Sunflower 16
“พี่หมอมาปาร์ตี้ด้วยกันนะ”
“ได้ เลิกงานแล้วพี่จะไป อยากได้อะไรส่งข้อความมา” นี่ก็อาสาอยากซื้อของเข้าไปให้เหลือเกิน จะลองนั่งคิดรายการของที่จะฝากให้เขาซื้อเข้ามาแล้วกันนะ อย่างเช่นฝากซื้อน้ำอัดลมสักขวดก็แล้วกัน
“เด็กอย่าเพิ่งชวนคุณหมอคุย”
“ครับ” ของแฝดขานรับและกินข้าวต่อ เราไม่ได้สนใจสายตาของคุณหมอน้ำมนต์มากนักแต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากกับสายตาคู่นั้นเพราะคิดว่าคงไม่ได้บังเอิญเจอกันอีกในเร็ววันนี้หรอก
หลังจากที่กินข้าวเสร็จคุณหมอจ่ายค่าอาหารเองและไม่ยอมให้จ่ายช่วยเลยสักบาทเดียว
ฉันวนรถกลับมาส่งคุณหมอที่โรงพยาบาลจากนั้นถึงได้พาของแฝดกลับคอนโดเพื่อไปดูห้อง ส่วนเครื่องดื่มที่เราซื้อมายังไม่หมดเลยถือติดมือกันคนละแก้ว เอ็นจอยกันสุด ๆ ก็น้องชายของฉันนี่แหละ
“อ้าว มาทำอะไรชั้นนี้” กุมภาที่เห็นฉันกดลิฟต์ถึงกับหันมาถามด้วยความข้องใจ
“ไปเอาของนิดหน่อย” ตอบไปทั้งอย่างนั้น กระทั่งลิฟต์เปิด สองแฝดยังเดินตามหลังมาไม่ห่าง ฉันเดินไปที่หน้าประตูห้องแล้วกดรหัสเปิดประตู จากนั้นก็เดินไปห้องข้าง ๆ แล้วปลดล็อกประตูอีกห้อง
“หือ?” มีนามองด้วยความข้องใจ
“เลือกค่ะ กุมภากับมีนาจะเอาห้องไหน เมษซื้อให้แล้ว” ฉันบอกน้องชายทั้งสองคนพร้อมกับเสียงหัวเราะเอ็นดู เมื่อสองแฝดกระโดดกอดกันแน่น จากนั้นก็วิ่งเข้ามากอดฉันไว้พร้อมกันทั้งสองคน กอดแล้วพูดขอบคุณกันไม่หยุด ฉันหัวเราะน้องชายที่แสดงท่าทีเด็กน้อยออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังรู้สึกมีความสุขเวลาเห็นน้อง ๆ ยิ้มและหัวเราะแบบนี้
“อะไรเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ ไปดูห้องไป” ทั้งขำทั้งเอ็นดูเด็กแฝดที่ดีใจกับห้องใหม่ของตัวเอง
“แล้วพี่เมษไปไหนครับ” กุมภาเดินเข้ามาในห้องที่กว้างขวางเหมือนกับห้องของฉัน มีนาเองก็วิ่งเข้าไปดูห้องพักตัวเองอีกหนึ่งห้องที่อยู่ติดกัน
“ไปติดต่อทีมอินทิเรียน่ะสิ อีกหน่อยคงกลับแล้วล่ะ” ตอบน้องชายพลางเดินไปเปิดผ้าม่านที่ประตูระเบียงห้องพัก ห้องน้องอยู่โซนเดียวกับห้องของฉันเลย ช่วงเช้าแดดส่องถึงแต่หากเป็นช่วงเวลาหลังเที่ยงดวงอาทิตย์จะย้ายฝั่งทำให้ไม่มีแดดในช่วงบ่ายส่องเข้ามา
“ทำไมต้องติดต่อเพิ่มล่ะครับ” ระหว่างที่ถาม กุมภาก็เดินสำรวจห้องด้วยความตื่นเต้น
“ให้เด็กได้ออกแบบแล้วตกแต่งห้องตัวเองไง คงจะมีแบบที่อยากได้ใช่ไหมล่ะ” ถามน้องชายอย่างรู้ทัน คนถูกจับได้หัวเราะอย่างเขินอายก่อนจะขยับเข้ามากอดฉันไว้อีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับ พี่ใจดีกับพวกผมมากเลย” กุมภาขอบคุณสองแขนโอบกอดฉันไว้อย่างน่ารัก ฉันเองก็สวมกอดน้องชายไว้ด้วยความรู้สึกรักและห่วงใย
“ขอบคุณเหมือนกันครับพี่” มีนาที่ไม่รู้ว่าเดินกลับเข้ามาในห้องของกุมภาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มาถึงก็ขยับเข้ามาสวมกอดฉันไว้อีกคน
“พวกพี่อาจจะไม่เคยบอก แต่ตอนที่พวกพี่เข้ามหาลัย พ่อกับแม่สนับสนุนพวกพี่อย่างดี ตอนนี้ทั้งพี่และพี่เมษต่างมีกำลังมากพอที่จะสนับสนุนน้อง ๆ เราจึงอยากดูแลเราทั้งสองคนให้ดีเหมือนอย่างที่พวกพี่ ๆ เคยได้ครับจากพ่อแม่” นับเป็นครั้งแรกที่ฉันเล่าให้น้องชายทั้งสองคนฟัง
“เราจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังครับ” มีนาให้คำมั่น
“พี่รู้ ว่าน้องชายของพี่เป็นเด็กดี ไม่ต้องกดดันตัวเอง ใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยให้คุ้ม ขอแค่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ”
“ครับพี่”
“ครับ”
สองแฝดรับปากและขยับออกห่างเพื่อดูห้อง สักพักใหญ่เมษาก็กลับเข้ามาพร้อมกับทีมออกแบบ นั่นจึงทำให้สองแฝดวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเมษาไว้อย่างขอบคุณ ไม่ใช่เพียงแค่การเอ่ยกล่าวแต่สองมือของน้องชายยกขึ้นพนมไหว้ขอบคุณพี่ชายคนโตของเรา เกือบแล้ว พี่ชายคนโตของเขาเกือบร้องไห้ออกมาแล้ว
ระหว่างที่ให้หนุ่ม ๆ คุยกับทีมออกแบบโดยมีเมษาคอยอยู่ด้วย ฉันถึงได้ขอตัวกลับขึ้นมาบนห้องของตัวเองเพื่อที่จะได้เตรียมทำมื้อเย็นที่นอกจากจะมีพี่ชายและน้องชายของตัวเองแล้วยังมีคุณหมอที่จะมากินข้าวเย็นด้วยกัน ก็รู้สึกแปลก ๆ ดีนั่นแหละ ไม่เจอกันเกือบหนึ่งสัปดาห์จู่ ๆ วันนี้เขากลับชวนไปกินข้าวด้วย แล้วฉันยังใจกล้าตอบตกลง
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายอ้อนขอมากินข้าวเย็นด้วยฉันก็ดันตอบตกลงไปเสียอย่างนั้น
ไม่รู้ทำไมพออีกฝ่ายเอ่ยขอ ภายในใจลึก ๆ ฉันถึงได้อยากตอบตกลงมากขนาดนั้นเหมือนกัน
ทั้งที่ความรู้สึกก่อนหน้านี้ไม่มีเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับอยากให้มีเขาอยู่ใกล้ ๆ
ทำไมกัน ทำไมความรู้สึกถึงได้สับสนมากแบบนี้