EP.2

1341 Words
2 “วันนี้พ่อเป็นยังไงบ้างคะ” ปลายฟ้าเอ่ยถามคนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเธอยิ้มบางๆ ให้ผู้ชายคนนั้นก่อนที่จะได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา “ดีขึ้นแล้วล่ะลูกอีกไม่กี่วันหมอคงให้กลับ” ชายวัยห้าสิบกว่าพูดขึ้นยกมือหนาขึ้นลูบผมลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาอย่างเอ็นดู “ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินนะคะฟ้ากำลังหางานทำแล้ว เดี๋ยวคงมีเงินมาใช้หนี้ของพวกเรา” เธอซบหน้าลงกับผ้าห่มที่คลุมตัวผู้เป็นพ่อ และคิดอย่างมีความหวังว่างานที่เธอเที่ยวตระเวนไปสมัครมาต้องเรียกเธอไปทำงานซักที่ ถึงแม้เกรดจะต่ำต้อยด้อยค่าก็ยังอยากหวัง เหตุผลที่ทำให้เธอเกรดตกต่ำแบบนั้นเพราะเธอค่อนข้างที่จะไม่มีเวลาทุ่มเทกับการเรียนเลย ต้องช่วยที่บ้านอยู่เรื่อยมาจนบางครั้งต้องขาดเรียน ต้องทำงาน แม่ของเธอป่วยเป็นโรคร้ายและเสียชีวิตลงเมื่อปีก่อน ค่าใช้จ่ายตอนที่แม่ป่วยนั้นมากมายจนต้องใช้หนี้มาจนถึงทุกวันนี้ แถมพ่อยังต้องมาล้มป่วยเพราะหมดสติจากอาการความดันเลือดสูงอีกเมื่อสามวันก่อน ตอนนี้ยังต้องนอนโรงพยาบาลเพราะอาการยังไม่ปกติ ครืด~ ครืด~ ครืด~ เธอล้วงมือถือในกระเป๋าสะพายแล้วขมวดคิ้วดูเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยก่อนจะตัดสินใจรับสายอย่างสุภาพ เพราะบางที่อาจจะเป็นคนที่เธอไปสมัครงานไว้ติดต่อมาก็ได้ “สวัสดีค่ะ” (ฮัลโหล นั่นปลายฟ้าใช่มั้ย) เสียงเข้มของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ฟังดูไม่ได้เป็นทางการเหมือนบริษัทที่จะโทรมาเรื่องสมัครงานนัก “ค่ะ นี่ใครคะ” เธอถามอย่างสงสัยแล้วเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยรวม (ฉันเป็นเพื่อนของพายุ คนที่เธอไปเจอเมื่อคืน) แบบนั้นยิ่งทำให้เธอสงสัยกว่าเดิม ไม่คิดว่างานที่ดูจะไม่จริงจังนั่นกำลังจะเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมาเพราะฟังจากน้ำเสียงของคนที่โทรเข้ามาดูจะร้อนรนไม่น้อย เพราะเธอได้ยินมาว่ามีเพื่อนของพายุ ซึ่งเป็นหลานภรรยาของญาติห่างนั้นป่วยด้วยอาการซึมเศร้า และเธอเคยอยู่กับป้าของพายุเพื่อทำให้เธอสภาพจิตใจดีขึ้นหลังจากสูญเสียลูกชายไป กับอีกอย่างคือเธอชอบที่จะไปช่วยงานบ้านพักคนชรา อยู่เป็นเพื่อนคนแก่บ่อยๆ เลยรู้ว่าควรจะทำยังไงให้คนเหล่านั้นมีความสุข ที่จริงเธอไม่ได้เก่งเรื่องโน้มน้าวจิตใจคนนักหรอก เพียงแต่อาศัยความอารมณ์ดีพูดคุยและให้กำลังใจคนเหล่านั้นมากกว่า ที่จริงไม่ได้อยากทำงานพวกนี้เลย เพราะไม่กล้าการันตีว่าจะทำให้ใครกลับมาเป็นปกติได้มั้ย เธอไม่มีวิชาความรู้ที่เก่งกาจ ทำได้แค่อยู่เป็นเพื่อนและทำให้รู้สึกดีขึ้นก็เท่านั้น เลยเหมือนว่ามันจะเห็นแก่ตัวถ้าเรียกร้องเงินทองจากสิ่งเล็กน้อยเหล่านั้น แต่ตอนนี้ชีวิตของเธอกำลังลำบาก ถ้าอะไรที่พอจะเป็นหนทางหาเงินมาใช้หนี้และดูแลพ่อได้เธอก็ต้องทำ “จำได้ค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” เธอตอบกลับไปหลังจากที่เงียบอยู่นาน (อืม เธอพอจะว่างมั้ย แม่ของเพื่อนฉันจะคุยเรื่องจ้างเธอทำงาน) คนปลายสายพูดเสียงเรียบ ถ้าให้เดาคงเป็นคนชื่อวอล์ฟที่มีสายตาดีๆ นั่นแน่ๆ ปลายฟ้าคิดในใจแล้วรีบตอบ “ค่ะ นัดวันเวลามาได้เลยฉันว่าง” (วันนี้บ่ายโมง ที่ร้านกาแฟX ใกล้กับร้านเมื่อคืน) ปลายฟ้าฟังแล้วก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือเล็กๆ ของตัวเอง ตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวสินะ “ค่ะฉันจะรีบออกไป แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเป็นคนไหน” เธอถามคนปลายสายอย่างสงสัยเพราะไม่เคยเจอผู้หญิงคนนั้นมาก่อน (ฉันจะไปด้วย แล้วเจอกัน) แล้วเขาคนนั้นก็วางสายไป เธอจึงรีบเดินเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยอีกครั้งที่มีเตียงคนไข้เรียงรายกั้นเป็นห้องๆ ด้วยกระจกใส แต่ละห้องมีเตียงอยู่สิบเตียง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเตียงว่างเพราะละแวกนี้คนที่มีฐานะจะไม่ค่อยใช่บริการกับโรงพยาบาลรัฐเท่าไหร่ “เดี๋ยวฟ้าจะออกไปข้างนอกนะคะ พอดีคนที่ฟ้าไปสมัครงานไว้เขานัดสัมภาษณ์” เธอบอกพ่อไปอย่างนั้นเพราะยังไม่อยากอธิบายอะไรมากตอนนี้ อีกอย่างไม่อยากให้พ่อต้องกังวลเกี่ยวกับงานที่เธอทำด้วย “อืม ไม่ต้องห่วงพ่อหรอก มีหมอพยาบาลอยู่ใกล้ๆ” เธอจับมือพ่อแล้วยิ้มก่อนจะเดินหันหลังออกมาแล้วเพื่อเรียกแท็กซี่ไปยังที่นัดหมาย ซึ่งเหรอเวลาอีกครึ่งชั่วโมง การมาก่อนเวลาคงจะเป็นเรื่องที่ดี ยี่สิบนาทีต่อมา เธอเข้ามานั่งรอในร้านกาแฟสั่งเครื่องดื่มราคาไม่แพงมาวางบนโต๊ะเพื่อเป็นมารยาท ก่อนจะมองเห็นผู้ชายที่เจอเมื่อเดินมากับผู้หญิงอายุราวๆ ห้าสิบแต่ผิวพรรณดูดีจนลดอายุเธอลงได้เป็นสิบปี ใบหน้าของเธอสะสวยถึงแม้จะแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่เศร้าหมองแต่ก็ยังดูออกว่าเป็นคนจิตใจดีไม่น้อย “สวัสดีค่ะ” เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้หญิงที่เดินมาถึงโต๊ะและได้รับรอยยิ้มที่เป็นมิตรกลับมา พร้อมกลับคำกล่าวสวัสดี “เรียกฉันว่าแม่แล้วกันนะเพราะหนูเอ่อ…” ผู้หญิงตรงหน้าพูดค้างไว้จนปลายฟ้าต้องรีบแนะนำตัว “ปลายฟ้าค่ะ” “จ๊ะ เพราะหนูปลายฟ้าน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับไฟท์ เอ่อ หมายถึงลูกแม่ที่ต้องการให้หนูช่วย” พอได้เห็นแววตาเป็นห่วงที่พอได้พูดถึงชื่อเขาคนนั้นเธอก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเพราะกลัวจะทำให้ใครต้องผิดหวัง “คือหนูไม่ได้เก่งจนถึงขั้นเรียกว่ารักษาใครให้หายนะคะ แต่…” “แม่อยากให้หนูลองดูหน่อยได้มั้ย เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรช่วยเขาได้เลย เขาไม่ยอมออกไปไหนไม่ค่อยคุยกับใคร แล้วบางครั้งยังดื่มเหล้าสูบบุหรี่จนแม่คิดเป็นห่วงอะไรหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเขา” ปลายฟ้ามองคนตรงหน้าอย่างหนักใจ ยิ่งเห็นขอบตาแดงก่ำนั้นยิ่งทำให้เธอกังวล ถึงแม้ว่าจะต้องการเงินแค่ไหนแต่เธอกลับเห็นใจมากกว่า เธอหันไปหาผู้ชายที่นั่งข้างๆ เขาพยักพเยิดหน้าให้เธอเหมือนจะอยากให้รับคำขอนั้นไว้ “หนูจะลองช่วยดูนะคะ” “แม่มีค่าจ้างให้หนูไม่ต้องกังวล ขอแค่ทำให้ไฟท์มันกลับมาปกติก็พอ หนึ่งแสนพอมั้ยและถ้าหนูทำสำเร็จแม่จะเพิ่มให้อีกเท่าตัว” เธอคนนั้นเอื้อมมือมาจับมือบางของเธอแน่น จนทำให้ปลายรู้สึกสลดใจใบหน้าของผู้หญิงที่เธอชมในใจว่าสวย ตอนนี้เปื้อนรอยน้ำตา เธอรู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้าคงจะเป็นห่วงลูกตัวเองมากแค่ไหน “อย่าเลยค่ะ จ้างหนูเหมือนกับพนักงานทั่วไปก็พอ” “รับไปเถอะ มันไม่ใช่งานง่ายๆ” ผู้ชายที่นั่งข้างเงียบอยู่นานพูดแทรกอย่างออกคำสั่งเพราะไม่อยากให้ใครเรื่องมาก “…” “หนูไม่ต้องกังวลนะ แค่คิดหาวิธีทำให้ไฟท์กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็พอ” เธอบีบมือของปลายฟ้าไว้แน่นแล้วอ้อนวอน “แล้วตอนนี้…กับคำว่าเหมือนเดิมต่างกันยังไงคะ” Secret L:. สงสัยเรื่องนี้ต้องต้มน้ำรอไว้เป็นถังๆ ฮ่าๆ จะขยันมาอัพน้า ขอแค่มาเม้นกันเยอะๆ ทุกตอนก็พอแล้ว อิอิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD