ตอนที่ 3 วันดีดี

2521 Words
วันดีดี >>>>>@@@@@@@@<<<<< “คุณแม่ครับ อ้นไปที่ร้านก่อนนะครับ”จุ๊บ อ้นเดินไปกอดคุณแม่ระวิภา ทุกครั้งก่อนที่เขาจะไปที่คาเฟ่ ที่เขาร่วมหุ้นกับเพื่อนสาวอย่างน้ำอิง ตั้งแต่เรียนอยู่ปี 4 โดยคนที่ลงทุนให้ไม่ใช่คุณแม่แต่เป็นพี่ชายสุดที่รักของอ้นนั่นเอง “เมื่อคืนฝันร้ายอีกแล้วใช่ไหมลูก”คุณแม่ระวิภา ถามลูกชายคนเล็กอย่างเป็นห่วง เพราะเมื่อคืนเป็นวันพระ เธอรู้ดีว่าลูกชายของเธอเจอฝันร้ายตามมาหลอกหลอน จนเธอต้องพาไปรดน้ำมนต์ที่วัดบ่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย ‘อีกไม่นานทุกอย่างจะทุเลาลง เมื่อถึงเวลาของมันหมั่นทำบุญและทำความดีแผ่เมตตาบ่อย ๆ นะโยม’ ไปกี่วัด ๆ พระท่านก็จะพูดคล้าย ๆ กันแบบนี้ คุณแม่ระวิภาก็ได้แต่หมั่นทำบุญ แผ่เมตตาไปให้เจ้ากรรมนายเวรและสวดมนต์เพื่อหวังจะช่วยลดผ่อนหนักให้เป็นเบาลงได้บ้าง “ครับคุณแม่ อ้นอยากตามหาเขาทั้งสองคน อ้นอยากรู้ว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับอ้นยังไง” อ้นยังคงพูดแบบเดิม ซ้ำ ๆ ไปมา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขาก็ได้แต่รอเวลาตามคำพระท่านบอก รอ รอ และก็รอ โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ สาเหตุที่พี่ชายเปิดร้านกาแฟให้เพราะว่า อ้นชอบเข้าครัว ชอบทำอาการทำขนม และที่บ้านก็มองว่าอ้นทำงานที่ตัวเองรักถึงจะไม่ตรงกับสาขาที่น้องชายได้เรียนมาแต่ อั้นก็คิดว่าน้องจะได้ไม่เครียดกับเรื่องความฝันและล้มเลิกที่จะตามหาคนในความฝัน ที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เพื่อนของอ้นก็ชวนไปทำงานที่ไร่ของครอบครัวเขา เพื่อไม่ให้อ้นว่าง เพราะเหมือนยิ่งโตฝันนั้นยิ่งมาทำร้ายอ้นมากกว่าเดิม คนที่เป็นกังวลมากที่สุดก็คือคนที่บ้านของอ้นนั่นเอง โดยเฉพาะคุณแม่ระวิภา คนที่ใกล้ชิดกับอ้นมากที่สุด ทุกคนเลยพยายามจะช่วยอ้นให้หลุดพ้นจากฝันร้ายนี้เต็มที แต่งานเอกสารในไร่อ้นก็ต้องรอให้เพื่อนกลับมาก่อนเพราะภูมิบดินทร์ไปเรียนโทที่ต่างประเทศ ทางไร่จะขยายกิจการเพิ่มเลยต้องการคนไปช่วยงานเลขาของพ่อเลี้ยง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ภูมิบดินทร์ไม่รอช้ารีบเสนออ้นเพื่อนรักทีนที ให้มาทำรอจนกว่าเขาจะเรียนจบ อั้นพี่ชายของอ้นเป็นคุณหมอของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน อั้นเลือกที่จะพักที่คอนโดใกล้ ๆ กับโรงพยาบาลแทนเพื่อสะดวกต่อการทำงาน จะกลับไปบ้านบ้างเมื่อเป็นวันหยุดของเขาจริง ๆ “ไม่ต้องคิดมากนะลูก ตั้งใจทำงานล่ะ อย่าใจลอยเวลาทำขนมนะ เดี๋ยวลูกค้าหายหมดไม่รู้ด้วยน๊า”คุณแม่ระวิภา ไม่อยากให้ลูกชายคนเล็กเครียด ก็แกล้งพูดแซวอ้นออกไป “หูย คุณแม่ครับ ขนมอ้นทำอร่อยที่หนึ่งเลยนะ คิคิ” นี่ไม่ใช่คำอวดอ้างแต่มันเป็นเรื่องจริงที่ขนมที่ร้านของอ้นจะขายดีเพราะอ้นลงมือทำเองทุกขั้นตอน ใส่ใจทุกรายละเอียด “จ้า ขับรถดี ๆ นะลูก”ฟอด ฟอด ¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡ ร้าน Frend & Frend Cafe’ Of Love อ้นจะไปที่ร้านก่อนที่ร้านจะเปิด 1-2 ชั่วโมง เพราะมีลูกน้องที่ร้านอยู่แล้ว 5 คน ร้านของอ้นถือเป็นร้านที่ติด TOP 10 ของจังหวัดเหมือนกัน มีมุมคาเฟ่ มุมเชลฟี่ มุมถ่ายรูป เขาจัดร้านให้เข้ากับความต้องการของตลาดมีหลายมุมรองรับลูกค้าทุกระดับ ทุกช่วงวัย ทุกสาขาอาชีพ “พี่นิ่ม น้ำอิงยังไม่มาเหรอครับ” “มาแล้วอยู่ข้างในค่ะคุณอ้น” “ทำไม?? มาถึงก็ถามหาเราเลยนะ คิดถึงเค้าเหยอ”น้ำอิงเดินมาเกาะแขนเพื่อนรักพร้อมกับซบลงที่อกของอ้น ถ้าคนอื่นมองก็จะคิดว่าทั้งสองคือคู่รักที่เหมาะสมกัน อีกคนสวยน่ารัก อีกคนก็หล่อ น่ารักดูดี มีลูกค้าหลายคนเข้าใจแบบนั้น แต่พอรู้ความจริงว่าเจ้าของร้านทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน กลับเป็นฝ่ายมาจีบเจ้าของร้านซะเอง “มีอะไรจะเล่าให้ฟังไหม”น้ำอิงที่เห็นหน้าของอ้นไม่สู้ดีก็ถามอย่างเป็นห่วง อ้นกับน้ำอิงเดินจูงมือกันเข้าไปหลังร้านที่มั่นใจว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของร้านไม่มีคนมารบกวน “ไหนเล่ามาซิ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”น้ำอิงกุมมือเพื่อนรักและถามอย่างเป็นห่วง “อิง เราอยากเจอพวกเขา” “เจอใคร???” น้ำอิงก็พอจะรู้ว่าอ้นหมายถึงใคร “ภาวินทร์กับบัวตอง เรารู้ว่าเขามีตัวตนจริง ๆ เรารู้สึกได้” “แล้วจะไปตามหาเขาที่ไหนอ่ะ พูดเป็นเล่น” “นั่นซิ เรารู้สึกเป็นห่วง คิดถึง สงสาร และเหมือนมีใครคนหนึ่งกำลังรอเราอยู่ เมื่อคืนภาพเขาสองคนชัดมากเลยนะ มันชัดขึ้นทุกวัน ๆ เลยนะอิง”อ้นบอกกับน้ำอิงพร้อมน้ำตาที่มันค่อย ๆ ไหลลงมาช้า ๆ เหมือนหลาย ๆ ครั้งที่เล่าเรื่องความฝันให้เพื่อนสนิทฟัง “เรารู้ ๆ เราเข้าใจ แต่แล้วไงล่ะ เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร คนชื่อภาวินทร์กับบัวตองมีเป็นร้อยเป็นพัน จ้างนักสืบคงไม่มีใครรับทำงานนี้”น้ำอิงเอามือเช็ดน้ำตาให้อ้นเบา ๆ อย่างเข้าใจ “นี่แหละที่เราเครียด ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับสองคนนี้เลย ทำไมกัน พวกเธอเป็นใครกันแน่”อ้นบ่นพึมพรำกับตัวเอง “เรารู้แล้ว ๆ ฝากร้านแปบนะ เดี๋ยวเรามา”อ้นเมื่อคิดอะไรได้ก็รีบเดินออกไปจากร้านในทันที “อ้นจะไปไหน เราไปด้วย” อ้นรีบเดินออกไปจากร้านทิ้งไว้เพียงความสงสัยให้กับน้ำอิงแบบ งง จะรีบไปไหนกันนะ ¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡ The Art Gallery “พี่ครับ ผมมีเรื่องรบกวน”เมื่อเข้ามาในร้านอ้นพูดกับเจ้าของร้านทันที “ช่วยสเก็ตภาพให้ผมหน่อยครับ 2 ภาพ” ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงอ้นก็ได้ภาพที่เขาต้องใสกรอบอย่างดี เป็นภาพคนในความฝันผู้หญิงอ้นเรียกว่าบัวตอง ส่วนภาพผู้ชายคือวินทร์ ทำไมตาของวินทร์ดูเศร้า ๆ ทำให้คนมองอย่างอ้นพลอยเศร้าตามไปด้วย “โอ้ย !!!”อ้นรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ขมับขวาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ตรงนั้นเหมือนมีรอยปานสีแดงจาง ๆ แต่ว่าไรผมปิดไว้เลยไม่มีใครรู้ว่าอ้นมีปานที่ นอกจากคนที่บ้านและเพื่อนสนิท “น้องเป็นอะไรรึเปล่าครับ”เจ้าของร้านเห็นอาการของอ้นไม่ค่อยดีก็ถามลูกค้าด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรครับ พักสักหน่อยก็ดีขึ้น ค่ารูปเท่าไหร่ครับ” เมื่อจัดการค่าใช้จ่ายเรียบร้อยอ้นก็ไปที่ท่าน้ำของวัดที่เขาไปเป็นประจำ ไปให้อาการปลาทุกครั้งการมาที่นี่เขาจะรู้สึกดี ความรู้สึก ดาวน์ เฟล มันก็ทุเลาลงได้บ้าง เขาไม่รู้ว่าสองคนนั้นเป็นใคร แต่การเป็นผู้ให้ทุกครั้งที่ทำบุญอ้นก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก มันดูโล่งไปหมด อ้นนั่งเล่นที่โต๊ะริมน้ำและโยนขนมปังลงไปให้ปลาที่ขึ้นมาแย่งกันกินอาหาร เขาเองก็ซื้อมาหลายห่อเพราะอยากนั่งที่นี่นาน ๆ รอให้ถึงเวลาพักเที่ยงและซื้ออาหารจานโปรดไปให้เพื่อนรักแล้วกันนะ ¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡¡ “ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา จันโท ปัณณะระโส ยะถา มะณิ โชติระโส ยะถา.....” “โยมพ่อเลี้ยงไปกรวดน้ำที่โคนต้นไม้ใหญ่นะ แล้วนึกถึงคนที่เราอุทิศส่วนกุศลให้เขา ถ้าพอมีเวลาไปที่ท่าน้ำดูซิ ไปให้อาหารปลา โยมพ่อเลี้ยงอาจจะสบายใจขึ้นก็ได้”หลวงพ่อแนะนำ “ครับหลวงพ่อ” พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่วัย 41 ปีรับคำหลวงพ่อด้วยความนอบน้อม เมื่อคืนเขาฝันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยมาถวายสังฆทานให้กับคนที่ล่วงลับ “คนที่อยู่ในใจโยมตอนนี้เขาก็เป็นทุกข์ไม่น้อยกว่าโยมหรอก แต่เขาอยู่ในที่ที่สบายกาย ไม่ได้ลำบากอะไร บุญกุศลที่ทำร่วมกันมา จะทำให้โยมสองคนได้เจอกัน ในเวลาที่เหมาะสมเองอีกไม่นานหรอก”ทุกครั้งที่มีเรื่องไม่สบายใจพ่อเลี้ยงจะมาทำบุญที่วัดนี้ประจำ เป็นโยมอุปถัมภ์ของวัดนี้ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา และวันนี้พ่อเลี้ยงเข้ามาคุยกับเจ้าของโรงงานเพื่อลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน “แค่รู้ว่าเธอสบายดี ผมก็รู้สึกดีแล้วครับหลวงพ่อ” ทุกครั้งที่มาทำบุญพ่อเลี้ยงก็จะอุทิศส่วนกุศลไปให้คนที่ตัวเองรักเสมอ ไม่ว่าจะทำที่ไหนก็ตาม เขาไม่เคยลืมเธอเลยแม้แต่วันเดียว “พ่อเลี้ยงจะรับอาหารปลาหรือขนมปังดีครับ ” หลังจากที่พ่อเลี้ยงกรวดน้ำแล้วก็เดินไปที่ท่าน้ำตามที่หลวงพ่อบอก ปกติพ่อเลี้ยงไม่มีเวลามากขนาดนี้ และเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว สุดเขตที่ทำหน้าที่ขับรถามผู้เป็นเจ้านายเมื่อพ่อเลี้ยงเดินมาถึงที่ท่าน้ำแล้วทีที่จำหน่ายอาการปลาทั้งแบบเม็ดและขนมปัง “ขนมปัง” พ่อเลี้ยงบอกกับสุดเขตออกไปเหมือนละเมอ และเดินลงไปที่ท่าน้ำอีกด้านหนึ่งเพราะอีกด้านมีคนกำลังให้อาหารปลาอยู่ พ่อเลี้ยงเลยเลี่ยงออกมาคนละทาง แล้วเสียงที่เขาคุ้นเคยก็ดังมาให้เขาได้ยินจากความทรงจำ ‘วินทร์เราเอาขนมปังนะ อาการปลามันเหม็นติดมือตองไม่ชอบ’ “พ่อเลี้ยงครับ พ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยง !!!!”สุดเขตเมื่อไปซื้อขนมปังมาให้เจ้านาย แต่สุดเขตเห็นเจ้านายมองไปที่หนุ่มน้อยที่นั่งอยู่คนเดียวตรงนั้นอย่างไม่วางตา เขาเรียกไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับ จนทำให้เด็กหนุ่มมองตามเจ้านายเช่นกัน “ผู้ชายอะไรสวยจังวะ”สุดเขตพูดออกมาแบบที่เขาคิดจริง ๆ ขนาดพ่อเลี้ยงของเขาไม่เคยสนใจใคร นิ่งยังกับรูปปั้นยังมองผู้ชายคนนั้นเลย “เอ่อ พ่อเลี้ยงครับ ขนมปังได้แล้วครับ”สุดเขตเพิ่มน้ำเสียงในการเรียกเจ้านายพร้อมกับยื่นห่อขนมปังไปตรงหน้าเพื่อเรียกสติพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงเพียงแค่หยิบห่อขนมปังจากมือของสุดเขตและหันไปมองที่จุดเดิมอีกครั้งก่อนจะมาโปรยขนมปังลงไปให้ปลาในบ่อ “อ้าว !! ใกล้เที่ยงแล้วนี่” อ้นเมื่อดูเวลาก็ใกล้ถึงเวลาที่นัดกับทางร้านอาหารแล้ว เขาเลยรีบลุกออกจากเก้าอี้และห่วงที่จะเอาถุงขนมปังไปทิ้งถังขยะ “คุณครับ คุณ คุณลืมถุงนี้ไว้ครับ”สุดเขตที่เห็นว่าคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของท่าน้ำลืมถุงกระดาษไว้เลยไปหยิบมาและเรียกคนที่คิดว่าเป็นเจ้าของ อ้นที่ได้ยินเสียงเรียกก็คิดว่าตัวเองแน่ ๆ เพราะไม่มีใครที่อยู่ตรงนี้นอกจากเขาและผู้ชายสองคนนี้ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม อ้นรีบหันกลับมาทันทีแบบไม่ต้องคิดเสียเวลา “ขอบคุณนะครับ”อ้นบอกขอบคุณคนที่ยื่นถุงกระดาษให้กับตัวเอง ก่อนที่อ้นจะเดินออกไปเขามองไปที่ผู้ชายคนที่เดินมาข้าง ๆ ผู้ชายคนที่เอาถุงกระดาษมาคืนให้ พอดีกับพ่อเลี้ยงก็มองมาที่อ้นพอดีเช่นกัน ทั้งสองคนสบตากันเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดของกันและกัน เวลาผ่านไปร่วมนาทีไม่มีใครพูดอะไรออกมา อ้นรู้สึกจี๊ดที่หน้าอกข้างซ้ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มองสบตาผู้ชายคนที่คนที่จ้องมาที่เขาเหมือนกัน แล้วน้ำตาของอ้นก็ค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาตรงหัวตาแต่ไม่ได้ไหลออกมาแต่อย่างใด “พ่อเลี้ยงครับ พ่อเลี้ยง”สุดเขตเรียกอยู่ สองสามครั้งกว่าพ่อเลี้ยงกับคนตรงหน้าจะได้สติและหยุดจ้องหน้ากัน “เอ่อ.....ขอโทษครับ”อ้นที่ได้สติก่อนรีบขอโทษผู้ชายตรงหน้าทันทีที่เสียมารยาท เผลอจ้องไปแบบนั้น “ขอบคุณอีกครั้งครับ ผมขอตัวนะครับ”อ้นกล่าวขอบคุณสุดเขตอีกครั้งและยิ้มบาง ๆ ส่งให้ ทำให้คนมองใจกระตุกเบา ๆ กับรอยยิ้มหวาน ๆ ของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะรีบขอตัวกลับ เพราะอ้นรู้สึกเจ็บที่หัวใจและปวดที่หัวพร้อม ๆ กันเขารีบเดินไปให้ถึงรถให้เร็วที่สุด เขาต้องได้กินยาแก้ปวดในตอนนี้ “บัวตอง !!!!” พ่อเลี้ยงพูดพร้อมกับเดินออกไปตามอ้นออกไปอย่างไม่รู้ตัว “อะไรนะครับพ่อเลี้ยง” สุดเขตถามและเดินตามเจ้านายที่เดินเหมือนคนไร้สติ “ตามรถคันนั้นไป”พ่อเลี้ยงไม่ได้ตอบอะไรสุดเขต แต่สั่งให้ชายหนุ่มขับรถตามรถของอ้นไป “ครับ ๆ รถเราอยู่ทางนี้ครับพ่อเลี้ยง” สุดเขตขับรถตามรถของอ้นไปแต่ก็คาดกันเพราะช่วงใกล้เที่ยงแบบนี้ทั้งรถส่งอาหาร รถคนพักเที่ยงวิ่งกันให้วุ่น ทำให้สุดเขตตามรถของอ้นไม่ทัน “พ่อเลี้ยงครับ ไปหาหมอไหมครับ”สุดเขตเห็นอาการของพ่อเลี้ยงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเอามือกุมหน้าอกตั้งแต่ออกมาจากวัดแล้ว “แล้วรถคันนั้นล่ะ”พ่อเลี้ยงถามสุดเขตเสียงเย็นเพราเห็นเด็กหนุ่มจอดรถข้างทาง “ขอโทษครับพ่อเลี้ยง ผมตามไม่ทัน”สุดเขตก้มหน้าตอบอย่างกลัวพ่อเลี้ยงจะโกรธ “ไม่ได้เรื่องเลย”พ่อเลี้ยงหนุ่มบ่นออกมาอย่างหัวเสีย ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นพ่อเลี้ยงแสดงอารมณ์และความรู้สึกเท่าไหร่ “กลับบ้าน” “ไปหาหมอก่อนไหมครับพ่อเลี้ยง”สุดเขตยังคงเป็นห่วงอาการของพ่อเลี้ยง “ก็บอกว่ากลับบ้านไง!!!”พ่อเลี้ยงตอบออกมาเสียงแข็งกว่าเดิม ❣@@@@@@@@@@❣ เจอกันแล้วน๊า เจอกันแบบ งง ๆ ไหม ไรท์เองนี่แหละที่ทำให้งง ??? ☆ขอบคุณยอดวิว ยอดไลค์ ยอดเม้นท์☆ ที่ช่วยสร้างกำลังใจ ในการแต่งนิยายจากรี๊ดทุกคนนะคะ ♧คำผิดรอการแก้ไขนะคะ♧
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD