ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูทำให้ฟาริซต้องจำใจถอนริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย ชายหนุ่มยังจ้องมองใบหน้างามที่แดงระเรื่อไปด้วยฝีมือเขาอย่างพอใจ ก่อนส่งยิ้มหวานแกมหยอกล้อมาให้คนน่ารักในอ้อมแขนอย่างเอ็นดู โดยที่เขาไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้มีใครเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของเขา
“คุณหนูครับ” แดนนี่ถึงกับเดือด เมื่อเห็นว่าคุณหนูอลินเซียของเขากำลังอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่
หัวใจของเขาก็แทบจะกระโดดเตะผู้ชายตรงหน้าให้หายแค้น ผู้ชายคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายคุณหนูแบบนี้ แต่พอเห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นั้นเป็นใคร เขาก็ยิ่งตกใจหนักเข้าไปอีก
ก็จะใครเสียอีกหากไม่ใช่ ฟาริซ อัมฟาล อัล ราเฟล เจ้าของโรงแรมอัมฟาลและมีธุรกิจอีกมากมายในสเปน
“คุณฟาริซ ปล่อยคุณหนูอลินเซียของผมเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงของแดนนี่แม้จะดูห้าวปนดุ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความนอบน้อม เขารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นใคร แต่เขาก็ยอมไม่ได้หรอกที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายทำแบบนี้กับคุณหนูอลินเซียของเขา
“คุณหนูอลินเซียเหรอ?”
ฟาริซไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของชายหนุ่มร่างยักษ์แต่อย่างใด เขาสนใจสาวน้อยตรงหน้ามากกว่า ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอชื่ออะไร หากให้เขาเดาสาวน้อยคนนี้ก็คือ คุณหนูอลินเซีย เซอเรนโซ บุตรสาวบุญธรรมของนายมิคาเอล เซอเรนโซอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังมีบอดี้การ์ดร่างยักษ์ตามมาดูแลถึงขนาดนี้ เห็นทีท่านมิคาเอลคงรักและอ็นดู สาวน้อยคนนี้ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นก็ไม่แสดงอาการอยากฆ่าเขาหรอก ฟาริซละสายตาจากใบหน้างามในอ้อมแขนก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงที่เรียกสาวน้อยในอ้อมกอด
“ปล่อยคุณหนูของผมเดี๋ยวนี้นะครับคุณฟาริซ”
แดนนี่พูดอีกครั้ง เขาก็ยังเห็นฟาริซยังเงียบ ไม่ได้สนใจในคำพูดของเขาเลย ส่วนคุณหนูอลินเซียนั่นไม่ต้องพูดถึงเพราะยังอยู่ในอาการตกใจอยู่ไม่น้อย อย่าว่าแต่คุณหนูอลินเซียเลยที่ตกใจ เขาเองก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อเห็นฟาริซกำลังกอดคุณหนู
คามินเองก็ตกใจไม่ต่างจากชายหนุ่มข้างๆ เขาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าผู้เป็นนายจะทำอะไรแบบนี้ หากเขาไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อหรอกว่า ผู้เป็นนายกำลังใช้กำลังบังคับกับคุณหนูอลินเซีย เซอเรนโซ บุตรสาวบุญธรรมของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เจ้าของบริษัท เซอเรนโซ ดีไซน์ จำกัด
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
อลินเซียขยับกายเล็กน้อย หลังจากที่ได้สติ หญิงสาวยกมือทั้งสองข้างผลักแผงอกกว้างให้ออกห่าง ก่อนวิ่งเข้ามากอดบอดี้การ์ดของตัวเองอย่างต้องการที่พึ่ง
ภาพดังกล่าวทำให้ฟาริซเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเมื่อครู่นี้ สลัดเขาไปวิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีฟ้าข้างกายคนสนิท
ชายหนุ่มถึงกับกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว สายตาคมกล้าจับจ้องใบหน้างามที่ซบอยู่บนอกของชายอื่นด้วยความร้อนรุ่ม และรู้สึกโมโหอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“เรากลับบ้านกันเถอะแดนนี่ อลินอยากกลับบ้านแล้ว” อลินเซียเปลี่ยนจาก ‘ฉัน’ มาแทนตัวเองว่า ‘อลิน’ ทันที โดยที่ต้นแขนเรียวยังกอดกระชับรอบเอวของบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างตื่นกลัว
สำหรับแดนนี่นั้นเข้าใจนิสัยของคุณหนูอลินเซียดีทีเดียว หากเกิดเหตุการณ์ที่ชวนให้ตกใจกลัวแล้วล่ะก็ คุณหนูคนนี้ของเขาจะเปลี่ยนสรรพนามของตัวเองทันที เห็นทีเหตุการณ์ที่เกิดในห้องนี้ คงทำให้เธอตกใจไม่น้อย เพราะเขารับรู้ได้ถึงความหวาดกลัว และน้ำเสียงที่สั่นระริกยามพูดกับเขา
“โอเคครับคุณหนู”
ชายหนุ่มพยักหน้าตอบ ละสายตาจากร่างระหงที่ยืนกอดเขาเอาไว้แน่น แล้วหันไปมองเจ้านายหนุ่มด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เมื่อเห็นอาการของคนในอ้อมกอดที่ดูจะตกใจ หวาดกลัว กับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“ผมขอตัวก่อนนะครับ อีกอย่างนี่ก็ดึกมากแล้ว”
“ดึกเหรอ?” คามินหันมามองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีฟ้าด้วยความประหลาดใจ หากเขาได้ยินไม่ผิด เมื่อกี้ชายหนุ่มผู้นี้บอกว่า ‘ดึกแล้ว’ มันจะดึกได้ยังไงกันนี่มันเพิ่งสามทุ่มเอง
“นี่เพิ่งจะสามทุ่มเองนะครับคุณแดนนี่”
“นั่นสิครับคุณแดนนี่ ผมว่าไม่ดึกหรอก เพิ่งถามทุ่มเอง”
ฟาริซเองก็งุนงงไปกับคำพูดของชายหนุ่มคนนี้ไม่น้อย แต่สายตาเรียวยังคงจ้องมองร่างระหงไม่วางตา แม้ในใจจะรู้สึกโมโห อารมณ์เสียกับภาพที่เห็น แม้ว่าสาวน้อยผู้นี้ไม่ได้เป็นอะไรกับบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่นี่ก็เถอะ แต่เขาก็รู้สึกไม่ชอบใจอยู่ดี
“แต่สำหรับคุณหนูอลินเซียถือว่าดึกแล้วครับ”
“เรากลับบ้านกันเถอะแดนนี่ อลินอยากกลับบ้านแล้ว”
น้ำเสียงอ่อนหวาน เริ่มออดอ้อนหนักขึ้น เมื่อเห็นว่าแดนนี่ยังไม่ยอมกลับเสียที ยังสายตาเรียวที่ชักวาวโรจน์ของเจ้าของห้องที่ส่งมาให้เธออีก มันน่ากลัวน้อยเสียเมื่อไหร่ เธอคงคิดผิดจริงๆ ที่มาหาเขาในวันนี้
“คุณหนูก็ปล่อยผมก่อนสิครับ” แดนนี่ก้มลงมาบอกคุณหนูอลินเซียอย่างอ่อนโยน
“ขอโทษที อลินลืมไป”
ใบหน้าหวานเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาทีเดียว เมื่อรู้ว่าเธอเผลอแสดงกิริยาไม่งามออกไปอีกแล้ว จะให้เธอทำยังไงล่ะ ก็ในเมื่อทุกครั้งที่เธอเกิดอาการกลัวหรือตกใจ เธอมักเดินเข้ามากอดพี่เลี้ยงพ่วงบอดี้การ์ดคนนี้เสมอ เฮ้อ...มันน่าอายจริงๆ ด้วย
“ผมเตือนคุณหนูหลายครั้งแล้วใช่ไหมครับ ว่าอย่าวิ่งมากอดผม เกิดท่านมิคาเอล และ คุณราฟาเอล มาเห็นเข้า ผมโดนสั่งเก็บแน่ๆ” แดนนี่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เอาน่าคราวหน้าฉันจะระวังให้มากกว่านี้” อลินเซียเริ่มตั้งสติได้แล้ว เริ่มงอนแดนนี่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอบรมเรื่องกิริยามารยาทของเธออีกแล้ว
///////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...