เพลิงรักเจ้าทะเลทราย

มาดริด , สเปน หญิงสาวร่างระหงลงมาจากรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคันหรูอย่างเร่งรีบ ด้วยความเป็นห่วงบิดา หลังจากคนสนิทของบิดาโทรศัพท์มาหาเธอที่คฤหาสน์เซอเรนโซเมื่อสองชั่วโมงก่อนด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดจนน่ากลัว “คุณหนูครับ ท่านมิคาเอลหมดสติไปครับ” “อะไรน่ะ” อลินเชีย เซอเรนโซ ถามคนสนิทของบิดากลับด้วยน้ำเสียงสั่น ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงบิดาไม่น้อย เธอไม่เคยรู้เลยว่าท่านป่วย “ท่านมิคาเอลเป็นลมหมดสติไปนะครับคุณหนู” เควินตอบบุตรสาวบุญธรรมของท่านมิคาเอลผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่ผู้เป็นนายเป็นลมล้มฟุบไปแบบนี้ ชายหนุ่มได้แต่กังวลไม่น้อยกับอาการป่วยของผู้เป็นนาย นับวันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “โอเค ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” “ครับคุณหนู” “อ้อ...แล้วเควินโทรฯ ไปบอกพี่ราฟาเอลหรือยัง” “เรียบร้อยแล้วครับคุณหนู ตอนนี้คุณราฟาเอลกำลังมา” ชายหนุ่มตอบคุณหนูอลินเชียอย่างนอบน้อม “แค่นี้แหละ เควินดูแลคุณพ่อดีๆ น่ะ แล้วอย่าลืมตามหมอด้วย” “ครับ” ประตูลิฟต์ชั้นบนสุดถูกเปิดออกพร้อมกับหญิงสาวร่างระหงสาวเท้าเดินออกมาด้วยความรีบร้อน เธอพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นกว่าปกติเพราะตอนนี้หัวใจของเธอมันใจลอยไปถึงห้องทำงานของบิดาแล้ว ถึงแม้ว่าท่านมิคาเอล เซอเรนโซผู้นี้จะไม่ใช่บิดาแท้ๆ ของเธอ แต่ท่านก็รักและเอ็นดูเธอไม่น้อย เมื่อสิบปีที่แล้วมารดาของเธอแต่งงานใหม่กับนักธุรกิจชาวสเปน หลังจากแต่งงานมารดาของเธอก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่สเปนตามสามีด้วย ร่างบางระหงเดินมาหยุดตรงหน้าห้องทำงานของบิดา ก่อนเปิดประตูเข้าไปภายในห้องด้วยความรีบร้อน เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปสิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือภาพของบิดาที่นั่งกึ่งนอนอยู่บนโชฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องด้วยท่าทางอิดโรย “คุณพ่ออาการเป็นยังไงบ้างเควิน” เจ้าของเสียงหวานเอ่ยถามคนสนิทของบิดาด้วยความเป็นห่วง แล้วสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าเควิน หลังจากนั้นก็ทรุดลงนั่งข้างกายบิดาอย่างเป็นห่วง “ท่านมิคาเอลไม่เป็นอะไรมากครับ เมื่อกี้ผมให้คุณหมอมาตรวจดูแล้ว” “แล้วหมอว่ายังไงบ้าง” “พ่อไม่เป็นอะไรมากหรอกลูก ก็แค่พักผ่อนน้อยไปหน่อย” ท่านมิคาเอลตอบแทนคนสนิท ท่านไม่ต้องการให้บุตรสาวรู้ความจริงเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน เพราะหากอลินเซียรู้ แน่นอนว่าภรรยาก็ต้องรู้เหมือนกันว่าท่านกำลังไม่สบายหนัก “จากที่หนูเห็น อาการของคุณพ่อมันหนักไม่น้อยเลยนะคะ” อลินเซียละสายตาจากบิดาแล้วหันไปมองคนสนิทที่ยืนอยู่ด้วยความกังวล เพราะเธอรู้ดีว่าน้ำเสียงที่ผู้เป็นบิดาพูดมานั้นมันไม่ใช่ความจริง เธออยากรู้จริงๆ ว่าท่านจะปิดบังเธอทำไมกัน “พ่อไม่เป็นอะไรจริงๆ น่ะ อลินเซีย” ท่านมิคาเอลบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ท่านรู้ดีว่าอลินเซียนั่นเป็นห่วงท่านแค่ไหน แต่ท่านก็ไม่อยากให้ใครมาเป็นกังวลกับอาการของท่าน นับวันอาการป่วยของท่านก็ยิ่งแย่ลงทุกวัน จากนี้ไปท่านก็คงต้องรีบจัดการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียที “โอเคค่ะ ไม่เป็นก็ไม่เป็น” ในที่สุดเธอก็ต้องยอมฟังผู้เป็นบิดา แต่ไม่เป็นไร อีกไม่นานเธอคิดว่าท่านคงจะบอกเธอเอง หญิงสาวล่ะสายตาจากบิดาแล้วหันไปหาเควิน คนสนิทของบิดา แต่เธอก็รู้สึกเป็นกังวลไม่น้อยกับท่าทางอึดอัดของคนสนิทบิดา ยิ่งอาการก้มหน้าก้มตาเหมือนพยายามหลบหน้าของอีกฝ่าย เธอก็รู้แล้วว่าอาการของบิดาคงร้ายแรงไม่น้อย เพราะจากใบหน้าคมเข้มของคนสนิทของบิดานั้นมีแต่ความกังวล เคร่งเครียด อลินเซียจึงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณพ่อไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย อย่าทำหน้าเคร่งเครียดแบบนั้นสิคะเควิน” “เอ่อ...ครับ” เควินพยักหน้าตอบรับ ในใจก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ปิดบังเรื่องอาการของผู้เป็นนายกับคุณหนูอลินเซียผู้นี้ ชายหนุ่มรู้ดีว่าอีกไม่นานทุกคนในตระกูลเซอเรนโซก็คงรู้ว่าประมุขของบ้านกำลังป่วยหนัก ///////////////// ณ ห้องทำงานของท่านมิคาเอล “คุณพ่อไม่สบายเป็นอะไรหรือเควิน” เจ้าของเสียงห้าวเอ่ยถามทันทีที่เขาโผล่หน้าเข้ามายังห้องทำงานของผู้เป็นบิดา เจ้าของร่างสูงใหญ่รีบก้าวเท้าเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของน้องสาว ก่อนมองเลยไปยังร่างสูงใหญ่ของบิดาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟานุ่ม “แค่เป็นลมล้มฟุบไปแค่นั้นเองครับ” เควินเงยหน้าขึ้นมาตอบผู้เป็นนายหนุ่มด้วยความลำบากใจ เขาเองจากบอกจะแย่แล้วว่าตอนนี้ท่านมิคาเอลกำลังแย่ “พ่อไม่เป็นอะไรมากหรอกราฟาเอล อีกสักพักก็น่าจะหาย” ท่านมิคาเอลเงยหน้ามามองบุตรชายด้วยความเอ็นดู เพียงแค่นี้ท่านก็รู้แล้วว่าบุตรชายและบุตรสาวรักและเป็นห่วงท่านมากแค่ไหน “ผมว่าคุณพ่อน่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนนะครับ วันนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว อีกอย่างก็ใกล้จะค่ำแล้วด้วย” “นั่นสิคะคุณพ่อ หนูว่าเราน่าจะกลับบ้านกันเลย” อลินเซียเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคำตอบของพี่ชาย อีกอย่างตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว เธอน่าจะพาบิดากลับบ้านไปด้วยกัน “ผมว่าท่านมิคาเอลน่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจะให้คุณนาตาลีเป็นคนจัดการกับเอกสารที่เหลือเอง” “ก็ได้ งั้นฉันฝากนายด้วยก็แล้วกัน เควิน” ท่านมิคาเอลสั่งกำชับคนสนิทอีกไม่กี่ประโยค ท่านก็ลุกขึ้นยืนก่อนถูกบุตรสาวพยุงให้ออกเดินไปด้วยกันด้วยความเป็นห่วง ท่านเองก็มีความสุข เพราะในชีวิตท่านอยากมีลูกสาวเหมือนคนอื่นบ้างเหมือนกัน แต่สุดท้ายความฝันของท่านก็เป็นจริง เมื่อท่านได้แต่งงานกับ สาวไทยนาม ‘มธุรดา’ หลังจากแต่งงานท่านพาภรรยามาอยู่พร้อมกับบุตรสาวบุญธรรมวัยสิบสามมาอยู่ด้วยกันที่สเปน ท่านหวังเหลือเกินว่าราฟาเอลกับอลินเซียจะช่วยท่านบริหารงานของบริษัทให้เจริญรุ่งเรือง หากภายภาคหน้าไม่มีท่านอยู่ ธุรกิจที่ท่านรักจะได้รับการสืบทอดจากลูกๆ ทั้งสองเกือบสี่สิบปีที่ท่านเปิดบริษัทออกแบบ- ตกแต่งภายใน รับเหมาก่อสร้าง ภายใต้ชื่อ บริษัท เซอเรนโซ ดีไซน์ จำกัด จากที่ท่านเป็นเพียงแค่นักธุรกิจเล็กๆ ธรรมดาคนหนึ่งที่คิดหยิบจับธุรกิจด้านนี้ อาจเป็นความโชคดีของท่านก็ได้ เพียงไม่นานท่านก็สามารถนำบริษัทเซอเรนโซ ดีไซน์ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจเดียวกัน โดยใช้เวลาเพียงสิบปีเท่านั้น ชื่อของท่านก็ติดอันดับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสเปน ////////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...