4.2 บอร์ดี้การ์ด

1835 Words
“ฉันกลับล่ะ!” ฉันพูดพลางวางถุงใส่วิกผมไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ แล้วหันหน้าหนี แต่อีกฝ่ายกลับไวกว่า หมับ! “จะรีบไปไหนล่ะครับ หมู่นี้รู้สึกว่าชอบหลบหน้าพี่จังเลยนะ” “ใครว่าหลบหน้า” “ถ้าไม่หลบหน้า แล้วที่ทำอยู่นี่มันเรียกว่าอะไร” “แล้วจะเอายังไง” ฉันสะบัดแขนของตนเองให้หลุดออกจากการเกาะกุมของพี่คิม หันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว ฉันไม่ได้กลัวเขาถึงได้หลบหน้า....แต่รำคาญต่างหากล่ะ! “พี่แค่อยากคุยกับน้องอัณเท่านั้นเองครับ” ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ พร้อมกับตอกกลับเสียงเรียบ “มีอะไรก็ว่ามา ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากจนมาทำอะไรไร้สาระแบบพี่หรอกนะ” “ออกจากแก๊ง Silver Cross ซะ” น้ำเสียงที่เคยเสแสร้งของพี่คิมถูกเปลี่ยนเป็นแหบต่ำ เขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาพอพูดถึงเรื่องของแก๊ง “แล้วทำไมฉันถึงต้องออก” “ถ้าเธอไม่อยากเจ็บตัว เธอก็ต้องออก” “หึ!” ฉันส่งเสียงออกมาในลำคอ หันหลังส่งให้แล้วก้าวออกมาจากห้องอย่างเพื่อเป็นการปฏิเสธทางอ้อม ออกจากแก๊ง Silver Cross งั้นเหรอ... ที่จริงฉันก็ไม่ได้พิศวาสแก๊งนี้มาตั้งแต่แรก แต่พอเขามาพูดจาเหมือนสั่งให้ฉันลาออก แล้วใช้คำพูดเหมือนฉันเป็นคนรักตัวกลัวตายแบบนี้ มันชวนให้หงุดหงิด ถ้าหากฉันจะลาออกจริงล่ะก็ เหตุผลคงไม่ใช่เพราะกลัวคนอื่นมาทำร้ายแบบที่เขาว่า! ฉันเดินกลับมาที่ห้องเรียนด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่เท่าไหร่นัก แต่แล้วกลับพบว่ามีใครบางคนกำลังนั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งของฉันอยู่ก่อนแล้ว โฮมกำลังนั่งอ่านหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็กๆ ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือของผู้ชาย ภาพมุมข้างเผยให้เห็นจมูกโด่งสวยและผิวขาวเนียนที่มีแสงรำไรของพระอาทิตย์ยามเย็นสาดส่อง คราวก่อนเห็นเขานั่งดีดกีตาร์ริมทะเลสาบ คราวนี้เขาอ่านหนังสือฆ่าเวลาอยู่ในห้องเรียน ปกติผู้ชายวัยรุ่นจะชอบเล่นกีฬาไม่ก็ติดเกมในโทรศัพท์มือถือ แต่โฮมกลับมีความชอบกับอ่านอดิเรกไม่เหมือนคนอื่น สงสัยเป็นเพราะเขาเป็นลูกครึ่งล่ะมั้ง ที่บ้านก็เลยปลูกฝังมาอีกแบบ แต่ให้ตายสิ... ผมสีน้ำตาลทองแสบตาแบบหมาโกลเด้นฯ ดูแล้วมันน่าหยุมจริงๆ “เป็นเธอจริงๆด้วย” โฮมที่พูดเปรยขึ้นมานิ่งๆ ทำให้ฉันที่แอบมองเขาอย่างเผลอไผลรีบเก็บสายตากลับมา “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” ฉันแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ พยายามสบนัยน์ตาสีดำสนิทของเขาให้น้อยที่สุด “เธอผลักฉัน” “...แล้วไง?” “เธอเป็นรุ่นน้องฉันนะ ยัยหัวขโมย” โฮมตำหนิ แน่ล่ะสิ ดูก็รู้ว่าหมอนี่อยู่ ม.5 ฉันไปสืบมาหมดแล้วย่ะ!! ภูมิใจที่ตัวเองแก่ก็ไม่บอก “แล้วการที่นายเป็นรุ่นพี่ มันทำให้นายมีสิทธิ์เรียกฉันว่าหัวขโมยเหรอ” พอฉันสวนกลับ เขาก็เงียบไป “ในเมื่อนายเรียกฉันตามอำเภอใจของตัวเอง ฉันก็มีสิทธิ์เลือกเหมือนกันว่าจะให้เกียรตินายในฐานะรุ่นพี่หรือเปล่า” โฮมสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอย่างหงุดหงิด “นี่ถ้าไม่ติดว่าคิง...” เขาบ่นเสียงงึมงำในลำคอ แต่ฉันได้ยินเขาพูดคำว่า ‘คิง’ ออกมา ลางสังหรณ์ของฉันเริ่มทำงานทันที มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกพี่เอ็น “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ พวกพี่ชายฉันสั่งให้นายทำอะไร” “มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร” ร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนเสยผมสีอ่อน พูดอย่างเซ็งๆ “พวกคิงทั้งสองสั่งให้ฉันมาคอยดูแลเธอ ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นคำสั่งของพวกเขา จ้างให้ฉันก็ไม่อยากแม้แต่จะชายตามองเธอด้วยซ้ำ” หนอย ยังมาทำหน้าหงุดหงิด เค้นเสียงในลำคอแบบที่ฉันชอบทำอีกนะ แล้วขอโทษเถอะ ประโยคข้างหน้านี่ไม่ต้องพูดก็ได้ พูดอย่างกับว่าฉันปลื้มกับการต้องมารับมือกับคนอย่างนายนั้นแหละ! “คำก็หัวขโมย สองคำก็หัวขโมย ถามจริงเถอะ! นายโตแต่ตัว สมองไม่โตหรือไง คนโง่ยังรู้เลยว่าหัวขโมยที่ไหนๆ ก็ไม่มีวันแขวนของที่ตนเองขโมยมาในสภาพที่ค้นเจอง่ายๆ แบบนั้นหรอก!” “ก็ไม่แน่...เธออาจจะโง่ก็ได้” เขาพูดพลางส่งยิ้มยี่ยวนให้ฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันหมดความอดทน! ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวยที่พยายามแย่งแฟนคนอื่นไม่พอ ยังมาพูดจายี่ยวนกวนประสาทกันแบบนี้! ผั่วะ! ฉันเสยหมัดเข้าไปที่แก้มของหมอนั่นเต็มแรง จนใบหน้าเนียนใสสะบัด หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คกระเด็นหลุดมือ ที่จริงฉันรู้ดีว่าฝีมือของเขาไม่ได้ห่วยแตกอะไร แต่เพราะเขาคงนึกไม่ถึงว่าฉันจะต่อยใส่ทันทีโดยไม่มีการตั้งท่าก่อน ก็เลยไม่ทันได้ระวังตัวก็เท่านั้น เหอะๆ คนแบบนี้น่ะเหรอที่พวกพี่เอ็นส่งมาเป็นบอร์ดี้การ์ด แค่โดนฉันต่อยได้ง่ายๆ แบบนี้ก็ถือว่าไม่ผ่านมาตรฐานแล้ว! “ทำไมเธอถึงโหดอย่างนี้เนี้ย! เจอกันทีไรก็ต่อยเอาๆ” ดวงตาของโฮมวาวโรจน์ ขณะที่ใช้มือลูบแก้มของตัวเองเหมือนไม่อยากเชื่อว่าฉันจะกล้าชกต่อยในโรงเรียนแบบนี้ ขอโทษเถอะ นี่ฉันถือว่ายั้งมือตัวเองมากแล้ว ผู้ชายปากเน่าพูดจาไม่สร้างสรรค์แบบนายต้องรู้จักโดนซะบ้าง! “ก็นายเล่นพูดจาไม่เข้าหูก่อนทำไม หึ! นี่เหรอคนที่เสนอหน้าไปจีบโม สมน้ำหน้าแล้วที่อกหัก!” “นี่...เธอ!” แววตาของเขาที่เดิมขุ่นมัวอยู่แล้ว ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามันขุ่นเสียจนเหมือนมีดวงไฟจุดปะทุอยู่ข้างใน อกหักแค่นี้ทำมาเป็นรับไม่ได้ ฉันเองก็อกหักมาเหมือนกัน อ้อ...สงสัยคงจะเสียศักดิ์ศรีที่ถูกปฏิเสธล่ะสิท่า! หมับ! ปึง! อยู่ดีๆ หมอนั่นก็เข้ามากระชากแขนของฉันอย่างแรงจนใบหน้าของฉันเบ้อย่างเจ็บปวด กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ร่างกายก็ถูกดันจนแผ่นหลังสัมผัสเข้ากับผนังห้องอีกฝั่งหนึ่ง โดยมีร่างสูงตรึงแขนทั้งสองเอาไว้เหมือนนักโทษ! ขนาดตัวที่แตกต่างกันทำให้ฉันถูกข่มให้ดูตัวเล็กลงไปถนัดตา “ปล่อยฉัน!” ฉันโกรธจนหน้าร้อนจัด ถ้าควันออกหูได้คงทำไปแล้ว พวกผู้ชายคงเป็นอย่างนี้กันหมดสินะ คอนโทรลเองก็ชอบทำกับฉันแบบนี้เวลาที่เราทะเลาะกัน “เริ่มกลัวแล้วหรือไง! คนปากเก่งเมื่อกี้หายไปไหน อ้อ...ฉันจำได้แล้ว เธอนี่เองที่นัดผู้ชายนอกโรงเรียนมาหาคืนนั้น ใจกล้าจริงๆ เลยนะ เป็นถึงควีน” เขาเยาะเย้ยพลางจ้องมองฉันอย่างดูหมิ่น “ไม่รู้อะไรก็อย่ามาพล่ามให้ฉันได้กลิ่นปากเหม็นๆ!” พูดพลางกลอกตามองรอบๆ เพื่อหาวิธีเอาตัวรอดไปด้วย หนุ่มลูกครึ่งเลิกคิ้วสีน้ำตาลอ่อน “นั่นสิ คงยังมีเรื่องที่ฉันยังไม่รู้อีกเยอะ” “ใช่! นายควรจะเอาเวลาที่ยุ่งเรื่องชาวบ้านไปเยี่ยวยาหัวใจของตนเองซะดีกว่า พวกอกหักแล้วไม่เจียม!” ฉันเอ่ยปากว่าเขาทั้งๆ ที่ตัวเองก็เพิ่งอกหักมาไม่นานเหมือนกัน อย่างนี้มันเข้าทำนองแม่ปูสอนลูกปูเดินสินะ แต่ช่างเถิด เขาคงไม่รู้หรอก “งั้นเหรอ! แล้วรู้หรือเปล่าว่าเวลาผู้ชายเขาอกหักแล้วเขาทำอะไร!” ฉันถึงกับเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินคำถามแบบนั้น โธ่เว้ย! รู้งี้ไม่น่าไปท้าหมอนั่นเลย ฉันอยากจะบ้าตาย! คิดแล้วก็สะบัดหน้าไปมา “ไม่! ไม่อยากรู้” ฉันตอบกลับเสียงแข็ง แต่โฮมไม่สนใจคำพูดของฉันอีกแล้ว ใบหน้าคมคายที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตกอย่างลงตัวของเขาโน้มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนฉันเห็นแผงขนตางอนยาวและสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดลงบนใบหน้า ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของเขาอยู่ห่างจากปากของฉันแค่คืบเดียวเท่านั้น... ‘Cause I don’t care e-e-e-e-e’ พระเจ้า! 2NE1 ช่วยชีวิตลูกแล้ว T__T เสียงริงโทนที่แผดเสียงลั่นทำให้นายโฮมรีบผละออกจากฉันราวกับต้องของร้อน ส่วนฉันเองก็อาศัยจังหวะนั้นเบี่ยงตัวออกจากการกักขังพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากระโปรง เยี่ยมมาก! โทรฯ คราวนี้มาได้จังหวะพอดี “พี่อิน” ปกติแล้วพี่อินจะไม่โทรฯ หาฉันสักเท่าไหร่ ถึงจะแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าพี่อินมีตาทิพย์สามารถล่วงรู้ว่าน้องตัวเองกำลังถูกผู้ชายเอาเปรียบอยู่! ติ๊ด! กดรับสายก่อนจะชำเลืองมองนายโฮมที่กำลังมองมาที่ฉันเช่นเดียวกัน คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้อง...! ‘เธอเจอโฮมหรือยัง อัณ’ พอได้ฟังเขาถามแบบนั้น ฉันก็นิ่งไปนิดหน่อย พอได้สติก็กรอกตาใส่โทรศัพท์ทันที “พี่อิน อย่าบอกนะว่าพวกพี่...” ลางสังหรณ์ฉันกำลังร้องบอกว่ามันคือหายนะระดับ S ในชีวิตฉันเลยก็ว่าได้! ‘ต่อไปนี้โฮมจะคอยดูแลเธอเวลาอยู่ที่โรงเรียน ไม่สิ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เขาก็ต้องไปด้วย ช่วงนี้พี่กับเอ็นกำลังยุ่งกับเรื่องในแก๊งอยู่ เธอเองก็อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ’ ฉันขมวดคิ้ว แก๊ง Silver cross เกิดเรื่องอะไร ไม่สิ...พวกเขาเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องอะไรต่างหาก ถึงฉันจะโมโหเรื่องที่พวกเขาส่งผู้ชายอย่างโฮมมาประกบ แต่ลึกๆ แล้วฉันก็เป็นห่วงพวกเขาอยู่เหมือนกัน ก็แหงละ พี่น้องกันนี่นา พวกเราก็มีกันอยู่แค่นี้ “พี่อิน ฉันไม่เอานายโฮมนี่ พี่ส่งคนอื่น...” ‘ฉันกับเอ็นเห็นพ้องต้องกันว่าโฮมน่ะเหมาะที่สุด’ ตัดสินใจกันเสร็จสรรพโดยไม่บอกฉันสักคำ! “ฉันไม่...” ‘ถ้าเธอยังเห็นว่าพวกฉันเป็นพี่ ระหว่างนี้ก็ให้โฮมคอยดูแลเธอ “แต่...” “ต่อจากนี้ โฮมคือบอร์ดี้การ์ดของเธอ’ ใครก็ได้บอกฉันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ยยยยย!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD