บทที่ 12 ไอเดียเต็มหัว

1684 Words
บทที่ 12 ไอเดียเต็มหัว สองวันต่อมา.. ตามคำขอของหลิงอ้ายเหริน ลูกสาวคนรอง พ่อหลิวที่สัมผัสได้จากแววตาหนักแน่นและจริงจังของลูก พ่อหลิวก็สั่งให้คนงานนำผ้าส่วนหนึ่ง มาให้หลิวอ้ายเหรินที่บ้าน ด้านอ้ายเหรินเมื่อได้ผ้าพวกนั้นมา เธอก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง โดยที่ไม่ยอมลงมาข้างล่างเลย จนทุกคนในครอบครัวต่างพากันเป็นห่วง.. ในขณะที่ทุกคนกำลังเป็นกังวลอยู่ชั้นล่างนั้น หลิวอ้ายเหรินที่อยู่ในห้องนอนของตัวเอง เธอก็หอบผ้าที่พ่อเอามาให้เข้าไปในมิติ ซึ่งเป็นตึกของเธอ เธอเดินขึ้นไปชั้นสอง “ก่อนอื่นเลยเราต้องออกแบบงานที่เราเรียนมา” หลิวอ้ายเหรินยิ้มดีใจ และพูดคนเดียวเมื่อมองกองผ้า… ***** เวลาเย็นที่หน้าห้อง.. หลิวเหม่ยเหมยที่กังวลใจเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นอะไรไป เมื่อเห็นพี่รองไม่ยอมออกจากห้องเธอจึงมาหา และยืนอยู่หน้าห้อง ซึ่งเธอได้เคาะประประตูเป็นครั้งที่สาม ก๊อกกๆๆๆ.. เสียงเคาะประตูทำให้คนในห้องและอยู่ในโลกมิติ ต้องกลับออกมาจากมิติ แล้วทำตัวให้เป็นปรกติ อ้ายเหรินเดินไปปลดล็อกประตูเบาๆ แล้วมานั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน แล้วถามคนข้างนอกว่า “ใครคะ” “พี่รอง ฉันเอง ฉันเอาข้าวเย็นมาให้พี่รองค่ะ” “เข้ามาสิเหม่ยเหมย” อ้ายเหรินบอกน้องสาวพร้อมทั้งเงยหน้ามองที่ประตูห้อง เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง เหม่ยเหมยก็เปิดประตูห้องเข้าไป เธอเห็นพี่สาวนั่งทำงานอยู่ เธอก็รู้สึกโล่งใจเมื่อถาดอาหารของ มื้อเที่ยงไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่ เธอจึงยิ้มหวานให้แล้วชูถาดข้าวในมือให้พี่สาวดู “คุณแม่ให้เอาอาหารเย็นขึ้นมาให้พี่รองค่ะ” “ขอบใจมากนะ เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ ถ้าพี่หิวเดี๋ยวพี่กิน” อ้ายเหรินบอกน้องสาวทั้งที่ก้มหน้าก้มตาขีดเขียนอะไรสักอย่าง ในแผ่นกระดาษที่ไม่ค่อยคุ้นตา เหม่ยเหมยจึงมองตาไม่กะพริบ “ค่ะ” เหม่ยเหมยละสายตาจากอุปกรณ์ขีดเขียนบนโต๊ะทำงานของพี่สาว แล้วค่อยๆ วางถาดไว้ที่โต๊ะ แต่ไม่ยอมออกจากห้อง เธออยากเดินเข้าไปดูใกล้ๆ จัง ว่าพี่รองกำลังทำอะไรแต่ก็ไม่กล้า จึงได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ ด้วยความสงสัย “เหม่ยเหมยมีอะไรกับพี่เหรอ?” อ้ายเหรินวางมือจากงาน แล้วเงยมองน้องสาวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม “อยากให้ฉันช่วยอะไรไหมคะ” หลิวเหม่ยเหมยถาม เมื่อเห็นพี่สาวตั้งหน้าตั้งตาทำงานบนโต๊ะ ซึ่งผิดวิสัยของพี่สาวเป็นอย่างมาก “…” อ้ายเหรินไม่พูด แต่เธอมองสำรวจรูปร่างของน้องสาว แล้วยิ้มมุมปาก ในตอนแรกอ้ายเหรินจะปฏิเสธ เพราะไม่มีอะไรให้น้องสาวช่วย แต่พอมองรูปร่างของหลิวเหม่ยเหมยแล้ว เธอก็นึกขึ้นได้ ว่าเธอยังไม่มีนางแบบ ในการตัดชุดเลย ที่ตึกสามชั้นก็มีเพียงแค่หุ่นโชว์เสื้อผ้าเท่านั้น อีกอย่าง หลิวเหม่ยเหมยนี่คือนางแบบที่ดีเลยละ เนื่องจากน้องสาวของเธอเป็นเด็กมหาวิทยาลัย ถ้าแต่งตัวด้วยชุดที่เธอดีไซน์อย่างทันสมัย เธอรับรองว่าการตลาดเกี่ยวกับแบรนด์เสื้อผ้าและกระเป๋า หรือแม้แต่รองเท้าของเธอ ต้องสร้างรายได้ได้แน่นอน แล้วโรงงานของครอบครัว ก็จะฟื้นฟูขึ้นอีกแน่นอน “มีสิ” อ้ายเหรินพูดขึ้นแล้วมองน้องสาวตาเป็นประกาย “คะ” เหม่ยเหมยเอียงคอมองพี่สาวด้วยสายตาสงสัยเช่นกัน “เข้ามาใกล้ๆ พี่สิ” อ้ายเหรินกวักมือเรียกน้องสาวให้มายืนตรงหน้า แล้วสำรวจตามตัวของเหม่ยเหมยด้วยความพอใจ เพราะเหม่ยเหมยจัดได้ว่าหุ่นดีใช้ได้ “พี่รองมองฉันทำไมเหรอคะ” เหม่ยเหมยทำตัวไม่ถูก เมื่อพี่สาวจับเธอหมุนซ้ายหมุนขวา “รอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา” อ้ายเหรินบอกน้องสาวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นก็เข้าไปในมิติ เพื่อจะเอาอุปกรณ์วัดตัวออกมา และไม่ถึงสิบนาที อ้ายเหรินก็เดินออกจากห้องน้ำ มายืนตรงหน้าเหม่ยเหมย เหม่ยเหมยทำหน้างง เมื่อเห็นอุปกรณ์แปลกๆ ในมือพี่สาว เธอจึงถามขึ้น “นี่อะไรคะ” “อยู่เฉยๆ พี่ขอวัดตัวหน่อย” อ้ายเหรินไม่ตอบคำถามของน้อง แต่เธอทำเสียงดุใส่น้อง “วัดตัว” นั่นยิ่งทำให้เหม่ยเหมยไม่เข้าใจ “ใช่” อ้ายเหรินพยักหน้า แล้วทำการวัดตัวน้องสาว “ได้ค่ะ” เหม่ยเหมยเห็นท่าทางจริงจังของพี่สาว เธอก็ไม่อยากขัดใจ จึงยืนนิ่งทำตามคำสั่งของพี่สาว หลิวอ้ายเหรินทำการวัดตัวน้องสาวไม่ถึงยี่สิบนาทีเธอก็เอ่ยขึ้นว่า “เสร็จแล้ว ขอบใจมากนะ ช่วยได้เยอะเลย” “จริงเหรอคะ” เหม่ยเหมยดีใจที่สามารถช่วยงานพี่สาวได้ “จริงสิ” อ้ายเหรินมองน้องสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู “พี่รองจะนำผ้าพวกนั้นมาทำเสื้อผ้าเหรอคะ” เหม่ยเหมยพอจะเดาออกว่าพี่สาวคิดจะทำอะไร เพียงแต่ถามเพื่อความมั่นใจก็เท่านั้น “ใช่ เอาไว้พี่ทำเสร็จแล้ว เหม่ยเหมยที่เป็นนางแบบให้พี่ จะได้ใส่เป็นคนแรกเลยนะ” อ้ายเหรินบอกน้องสาว “ฉันยินดีอย่างมากเลยค่ะ พี่รอง” หลิวเหม่ยเหมยตั้งตารอชุดจากพี่สาวอย่างใจจดใจจ่อ แต่ภายในใจก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรว่าพี่รองจะทำได้ “อื้อ” อ้ายเหรินยิ้มให้น้องสาว “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กวนพี่รองแล้วค่ะ แต่ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วย บอกได้เลยนะคะ แล้วอย่าลืมกินข้าวด้วยนะคะ” หลิวเหม่ยเหมยบอกพี่สาว เมื่อเดินไปยืนที่ประตู “ขอบใจนะ อร่อยดี” หลิวอ้ายเหรินคีบอาหารในถาดกินคำหนึ่งให้น้องดู เพื่อยืนยันว่าเธอจะกินเมื่อน้องออกไปแล้ว และเมื่อเห็นน้องออกจากห้องไปแล้ว เธอก็รีบปิดประตูห้องอย่างแน่นหนาแล้วเข้าไปในมิติ แล้วเริ่มลงมือทำชุดที่เธอออกแบบทันที… ด้านหลิวเหม่ยเหมย เมื่อออกจากห้องของอ้ายเหรินแล้วลงมาข้างล่างที่มีพ่อ แม่ และพี่ชายรอฟังข่าว พ่อ แม่ และพี่ชาย ก็เข้ามารุมถามเธอทันที “เป็นยังไงบ้างเหม่เหมย อ้ายเหรินกำลังทำอะไร” พ่อหลิวถามด้วยความอยากรู้ “พี่รองให้หนูเป็นนางแบบค่ะ” เหม่ยเหมยจึงเล่าให้ทุกคนฟัง ว่าที่เธอเข้าไปในห้องพี่สาวนั้น ทำอะไรบ้าง “หมายความว่ายังไง เป็นนางแบบ” จี้หยวนถาม เพราะไม่เข้าใจในคำพูดของน้องเล็ก “นางแบบที่ใส่เสื้อผ้าเดินโชว์ตัวยังไงล่ะคะพี่ใหญ่ ในโทรทัศน์ก็มีฉายให้ดูนี่ มีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้นเลย” เหม่ยเหมยพูดกวนๆ พี่ชาย “นี่น้องเล็ก อย่ากวนประสาทพี่ได้ไหม พี่ยิ่งเครียดอยู่” จี้หยวนว่าน้อง “เอาละๆ อย่าทะเลาะกัน เหม่ยเหมยรู้อะไรมาก็เล่ามาให้หมด ทุกคนรอฟังอยู่” พ่อหลิวตำหนิลูกๆ แล้วสั่งให้ลูกสาวคนเล็กบอกเรื่องที่เห็น “ก็ได้ค่ะ คืออย่างนี้นะคะ ตอนนี้…” เหม่ยเหมยเล่าทุกอย่างให้พ่อแม่และพี่ใหญ่ฟัง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องอุปกรณ์วัดตัวที่อ้ายเหรินมีใช้ “อ้ายเหรินจะตัดเย็บเสื้อผ้าจริงๆ หรือ” แม่หลิวพึมพำออกมา เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวคนรองจะทำได้ “ใช่ค่ะ พี่รองวัดตัวหนูแล้วด้วย” หลิวเหม่ยเหมยพยักหน้า แล้วทำท่าทางให้พ่อแม่และพี่ชายคนโตดู “จะไหวเหรอคะคุณ ลูกไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยนะ” แม่หลิวพูดกับสามีอย่างเป็นกังวล เพราะกลัวว่าอ้ายเหรินจะทำอะไรที่มันเกินตัว ลูกสาวของเธอคนนี้งานบ้านงานเรือนไม่เคยแตะต้องเลย แต่ครั้งนี้กลับลงมือออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า “ไม่เคยทำ แต่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่เป็นนี่ คุณอย่าคิดมากเลย และอย่าดูถูกลูกสิ คุณต้องเชื่อใจลูก ผมเชื่อว่าลูกจะต้องทำได้ ” พ่อหลิวพูดให้กำลังใจลูกสาวคนกลาง ซึ่งคำพูดของพ่อหลิวบ่งบอกว่าไว้ใจ และเชื่อใจหลิวอ้ายเหรินเป็นอย่างมาก “นั่นสิครับ ผมว่าเรารอดูก่อนดีกว่า ขนาดอาหารที่น้องรองไม่เคยทำ แต่พอทำมาแล้วกลับอร่อย ผมว่าน้องรองต้องเย็บผ้าได้ดีแน่ครับ” หลิวจี้หยวนเองก็เห็นด้วยกับพ่อเช่นกัน “พี่รองดูเป็นมืออาชีพและคล่องแคล่วมากค่ะ พี่รองต้องทำมันออกมาได้ดีแน่ค่ะ” เหม่ยเหมยจึงเล่าในสิ่งที่เห็นให้ทุกคนฟัง ว่าหลิวอ้ายเหรินนั่น มีความเป็นมืออาชีพแค่ไหน เธอเองยังแปลกใจ ไม่คิดว่าพี่สาวจะถนัดทางด้านนี้ เพราะที่ผ่านมาหลิวอ้ายเหรินไม่ยอมหยิบจับอะไรเลย “เอาเถอะ ถึงยังไงแม่ก็จะไม่ห้ามอ้ายเหรินอยู่แล้ว รอดูกันก่อน ก็แล้วกัน” ในที่สุดแม่หลิวก็ตัดสินใจปล่อยวาง ไม่อยากขัดขวางลูกสาวคนรอง เพราะถ้าลูกสาวทำสำเร็จ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับลูกสาวคนรอง…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD