กลับสู่เส้นทางสีเทา

1892 Words
"อ้าวเต็มฟ้ายังไม่นอนอีกหรือ" เติมตะวันทักน้องสาวที่ยังคงรอเขาอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก "ใครจะหลับลงพี่ตะวันเล่นกลับเลยเวลาขนาดนี้โทรไปก็ไม่รับ" ดาวเต็มฟ้าทำหน้างอนแก้มป่อง "โทรมาหรือ" เติมตะวันรีบล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง "จริงด้วยพี่ขอโทษทีพอดีช่วยเขาทำความสะอาดที่ร้านแล้วลืมวางไว้บนโต๊ะน่ะ พอเสร็จก็รีบกลับจนไม่ได้ดูว่ามีใครโทรมา" เขาไม่มีทางบอกความจริงแก่น้องสาวแน่นอน "โอเคค่ะ รีบๆนอนนะเต็มฟ้าไปนอนละ หาววว" เธอยกมือมาปิดปากทำท่าบิดขี้เกียจแสดงให้เห็นว่าเธออดนอนเพื่อรอพี่ชายกลับบ้าน "เออ เต็มฟ้า นี่ค่าขนมของเราเอาไปเรียนหนังสือส่วนค่าเทอมต้องจ่ายเมื่อไรนะ" เขาเรียกน้องสาวไว้ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นบันไดบ้านไป "ภายในสัปดาห์หน้าค่ะ นี่ก็ใกล้จะทำเรื่องเตรียมจบแล้ว เตรียมหาเช่าชุดรับปริญญาด้วยแล้วพี่ตะวันเตรียมชุดหล่อๆไว้ด้วยนะ" เต็มฟ้าบอกพี่ชายด้วยความอารมณ์ดี เธอดีใจที่ จะไม่ต้องเป็นภาระให้พี่ชายอีกแล้ว "สัปดาห์หน้าแล้วหรือ" เขาคิดหนักอยู่ในใจ ......................................................................................................... หลังจากที่กลับมาทำงานที่ร้านสะดวกซื้อตามปกติเติมตะวันก็มีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ค่อยพูด "เป็นไรไปอีกวะ" กรเพื่อนรักเข้ามาทัก "ไม่บอกก็รู้ เอากูมีอยู่สามพันกูให้มึงยืมก่อน" เขาเป็นเพื่อนแท้ในยามยากของเติมตะวันทุกครั้งถึงแม้ว่าเขาจะค่อนข้างไปทางเกเรหรือพากันไปไม่ถูกทางก็ตาม "ขอบใจว่ะแต่มันไม่พออยู่ดี" เติมตะวันซึ้งใจเพื่อนแต่ก็ไม่ทำให้เขาหายคิดมาได้เพราะมันไม่เพียงพอ "จะไปอีกไหม กูพาไป" กรเสนอ "กู..." เติมตะวันลังเล "ไม่มีอะไรต้องคิดแล้วมึง" กรกระตุ้นเหตุจำเป็น "กูขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย" "แล้วแต่มึงเลยได้ค่าเทอมน้องคือจบ" กรกอดไหล่เพื่อน ............................................................................................. ครั้งนี้เติมตะวันเดินเข้ามาด้วยความมั่นใจมากขึ้นแต่ก็ยังไม่คุ้นชินเต็มร้อย การเดินทางสายนี้ของเขาจะเป็นครั้งสุดท้ายเขาสัญญากับตัวเอง "น้ำแข็งสองถัง" กรแจ้งรหัสลับกับผู้เฝ้าประตูเช่นเคย ยังคงเป็นชายสองคนเดิมที่พาเขาทั้งคู่เดินไปทางบันได้สู่ห้องลับที่ซ่อนไว้หลังผับแห่งนี้ ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนเดิมเช่นครั้งแรกที่เคยมาแต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างทั้งคู่ เงินไม่กี่พันที่เติมตะวันติดตัวมาเสียไปเกือบหมด "ทำไงดีวะ วันนี้เราเสียหมดเลย" เติมตะวันหน้าเสียนอกจากไม่ได้เงินมาแล้วยังเสียต้นทุนที่มาทั้งหมด ไม่ใช่แค่ค่าเทอมน้องสาวแต่ค่ากับข้าวในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปก็อาจ ไม่มี "มึงพร้อมจะทำตามกูไหม" กรมองซ้ายแลขวาและก้มหน้ากระซิบกระซาบที่ข้างหูเติมตะวัน "อะไรวะ" "วันนี้พวกเราต้องได้ทุนคืน และไม่ใช่แค่ทุนไหนๆจะมาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเราต้องได้เงินออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่" กรเริ่มวางแผน "มึงหมายความว่าไงวะ" เติมตะวันเริ่มใจไม่ดี "กูจะเปลี่ยนของ มึงต้องช่วยกู" "เปลี่ยนของ หมายถึง...มึงจะโกงหรือ" เติมตะวันตกใจแต่ก็ยังคุมเสียงให้อยู่ระดับเบา "นี่คือทางรอดทางสุดท้ายของกูกับมึง เชื่อใจกู" "เอาก็เอาวะ" เวลานี้เติมตะวันไม่มีทางเลือกจำใจต้องเอาด้วยไม่เช่นนั้นน้องสาวเขาก็ต้องลำบากไปด้วย ในเวลานั้นสองเพื่อนรักก็จำต้องเล่นด้วยเงินก้อนสุดท้ายที่ทั้งคู่เอามารวมกัน ซึ่งตะวันเองก็แปลกใจว่าจู่ๆทำไมกรมีเงินมาแลกชิพเยอะพอสมควร "โต๊ะนี่น่าสนุกนะผมขอแจมด้วย" ตุนท์ลูกชายของเจ้าของคาสิโนที่มาดูกิจการแทนพ่อนึกสนุกเมื่อเดินผ่านมาที่โต๊ะกลุ่มที่มีเติมตะวันและกรกำลังเล่นอยู่ ในขณะนั้นพนักงานที่มีหน้าที่ดูกล้องวงจรปิดเดินไปเข้าห้องน้ำและเพื่อนอีกคนเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ด้านนอก พนักงานคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรจึงไม่ได้คอยจ้องจอเอาไว้อย่างที่ ควรจะทำ เป็นอย่างที่คาดเมื่อกรเปิดไพ่ที่เข้าได้รับการแจกก็พบว่าแต้มที่เขาได้มันเป็นแต้มเสียอย่างไรก็แพ้ในตานี้แน่ แผนที่ได้เตรียมการไว้จึงเกิดขึ้นเขานำไพ่ที่มีแต้มสูงกว่าใบที่ ได้ที่ซ่อนมันเอาไว้ภายใต้เสื้อแขนยาว เขาค่อยๆดันมันออกมาโดยเติมตะวันคอยเบนความสนใจของนักเล่นท่านอื่นไม่ให้มามองสังเกตุที่เขา กรคงจะอยู่ในวงการนี้นานพอ สมควรจึงรู้วิธีการและมีลูกเล่นพอตัว "ผมได้" กรทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะและทำให้เขาได้รับเงินไปทั้งโต๊ะ "ผมไม่ได้ตั้งใจมาเล่นเลยไม่มีเงินสดไปแลกชิพได้มากพอผมเอานาฬิกานี่ให้แทนแล้วกัน" ตุนท์ผู้อยู่ในกลุ่มต้องเสียเงินโยนนาฬิกาไปที่กลางโต๊ะ เขารู้สึกเสียดายแต่ก็คิดว่าช่างมันเล่นเอาสนุก กรรีบหยิบนาฬิกาขึ้นมาจากโต๊ะตาลุกวาว เฮ้ยยี่ห้อดังถ้าของแท้ราคาหลายล้าน ที่จริงไม่ใช่ว่าตุนท์ไม่มีเงินแต่ตอนที่เขาจะแลกชิพเขาล้วงกระเป๋ากางเกงและพบว่ากระเป๋า เขาหายไป เขาสั่งให้ลูกน้องไปค้นหาแต่ก็ยังไม่มีใครเจอ "ไอ้เศรษฐีคนนี้มันใจปล้ำ" กรมองตุนท์ด้วยความเจ้าเล่ห์ กรคือคนที่อาจหาญล้วงกระเป๋าลูกชายเจ้าพ่ออย่างตุนท์! นั่นคือทุนที่ทำให้กรและเติมตะวันเอามาเล่นในค่ำคืนนี้! เขาทำแบบนี้อยู่สามถึงสี่ตาก็เดินไปเปลี่ยนโต๊ะเปลี่ยนฝั่งที่เล่นเมื่อได้มามากพอควรก็ไปลงแบบเงินต่อเงินจนคืนนั้นเขาทั้งคู่ได้เงินไปเป็นล้าน ใครๆก็คิดว่าสองคนนี้ดวงดีไม่มี ใครจะคิดว่าโกงเพราะมีกล้องวงจรปิดที่ควรจะเห็นการกระทำของนักเล่นตลอดเวลา เมื่อได้เงินมากพอเติมตะวันก็สะกิดชวนเพื่อนกลับเพราะกลัวจะผิดสังเกตุไปมากกว่านี้เพราะเท่านี้คนก็พากันจับจ้องถึงความดวงดีของเขาทั้งคู่ "ไปมึงรีบเผ่น" กรรีบชวนเติมตะวันออกไปเพราะเริ่มรู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองอยู่ "เฮ้ยจับตาไอ้คู่นั่นหน่อยสิ กูว่ามันดวงดีผิดสังเกตุ" ชายฉกรรจ์ที่มีหน้าที่คุมความเรียบร้อยภายในคาสิโนหันไปบอกลูกน้อง "ครับลูกพี่" "หายไปไหนแล้ววะ" ลูกน้องคนที่เดินมาคอยมองตามที่หัวหน้าสั่งให้ค้นหากรกับเติมตะวัน แต่ไม่เจอเพราะเขาทั้งคู่อาศัยความชุลมุนและรีบหนีออกไป ประกอบกับการออกมาทางผับ ด้านหน้าในยามที่นักเที่ยวกำลังทยอยกันเข้ามายิ่งเป็นเรื่องยากที่จะตามหาใครให้เจอ "ไม่เจอครับลูกพี่" ผู้ที่เป็นลูกน้องเดินมารายงาน "มึงไปที่ห้องวงจรปิด" ผู้เป็นหัวหน้าสั่งการ เมื่อไปย้อนกล้องงจรปิดดูจึงได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลหลายอย่างที่พอจะแน่ใจได้ว่ามีการโกงเกิดขึ้น และรวมไปถึงเห็นมือของชายคนหนึ่งกำลังล้วงฉกกระเป๋าสตางค๋ของตุนท์ออกไปอีกด้วย "จริงหรือ บ้าจริงตามมันเจอไหม" ตุนท์พูดอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อลูกน้องร่างกำยำเดินมารายงานว่ามีคนโกงเงินในคาสิโนของเขาอีกทั้งยังน่าจะเป็นคนเดียวกันที่ล้วงกระเป๋าสตางค์เขาไปอีกด้วย "ไปตามมันมาให้ได้!" คำสั่งลั่นออกมาจากปากของตุนท์เมื่อเสียทั้งหน้าเสียทั้งเสียเหลี่ยม เขากัดฟันแน่นกรอดจนกรามขึ้นเป็นสันนูน ตุนท์ไม่เคยจะเล่นการพนันมาก่อนและเขาเองเพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอกแค่เพียงนึกสนุกเท่านั้นจึงลองเล่นดู เพราะอีกหน่อยพ่อก็ต้องยกกิจการนี้ให้เขาดูแลต่อจึงได้ส่งเขามาดูงาน แต่กลายเป็นว่าเขาเสียหน้ามากต่อให้ลูกน้องจะไม่มีใครพูอะไรแต่ด้วยสถานะอย่างเขามันก็ทำให้เขาอายไม่น้อย ตุนท์โตมาด้วยกิจการสีเทาของพ่อเขา ทั้งไนท์คลับ ผับ บาร์ และคาสิโนลับ แต่เบื้องหน้าของพ่อเขากลับดูสวยหรูและมีหน้าตาทางสังคม ตุนท์โตมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่นนัก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เขายังเล็กและเขาก็ถูกส่งไปเรียนโรงเรียนประจำจนมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนไม่เว้นแต่ละวัน ถึงพ่อเจาจะมีเงินมากมายแต่ไหนแต่ทางโรงเรียนก็ลำบากใจที่จะให้เรียนต่อเพราะมีปัญหากับผู้ปกครองท่านอื่น เขาจึงถูกส่งตัวไปอยู่ที่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นมา ซึ่งพ่อเขาก็ส่งให้แต่เงินโดยไม่สนใจความอ้างว้างในใจของลูกอย่างเขา พ่อเขาเอาแต่ทำงานเพื่อหน้าตาทางสังคมเพราะคาดหวังจะสร้างฐานอำนาจบารมีรวมไปถึงเพื่อปกปิดกิจการสีเทาของเขาด้วย ตุนท์จึงเติมโตมาแบบไร้ความรัก อยู่ด้วยตัวเอง ไม่มีคำว่ารักหรือเห็นใจสงสารใครเพราะเขาเองก็ไม่เคยได้รับมันมาจากใครโดยเฉพาะคนในครอบครัว การขาดความอบอุ่นจึงหล่อหลอมให้เขาเป็นคนไร้หัวใจและเอาแต่ใจตัวเองประดุจเด็กที่มีปัญหา "อะไรนะ มีการโกง แกปล่อยให้มันเกิดได้ยังไงไอ้ตุนท์ ไปดูงานวันเดียวเสี่ยเหลี่ยมหมดแถมโดนล้วงกระเป๋า ไม่ได้เรื่อง ไอ้ลูกไม่เอาถ่าน" ทินกรพ่อของตุนท์ด่ากราดใส่ลูกชายเมื่อรู้เรื่อง เขาไม่เคยอ่อนโยนหรือพูดจาดีกับลูกชายคนนี้เลย "ครับ" ตุนท์รับคำพ่อแต่ก็เก็บความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ข้างใน คำว่าไอ้ลูกไม่เอาถ่านนี่แหล่ะคือจุดกำเนิดของการตามล่ากรและเติมตะวันเพื่อกู้ศักดิ์ศรีกลับมาของตุนท์เพื่อเป็นบทพิสูจน์ให้พ่อของเขาเห็นว่าคนอย่างเขาทำได้ "ไอ้ลูกพ่อแม่ทิ้ง" นี่คือคำฝังใจที่ดังก้องอยู่ในหัวเขา เพื่อนที่มีเรื่องชกต่อยกับเขาด่าเขาเมื่อสู้เขาไม่ได้ ทุกวันหยุดเพื่อนๆจะมีพ่อแม่มารับกลับบ้าน มีแต่เขาที่ต้องนอนที่ โรงเรียนถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ก็ตาม ..........................................................................................................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD