แก้มใสนอนมองดูใบหน้าของคุณอาหนุ่มในตอนที่เขายังหลับอยู่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
เธอไม่เสียใจเลยสักนิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ จะพูดให้ถูกก็คือมันคือความตั้งใจของเธอล้วนๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
เมื่อคืนคุณอาของเธอสอนประสบการณ์รักที่เร่าร้อนให้กับเธอตลอดทั้งคืนเธอนับไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาและเธอเสร็จไปกี่ครั้ง
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอนั่นคือคำกระซิบบอกรักก่อนที่จะจบบทรักรอบสุดท้ายไป
'อาตกหลุมรักน้องแก้มแล้วทำยังไงดีครับ...'
แม้ตอนนั้นเธอจะสะลึมสะลือด้วยความอ่อนเพลียแต่สติที่เหลืออันน้อยนิดของเธอก็ยังจำได้ว่าเขาพูดอะไรออกมา มันเหมือนเป็นประโยคคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ
ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งไม่อยากห่างไปไหน ไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ใครไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นใครก็ตามยกเว้นตัวเธอเอง
"ขนาดแค่แอบชอบยังหวงอาสองแทบตาย มาตอนนี้ได้เขามาครอบครองแล้วเธอจะเป็นอันทำอะไรไหมเนี่ยยัยแก้ม"
แก้มใสบ่นตัวเองเบาๆ เธอรู้ตัวเองดีว่าเธอเป็นคนยังไงและก็รู้ดีว่าหลังจากนี้ไปเธอคงจะต้องตามติดคุณอาแจแน่นอน
"อาคิดค่าแอบมองเป็นนาทีต่อหนึ่งยกดีไหม"
"อุ้ย! "
อยู่ๆ คนที่คิดว่ายังคงนอนหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าเธอกลับพร้อมกับพูดในสิ่งที่ทำเอาร่างกายของเธอสั่นสะท้าน
"แก้มไม่ได้แอบมองนะคะ ก็อาสองกอดแก้มไว้แน่นแก้มเลยลุกไปไหนไม่ได้" หญิงสาวตอบเฉไฉไม่กล้าสบตาคมเข้มที่จ้องมองมา
"เสียใจไหมที่ตกเป็นเมียของอาแล้ว"
อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆ จัดเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าไปทัดที่หลังหูด้วยท่าทางอ่อนโยนแบบที่เธอไม่เคยได้รับมานานหลายปี
"แก้มมีสติทุกอย่างนะคะตอนนั้น แก้มตัดสินใจเองและแก้มจะไม่มานั่งเสียใจในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไปแล้วแน่นอนค่ะ"
แก้มใสตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเธอไม่รู้ว่าอนาคตของเธอและเขาจะเป็นยังไงแต่เธอก็อยากจะลองดูสักครั้งเพื่อจะให้ตัวเองสมหวัง
"งั้นไปอาบน้ำเถอะครับเดี๋ยวอาพาออกไปกินของอร่อย หรือน้องแก้มจะให้อาช่วยอาบให้ไหมแต่บอกก่อนนะว่าอาไม่ทำแค่อาบแน่นอน"
"มะ ไม่ต้องค่ะ แก้มยังเจ็บอยู่เลย"
หญิงสาวตอบด้วยท่าทางตื่นตระหนกพร้อมกับรีบลุกวิ่งเข้าห้องน้ำไปแม้กลางกายสาวจะเจ็บแปลบทุกครั้งที่ก้าวเดินก็ตาม
"หึๆ น่ารักชะมัด"
หลังจากที่ดื่มด่ำบรรยากาศที่แสนหวานในช่วงสายของวันเต็มที่ เหมันต์ก็ต้องแยกจากสาวน้อยของเขาเพราะมีประชุมช่วงบ่าย แม้จะไม่อยากห่างจากเธอเลยก็ตาม
"ว่ายังไงน่ะ!!! แก้มทำ...ตามที่เราว่างแผนไว้แล้วงั้นเหรอ"
พะแพงถูกเรียกตัวมาหลังจากที่คุณอาหนุ่มออกไปแล้ว แก้มใสตั้งใจจะอวดว่าแผนที่พะแพงวิเคราะห์ว่าโอกาสสำเร็จไม่มีเลยนั้นเธอได้ทำมันสำเร็จแล้ว
"ใช่จ้ะเพื่อนรัก ทีนี้เราก็ต้องมาวางแผนจับคุณอาให้อยู่หมัดกันต่อ"
"ได้ยังไงอ่ะ..."
"ฮ๊ะ...อ๋อหมายถึงเรื่องที่ฉันทำยังไงให้อาสองตกหลุมพรางงั้นเหรอ ก็แค่แกล้งเมานิดๆ แล้วขึ้นคร่อมจัดการถอดเสื้อ..."
"พอๆ พะแพงรู้แล้ว "
หญิงสาวก้มหน้างุดด้วยความรู้สึกเขินอาย แม้เธอจะมีคู่หมั้นลับๆ และมีสัมพันธ์กันแล้วแต่ก็ไม่กล้าพูดถึงเรื่องนั้นได้โดยไม่เขินอาย
"นี่แพงเพื่อนรัก เธอต้องแรงต้องจัดจ้านให้มากกว่านี้นะไม่งั้นเอานายโอบไม่อยู่หรอกนะ"
"แก้มรู้!... ดะ ได้ยังไง" พะแพงถามเสียงสั่น
"ฉันเป็นเพื่อนพวกแกสองคนนานแค่ไหนแล้วมองออกไม่ต้องมาปิดบัง แล้วก็ไม่ต้องคิดว่าแก้มจะชอบโอบนะ แก้มไม่ชอบเพื่อนและไม่ชอบคนอายุเท่ากันเข้าไจ๋"
แก้มใสรีบดักเอาไว้ก่อนเพราะรู้ดีว่าโอบรักนั้นชอบทำเจ้าชู้ไม่จริงจังใส่เธอเหมือนหลอกล่อให้อีกคนหึง
"แพงรู้...แพงไม่เคยคาดหวังว่าโอบจะรักแพงหรอก แล้วอีกอย่างแพงก็รู้ว่าแก้มรักคุณอามากแค่ไหนแพงไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอกจริงๆ นะ"
"ดีแล้วฉันไม่อยากเสียเพื่อนรักที่มีคนเดียวไปเพราะเรื่องผู้ชายนะ เอาล่ะเรามาวางแผนจับคุณอากันต่อเถอะนะ"
พะแพงยิ้มรับ เธอคบกับแก้มใสมาหลายปีรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้จริงใจและตรงไปตรงมามากแค่ไหน
สมัยมัธยมก็มีแต่แก้มใสที่ช่วยเธอจากการถูกเพื่อนแกล้ง เพราะเธอมาจากฐานะที่ยากจนเป็นแค่ลูกสาวแม่บ้านท่านเมตตาส่งให้มาเรียนกับลูกชายเพียงคนเดียวของท่านเพื่อดูแลและช่วยติวหนังสือ
สาเหตุที่เธอและโอบรักได้หมั้นหมายกันเป็นเพราะผู้ใหญ่จับได้ว่าพวกเธอแอบมีสัมพันธ์กัน เธอทั้งอับอายและเสียใจต่อผู้มีพระคุณแต่ก็ไม่อาจหนีไปไหนได้หากเธอหนีคนใจร้ายก็ขู่จะทำไม่ดีกับแม่เธอตลอด และเขาก็ตามเธอกลับมาได้ทุกครั้งที่เธอคิดจะหนีด้วย
"วันนี้พอแค่นี้นะครับ "
หลังจากที่ประชุมการจัดการเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทผ่านมาหลายชั่วโมง มีหลายฝ่ายที่เสนอโปรแกรมและเหมันต์ก็ชอบที่จะฟังความเห็นจากหลายๆ ทีมเก่งๆ ที่เขาตั้งขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มยอดขายด้วย
"สองเมื่อวานนายติดต่อน้องแก้มได้ไหม" เขมทัตเดินเข้ามาถามหลังเลิกประชุม
"ครับ... เมื่อวานผมไปรับที่มหาลัยพาไปกินข้าวมา"
"แล้วนายเห็นแฟนหลานนายไหมว่ามันเป็นใคร"
"แฟน...?"
เหมันต์ถามด้วยความสงสัยและอดที่จะใจสั่นเหงื่อตกไม่ได้ ยังหาคำพูดจะบอกเขมทัตไม่ได้เลยเขาก็โดนจับได้เสียแล้ว
"เออฉันแค่สงสัยว่าหลานนายจะมีแฟน ช่วงนี้พ่อโทรหาไม่อยากจะรับ นี่ว่าจะให้มาฝึกงานที่นี่นะไม่รู้จะมาไหม"
เหมันต์อดที่จะพ่นลมออกมาด้วยความโล่งใจที่เขมทัตแค่สงสัยยังไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก
"เดี๋ยวผมช่วยคุยให้ครับ เมื่อวานก็อบรมเด็กเอาแต่ใจไปหลายยกอยู่"
อบรมหลายยกจนเช้าเลยทีเดียว...
"เห็นไหมฉันคิดไม่ผิด นายต้องจัดการลูกสาวตัวแสบของฉันได้ ยังไงก็ฝากหน่อยนะช่วงนี้พี่รับนัดท่านรัฐมนตรีไปตีกอล์ฟหลายหลุมเลยคงไม่ค่อยมีเวลา"
"ไม่ต้องห่วงครับพี่ ผมกลับมาแล้วไม่ปล่อยให้หลานเสียคนแน่นอน"
มีแต่เสียตัว ...
"ดีมากๆ ไปแล้วไว้นัดกินข้าวกันนะ"
"ครับ"
เขมทัตไม่เอะใจเลยสักนิดว่าตอนนี้ได้ฝากปลายย่างไว้กับแมวตัวใหญ่หิวโซแล้ว เหมันต์รู้ดีว่าสักวันเขาต้องบอกเขมทัตถึงเรื่องนี้แต่ก็ต้องถามเมียเด็กเขาด้วยว่าเธอพร้อมหรือยัง
เขาไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน เพียงแค่อยากให้เธอได้ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นก่อนสักปีสองปีก่อนจะเข้าไปอยู่กรงทองที่เขาทำขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ