Sunflower 13
คุณหมอคะ เราเอาของมาให้แล้ว
แต่คุณหมอไม่ว่าง
ขอฝากไว้กับพี่พยาบาลนะคะ
มาลี
แนบกระดาษเข้ากับถุงที่อีกฝ่ายให้เอามาให้ จากนั้นก็ส่งให้พี่พยาบาลแล้วกลับคอนโดทันที ฝนยังตกหนักฉันติดอยู่บนถนนสักพักใหญ่กว่าจะกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาห้าทุ่มครึ่ง
เมื่อกลับมาถึงบ้านฉันก็รีบอาบน้ำสระผมแล้วนอนพักทันที ไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเลยสักนิดว่ามีข้อความหรือสายเรียกเข้ามาไหม พรุ่งนี้ฉันยังต้องไปทำงานนี่นา ตอนนี้ต้องรีบนอนพักแล้วค่ะ
และตลอดทั้งสัปดาห์ฉันไม่ได้เจอกับคุณหมออีกเลยมีเพียงข้อความที่อีกฝ่ายเพิ่มเพื่อนเข้ามาในแช็ตแล้วบอกว่าแขวนมื้อเช้าไว้ที่หน้าประตูห้องให้ฉันแล้ว ตลอดห้าวันฉันได้น้ำเต้าหู้และข้าวต้มสลับกับโจ๊กทุกเช้า แต่ไม่เคยเจอหน้าคนซื้อมาให้เลย
กระทั่งหลายวันผ่านไป จนถึงวันที่ต้องพาน้องชายทั้งสองคนไปเลือกรถและเป็นวันที่เมษาไม่ได้มาด้วย ทำให้สองหนุ่มนั่งรถเข้ามาหาฉันที่คอนโดจากนั้นเราก็ไปโชว์รูมรถด้วยกัน ระหว่างรอให้สองหนุ่มทดลองขับและออกไปเลือกสีเลือกล้อตกแต่งฉันก็นั่งคุยโทรศัพท์กับเมษาที่วันนี้มีนัดเซ็นสัญญาซื้อคอนโดให้น้องทั้งสองคนเหมือนกัน
“แล้วยังไง ได้เลยไหม”
(ได้เลย โอนเงินแล้ว) เมษาบอกฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ซึ่งเอาจริง ๆ ฉันก็ตื่นเต้นที่ได้พาน้องมาซื้อรถแบบนี้เหมือนกัน
“หมายถึงโอนห้องแล้วเหรอ?” ทวนถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
(ใช่ แต่เป็นชื่อเค้าก่อนรอน้องเรียนจบถึงจะโอนให้)
“เค้าก็ตั้งใจเอาไว้ว่าหากน้องเรียนจบถึงจะโอนเป็นชื่อน้อง แล้วจะให้น้องเข้าไปดูห้องเลยไหม”
(ถ้าเลือกรถเสร็จก็พามาที่ห้องได้เลย เดี๋ยวส่งเลขห้องแล้วก็รหัสห้องให้นะ)
“โอเค แล้วตัวจะไปไหนต่อ” ฉันและเมษาเพราะเราเป็นฝาแฝดกันเลยติดพูดกันแบบนี้ เรียกตัวกับเค้า น้อยครั้งมากที่จะมีคำหยาบ คนภายนอกมีบ้างนะที่คิดอะไรแปลก ๆ ระหว่างฉันและเมษา แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจปล่อยผ่านไปตราบใดที่ยังไม่ได้กระทบอะไรกับเรามาก
(เข้าไปคุยกับทีมตกแต่งให้เข้ามาช่วยดูห้อง สองแฝดคงจะอยากตกแต่งตามแบบที่ตัวเองชอบนั่นแหละ) พี่ชายคนโตยังคงมองทุกอย่างเฉียบคม
“ได้ เดี๋ยวจัดการทางนี้เสร็จจะพาไปดูเลย”
(โอเค ขับรถระวังด้วย)
“เหมือนกัน”
“คุณมาลีอยากเพิ่มเติมตรงไหนไหมคะ” พนักงานขายส่งเอกสารมาให้สองฉบับให้ฉันได้พิจารณาเรื่องรถ
“ไม่มีเลยค่ะ โอเคแล้วว่าแต่พากันกลับมาหรือยังคะเนี่ย” ถามไปก็มองซ้ายขวาไปด้วย แต่พอเห็นว่าน้องชายทั้งสองคนกำลังเดินกลับเข้ามาใกล้ฉันก็เบาใจ ดีนะที่เมษาพาไปทำใบขับขี่มาก่อนหน้านี้แล้วน่ะ
“ยังไงชอบไหม?” ถามน้องทั้งสองคนที่เดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ มือก็หยิบขวดน้ำเปล่าบนโต๊ะส่งให้ทั้งสองคน
“ชอบครับ” มีนาตอบด้วยรอยยิ้มดีใจ กุมภาเองก็ยิ้มมีความสุขเช่นเดียวกัน
“แจ้งพี่ ๆ หรือยังว่าจะให้ใช้แม็กซ์แบบไหน” ฉันมองน้องชายด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เวลาที่เห็นน้องมีความสุขก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“เรียบร้อยครับ บอกพี่ ๆ แล้วครับผมเอาสีขาวแม็กซ์สีดำ” มีนาแจ้งให้ฉันได้ทราบ
“ผมเอาสีดำครับแม็กซ์ก็สีดำ เราใช้ขนาดล้อเท่าเดิมครับเปลี่ยนแค่สีเฉย ๆ” กุมภาอธิบายเพิ่ม ฉันพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นก็เซ็นเอกสารทุกอย่างจนครบเรียบร้อย
“ขอบคุณที่ใช้บริการกับทางโชว์รูมเรานะคะ”
“ขอบคุณเช่นกันค่ะ รถจะได้สิ้นเดือนใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ แต่หากเสร็จก่อนพี่จะโทรแจ้งนะคะ”
“ได้ค่ะพี่ รบกวนด้วยนะคะ”
“ยินดีมาก ๆ เลยค่ะ” รอยยิ้มของพนักงานขายทำให้ฉันส่งยิ้มกลับไปเช่นเดียวกัน
ฉันพาสองแฝดเดินออกจากโชว์รูมรถก็คุยกันว่าจะแวะกินข้าวเที่ยงกันก่อน แต่ก็ยังเลือกร้านกันไม่ได้สักทีจนขึ้นมานั่งบนรถแล้วขับออกมาบนถนน
ในจังหวะที่สองแฝดกำลังถกเถียงกันอยู่นั้นโทรศัพท์ฉันก็มีสายเรียกเข้ามาเสียก่อน และน่าแปลกใจที่คนโทรมากลายเป็นคุณหมอ ที่หายหน้าไปนาน
“ค่ะ” รับสายและหยุดจอดรถติดไฟแดง
(กินข้าวหรือยังครับ?)
“ยังค่ะ เพิ่งพาน้องไปทำธุระเสร็จคุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”
(พี่พักก่อนเวลาสามสิบนาทีจะชวนมากินข้าว มาไหม ร้านใกล้ ๆ โรงพยาบาล)
“ได้ค่ะ เดี๋ยวเข้าไปรับ”
(ถึงแล้วโทรบอกพี่นะ) และสิ่งที่เปลี่ยนไปแต่ฉันเพิ่งจะสังเกตคือเขามักจะแทนตัวเองว่าพี่ ไม่ใช่ผมเหมือนอย่างช่วงแรก ๆ ที่เราได้รู้จักกัน
“คุณหมอจะไปกินข้าวด้วยนะ”
“ได้ครับ” มีนาขานรับอย่างว่าง่ายและนั่นจึงทำให้น้องชายทั้งสองคนเลิกเถียงร้านที่จะไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ตกลงกันยากเหลือเกิน
เราใช้เวลาเดินทางสักพักก็มาถึงหน้าอาคารโรงพยาบาล ฉันให้มีนาใช้โทรศัพท์ตัวเองโทรบอกคุณหมอส่วนตัวเองก็เลื่อนรถออกไปจอดริมฟุตบาทที่ไม่ขวางการจราจร แต่พอขับไปหยุดรอตรงมุมหนึ่งก็เห็นว่าคุณหมอยืนรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว