8
“นายขับไปตามทางที่ฉันบอกนะ”
“ฉันต้องฟังคำสั่งเธอด้วยเหรอ” คนพูดถามอย่างกวนๆ หลังจากที่เพิ่งรู้สึกผิดไปบ้างเพราะทำคนร้องไห้ แต่ตอนนี้ก็กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
“หรือนายมีที่ที่อยากไปล่ะ วันนี้ฉันให้นายเลือกก่อนก็ได้นะ” ปลายฟ้าพูดขึ้นอย่างใจเย็นถึงแม้ว่าอยากจะโกรธคนที่ทำร้ายร่างกายเธอขนาดไหนก็ต้องลืมมันไป เพราะมันคืองาน อีกอย่างเธอมักจะเจอคนที่มีปัญหาแบบนี้บ่อยๆ ตอนที่ไปช่วยงานอาสา เพียงแค่ปัญหาของแต่ละคนมันต่างกันเท่านั้น
วันหนึ่งเขาก็คงจะดีขึ้น เธอเชื่อว่าอย่างนั้น
“ฉันไม่อยากไปไหนทั้งนั้น”
“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ขับไปตามทางที่ฉันบอก” เธอพูดแล้วเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัยออกมา
ปรื้นนน
“กริ๊ดด”
ปึก!
“โอ๊ย!”
ปลายฟ้าร้องอุทานออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ๆ เขาก็เหยียบคันเร่งออกไปโดยที่เธอไม่ระวัง และด้วยความแรงของการเหยียบกระชากแบบนั้นด้วยทำให้หัวทิ่มลงกับคอนโทรลหน้ารถพอดี
“บอกทางมา” เขาถามเสียงเรียบ รอยยิ้มมุมปากที่ได้กลั่นแกล้งอีกคนยังมีให้เห็น
“…” ปลายฟ้าไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะตอนนี้เธอกำลังเจ็บและแสบตรงหน้าผากของตัวเอง มือเล็กกุมบริเวณหน้าผากด้านซ้านที่โดนกระแทกก่อนจะสัมผัสได้ถึงของเหลวบางอย่างที่ไหลซึมออกมา
“เงียบ! …” เขาหันมาตวัดเสียงใส่แต่ก็ต้องชะงักไว้เมื่อเห็นอีกคนมือเต็มไปด้วยเลือด ก่อนที่ความรู้สึกผิดจะแล่นเข้ามาในหัวอีกครั้ง นี่คงเป็นครั้งที่สามแล้วสินะที่เขาต้องมานั่งรู้สึกผิด แต่ครั้งนี้แววตาและสีหน้าของปลายฟ้าไม่ได้ปกติเหมือนทุกครั้ง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ร้องไห้แต่ก็ดูออกว่ากำลังรู้สึกไม่ดี
“ช่วยพาฉันไปทำแผลก่อนได้มั้ย” เธอเอ่ยขึ้นโดยที่ไม่ยอมมองหน้าเขา มือเลื่อนไปกุมศีรษะตัวเองไว้เพราะกลัวเลือดจะไหลออกมาอีกทั้งที่ตอนนี้มันไหลอาบฝ่ามือเรียวบางของเธอเต็มไปหมด
“อืม” เขาตอบเสียงเบาก่อนจะขับรถไปยังคอนโดของใครคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
ห้านาทีต่อมา
“ลงมาเปิดประตูให้กูหน่อยอย่าเพิ่งถาม” ไฟท์กดโทรหาเจ้าของห้องที่อยู่ในตึกของคอนโดที่เขาพาเธอมา ก่อนจะพูดเสียงเรียบเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ฉันควรจะโกรธนายใช่มั้ย” ปลายฟ้าพูดขึ้นพลางมองมือของเธอที่มีเลือดแห้งกรังติดมือ น้ำใสๆ เอ่อนองเกาะขอบตาอีกครั้งเพราะความรู้สึกบางอย่าง จะว่าโกรธก็ไม่ใช่แต่จะไม่คิดอะไรก็คงไม่ใช่เหมือนกัน
“ใช่ โกรธฉันสิ แล้วเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉัน” ไฟท์พูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แต่ในใจกลับรู้สึกอยากจะด่าตัวเองที่ทำตัวแบบนั้น นับวันคนที่ทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงจะเริ่มกลายเป็นปีศาจไปแล้ว
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันคงจะเลือกไม่คิดอะไรกับคนอย่างนายดีกว่า” ปลายฟ้าพูดแล้วเม้มปากเก็บอาการเจ็บไว้
“อยากเห็นฉันมีความสุขไม่ใช่เหรอ สิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันมีความสุขได้ในตอนนี้คือการที่ไม่ต้องเห็นหน้าเธอ” คนพูดใช้หางตามองแล้วจึงเบือนสายตาไม่ทางอื่น
“ว่าไง อ้าว เห้ยฟ้า!” เสียงของคนที่ลงมาเปิดประตูด้านล่างคอนโดอุทานขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นเลือดที่ไหลอาบแก้มของผู้หญิงที่เขารู้จัก
“พะ พายุ” ปลายฟ้าน้ำตาเอ่อเมื่อเห็นหน้าผู้ชายที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วก้มหน้าร้องไห้กับเขา
“ไปโดนอะไรมา” เขาใช้มือลูบที่แผลของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะถามแล้วหันไปมองคนด้านหลังที่มองการกระทำของทั้งคู่
“อุบัติเหตุนิดหน่อย นายช่วยพาฉันไปทำแผลบนห้องได้มั้ย” ปลายฟ้าพูดขึ้นแล้วส่งสายตาอ้อนวอน
“อืม ไม่ใช่ว่ามันทำร้ายเธอใช่มั้ย” พายุมองเพื่อนตัวเองแต่ก็ไม่อยากจะเชื่อแบบนั้นเพราะที่ผ่านมาไฟท์ไม่เคยจะทำร้ายผู้หญิง
“ปะ…”
“กูเป็นคนทำให้ยัยนั่นเจ็บตัวเองแหละ” คนที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นแล้วจ้องหน้าเพื่อนของเขานิ่ง พลางรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีเป็นห่วงเป็นใยนั่น
“ทำไปเพื่ออะไรวะไฟท์ หรือมึงไม่อยากให้ยัยนี่ยุ่ง คนอื่นเขาหวังดีกับมึงหมดนะเว้ยแต่มึงกำลังทำร้ายคนที่เขาหวังดีด้วยงั้นเหรอ” คนที่เคยแต่จะทำหน้ามึนๆ นิ่งๆ ด่ากราดเสียงกร้าวกับการกระทำที่เขาไม่อยากยอมรับได้ของเพื่อนที่คบกันมาหลายปี แถมคนที่มันทำร้ายยังเป็นญาติห่างๆ ของเขาอีก
“ถ้าเป็นห่วงมาก มึงก็ให้ยัยนี่ไปยุ่งกับมึงแทนสิ ดูถ้าคงอยากจะยุ่งมากด้วยนะ” เขายิ้มมุมปากแล้วมองผู้หญิงตรงหน้าที่น้ำตาไหลพราก
“พูดอะไรของนาย ฉันกับพายุ…”
“ไม่ต้องอธิบายเรื่องที่ฉันไม่อยากฟัง” ไฟท์พูดเสียงห้วนชนแล้วจ้องหน้าคนที่เขาเป็นทำให้เจ็บด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เห้อ พอๆ ไปขึ้นไปห้องฉันก่อน” พายุเดินโอบไหล่ปลายฟ้าขึ้นไปบนห้องโดยมีคนหน้านิ่งเดินตามมาติดๆ
คนที่เดินตามมามองภาพของสองคนนั้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิด และเขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นว่ามันคืออะไร คงเป็นเพราะเกลียดยัยนี่มากจนทำอะไรก็ขัดหูขัดตาล่ะมั้ง เขาคิดแบบนั้นแล้วหันไปมองทางอื่นเพราะไม่อยากคิดเป็นอย่างอื่นได้อีก
“แล้วจะไปไหนกัน” พายุถามคนตรงหน้าที่เขากำลังทำแผลให้ ปลายฟ้าจึงหันไปมองผู้ชายอีกคนที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเหมือนไม่สนใจใคร
“นายบอกฉันว่าหมอนั่นชอบว่ายน้ำ ฉันเลยจะพาเขาไป” เธอพูดเสียงเบา เพราะตอนนี้สิ่งที่เธอวางแผนไว้ต้องมาพังและเสียเวลา
คนที่ฟังอยู่เริ่มหน้าชาทันทีที่ได้ฟังแบบนั้น ความรู้สึกประหลาดบางอย่างแล่นเข้าสู่จิตใจ เหมือนเขากำลังจะรู้สึกผิดกับผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาเพราะคำพูดที่ดูหวังดีนั่น
“…” คนที่แอบฟังเงียบๆ ได้แต่นั่งนิ่งไม่อยากหันมามองสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมประสาทการฟังถึงได้ทำงานดีผิดปกติเหมือนเขาอยากจะรู้เรื่องของสองคนนั้นเต็มทน
พรึ่บ!
“จะไปไหน”
ไฟท์ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องทันทีเพราะไม่ชอบที่ตัวเองกำลังรู้สึกปั่นป่วนลังเลกับบางอย่าง ทั้งที่เคยหนักแน่นกับสิ่งที่เขาจมปรักกับมันมานาน แต่วันนี้กลับมีเรื่องวุ่นวายให้ต้องคิดแทน
เขาลงมาถึงล่างคอนโดก่อนจะหย่อนตัวนั่งกับโซฟาในห้องรับรอง ที่มีหนังสือให้อ่านมากมาย พยายามจะไม่คิดอะไรในหัวและตั้งสติอยู่นานพอสมควร แต่ภาพจินตนาการบางอย่างกลับแทรกเข้ามาจนต้องลุกขึ้นจากที่นั่งอีกครั้งแล้วเดินกลับเข้าลิฟต์แล้วหยุดอยู่หน้าห้องเพื่อนของตัวเองอีกครั้ง
นี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ไปไหนมา ฉันนึกว่านายจะทิ้งฉันไว้ตรงนี้ซะอีก” ปลายฟ้าที่กำลังสะพายกระเป๋าใบเล็กของตัวเองเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าไอ้ผู้ชายภูเขาน้ำแข็งนั่นกลับมาที่ห้องของพายุอีกครั้งหลังจากที่เธอทำแผลเสร็จและจะลงไปตามหาเขา
“หึ ทำไมล่ะ เธอเสียดายที่ฉันกลับมาสินะพลาดโอกาสดีๆ หรือไง” รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา จนคนที่ฟังอยู่ต้องขมวดคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
“พูดอะไรของนาย”
“อะไรกัน แล้วมึงไปไหนมา” พายุที่เข้าไปในห้องน้ำเดินออกมาถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองกำลังทำท่าหาเรื่องปลายฟ้า
“ไปหาของที่ทำหล่น” เขาตัดสินใจพูดปดเพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่นั้น
“แล้วจะไปกันแล้วเหรอ พักอยู่ที่ห้องฉันก่อนก็ได้นะฟ้า” พายุหันไปบอกผู้หญิงที่เขาค่อนข้างสนิทตั้งแต่เด็ก เพราะป้าของเขากับลุงของเธอแต่งงานกัน เธอจึงเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งที่เขาคอยจะห่วงตลอด แต่ไม่ค่อยจะมีใครรู้ว่าสองคนนี้เป็นญาติห่างกันเท่าไหร่ เพราะพอโตขึ้นพวกเขาก็ไม่ได้มาเจอกันบ่อยมาเล่นกันเหมือนตอนเด็กๆ
“ไม่เป็นไรพายุฉันอยากทำงานวันนี้ให้สำเร็จ” ปลายฟ้าพูดแล้วยิ้มให้เขาจนตาหยี คนที่มองดูอยู่ถึงกับหันหน้าหนีอย่างรำคาญ
“งานที่เกี่ยวกับฉันเหรอ ไม่จำเป็นหรอกถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องฝืน” เขาพูดแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับกระแทกประตูปิดเสียงดัง จนคนอื่นต้องมองอย่างตกใจ
ปัง!
“เป็นบ้าอะไรของมัน เป็นหนักขนาดนั้เลยเหรอว่ะ” พายุมองการกระทำนั้นอย่างงงๆ เพราะตั้งแต่คบเป็นเพื่อนกันมามันไม่เคยจะอารมณ์รุนแรงแบบนี้ คงเป็นเพราะการสูญเสียครั้งนั้นที่ทำให้เพื่อนของเขาเป็นแบบนี้สินะ
อีกอย่างตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นตั้งแต่เพื่อนของเขาเสียคนรักไปก็เอาแต่เก็บตัวเงียบไม่ไปเจอใครเลย
“งั้นฟ้าไปก่อนนะไว้เจอกัน”
“อื้ม ขอให้คุณอาหายเร็วๆ นะ” พายุยิ้มให้เธอแล้วขยี้หัวเบาๆ เหมือนที่ชอบทำ
“ขอบคุณนะ”
ปลายฟ้ารับเดินออกมาจากห้องนั้นเพื่อตามผู้ชายที่ทำหน้าบูดบึ้งเพราะกลัวเขาจะกลับแล้วทิ้งเธอไว้ที่นี่ แต่โชคดีที่ยังเห็นเขานั่งอยู่ตรงโซฟาด้านล่าง เธอจึงถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปหาเขา
“นายเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเพราะเขาดูอารมณ์แปรปรวนเหมือนสภาพจิตใจผิดปกติ เธอคิดว่าบางทีอาจจะทำให้เขาอาการแย่ขึ้นมา
“เปล่า”
“…งั้นก็กลับกันเถอะ”
“…” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำออกไป
สิบนาทีต่อมา
“จะไปไหน ไม่กลับบ้านเหรอ” ปลายฟ้าถามเมื่อเห็นว่าคนที่ขับรถอยู่กำลังพาเธอไปอีกทางไม่ใช่ทางกลับบ้าน
“วันนี้เธอจะพาฉันไปไหนล่ะ” เขาถามแล้วมองค้อน
“ไปว่ายน้ำน่ะ แต่ฉันมาทำให้เสียเวลา ขอโทษด้วยนะ” เธอพูดแล้วใช้มือลูบที่แผลของตัวเองที่มีผ้าปิดไว้
“ขอโทษฉันทำไม”
“ก็…”
“เลิกพูดเถอะ รำคาญเสียงเธอเต็มทน อยากพาไปฉันก็จะไป” คนพูดไม่ได้มองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องมาตามใจยัยนี่ด้วย
หรือเพราะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้หวังดีกับตัวเอง หรือเพราะเขารู้สึกผิดที่ทำให้อีกคนเจ็บตัว
“อื้ม งั้นก็ขอบใจนะที่นายทำให้งานของฉันสำเร็จ” ปลายฟ้าหันไปมองเขายิ้มๆ อย่างดีใจ เขาเริ่มจะโอนอ่อนผ่อนตามคนอื่นบ้างแล้วสินะ เป็นสัญญาณที่ดีว่าคนคนนี้กำลังเริ่มเปิดใจยอมรับเรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิตแล้วสินะ
“ไม่ต้องมาขอบใจฉัน ฉันไม่ได้ทำไปเพื่อเธอ”
“อื้ม งั้นก็ขอบคุณที่นายทำเพื่อตัวเอง”
“เป็นห่วงฉันมากขนาดนั้นหรือไง” เขาถามขึ้นอย่างกวนๆ และไม่อยากเขื่อหรอกว่าคนที่เจอกันแค่สองวันจะหวังดีขนาดนั้น
“เพราะมันเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องห่วงนายไง”
“เหอะ เพราะเงินสินะถึงยอมเจ็บตัวขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเงินคงวิ่งแจ้นหนีไปแต่แรกแล้วมั้ง” อยู่ความรู้สึกหงุดหงิดแบบที่ไม่ควรจะเป็นกับเขาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
“ถ้านายจะคิดแบบนั้นก็ได้ เพราะฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยอมให้นายทำร้าย ฉันก็จะคิดว่ามันเป็นเพราะเงินของแม่นายที่จ้างฉันมา” ปลายฟ้าพูดขึ้นแล้วหันหน้าหนีไปมองทางอื่น
เป็นเพราะเงินจริงๆ เหรอที่ทำให้เธอเก็บความโกรธ และอดทนได้มากขนาดนี้
“…”
Fight:ความรู้สึกนี้มันคือ…
Secret L.: นี่ฉันไม่ได้เอาคนโรคจิตมาเป็นพระเอกชะม้าา