เจ้าถิ่น…
หลังจากวันนั้นที่ฉันพาลูกชายไปว่ายน้ำที่โรงเรียน เจ้าตัวก็รบเร้าให้ฉันพาไปอีกบ่อย ๆ นอกจากจะมีสระว่ายน้ำแล้วที่นั่นยังมีร้านของกินอร่อย ๆ ที่เจ้าตัวชอบอีกด้วย มีสนามเด็กเล่นที่คอนโดเราไม่มี ถ้าเป็นเมื่อก่อนลูกชายตัวน้อยของฉันต้องเล่นที่โรงเรียนไม่ก็สวนสาธารณะแต่ตอนนี้แค่พาไปโรงเรียนว่ายน้ำก็จะมีทุกอย่างที่เขาอยากเล่น
“คูมคู!”
เสียงสดใสของลูกชายตัวน้อยร้องทักคนที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับชูแขนป้อม ๆ ให้กันไปด้วย ขณะที่คนถูกทักก็ส่งยิ้มกลับพร้อมโบกมือกลับมาให้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองคนนี้สนิทกัน รู้ตัวอีกทีคนตัวเล็กก็พูดถึงคุณครูของเขาบ่อย ๆ และรบเร้าให้ฉันพามาหาแทบทุกวัน
“สวัสดีครับคุณเจ้า”
“สวัสดีค่ะคุณพายุ”
เราสองคนทักทายกันขณะที่คนตัวเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมแขนจะให้คุณครูของเขาอุ้มอย่างที่เคย
“วันนี้เจ้าฝากพายัพไว้สักวันนะคะ พอดีมีธุระต้องไปจัดการที่มหาลัยค่ะ แต่เดี๋ยวอีกสักพักพี่เลี้ยงพายัพคงตามมา”
ฉันพูดกับคนตรงหน้าพลางส่งกระเป๋าเป้ใบเล็กที่มีของกินของใช้ให้เขา จะว่าไปแล้วฉันกับเขาเราเริ่มสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะ
“ได้ครับ”
“คูมคูฮะ วันนี้วันเกิดแม่เจ้าของพายัพแหละ คูมคูไปเป่าเค้กด้วยกันอ้ะป่าว”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ก้าวเท้ากลับ เสียงสดใสของลูกชายตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของคนตัวใหญ่กว่าก็พูดขึ้น ถึงอยากจะห้ามไม่ให้ลูกชายพูดเรื่องนี้แต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว
“อ้าววันนี้วันเกิดคุณเจ้าเหรอครับ”
คนตรงหน้ารีบถามอย่างสนใจ ถ้าจะตอบว่าไม่ใช่ก็คงไม่ได้แล้วสินะ
“อ๋อใช่คะ เย็นนี้มีทานอาหารกับเพื่อน ๆ แล้วก็ลูกพี่ลูกน้องที่คอนโดค่ะถ้าคุณพายุอยากเปลี่ยนบรรยากาศทานมื้อเย็น แวะไปที่คอนโดเจ้าก็ได้นะคะ”
ไหน ๆ เขาก็รู้แล้วฉันเลยถือวิสาสะชวนเขาด้วยเลยเพราะถ้าเขารู้แล้วแต่ไม่ชวนก็คงจะดูไม่ดีสินะ อีกอย่างเราสองคนก็สนิทกันแล้วด้วยถ้าไม่ชวนคงแปลกน่าดู
“คูมคูไปบ้านพายัพนะฮะ”
คนตัวเล็กชวนบ้าง
“โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นคุณเจ้ารีบไปทำธุระเลยก็ได้ครับ ถ้ากลับมาแล้วเดี๋ยวผมกับพายัพจะไปหาที่คอนโดพร้อมกับพี่เลี้ยงเลย คุณเจ้าจะได้ไม่ต้องกลับไปกลับมา”
“ค่ะ งั้นเจอกันนะคะ”
ฉันส่งยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะเดินออกมา ปกติฉันไม่ค่อยฝากพายัพไว้กับใครหรือปล่อยให้พายัพไปไหนมาไหนกับใครนอกจากพี่เลี้ยง แต่ไหน ๆ วันนี้คุณพายุก็จะไปงานวันเกิดฉันแล้วก็คงไม่เป็นไร เพราะมีพี่เลี้ยงของพายัพอยู่ด้วย
จากที่คิดว่าจะมาทำธุระเรื่องเอกสารจบและแวะทักทายเพื่อน ๆ แค่แป๊บเดียวแต่กลับกินเวลาไปถึงช่วงเย็น ในใจก็เป็นห่วงลูกกว่าทุกวันเพราะพายัพไม่ได้อยู่ที่คอนโดเหมือนทุกครั้งที่ฉันออกมาข้างนอก ดีหน่อยที่พี่เลี้ยงคอยโทรรายงานฉันเป็นระยะและดูแลอย่างใกล้ชิดเลยคลายกังวลไปบ้าง
“เจ้ากลับเลยมั้ย เย็นแล้วนะเดี๋ยวคนอื่นจะรอนาน”
เพื่อนซี้ถามขึ้นขณะที่เดินลงมาจากตึก วันนี้ฉันมารอผึ้งที่หน้าตึกคณะเพราะทำธุระเสร็จก่อน ดีหน่อยที่เพื่อนรักไม่ได้ทำอะไรต่อแล้วจึงมีเวลาว่างไปงานวันเกิดฉันคืนนี้
“กลับเลยก็ได้ เจ้าเป็นห่วงพายัพแล้วอะวันนี้ไม่ได้อยู่ที่คอนโดด้วยสิ”
“อ้าว? แล้วพายัพไปไหนอะ ให้พี่เลี้ยงพาไปฝากกับเจ้าทัพเหรอ”
“อ๋อเปล่าหรอก วันนี้พายัพบ่นว่าอยากไปว่ายน้ำน่ะ เจ้าก็เลยฝากพายัพไว้กับคุณพายุแต่พี่เลี้ยงก็ไปดูแลช่วยนะ”
“เจ้าสนิทกับคุณพายุเร็วจังเลยนะ แล้วคุณพายุนั่นก็สนิทกับพายัพเร็วซะด้วยสิ แปลกจังเลย… ปกติเจ้าเองก็ไม่ให้ใครเข้าใกล้พายัพง่าย ๆ กับคุณพายุอะไรนั่นดูพิเศษจัง”
เพื่อนรักที่ขึ้นมานั่งฝั่งข้างคนขับพูดขึ้นขณะที่ฉันกำลังปิดประตูรถลงเตรียมเดินทางกลับคอนโด จะว่าไปแล้วพายัพกับคุณพายุก็สนิทกันเร็วเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ ปกติลูกชายฉันแทบจะไม่เข้าใกล้คนแปลกหน้าแล้วก็ไม่เปิดใจให้ใครเข้าหาได้ง่าย ๆ แต่ประโยคสุดท้ายของเพื่อนนี่สิมันทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ
เหมือนกับว่าฉันไว้ใจเข้าเลยแฮะถ้าผึ้งไม่พูดฉันก็ไม่รู้…
“อ้อ เจ้าลืมบอกผึ้งไปเลยว่าคุณพายุจะมางานวันเกิดเจ้าด้วยนะ”
พอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อนรักก็รีบพูดออกไป แต่สีหน้าของผึ้งที่ดูตกใจแล้วก็แววตาเป็นกังวลตอนนี้สิทำเอาฉันสงสัย
“มีอะไรเหรอผึ้ง”
“อ๋อเปล่าหรอก ผึ้งแค่แปลกใจน่ะปกติเจ้าไม่พาใครมาคอนโด”
นั่นน่ะสิ แต่พายัพเริ่มชวนเขาก่อนถ้าฉันไม่ชวนก็จะดูแปลก ๆ นะ
“พอดีพายัพชวนน่ะ เจ้าเห็นว่ายังไงก็ห้ามลูกไม่ทันแล้วก็เลยชวนเขามาด้วยเลย ไหน ๆ เราสองคนก็รู้จักกันแล้ว”
“เจ้าคิดจะเปิดใจให้ใครบ้างมั้ย”
หืม? ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ
“ผึ้งเห็นว่าช่วงนี้เจ้ากับคุณพายุเข้ากันได้ดีน่ะ แล้วก็เจอกันบ่อยด้วยถึงจะเจอในโรงเรียนสอนว่ายน้ำก็เถอะ แต่เกือบทุกวันเลยนะที่เจ้าพาลูกไปที่นั่น ถึงจะเป็นความต้องการของพายัพที่อยากไปว่ายน้ำไปเล่นกับเพื่อน แต่พอเห็นเจ้ากับคุณพายุเข้ากันได้ดีผึ้งก็เลยอยากให้เจ้าลองเปิดใจ… ถึงผึ้งจะรู้สึกไม่ไว้ใจเขาก็เถอะ”
“เจ้าไม่ได้คิดอะไรกับคุณพายุนะผึ้ง ถึงจะรู้จักกันและเข้ากันได้ดีแต่เจ้าก็ไม่ได้คิดว่าจะรับใครเข้ามาในชีวิตหรอกนะ”
ฉันรู้ว่าผึ้งอยากให้ฉันเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนแต่ฉันยังไม่อยากมีใครเพราะพายัพเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างให้ฉันจนไม่ต้องการใครอีกแล้ว
“ที่ไม่อยากรับคุณพายุเข้ามาเป็นเพราะพายัพหรือพีท”
“…”
“ถ้าเจ้าไม่ต้องการคุณพายุเพราะยังลืมพีทไม่ได้ แล้วทำไมไม่กลับไปคบกันล่ะ ตอนนี้พีทก็กลับมาแล้วแถมยังอยากดูแลพายัพอีก เจ้าเองก็เลี้ยงดูพายัพที่เป็นลูกของพีท ก็คบกันเลยสิ”
ให้ฉันคบกับผู้ชายที่ทิ้งลูกทิ้งเมียตัวเองเนี่ยนะ! แถมยังปฏิเสธว่าพายัพไม่ใช่ลูกเขาตั้งแต่วันที่สายลมท้องยันสายลมคลอดน่ะนะ ฉันคบกับคนแบบนั้นไม่ได้หรอก
“เจ้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับพีทแล้ว หรือถ้าจะรู้สึกก็คงเป็นรู้สึกเกลียดมากกว่า”
ฉันไม่ได้พูดอะไรต่ออีกแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อโดยไม่สนใจผึ้งที่เริ่มร่ายบทพูดยาว ๆ ตลอดทาง ถึงจะรู้ว่าผึ้งหวังดีแต่ฉันก็รับไม่ได้อยู่ดีที่เขาทิ้งสายลมกับลูกไปนอนกับคนอื่นจนสายลมต้องตาย ทั้ง ๆ ที่มีสายบลมอยู่แล้วแต่ยังยุ่งกับคนอื่น
“ตอนนั้นพวกเรายังเด็กกันมากนะเจ้า พีทเองก็แค่เด็กที่เพิ่งขึ้นมอปลายแล้วก็ถูกจับให้หมั้นหมายเพราะโดนผู้ใหญ่จับได้ว่านอนกับสายลม แล้วสายลมเองก็งี่เง่าเอาแต่ใจขนาดไหนเจ้าก็รู้ ช่วงเวลาที่สองคนนั้นอยู่ด้วยกันเขามีปัญหาอะไรกันเราก็ไม่รู้อีก เจ้าฟังแต่สายลมพูดแต่ไม่เคยฟังพีทพูด แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเรื่องจริงหรือสายลมแค่คิดไปเองเพราะนิสัยชอบระแวง”
“ถ้าผึ้งยังไม่หยุดพูดเรื่องนี้ คืนนี้เราไม่ต้องมาเจอกันก็ได้นะ”
ฉันหันไปตวัดสายตาดุ ๆ ให้คนข้าง ๆ ที่เริ่มพูดมากเกินไปแล้ว
“ตอนนี้เราไม่ใช่เด็กแล้วนะเจ้า ผึ้งคิดว่าเจ้าเลิกงี่เง่าเหมือนเมื่อก่อนแล้วซะอีก”
คนข้าง ๆ ตวัดสายตาดุ ๆ มาให้ฉันบ้าง ทำเอาบรรยากาศในรถเริ่มอึดอัดขึ้นมาเพราะเราสองคนไม่ค่อยมีเรื่องให้ทะเลาะกันนานมากแล้ว
“ไม่ว่าจะยังไงเขาก็เป็นคนทำให้สายลมต้องตาย เจ้าไม่มีวันให้อภัยเขาหรอกแล้วถ้าวันนั้นพายัพตายไปพร้อมกับสายลมด้วยทุกอย่างมันคงแย่ไปมากกว่านี้”
ฉันหันไปบอกผึ้งก่อนจะดับเครื่องยนต์ลงเมื่อเดินทางมาถึงคอนโดแล้ว
“แล้วเจ้าไม่คิดบ้างเหรอว่าเรื่องนี้เจ้าก็มีส่วนผิด ถ้าเจ้าไม่ทิ้งพีทไป สายลมกับพีทก็คงไม่ต้องลงเอยกันแบบนี้”
“…”
“ที่ผึ้งพูดน่ะเพราะหวังดีหรอกนะ เรื่องเมื่อก่อนถึงจะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน จะมีใครตายยังไงแต่ตอนนั้นเราก็ยังเป็นเด็กกันอยู่ ต่างกับตอนนี้ที่พวกเราโตกันแล้ว ควรจะคุยกันด้วยเหตุผล อะไรที่ค้างคาก็มาปรับความเข้าใจกันสิไม่ใช่ปล่อยให้ยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้ แล้วมีแต่คนทุกข์ใจ”
“…”
“ผึ้งไม่ได้เข้าข้างพีทหรืออัคติกับสายลมหรอกนะ แต่อยากให้เจ้าคิดถึงใจพีทบ้างว่าตอนที่เจ้าทิ้งพีทไปให้พีทอยู่กับสายลมน่ะ พีทต้องทุกข์ทรมานมากแค่ไหน แล้วไหนจะรู้สึกผิดที่ทำให้สายลมตายอีก”