฉันก็ได้นิคะ” “ใครเป็นเจ้านายเธอ แพรไหมหรือฉัน?” “...คุณค่ะ” ลินินตอบเสียงเบาหวิว ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลง เพราะดูเหมือนว่าเขาจะไม่ให้โอกาสเธอเสียแล้ว ทว่า “นอกซะจากเธอจะไปกับฉัน” “เอ่อ ไปไหนคะ” “เที่ยว...” “ห้ะ...” ลินินเงี่ยหูฟังอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เธอได้ยินจากไต้ฝุ่นว่าถ้าเขาอยากว่างเขาจะว่างเอง แต่ไม่คิดว่าเขาจะว่างพอจะไปเที่ยวแบบนี้ แต่แล้ว “เที่ยวกับครอบครัวฉัน ไอ้อิทธ์ก็ไปนะเผื่อเธอสนใจ” ใบหน้านวลชะงักไปในทันที เขาไม่ยอมจบเรื่องนี้จริง ๆ แถมยังเน้นคำว่าอิทธ์จนหน้าเธอชาไปในทันทีอีก “ว่าไงล่ะ หรือเธอไม่ยังไม่ลืมมัน หรือจริง ๆ เธอยังมองฉันเป็นมันอีก” “คะ?” หญิงสาวขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอยอมรับว่าใบหน้า รวมถึงหุ่นของทั้งคู่เหมือนกันอย่างกับแกะ แต่มีหลายอย่างที่เธอแยกเขาทั้งคู่ออกจากกันโดยสิ้นเชิง...โดยเฉพาะกลิ่นของเขา หญิงสาวไม่ตอบอะไร อดคิดไม่ได้ว่าที่เขาไม่ชอบเธอเพราะคิดว่าเธอยังมองเขาเป็นอีกคน...หรือจริง ๆ เขาคิดอย่างนี้มาตลอด “เรื่องบางเรื่องคุณควรลืมมันไปนะคะ ส่วนงานฉันคงไปกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ” “งั้นเธอก็ทำงานให้เสร็จในวันพรุ่งนี้ ฉันจะได้สั่งงานเธอต่อเลย ถ้าไม่เสร็จแล้วฉันไม่อยู่ ฉันคงไม่ได้ใจดีจ้างให้เธอมานั่งเล่นหรอกนะ” “คือ...” “ทำไม่ได้ก็ลาออกไป” “คุณอัทธ์คะ...” “หรือเธอไม่กล้าไปเจอมัน...” ลินินชะงักไป เธอสบสายตากับคนตัวโต ดูเขายังคงฝังใจกับเรื่องราวเหล่านั้นมากเลยสินะ “ฉัน...ไม่ได้อะไรกับเขาแล้วค่ะ เพราะการเห็นหน้าคุณก็ไม่ต่างจากเห็นหน้าเขาคนนั้น” “หึ...เธอเลยชอบมองหน้าฉันอย่างนั้นใช่ไหม” ลินินชะงักอีกครั้ง หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะพูดอย่างนี้ เพราะการที่เธอเผลอมองหน้าเขาบ่อยครั้งนั้น...เธอไม่ได้คิดว่าเขาเป็นอีกคนนานแล้ว หญิงสาวเมินคำพูดของเขา เธอกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆพร้อมกับมองใบหน้าหล่อเหลานี้ด้วยสายตานิ่ง ๆ “ฉันจะพยายามทำให้ทันค่ะ” “หวังว่าเธอจะไม่อ่านลวก ๆ นะ เพราะการทำงานกับฉันไม่ใช่เรื่องเล่น” อยู่ ๆ ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมา หญิงสาวค้อมศีรษะให้เขาโดยที่เธอไม่ได้พูดอะไร ทว่าก่อนที่เธอจะหมุนตัวออกจากห้องทำงานของเขาไป “เดี๋ยว...” “คะ?” “เธอมาทำงานยังไง” คิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะตอบกลับเขา “แท็กซี่ค่ะ” “แล้วรถเธอ...” ลินินคิดว่าตัวเองไม่ควรตอบคำถามของเขา เพราะมันไม่ใช่เรื่องงาน แต่ทำไมเขาต้องสักคำถามจากเธอด้วย “คือ...” “พอดีเมื่อคืนฉันเป็นคนพาเธอออกไปไง แล้วคนดีแบบฉันอยากรู้” “ห้ะ...” ริมฝีปากเล็กเหวอเล็กน้อย เขากำลังบอกว่าตัวเองเป็นคนดีอย่างนั้นใช่ไหม ซึ่งการพูดแล้วทำหน้านิ่งแบบนี้หมายความว่ายังไง “ฉันหมายถึง...ฉันต้องรับผิดชอบหรือเปล่า เพราะฉันเป็นคนพาเธอไปแล้วรถเธอ...” “คือว่าฉันให้คนที่บ้านไปเอารถแล้วค่ะ” อัทธ์พยักหน้ารับ ซึ่งการถามของเขาทำให้เธอไม่เข้าใจ แต่แล้ว “แล้วเธอจะกลับยังไง...” “คะ?” “เธอไม่เข้าใจที่ฉันถาม?” ลินินเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ว่าเขาจะถามเธอทำไม “เข้าใจดีเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงต้องอยู่ทำงานต่อแล้วก็น่าจะกลับบ้านในตอนเช้าค่ะ” “_” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาพยักหน้ารับ ซึ่งลินินก็กำลังจะเอ่ยพูดขออนุญาตกลับไปทำงาน ทว่าริมฝีปากหนาของเขาก็เอ่ยพูดขึ้นเสียก่อน “ฉันกำลังจะกลับ...” “คะ?” “แค่มาเอางาน” “อ้อ...” ลินินพยักหน้าเข้าใจ แต่ทำไมเขามีใบหน้าไม่พอใจเธอล่ะ หญิงสาวกะพริบตาปริบ ๆ มองใบหน้านิ่งเรียบของเขา แถมหัวคิ้วหนาที่ย่นเข้าหากันนั้นทำให้เธอมึนงง “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “_” “...โอเค งั้นฉันไปทำงานก่อนนะคะ” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามเธอ แต่พอเธอจะเอ่ยปากขอเขาไปทำงาน คนตัวโตก็ยิ่งขมวดคิ้วยุ่งเหมือนมีอะไรในหัวและอยากจะถามเธอ ซึ่งจริง ๆ ชายหนุ่มเพียงแค่หาเรื่องชวนคุย “เพื่อนเธอน่ารักดีนะ” “ห้ะ อ้อ ค่ะ...งั้นก็อย่าทำให้เธอเสียใจค่ะ” “เธอเป็นใครมาสั่งฉัน” ฝ่ามือเล็กยกขึ้นเกาหัว เธออยากวิ่งเข้าไปกรี๊ดใส่หน้าเขาให้รู้แล้วรู้รอด “ฉันไม่ได้สั่งค่ะ ตอนแรกยอมรับว่าโกรธและกลัวมาก ๆ ว่ามินตราจะเสียใจเพราะคุณแค่คบเธอเพื่อกันใครอีกคน แต่ฉันเชื่อว่ามินตราน่ะ เธอน่ารักพอให้คุณตกหลุมรักค่ะ” “_” “คะ? ไม่พอใจอะไรหรือเปล่าคะ คือ...จริง ๆ ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าคุณกำลังเล่นกับความรู้สึกของเธอหรือเปล่าเลยโกรธมาก ๆ แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันเป็นสิทธิ์ของคุณที่คุณจะคบใครเพื่อศึกษาดูใจ...” “น่ารำคาญ ออกไป” “คะ?” “จิ๊!” อยู่ ๆ เขาก็จิ๊ปากไม่พอใจใส่เธอ ลินินอึ้งมากกว่าเดิมเสียอีก เธอก็พยายามทบทวนเรื่องของเขากับเพื่อนของเธอมานาน ซึ่งก็เป็นทางออกที่ดีที่ทั้งคู่จะศึกษาดูใจกัน แม้จะมีบางครั้งที่เธอรู้สึกแปลก ๆ ในใจ “ฉัน...” “ฉันกำลังจะทำงาน เธอควรออกไปนะ” “อ้อ ฉันนึกว่าคุณจะเอากลับไปทำที่บ้านซะอีก” ลินินได้ยินว่าก่อนหน้านี้เขาพูดอย่างนี้ ทว่าตอนนี้ทำไมถึงเปลี่ยนไป “ฉันจะทำตรงไหนก็ได้นะ ที่ห้องทำงานฉัน บ้านฉัน หรือที่ห้องทำงานเธอ ฉันทำได้หมด” อัทธากรรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ชายหนุ่มมีใบหน้าไม่สบอารมณ์ อยู่ ๆ ก็หยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดเสียงดัง จนหญิงสาวเกรงว่ากระดาษจะฉีกขาด “ออกไปสิ” “อ้อ ค่ะ แต่พอดีมีเรื่องอยากจะบอกน่ะค่ะ” ลินินเอ่ยพูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง ทำให้ชายหนุ่มชะงักฝ่ามือไป “ฉัน...มีปัญหากับที่บ้าน แล้วก็ไม่อยากลาออกจากที่นี่ค่ะ ฉันขอความเห็นใจ ถ้าหากคุณพยายามใจร้ายกับฉันเพียงเพราะว่าคุณชอบฉัน...” “อะไรนะ” “ก็ ตั้งแต่ตอนนั้น...” ใบหน้าหล่อเหลาเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเห็นอย่างนี้เธอก็ยกยิ้มขึ้น “...ตอนนั้นคุณเคยมาขอให้ฉันหมั้นกับคุณ ซึ่งคุณไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น คุณด่าฉันจนฉันแอบคิดว่า...” "...คุณกลัวว่าคุณจะรักฉัน" "_" “อีกอย่างวันนั้นคุณก็อดใจไม่ไหวยอมมีอะไรกับฉันอีก" “_” “เป็นเพราะการรักคนแบบฉันมันไม่ใช่เรื่องดีอย่างนั้นใช่ไหมคะ...” “ใครบอกเธอว่าฉันคิดแบบนั้น...อ้อ ฉันไม่ได้ชอบเธอ เพ้อเจ้อ” ลินินยังพูดไม่จบ ริมฝีปากหนาของเขาก็เอ่ยพูดขึ้น อัทธากรส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นพร้อมกับหมุนตัวไปข้างหลัง ลินินมึนงงว่าเขาจะทำอะไรก่อนที่เธอจะพบกับการเปิดประตูเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่ง...ตอนแรกมันไม่มีประตูเสียด้วยซ้ำ “ห้องลับเหรอ” หญิงสาวทำแก้มป่อง เธอไม่เข้าใจเขาจริง ๆ ว่าเขาเป็นอะไร มิหนำซ้ำยังหายไปดื้อ ๆ แบบนี้อีก “อะไรของเขา” เธอพึมพำออกมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่ม ซึ่งก็เห็นไต้ฝุ่นยืนรออยู่หน้าห้องทำงาน “คุยเสร็จแล้วเหรอครับ” “อ้อ ค่ะ” เธอยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร อยากจะถามเรื่องห้องลับนั่นเสียเหลือเกิน แต่ก็กลัวว่าจะเป็นการละลาบละล้วงจนเกินไป “แล้วคุณอัทธ์ไปไหนแล้วล่ะครับ” ไต้ฝุ่นชะเง้อคอมองหาเจ้านายของเขาผ่านบานประตูที่แง้มอยู่ “อ้อ เขาเข้าไปในกำแพงค่ะ แบบอยู่ ๆ ก็มีประตูเปิดเข้าไปอีกห้องหนึ่ง...” “หือ? คุณเห็นเหรอ...หึ เขาไม่เคยบอกใครเลยนะครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD