ความหวังดีของผึ้ง 3/3

1754 Words
เจ้าถิ่น… หลังจากวันนั้นที่ฉันพาลูกชายไปว่ายน้ำที่โรงเรียน เจ้าตัวก็รบเร้าให้ฉันพาไปอีกบ่อย ๆ นอกจากจะมีสระว่ายน้ำแล้วที่นั่นยังมีร้านของกินอร่อย ๆ ที่เจ้าตัวชอบอีกด้วย มีสนามเด็กเล่นที่คอนโดเราไม่มี ถ้าเป็นเมื่อก่อนลูกชายตัวน้อยของฉันต้องเล่นที่โรงเรียนไม่ก็สวนสาธารณะแต่ตอนนี้แค่พาไปโรงเรียนว่ายน้ำก็จะมีทุกอย่างที่เขาอยากเล่น “คูมคู!” เสียงสดใสของลูกชายตัวน้อยร้องทักคนที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับชูแขนป้อม ๆ ให้กันไปด้วย ขณะที่คนถูกทักก็ส่งยิ้มกลับพร้อมโบกมือกลับมาให้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองคนนี้สนิทกัน รู้ตัวอีกทีคนตัวเล็กก็พูดถึงคุณครูของเขาบ่อย ๆ และรบเร้าให้ฉันพามาหาแทบทุกวัน “สวัสดีครับคุณเจ้า” “สวัสดีค่ะคุณพายุ” เราสองคนทักทายกันขณะที่คนตัวเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมแขนจะให้คุณครูของเขาอุ้มอย่างที่เคย “วันนี้เจ้าฝากพายัพไว้สักวันนะคะ พอดีมีธุระต้องไปจัดการที่มหาลัยค่ะ แต่เดี๋ยวอีกสักพักพี่เลี้ยงพายัพคงตามมา” ฉันพูดกับคนตรงหน้าพลางส่งกระเป๋าเป้ใบเล็กที่มีของกินของใช้ให้เขา จะว่าไปแล้วฉันกับเขาเราเริ่มสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะ “ได้ครับ” “คูมคูฮะ วันนี้วันเกิดแม่เจ้าของพายัพแหละ คูมคูไปเป่าเค้กด้วยกันอ้ะป่าว” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ก้าวเท้ากลับ เสียงสดใสของลูกชายตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของคนตัวใหญ่กว่าก็พูดขึ้น ถึงอยากจะห้ามไม่ให้ลูกชายพูดเรื่องนี้แต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว “อ้าววันนี้วันเกิดคุณเจ้าเหรอครับ” คนตรงหน้ารีบถามอย่างสนใจ ถ้าจะตอบว่าไม่ใช่ก็คงไม่ได้แล้วสินะ “อ๋อใช่คะ เย็นนี้มีทานอาหารกับเพื่อน ๆ แล้วก็ลูกพี่ลูกน้องที่คอนโดค่ะถ้าคุณพายุอยากเปลี่ยนบรรยากาศทานมื้อเย็น แวะไปที่คอนโดเจ้าก็ได้นะคะ” ไหน ๆ เขาก็รู้แล้วฉันเลยถือวิสาสะชวนเขาด้วยเลยเพราะถ้าเขารู้แล้วแต่ไม่ชวนก็คงจะดูไม่ดีสินะ อีกอย่างเราสองคนก็สนิทกันแล้วด้วยถ้าไม่ชวนคงแปลกน่าดู “คูมคูไปบ้านพายัพนะฮะ” คนตัวเล็กชวนบ้าง “โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นคุณเจ้ารีบไปทำธุระเลยก็ได้ครับ ถ้ากลับมาแล้วเดี๋ยวผมกับพายัพจะไปหาที่คอนโดพร้อมกับพี่เลี้ยงเลย คุณเจ้าจะได้ไม่ต้องกลับไปกลับมา” “ค่ะ งั้นเจอกันนะคะ” ฉันส่งยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะเดินออกมา ปกติฉันไม่ค่อยฝากพายัพไว้กับใครหรือปล่อยให้พายัพไปไหนมาไหนกับใครนอกจากพี่เลี้ยง แต่ไหน ๆ วันนี้คุณพายุก็จะไปงานวันเกิดฉันแล้วก็คงไม่เป็นไร เพราะมีพี่เลี้ยงของพายัพอยู่ด้วย จากที่คิดว่าจะมาทำธุระเรื่องเอกสารจบและแวะทักทายเพื่อน ๆ แค่แป๊บเดียวแต่กลับกินเวลาไปถึงช่วงเย็น ในใจก็เป็นห่วงลูกกว่าทุกวันเพราะพายัพไม่ได้อยู่ที่คอนโดเหมือนทุกครั้งที่ฉันออกมาข้างนอก ดีหน่อยที่พี่เลี้ยงคอยโทรรายงานฉันเป็นระยะและดูแลอย่างใกล้ชิดเลยคลายกังวลไปบ้าง “เจ้ากลับเลยมั้ย เย็นแล้วนะเดี๋ยวคนอื่นจะรอนาน” เพื่อนซี้ถามขึ้นขณะที่เดินลงมาจากตึก วันนี้ฉันมารอผึ้งที่หน้าตึกคณะเพราะทำธุระเสร็จก่อน ดีหน่อยที่เพื่อนรักไม่ได้ทำอะไรต่อแล้วจึงมีเวลาว่างไปงานวันเกิดฉันคืนนี้ “กลับเลยก็ได้ เจ้าเป็นห่วงพายัพแล้วอะวันนี้ไม่ได้อยู่ที่คอนโดด้วยสิ” “อ้าว? แล้วพายัพไปไหนอะ ให้พี่เลี้ยงพาไปฝากกับเจ้าทัพเหรอ” “อ๋อเปล่าหรอก วันนี้พายัพบ่นว่าอยากไปว่ายน้ำน่ะ เจ้าก็เลยฝากพายัพไว้กับคุณพายุแต่พี่เลี้ยงก็ไปดูแลช่วยนะ” “เจ้าสนิทกับคุณพายุเร็วจังเลยนะ แล้วคุณพายุนั่นก็สนิทกับพายัพเร็วซะด้วยสิ แปลกจังเลย… ปกติเจ้าเองก็ไม่ให้ใครเข้าใกล้พายัพง่าย ๆ กับคุณพายุอะไรนั่นดูพิเศษจัง” เพื่อนรักที่ขึ้นมานั่งฝั่งข้างคนขับพูดขึ้นขณะที่ฉันกำลังปิดประตูรถลงเตรียมเดินทางกลับคอนโด จะว่าไปแล้วพายัพกับคุณพายุก็สนิทกันเร็วเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ ปกติลูกชายฉันแทบจะไม่เข้าใกล้คนแปลกหน้าแล้วก็ไม่เปิดใจให้ใครเข้าหาได้ง่าย ๆ แต่ประโยคสุดท้ายของเพื่อนนี่สิมันทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่าฉันไว้ใจเข้าเลยแฮะถ้าผึ้งไม่พูดฉันก็ไม่รู้… “อ้อ เจ้าลืมบอกผึ้งไปเลยว่าคุณพายุจะมางานวันเกิดเจ้าด้วยนะ” พอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อนรักก็รีบพูดออกไป แต่สีหน้าของผึ้งที่ดูตกใจแล้วก็แววตาเป็นกังวลตอนนี้สิทำเอาฉันสงสัย “มีอะไรเหรอผึ้ง” “อ๋อเปล่าหรอก ผึ้งแค่แปลกใจน่ะปกติเจ้าไม่พาใครมาคอนโด” นั่นน่ะสิ แต่พายัพเริ่มชวนเขาก่อนถ้าฉันไม่ชวนก็จะดูแปลก ๆ นะ “พอดีพายัพชวนน่ะ เจ้าเห็นว่ายังไงก็ห้ามลูกไม่ทันแล้วก็เลยชวนเขามาด้วยเลย ไหน ๆ เราสองคนก็รู้จักกันแล้ว” “เจ้าคิดจะเปิดใจให้ใครบ้างมั้ย” หืม? ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ “ผึ้งเห็นว่าช่วงนี้เจ้ากับคุณพายุเข้ากันได้ดีน่ะ แล้วก็เจอกันบ่อยด้วยถึงจะเจอในโรงเรียนสอนว่ายน้ำก็เถอะ แต่เกือบทุกวันเลยนะที่เจ้าพาลูกไปที่นั่น ถึงจะเป็นความต้องการของพายัพที่อยากไปว่ายน้ำไปเล่นกับเพื่อน แต่พอเห็นเจ้ากับคุณพายุเข้ากันได้ดีผึ้งก็เลยอยากให้เจ้าลองเปิดใจ… ถึงผึ้งจะรู้สึกไม่ไว้ใจเขาก็เถอะ” “เจ้าไม่ได้คิดอะไรกับคุณพายุนะผึ้ง ถึงจะรู้จักกันและเข้ากันได้ดีแต่เจ้าก็ไม่ได้คิดว่าจะรับใครเข้ามาในชีวิตหรอกนะ” ฉันรู้ว่าผึ้งอยากให้ฉันเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนแต่ฉันยังไม่อยากมีใครเพราะพายัพเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างให้ฉันจนไม่ต้องการใครอีกแล้ว “ที่ไม่อยากรับคุณพายุเข้ามาเป็นเพราะพายัพหรือพีท” “…” “ถ้าเจ้าไม่ต้องการคุณพายุเพราะยังลืมพีทไม่ได้ แล้วทำไมไม่กลับไปคบกันล่ะ ตอนนี้พีทก็กลับมาแล้วแถมยังอยากดูแลพายัพอีก เจ้าเองก็เลี้ยงดูพายัพที่เป็นลูกของพีท ก็คบกันเลยสิ” ให้ฉันคบกับผู้ชายที่ทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองเนี่ยนะ! แถมยังปฏิเสธว่าพายัพไม่ใช่ลูกเขาตั้งแต่วันที่สายลมท้องยันสายลมคลอดน่ะนะ ฉันคบกับคนแบบนั้นไม่ได้หรอก “เจ้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับพีทแล้ว หรือถ้าจะรู้สึกก็คงเป็นรู้สึกเกลียดมากกว่า” ฉันไม่ได้พูดอะไรต่ออีกแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อโดยไม่สนใจผึ้งที่เริ่มร่ายบทพูดยาว ๆ ตลอดทาง ถึงจะรู้ว่าผึ้งหวังดีแต่ฉันก็รับไม่ได้อยู่ดีที่เขาทิ้งสายลมกับลูกไปนอนกับคนอื่นจนสายลมต้องตาย ทั้ง ๆ ที่มีสายบลมอยู่แล้วแต่ยังยุ่งกับคนอื่น “ตอนนั้นพวกเรายังเด็กกันมากนะเจ้า พีทเองก็แค่เด็กที่เพิ่งขึ้นมอปลายแล้วก็ถูกจับให้หมั้นหมายเพราะโดนผู้ใหญ่จับได้ว่านอนกับสายลม แล้วสายลมเองก็งี่เง่าเอาแต่ใจขนาดไหนเจ้าก็รู้ ช่วงเวลาที่สองคนนั้นอยู่ด้วยกันเขามีปัญหาอะไรกันเราก็ไม่รู้อีก เจ้าฟังแต่สายลมพูดแต่ไม่เคยฟังพีทพูด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเรื่องจริงหรือสายลมแค่คิดไปเองเพราะนิสัยชอบระแวง” “ถ้าผึ้งยังไม่หยุดพูดเรื่องนี้ คืนนี้เราไม่ต้องมาเจอกันก็ได้นะ” ฉันหันไปตวัดสายตาดุ ๆ ให้คนข้าง ๆ ที่เริ่มพูดมากเกินไปแล้ว “ตอนนี้เราไม่ใช่เด็กแล้วนะเจ้า ผึ้งคิดว่าเจ้าเลิกงี่เง่าเหมือนเมื่อก่อนแล้วซะอีก” คนข้าง ๆ ตวัดสายตาดุ ๆ มาให้ฉันบ้าง ทำเอาบรรยากาศในรถเริ่มอึดอัดขึ้นมาเพราะเราสองคนไม่ค่อยมีเรื่องให้ทะเลาะกันนานมากแล้ว “ไม่ว่าจะยังไงเขาก็เป็นคนทำให้สายลมต้องตาย เจ้าไม่มีวันให้อภัยเขาหรอกแล้วถ้าวันนั้นพายัพตายไปพร้อมกับสายลมด้วยทุกอย่างมันคงแย่ไปมากกว่านี้” ฉันหันไปบอกผึ้งก่อนจะดับเครื่องยนต์ลงเมื่อเดินทางมาถึงคอนโดแล้ว “แล้วเจ้าไม่คิดบ้างเหรอว่าเรื่องนี้เจ้าก็มีส่วนผิด ถ้าเจ้าไม่ทิ้งพีทไป สายลมกับพีทก็คงไม่ต้องลงเอยกันแบบนี้” “…” “ที่ผึ้งพูดน่ะเพราะหวังดีหรอกนะ เรื่องเมื่อก่อนถึงจะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน จะมีใครตายยังไงแต่ตอนนั้นเราก็ยังเป็นเด็กกันอยู่ ต่างกับตอนนี้ที่พวกเราโตกันแล้ว ควรจะคุยกันด้วยเหตุผล อะไรที่ค้างคาก็มาปรับความเข้าใจกันสิไม่ใช่ปล่อยให้ยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้ แล้วมีแต่คนทุกข์ใจ” “…” “ผึ้งไม่ได้เข้าข้างพีทหรืออัคติกับสายลมหรอกนะ แต่อยากให้เจ้าคิดถึงใจพีทบ้างว่าตอนที่เจ้าทิ้งพีทไปให้พีทอยู่กับสายลมน่ะ พีทต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหน แล้วไหนจะรู้สึกผิดที่ทำให้สายลมตายอีก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD