Sunflower 15

856 Words
Sunflower 15 “เดี๋ยวน้ำมนต์นั่งข้าง...” คุณหมออีกหนึ่งคนที่พยายามพูดคุยกับคุณหมอตัวสูงข้างฉัน แต่เอ่ยยังไม่ทันจบประโยคเสียงของน้องชายฉันก็ดังแทรกเข้ามาเสียก่อน และเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความฉงน “อ้าว...” สองแฝดเดินกลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสี่แก้ว มองฉันสลับกับผู้ร่วมโต๊ะหน้าใหม่อย่างสงสัย “กุมนั่งข้างพี่ มีนนั่งหัวโต๊ะได้ไหม” คุณหมอไม่รอให้เสียเวลาเปล่ารีบแจ้งสองแฝดทันทีที่กลับมาถึงโต๊ะ และเหมือนน้อง ๆ จะเข้าใจได้ทันทีจึงตอบตกลงอย่างว่าง่าย “ครับพี่ นี่กาแฟครับ” “ขอบใจมาก เพื่อนร่วมงานพี่ไม่มีโต๊ะนั่งน่ะเลยขอนั่งด้วย” ระหว่างที่ตอบก็วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะตรงหน้าและขยับเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ฉันมากขึ้น โดยที่ฝั่งตรงข้ามเรามีเพื่อนร่วมงานของเขาสามคนนั่งอยู่ และมองมายังเราด้วยแววตาที่แตกต่างกันออกไปรวมถึงเป็นสายตาที่ยากจะคาดเดา “สั่งอาหารเพิ่มได้เลยครับ เราสั่งไปสามสี่อย่างแล้ว” คุณหมอบอกกับคนทั้งสามคน ฉันรับแก้วชาเย็นมาจากน้องชายก็ดื่มหนึ่งอึกเรียกความสดชื่นให้ตัวเอง “อื้อ” แต่ลองชิมเพียงแค่หนึ่งอึกถึงกับชะโงกหน้ามองน้องชายตาโต จนสองแฝดหัวเราะออกมาเบา ๆ “อร่อยเหรอ?” เป็นคุณหมอที่ถามฉันด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ฉันพยักหน้าแล้วยกแก้วตัวเองให้คุณหมอได้ลองชิม แต่คุณหมอส่ายหน้าส่งมาให้เท่านั้น “ไม่ค่อยชอบน้ำหวานครับ แค่กาแฟก็พอแล้ว” คุณหมอบอกอย่างเสียดาย ฉันเองก็เข้าใจไม่ได้บังคับเขา “แฝดได้อะไรมา” คุณหมอหันไปถามสองแฝดที่มีน้ำกันอยู่คนละแก้ว “ชาเขียวปั่นกับเย็นครับพี่หมอ” “อื้อ อย่ากินหวานนักล่ะ” คุณหมอช่วยเตือน “ครับผม” “รับทราบครับ” “แหม ทิวกับน้อง ๆ น่ารักจังเลยนะคะ เพิ่งรู้ว่ามีน้องฝาแฝดด้วย” คุณหมอที่แทนตัวเองว่าน้ำมนต์ถามคุณหมอทิวอย่างใส่ใจ ทั้งยังส่งรอยยิ้มหวานหยดย้อยมาให้ ไหนจะสายตาที่สื่อความหมายนั่นอีก แบบถ้าใครมาเห็นรอยยิ้มหรือสายตาแบบนี้คงต้องคิดว่ามีอะไรสักอย่างระหว่างทั้งคู่แน่ ๆ เลยล่ะ “อ๋อ ไม่ใช่น้องผมหรอกน้องของมาลีน่ะ” “อ้อ” ได้ยินแบบนั้นคุณหมอน้ำมนต์ก็เงียบไปทันที “ใช่น้องคนที่มีเป็นไข้หวัดใหญ่ใช่ไหมคะเนี่ย” พี่ที่นั่งตรงข้ามกับฉันทวนถามอย่างข้องใจ แต่คำถามนั้นหากหมายถึงช่วงสองสัปดาห์ก่อนก็คงจะใช่อยู่ล่ะนะ “อ่า หากถามถึงช่วงสองสัปดาห์คงจะใช่นะคะ” ตอบและยิ้มเขิน ๆ ให้พี่ ๆ ทั้งสองคนทันที “อ๋อ ก็ว่า น้องแฝดคุ้น ๆ แล้วยังคุ้นหน้าน้องอีก ชื่ออะไรนะคะ?” “มาลีค่ะ” ฉันแนะนำชื่อตัวเอง “อ้อ น้องมาลี วันนี้ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องขอนั่งด้วย โต๊ะเต็มจริง ๆ ค่ะแล้วก็ขอบคุณที่ให้นั่งด้วยนะคะ” “ยินดีค่ะ แชร์โต๊ะนั่งกันได้ค่ะ” ฉันบอกให้ทั้งสองคนสบายใจส่วนใครอีกคนขอไม่เอ่ยถึงนะคะ เพราะสายตาที่อีกฝ่ายกำลังมองมานั้นไม่น่ารักสำหรับฉันเลยสักนิดเดียว “ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ” สักพักเสียงของพนักงานที่ร้านก็ดังขึ้นพร้อมกับเมนูอาหารที่ถูกทยอยยกขึ้นบนโต๊ะ เมื่อได้ข้าวเราทุกคนก็เริ่มกินข้าวด้วยกัน มีบ้างที่เหล่าคุณหมอและคุณพยาบาลทั้งสองคนจะพูดคุยกัน รวมถึงฉันที่ตอบคำถามหรือคุยตอบโต้ยามที่คุณหมอถามไถ่ฉันมาอยู่บ่อยครั้ง “สักหกโมงเย็นพี่คงถึงห้อง” กินข้าวกันอยู่คุณหมอก็เอ่ยขึ้นมา แต่ดันสร้างความสนใจให้กับเพื่อนร่วมงานของเขาทั้งสามคนเหลือเกิน “อยากกินอะไรไหมคะ?” “ไม่มีเลยครับ อยากได้อะไรโทรมาบอกได้นะ” “ได้ค่ะ รีบกินข้าวเถอะเดี๋ยวเข้างานไม่ทันนะคะ” รีบเอ่ยเตือนคนข้าง ๆ และที่บอกแบบนั้นฉันเองก็กลัวเพื่อนร่วมงานของเขาจะมองไม่ดี เลยไม่อยากคุยอะไรกับเขามากนัก “ผมอยากกินต้มยำทะเล” แต่ไม่ใช่กับมีนาที่บอกอาหารที่อยากกินทั้งยังทำหน้าอ้อนฉันอีกด้วย “กินยำด้วย” “ได้เดี๋ยวเย็นนี้พี่ทำให้” “ปาร์ตี้กันครับ” สองแฝดเอ่ยชวนฉันไม่พอยังหันไปมองหน้าคุณหมอแล้วชวนเขาด้วย “พี่หมอมาปาร์ตี้ด้วยกันนะ” “ได้ เลิกงานแล้วพี่จะไป อยากได้อะไรส่งข้อความมา” นี่ก็อาสาอยากซื้อของเข้าไปให้เหลือเกิน จะลองนั่งคิดรายการของที่จะฝากให้เขาซื้อเข้ามาแล้วกันนะ อย่างเช่นฝากซื้อน้ำอัดลมสักขวดก็แล้วกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD