Sunflower 12
คล้อยหลังที่ล็อกประตูเสร็จถึงได้เดินถือจานข้าวตัวเองไปนั่งที่พื้นข้างโต๊ะกระจกหน้าทีวีบริเวณห้องนั่งเล่น เพื่อกินข้าวพร้อมกับนั่งดูทีวีไปพลาง ๆ
“เฮ้อ” ถอนหายใจอย่างเบื่อ ๆ ในจังหวะที่กลับมานั่งที่โซฟาหลังจากล้างจานทำความสะอาดห้องครัวเสร็จแล้วเรียบร้อย
โทรศัพท์ถูกหยิบขึ้นมากดเล่นคุยกับพี่ ๆ น้อง ๆ ในกลุ่มแช็ตของร้าน จากนั้นก็กดเข้าไปในไลน์กลุ่มครอบครัวที่มีพ่อแม่ คุยสลับกับกลุ่มแช็ตของเราสี่คนพี่น้อง ที่ชื่อกลุ่มทำเอาฉันปวดหัวนิดหน่อย
ปกป้องมาลีแมวเหมียว
และคงไม่ต้องบอกว่าชื่อกลุ่มแปลกๆ แบบนี้มาจากใคร หากไม่ใช่มีนา หลายคนคงจะสงสัยใช่ไหมว่าทำไมชื่อพี่น้องของฉันเป็นชื่อเดือนหมดเลยแต่ฉันดันชื่อไม่เข้าพวก
ฉันเองก็เคยถามแม่ และคำตอบที่ได้คือแม่ชอบดอกไม้มาก ๆ ดอกไม้สีสันสวยงามแม่ชอบทุกชนิดแม่เลยขอตั้งชื่อให้ฉันว่ามาลี ส่วนเมษาพ่อเป็นคนตั้งบอกว่าได้เจอแม่ช่วงสงกรานต์เลยอยากให้ลูกคนแรกชื่อเมษา
ส่วนสองแฝดฉันกับเมษาเป็นคนตั้ง และตั้งใจที่จะให้ชื่อคล้องกับเมษาเลยได้ชื่อกุมภากับมีนามายังไงล่ะ เราเป็นแฝดสองคู่ในบ้าน เพราะแม่มีฝาแฝดท่านเลยมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดแต่เราก็ตกใจที่แม่ตั้งครรภ์แฝดติดต่อกันสองครั้ง แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้และทุกคนปลอดภัย
ระหว่างนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่คนเดียว โทรศัพท์ในมือก็เปลี่ยนเป็นสายเรียกเข้ามา เป็นเบอร์ที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้จึงลังเลเล็กน้อยที่จะรับสาย กระทั่งสายตัดไปแล้วโทรกลับเข้ามาใหม่ถึงได้รับสาย
“สวัสดีค่ะ”
(สวัสดีครับ พี่เองนะ)
“คะ? พี่ไหน?”
(ทิว ทิวเขา)
“คือ...” ใครอะ ฉันไม่รู้จัก
(พี่หมอเองครับ) เมื่อยามที่อีกฝ่ายได้ยินฉันทำเสียงอึกอักถึงได้รีบอธิบายเพิ่มเติม และนั่นจึงทำให้ฉันถึงบางอ้อ
“อ๋อ ค่ะคุณหมอ แล้วมีเบอร์ได้ยังไงคะ” ฉันรีบถามด้วยความข้องใจ จำได้ว่าไม่เคยมีเบอร์หรือช่องทางติดต่อของเขาเลยนะ
(ขอจากเมษามาน่ะ ตอนนี้ว่างอยู่หรือเปล่าครับ)
“ว่างค่ะ กินข้าวเพิ่งเสร็จทำไมเหรอคะ?” แปลกจังเลยนะที่จู่ ๆ ก็ได้คุยกับเขาแบบนี้ไม่ชินเอาเสียเลย
(พี่มีเรื่องจะวานให้ช่วยหน่อยครับ)
“เรื่องอะไรเหรอคะ?”
(พี่ลืมของ อยู่ในห้องนอน มีถุงกระดาษวางอยู่ที่โต๊ะทำงาน เอามาให้พี่ได้ไหม)
“อ่า ห้องคุณหมอเหรอคะ?” ก็อยากช่วยอยู่หรอกแต่ไม่กล้าเข้าห้องเขานี่สิ
(ใช่ครับในห้องนอน กดรหัสเข้าไปได้เลย)
“อ่า แป๊บหนึ่งนะคะ” เอ่ยบอกปลายสายเสร็จก็เดินออกจากห้องพักของตัวเองไปหยุดยืนที่ห้องของคุณหมอ
ยามได้ยินรหัสที่ปลายสายบอกก็กดตามกระทั่งได้ยินเสียงแกร๊กเบา ๆ ถึงได้เปิดประตูห้องเข้าไป เปิดไฟเสร็จถึงได้เห็นว่าภายในห้องของเขาไม่ต่างจากห้องฉันมากนักทั้งยังเป็นโทนสีขาว ของตกแต่งก็ไม่เยอะ
“ถุงใบสีดำเหรอคะ?”
(ครับ มีใบเดียวเห็นไหม?)
“เห็นแล้วค่ะ อยู่บนโต๊ะ”
(เอามาให้พี่หน่อยได้ไหมครับ จำได้ใช่ไหม?)
“จะได้ค่ะ ถ้าถึงแล้วจะโทรบอกนะคะ”
(ได้ครับ ขับรถระวังด้วยนะ) ปลายสายไม่ลืมที่จะย้ำเตือน
เปลี่ยนกางเกงเสร็จก็เดินออกจากห้องพักพร้อมกับของที่คุณหมอให้เอาไปให้ ขับรถออกมาได้สักพักฝนก็ตกลงมาอีกครั้งหลังจากที่หยุดตกไปสักพักใหญ่ แล้วกว่าที่ฉันจะไปถึงโรงพยาบาลฝนก็เทลงมาอย่างหนักเสียแล้ว ฉันไม่มีร่มเลยอาศัยความเร็วลงจากรถแล้วเดินตามหลังคาทางเดินไปยังตัวอาคารระหว่างนี้ก็โทรหาคนที่บอกให้เอาของมาให้ แต่รอสายสักพักเขาก็ยังไม่รับ
“เอ่อ ขอโทษนะคะ” ตัดสินใจเดินเข้าไปสอบถามคุณพยาบาลที่อยู่ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ที่เมื่อทักไปแบบนั้นพี่เขาก็ส่งยิ้มกลับมาให้ฉันอย่างใจดี
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ” คุณพยาบาลถามกลับ
“มาพบคุณหมอทิวเขาค่ะ”
“อ๋อ คุณหมอทิวเขามีเคสฉุกเฉินตอนนี้น่าจะอยู่ในห้องผ่าตัดนะคะ” อ่า แล้วของนี่ยังไงกันนะ ฝากไว้ได้หรือเปล่า ของสำคัญหรือเปล่านะ
“ฝากของไว้ให้คุณหมอได้ไหมคะ” เพราะตอนนี้ก็ดึกแล้วฉันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะว่างตอนไหน
“ได้ค่ะ”
“เอ่อ ขอยืมกระดาษแล้วก็ปากกาได้ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามคุณพยาบาลอย่างไม่สบายใจ แต่นับว่าเป็นเรื่องดีที่คุณพยาบาลใจดีให้ยืมกระดาษและปากกา นั่นจึงทำให้ฉันเขียนโน้ตบอกคุณหมอสั้น ๆ
คุณหมอคะ เราเอาของมาให้แล้ว
แต่คุณหมอไม่ว่าง
ขอฝากไว้กับพี่พยาบาลนะคะ
มาลี