เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้นเท้ากับผนังลิฟท์ เพื่อขวางไม่ให้เธอหนีได้อีก ก่อนจะยื่นใบหน้านั้นเข้ามาใกล้อีกครั้ง ใกล้จนเธอเห็นดวงตาคมสีอำพันที่หวานเยิ้มราวกำลังตกอยู่ในมนต์เสน่ห์บางอย่าง เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบา ๆ คล้ายเพ้อ
“ หอม หอมโคตร ๆ หอมเป็นบ้าเลย ”
เจ้าขาตะลึงงันไปชั่วครู่ทันทีที่ถูกเขาจ้องมอง เขาตัวสูงใหญ่ สูงมากจนต้องก้มใบหน้าลงมาใกล้เธอที่ศีรษะ อยู่เพียงระดับแผงอก
ผมสีน้ำตาลเข้มบนศีรษะของเขาดูยุ่งเหยิง ไม่ได้เซ็ทเรียบกริบตลอดเวลาอย่างธนภพ ทว่ากลับทำให้เขาดูดีขึ้นอย่างประหลาด เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่แม้ว่าจะเป็นชุดสบาย ๆ แต่ทำไมทำให้เธอใจเต้นแรงนัก เต้นแรงกว่าเวลาที่เห็นธนภพอยู่ในชุดสูทหรือเสื้อผ้ามียี่ห้อราคาแพง
เอ๊ะ แล้วทำไมเธอจะต้องเอาชายแปลกหน้าคนนี้ไปเปรียบกับธนภพด้วยล่ะ ยัยเจ้าขา จะบ้าหรือไง ผลักเขาออกไปสิ เขาเข้ามาใกล้จนเนื้อตัวจะชิดกันอยู่แล้วนะ
ใกล้ จนเธอเองก็ได้กลิ่นหอม ๆ จากตัวเขาเช่นกัน
บ้าจริง ตัวเองก็ตัวหอม ยังจะทำมาเป็นหอมคนอื่น นายคนนี้อาจเป็นโรคจิตที่คอยหาโอกาสลวนลามผู้หญิงก็เป็นได้ แม้จะเป็นไอ้โรคจิตที่รูปร่างหน้าตาดีเป็นบ้าก็เถอะ
คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบยกสองมือขึ้นผลักเขาออกไป แรง ๆ
“ นี่ คุณจะทำอะไร ออกไปห่าง ๆ ฉันนะ ! ”
แม้ว่าคุณป้าจะสอนให้เธอมีมารยาท สอนให้เป็น กุลสตรี แต่ในขณะเดียวกันท่านก็สอนให้เข้มแข็งและไม่ยอมคนที่มาคุกคามทำร้ายดูถูก
อ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ...
แต่เขาไม่สะดุ้งสะเทือนใด ๆ เลย ราวกับเธอออกแรงผลักหินหนักเป็นตัน ทั้งยังเสนอหน้าก้มลงมาใกล้มากขึ้น
“ ใช้น้ำหอมอะไร ”
มือน้อยถูกยกขึ้นมาผลักไปที่ใบหน้าเขาเต็มแรงจนหงาย เขาร้องออกมาดัง ๆ
“ โอ๊ย ผลักทำไมเนี่ย ”
“ ก็... ก็คุณเข้ามาใกล้ฉันทำไมล่ะ อย่าเข้ามาอีกนะ ยืนให้ห่าง ๆ ฉัน ” เธอว่า พลางยกกระเป๋าขึ้นมาทำท่าพร้อมจะฟาดหากเขาเดินเข้ามาใกล้ นั่นทำให้รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่มุมปากใบหน้าคมสัน
“ ทำไมถึงให้เข้าใกล้ไม่ได้ กลัวตกหลุมรักผมหรือไง ”
เจ้าขาอ้าปากหวอ ก่อนจะหุบฉับ
“ จะบ้าหรือไง คิดอะไรมั่นหน้ามั่นโหนกขนาดนั้น เราไม่รู้จักกันมาก่อน คุณเป็นผู้ชาย จะเข้ามาใกล้ผู้หญิงเกินหนึ่งฟุตไม่ได้ มันไม่งาม ”
เขาเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจก่อนจะหัวเราะร่วนราวมันเป็นเรื่องขำขันเสียเต็มประดา
“ สมัยนี้ยังมีผู้หญิงขรุขระ หวงเนื้อหวงตัวแบบนั้น อยู่ด้วยเหรอ ” แม้ว่าคำพูดของเขาจะงง ๆ แต่เธอก็รู้ว่ากำลังโดนค่อนขอด
“ อะไรของคุณ ผู้หญิงขรุขระ ”
“ ก็ผู้หญิงหัวโบราณเต่าล้านปีไง ”
“ เค้าเรียกว่าคร่ำครึ ไม่ใช่ขรุขระ ”
“ เออ นั่นแหละ ๆ ”
“ นี่คุณว่าฉันคร่ำครึเหรอ ไร้มารยาทที่สุด ”
“ เอ้า ผมพูดตอนไหนเนี่ย นั่นคุณพูดเองนะ ”
“ ก็ฉันแก้คำผิดให้คุณ ไม่ได้พูดเอง ใครจะบ้าว่าตัวเอง ”
“ เอาล่ะ ๆ จบเถอะ ก็แค่อยากรู้ว่าใช้น้ำหอมอะไร ผมชอบกลิ่นมัน หอม หอมจนอยากดมแล้วดมอีก ”
มันก็แค่คำพูดของคนแปลกหน้า แต่นั่นกลับทำให้เธอหน้าแดงแล้วอ้อมแอ้มตอบ
“ ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอม ”
“ เป็นไปไม่ได้หรอก แล้วตัวคุณจะหอมขนาดนั้นได้ไง บอกหน่อยน่า จะหวงอะไรกะอีแค่น้ำหอม ” เธอเหลือบตามองเมื่อเห็นใบหน้ากระตือรือร้นที่จะฟังคำตอบก็ตัดสินใจบอกออกไป เพราะไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย มันจะได้จบเรื่องบ้า ๆ นี้เสียที
“ ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอม ใช้แค่น้ำยาซักผ้าเด็กกับแป้งเด็ก ”
เขาเบิกตากว้างก่อนจะหัวเราะออกมา นั่นทำให้เธอหน้าร้อนฉ่า แค่นเสียงด่าออกมาเบา ๆ
“ เสียมารยาท ”
“ เสียมารยาทอะไร ผมหัวเราะก็เพราะเห็นว่ามัน น่ารักดี ” เขาว่า ไม่สะดุ้งสะเทือนกับคำด่าใด ๆ ทั้งสิ้น แถม ยังยืนหน้ามึนจ้องเธออย่างไม่ลดละ นั่นมันทำให้เธออับอาย
“ นี่คุณ หยุดมองฉันสักทีได้ไหม ไร้มารยาทสิ้นดี ”
นั่นทำให้เขาหัวเราะออกมาอีก
“ อะไรของคุณวะ คำก็มารยาท สองคำก็มารยาท ที่บ้านต้มหนังสือมารยาทหรือไม่ก็สมบัติผู้ดีให้กินทุกวันเหรอ ถึงหายใจเข้าออกเป็นมารยาท ”
“ ก็คุณเล่นมายืนจ้องเอา จ้องเอา แบบนี้ มันเสียมารยาทไหมล่ะ ”
“ จ้องเฉย ๆ ยังไม่ได้เอาซะหน่อย แต่ก็อยากอยู่นะ ”
เขาเอ่ยเสียงเรียบด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
“ หยาบคายที่สุด ”
เธอแค่นเสียงต่อว่า ใบหน้าหวานแดงก่ำทั้งโมโหทั้ง อับอาย ก่อนจะมองไปยังประตูลิฟท์ว่าเมื่อไรมันจะถึงชั้นที่ต้องการลงเสียที พบว่ามันถูกกดให้ประตูเปิดค้างอยู่เนิ่นนาน เพราะเขานั่นแหละที่เข้ามาคุกคามทำให้เธอไม่ทันสังเกต
ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากถามใด ๆ ร่างสูงสวยสมส่วนแสนเซ็กซี่ก็เดินเข้ามา เจ้าหล่อนอยู่ในชุดเกาะอกสีขาว ความยาวแค่ฝ่ามือ ซึ่งมันไม่สามารถปิดสองเต้าเจ็ดร้อยซีซีที่คุณหมอให้มาได้มิด สองเต้าเท่าส้มโอทะลักล้น เอวเล็ก คอดเว้า เบื้องล่างเป็นกระโปรงสั้นแค่เลยแก้มก้นมา นิดหน่อย และเป็นผ้ายืดรัดเข้าไปเสียจนเห็นเป็นรูปร่าง กลีบโหนกทั้งด้านหน้าด้านหลัง ใบหน้าสวยสะราว สาวเกาหลีเพราะบินไปปั้นถึงที่นั้นถูกฉาบแต่งไว้สวยงาม
เจ้าหล่อนเดินเข้าไปเบียดเรือนร่างอันสวยงาม เย้ายวนเข้ากับชายร่างใหญ่คนนั้น หล่อนดูสวยเซ็กซี่เหลือเกิน พอ ๆ กับที่เขาหล่อและหุ่นดีเป็นบ้า